1.ห้ามซื้อและขายสินค้าบนไหล่ทาง หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษทั้งจำทั้งปรับ, 2.ห้ามเปิดเครื่องเสียง หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ 3.ห้ามรถกระบะบรรทุกถังน้ำสาดตามท้องถนน ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิต ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 4.ห้ามนั่งหรือยืนบนหลังกระบะเพื่อเล่นน้ำสงกรานต์, 5.ห้ามเล่นปืนฉีดน้ำแรงดันสูง หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, 6.ห้ามนำน้ำแข็งปาใส่กัน หากผู้ใดฝ่าฝืน ถูกจับทันที, 7.ห้ามทำลามกอนาจารหญิงสาว หากผู้ใดฝ่าฝืน ถูกจับทันที โดยมีความผิดฐานกระทำการอนาจารต่อเด็กหญิงหรือสตรี
8.ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่เล่นน้ำสาธารณะ หากเป็นการขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือขายให้ผู้ที่เมาอยู่แล้ว มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี, 9.ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถ ในกรณีนี้ ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ดื่มแอลกอฮอล์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, 10. ห้ามเล่นแป้ง หากพบ จะมีการตักเตือน แต่สำหรับผู้จำหน่ายแป้ง มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และ 11.ห้ามเมาแล้วขับรถ หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกําหนดไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
กฎทั้ง 11 ข้อเกี่ยวกับการเล่นสงกรานต์ในปีนี้ถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย จนเกิดกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง สร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชนส่วนใหญ่ว่า “ถ้าจะออกกฎแบบนี้ อย่าเล่นสงกรานต์เลยดีกว่า” เมื่อกระแสต่อต้านร้อนระอุขนาดนี้ ทางโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย จึงรีบออกมาแก้ต่างทันทีว่า ข้อห้ามทั้ง 11 ข้อที่แชร์ต่อๆ กันไปบนโลกออนไลน์นั้น ทางตำรวจไม่ได้เป็นผู้จัดทำ และไม่ได้ออกกฎห้ามเฉพาะเจาะจงว่าต้องเล่นสงกรานต์แบบใดเป็นพิเศษจึงจะถูกกฎหมายดังที่กล่าวกันเลย
“ประชาชนยังสามารถเล่นน้ำ นั่งหลังรถกระบะ ขายแป้ง และใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่กรณีเล่นน้ำจนเกินเลยหรือกระทำการที่สุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดอันตราย เช่น จำหน่ายสุราให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เปิดเครื่องเสียงส่งเสียงดังในเขตชุมชนรบกวนชาวบ้าน หากได้รับแจ้งตำรวจก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย” โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยัน
ส่วนกรณีกฎหมายห้ามดื่มสุราบนรถทั้งคนขับและผู้โดยสารนั้น ถือว่าเนื้อหาที่พบในข้อมูลออนไลน์มีส่วนถูกอยู่มาก โดยตำรวจทางหลวงจะวางแนวทางปฏิบัติในการจับกุม หากพบว่ากำลังดื่มสุราบนรถก็ปล่อยไปไม่ได้ ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย แต่หากผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารที่อยู่บนรถมึนเมาจากการดื่มสุราโดยตรวจไม่พบสุราบนรถ เจ้าหน้าที่อาจผ่อนผันให้ โดยให้หยุดพักรถจนกว่าอาการดีขึ้นแล้วจึงปล่อยกลับบ้านโดยไม่จับกุม หรือผู้ที่อยู่ในอาการมึนเมาสามารถกลับรถแท็กซี่ได้ก็ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย
ล่าสุด พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้จัดทำ “แผนระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์” โดยจะกวดขันเอาผิดกับการจำหน่ายและดื่มสุราในสถานที่ ช่วงเวลา และบุคคลที่ห้ามจำหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางเท้า พร้อมกวดขันสถานบริการให้ดำเนินกิจการตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะสถานบันเทิงที่จัดให้มีการเต้นหน้าร้านเพื่อเชิญชวนให้ผู้ที่สัญจรไปมาเข้าร้าน และจะกวดขันจับกุมการแข่งรถในทางสาธารณะด้วย หากพบเจอกลุ่มบุคคลหรือวัยรุ่นมั่วสุมที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายนักเลงอันธพาลเป็นภัยต่อสังคม จะจัอการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่กระทำความผิดในทุกกรณี
ส่วนพื้นที่ในกรุงเทพมหานครเองก็มีการจัดตั้ง “ศูนย์ประสานการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง” และรณรงค์โครงการ “เมาไม่ขับ กลับแท็กซี่” อย่างต่อเนื่อง จัดการเตรียมเจ้าหน้าที่อปพร.พร้อมรถกู้ภัยประจำจุดเสี่ยง บริเวณสี่แยกสำคัญ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ ขณะที่สำนักการโยธาจะตรวจจุดที่มีการก่อสร้าง เพื่อประสานผู้รับจ้างให้มีเครื่องป้องกันอันตราย ตรวจสอบไฟส่องสว่างบนถนนสายหลักและสายรอง รวมถึงเตรียมหน่วยฉุกเฉินเพื่อซ่อมแซมถนนในสภาวการณ์ฉุกเฉิน จัดเตรียมเครื่องจักรกลหนัก รถยก เพื่อช่วยเหลือหากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
มีแพทย์และพยาบาลพร้อมรองรับผู้บาดเจ็บ พร้อมจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็วในการซ่อมบำรุงรถยนต์และเคลื่อนย้ายรถยนต์ มีการตั้งจุดให้บริการประชาชนในการตรวจซ่อมบำรุงรถยนต์ ในวันที่ 10-12 เมษายน และวันที่ 17 เมษายน ตั้งแต่เวลา 16.30-19.30 น. รวมทั้งจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจและอปพร. สนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนสำนักงานเขตบางนา หนองแขม บางขุนเทียน ทวีวัฒนา ดอนเมือง และหนองจอก จัดตั้งจุดบริการประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางสี่มุมเมือง
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
