xs
xsm
sm
md
lg

แอม-เอม เปิดใจ หนูไม่ใช่ “แฝดทอม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แอม (แฝดน้อง) - เอม (แฝดพี่)
เสียสถาบัน ปล่อยให้ทอมมาประกวดนางงามได้อย่างไร!! คำก่นด่ามากมายพรั่งพรูอยู่บนโลกออนไลน์ หลังจากภาพในอดีตของพี่น้องคู่แฝด “เอม-แอม” ออกมาฟ้องว่าทั้งคู่เคยแมนมากมาก่อน ทั้งแต่งชาย โพสต์หล่อ และเซ็ตผมทรงเกาหลี ใครได้เห็นรูปเหล่านั้น ร้อยทั้งร้อยต้องฟันธงเป็นเสียงเดียวว่า “เป็นทอมแน่ๆ” ซึ่งขัดกับภาพลักษณ์ในตอนนี้ของพวกเธออย่างสิ้นเชิง ที่มาในมาดสวยหวาน สวมกระโปรง ใส่ส้นสูง แต่งหน้ากรีดตาแบบจัดเต็ม
 

ท่ามกลางเสียงบ่นระงมที่แรงขึ้นเรื่อยๆ หลายคนตั้งคำถามกับตำแหน่ง 20 คนสุดท้ายจากเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ของทั้งสองเป็นอย่างมาก บ้างก็ว่าเป็นการสร้างกระแสของทางกองประกวดเพื่อให้คนหันมาสนใจ บ้างก็ตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็นเพศที่สาม ว่าเหมาะสมแล้วหรือที่จะให้ “หญิงฮะ” เข้ามาประกวดในเวทีสาวงามเช่นนี้ และคนที่น่าจะให้คำตอบได้แจ่มชัดที่สุดจึงหนีไม่พ้นผู้ที่ถูกครหากันไปต่างๆ นานาอย่าง “เอม-ศุกลนิจ” และ “แอม-ศุทธิกาญจน์ เมทางสุเวช” คู่แฝดนางงามที่ฮอตที่สุดในตอนนี้
  
เมื่อแรกพบ “เอม” แฝดผู้พี่ มาในเดรสดำดูโฉบเฉี่ยว หน้าหวานๆ เสียงเพราะๆ ของเธอ ทำเอาผู้สัมภาษณ์งงไปเล็กน้อย คิดไม่ตกว่าคำครหาที่ว่าเธอเป็นทอมเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะไม่ว่าจะพิจารณาองศาไหน ก็มองไม่เห็นความแมนในตัวเอมแม้แต่นิดเดียว ผิดกับ “แอม” แฝดผู้น้อง ที่มีบุคลิกชี้ชวนให้สงสัย ถึงแม้จะสวมชุดในโทนสีขาวครีมให้ดูอ่อนโยนเพียงใด แต่แววตาคมๆ บวกกับท่าทีเก้งก้างของแอมนั้น ช่างดูขัดกับชุดที่สวมใส่ จนทำให้เกือบตัดสินไปแล้วว่าเธอคงจะเป็น “หญิงฮะ” จริงๆ กระทั่งได้นั่งพูดคุยกันไปเรื่อยๆ จึงได้เห็นมุมอ่อนโยนอ่อนหวานของทั้งคู่ออกมาเรื่อยๆ ข้อสงสัยที่เคยตั้งไว้จึงเป็นอันสิ้นสุดลง ส่วนคนที่ยังคงคลางแคลงใจอยู่ บทสนทนาด้านล่างนี้มีไว้สำหรับคุณ



 
ด่าระงม ทอมประกวดนางงาม
M-Lite: ทำไมจู่ๆ ถึงมีภาพแมนๆ ของพวกเราหลุดออกมา?
เอม: ภาพที่เห็น จริงๆ ถ่ายไว้หลายปีแล้วค่ะ เป็นภาพตั้งแต่สมัยยังเต้นคัฟเวอร์เพลงเกาหลีอยู่เลยค่ะ เลยต้องแต่งแมนแบบนั้น เป็นภาพที่แฟนคลับเอามาลงให้ เวลาเราไปเต้นทุกครั้ง เขาก็จะตามไปถ่ายรูปถ่ายคลิปเอาไว้ แล้วก็เอามาลงอินเทอร์เน็ตให้แฟนคลับดูกัน
แอม: แฟนคลับเขาก็รู้ค่ะว่าพวกหนูมาประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ก็ไม่เห็นมีใครแปลกใจอะไรนะคะ
เอม: มีแต่คนชมค่ะที่เรามาประกวดนางงาม แต่ที่เห็นเข้ามาด่าในเน็ต น่าจะเป็นคนอื่นมากกว่าค่ะ (พูดไปยิ้มไปด้วยสีหน้าลำบากใจนิดๆ)
 

M-Lite: โดนด่ากันหนักมาก อ่านคำคอมเมนต์ครั้งแรกตกใจไหม?
แอม: อ่านแล้วก็คิดว่า เฮ้ย! มารู้ดีได้ยังไงว่าเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะถ้าคนรู้จักจริงๆ จะรู้ว่าหนูไม่ได้เป็นแน่นอนค่ะ (เสียงหวาน แต่แววตาเด็ดเดี่ยว) รูปที่อยู่ในเน็ตส่วนใหญ่ก็เป็นรูปของคนนี้คนเดียวเลยค่ะ (ชี้ไปที่เอม)
เอม: (หัวเราะรับ) ที่ออกทีวีจะเป็นรูปเอมหมดเลยค่ะ
  

M-Lite: แต่เท่าที่เห็น ก็แต่งแมนพอๆ กันเลยนะ
แอม: พวกเราอยู่วงเดียวกันค่ะ ชื่อวง “คาวาอิ” มีทั้งหมด 13 คน เพื่อนในวงก็แต่งแบบเดียวกันหมด แต่งชายแล้วเต้นเพลงซูเปอร์จูเนียร์ค่ะ ต้องเต้นคัฟเวอร์เพลงเขาก็เลยต้องแต่งตัวให้เหมือนด้วย เลยออกมาเป็นแบบนั้น ตอนแรกที่เต้นก็เต้นไม่ค่อยได้นะคะ เต้นแล้วดูปวกเปียกมากเลย ตอนหลังๆ ก็เลยต้องปรับบุคลิกใหม่หมด จากตอนแรกๆ เวลานั่งจะหุบขาตลอด จนเพื่อนต้องทักว่า เฮ้ย! อ้าขาหน่อย ให้ดูแล้วแมนๆ (ยิ้ม) เราก็เลยต้องปรับตามนั้นค่ะ
เอม: เริ่มเต้นตั้งแต่ตอน ปวช.1 ถึง ปวช.3 ค่ะ 3 ปี ก็เลยติดบุคลิกนั้นมาตลอดเลย
แอม: ติดนั่งแมนๆ ท่าทางแมนๆ ตลอด แต่เอมเขาจะไม่ค่อยติดเท่าไหร่ค่ะ เพราะเอมเขามีประกวดดาวมหาวิทยาลัยด้วย มีรุ่นพี่สอนเรื่องบุคลิกภาพมาก่อน แต่หนูยังไม่เคยมีโอกาสเข้าคอร์สหัดเลยค่ะ เพิ่งมาได้เริ่มๆ หัดก็ตอนนี้นี่แหละค่ะ ก็เลยยังเดินกระโดกกระเดกอยู่
  

M-Lite: แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าแต่งแมนเพราะเหตุผลนี้ ก็เลยโดนด่ายับ
แอม: (อ้ำอึ้ง ไม่ค่อยอยากจะเล่า) ก็โดนเยอะเหมือนกันค่ะ มีด่าว่า อัปยศวงการทอม แฝดนรก อะไรอย่างนี้
เอม: มี ทอมแรด ด้วยค่ะ (ช่วยเสริม)
แอม: บอกว่าเป็นทอมแล้วมาประกวดทำไม
  

M-Lite: แล้วคิดว่าคนเป็นทอม มีสิทธิ์ประกวดไหม?
แอม: มีค่ะ เพราะว่าทอมก็คือผู้หญิงเหมือนกันนะ ถ้าเขาอยากจะประกวด อยากจะปรับเปลี่ยนตัวเอง ก็น่าจะให้โอกาสเขานะหนูว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้ค่ะ
เอม: ใช่ค่ะ ถ้าอยากจะประกวดจริงๆ ทุกคนก็น่าจะให้โอกาสนะ เพราะโอกาสมันไม่ได้มาง่ายๆ
  

M-Lite: คนบางส่วนมองว่า ทางกองประกวดสร้างกระแส กะปั้นให้เราสองคนดัง
เอม-แอม: (พูดพร้อมกัน) ไม่เกี่ยวเลยค่ะ
แอม: แต่ถ้าใครจะคิดแบบนั้น เราคงไปห้ามความคิดเขาไม่ได้ค่ะ คนเราก็มีสิทธิคิดกันได้หลายแง่
เอม: เห็นกระแสออกมาแบบนี้ รู้สึกแย่มากเหมือนกันนะคะ เพราะหนูไม่เคยโดนกระแสอะไรแรงขนาดนี้ อยู่ดีๆ ก็ถูกคนมารุมว่าเรา ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ตอนแรกว่าจะถอนตัวแล้วค่ะ แต่พอหลังๆ ก็มีทั้งเพื่อนทั้งครอบครัวให้กำลังใจ บอกว่าคิดไปก็รู้สึกแย่ หนูก็ไม่คิดดีกว่า เราตั้งใจฝึกให้ดีๆ ทำให้ดีที่สุดก็พอ
แอม: คุณพ่อก็มีแซวขำๆ ค่ะ ให้คลายเครียด บอกว่าดีแล้ว มีกระแสแบบนี้เราจะได้ดังขึ้น... แต่ดังแบบนี้ก็ไม่ค่อยดีเนอะ (หันไปหาแฝดผู้พี่)
เอม: ใช่ค่ะ อยากให้มีกระแสในทางที่ดีๆ ดีกว่า



 
 
แอ๊บแมน ปกป้องพี่สาว
M-Lite: ทำไมถึงได้มาประกวดพร้อมกัน?
เอม: เป็นความฝันของคุณแม่ค่ะ แต่แม่อายุเกินแล้ว (หัวเราะ) ส่วนแอม แม่ก็ให้มาเป็นเพื่อนกันเฉยๆ ค่ะ เวลาไปไหนมาไหน จะได้ไปด้วยกัน
แอม: ใช่ค่ะ ปกติไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเลยเวลาอยู่มหาวิทยาลัย แต่เอมจะแต่งหญิง แอมจะแต่งชาย หนูก็เลยไม่เคยมาประกวดด้วยเลย แต่จริงๆ แล้ว ตัวหนูเองก็อยากมาประกวดนะคะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต เพราะหนูไม่เคยขึ้นเวทีใหญ่แบบนี้มาก่อน และถ้าไม่ชอบจริงๆ ต่อให้ถูกบังคับแค่ไหนก็ไม่ไปค่ะ
 

M-Lite: สงสัยว่าทำไมแอมถึงต้องแต่งชาย?
เอม: ปกติเราสองคนชอบแต่งตัวตามสบายอยู่แล้วค่ะ จริงๆ แล้ว หนูก็ชอบแต่งแมนเหมือนแอมนะคะ แต่หนูแต่งหญิงแล้วเหมาะกว่า แอมก็แต่งชายแล้วรุ่งกว่าค่ะ (หัวเราะ) เผื่อมีอันตรายอะไร แอมจะได้แอ๊บแมนมาช่วยดูแลได้
แอม: มีอยู่ครั้งหนึ่ง เดินเล่นกันอยู่แถวเดอะมอลล์ แล้วมีผู้ชายกลุ่มหนึ่งมองเอม มองแบบว่า... (เธอไม่ขอบรรยายต่อ) หนูก็เลยต้องแอ๊บแมนแล้วก็เดินเข้าไปกอดคอเอมค่ะ พอเดินผ่านไปแป๊บนึง หนูก็ค่อยเอามือออก บอกเอมว่า เมื่อกี๊มีผู้ชายมองด้วยแหละ คือถ้ามองแบบธรรมดาๆ ก็ไม่ว่านะคะ แต่นี่เขามองนานค่ะ มองหลายแบบด้วย เจอมาเยอะค่ะ บางคนก็มองตั้งแต่หัวจรดเท้า บางคนก็มองแบบหื่นๆ มีมองจ้อง มีหลายรูปแบบมาก
  

M-Lite: คอนเซ็ปต์การแต่งแมน เริ่มมาจากไหน?
แอม: จากตอนเต้นค่ะ พอแต่งแล้วพ่อเห็น พ่อก็ชมว่า เฮ้ย! แอมหล่อนะเนี่ย หนูก็ดีใจค่ะที่พ่อชอบ
เอม: พ่อบอกว่าอยากมีลูกชายหนึ่ง ลูกสาวหนึ่งค่ะ (หัวเราะ) คือคุณพ่อไม่ว่านะคะถ้าแอมจะเป็นทอม แต่แอมก็ไม่ได้เป็น แอมก็บอกพ่อหลายครั้งว่าแอมไม่ได้เป็น แต่พ่อก็ไม่เชื่อ พ่อคงดูจากการแต่งตัวค่ะ
แอม: แต่ตอนนี้ก็น่าจะเชื่อแล้วนะคะว่าไม่ได้เป็น (ผายมือชวนให้ดูชุดที่สวมใส่แล้วหัวเราะตบท้ายเบาๆ) เคยบอกพ่อว่าเลิกเต้นแล้วจะไว้ผมยาว กลับไปเป็นลุคผู้หญิงเหมือนเดิม
 

M-Lite: คิดว่าเวทีนี้ จะเป็นวิธีที่ได้ผลที่จะบอกพ่อหรือเปล่าว่าเราไม่ได้เป็นทอม?
แอม: ไม่ค่อยได้คิดเรื่องนั้นนะคะ แค่คิดว่าอยากมาหาประสบการณ์ แต่เรื่องยืนยันว่าเป็นผู้หญิงนี่ เราถือว่าเราได้พูดไปแล้วค่ะ คงไม่ต้องมาย้ำด้วยการประกวดอีก เขาจะเชื่อไม่เชื่อนี่ก็อีกเรื่องนึง
 

M-Lite: เห็นบอกว่าตอนอยู่มหาวิทยาลัยก็แต่งชุดนักศึกษาชายด้วย?
แอม: ใช่ค่ะ เพราะว่าหนูนัดกับเพื่อนอีกสองคนแล้วค่ะว่าจะใส่ด้วยกัน เพื่อนอีกคนหนึ่งเป็นทอม อีกคนหนึ่งก็ไม่ได้เป็น แต่นัดกันแต่งแมนเหมือนกัน ปกติจะชอบนัดกับเพื่อนในกลุ่มแต่งตัวเหมือนกันอยู่แล้วค่ะเวลาไปเที่ยวด้วยกัน
 

M-Lite: ในเมื่อไม่ได้เป็นทอม แล้วไม่รู้สึกแปลกเหรอเวลาถูกคนอื่นมองแบบนั้น?
แอม: ชินมาตั้งแต่ตอนเต้นแล้วค่ะ ก็ถูกทักเรื่องนี้บ่อยมาก บางคนบอกว่าเราเป็นทอม บางคนเดินมาถามว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย หนูก็ไม่ได้อะไรค่ะ
เอม: แต่ส่วนมากคนจะคิดว่าแอมเป็นผู้ชายมากกว่าค่ะ เวลาแอมเซ็ตผมด้วย ยิ่งเหมือนผู้ชายเลย แล้วแอมชอบเซ็ตผมอยู่แล้วด้วย แต่เห็นชอบแต่งตัวแมนแบบนี้ จริงๆ แล้วสาวมากนะคะ พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ
แอม: เหมือนตอนที่หนูไปเต้นที่สยาม แต่งตัวพร้อมทุกอย่าง ทำช้อนหล่นแล้วหนูร้องว้าย! มือไม้ไปหมดเลย คนอื่นเขาก็มองว่า เอ๊ะ! ยังไงเนี่ย แต่งตัวแมนมากแต่เสียงกับท่าทางสาวมาก (หัวเราะ) เพื่อนก็บอกให้ไปแต่งหญิงเถอะถ้าจะสาวขนาดนี้ (ยิ้ม)

M-Lite: คนอื่นมองว่าน้องเราเป็นทอม รู้สึกยังไงบ้าง?
เอม: หนูเข้าใจค่ะ เพราะสไตล์หนูกับสไตล์แอมก็เหมือนกัน แต่ก่อนมีแต่คนหาว่าหนูเป็นทอมเหมือนกัน บางคนก็บอกว่าหนูเป็นดี้ หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะว่าทำไมให้เราเป็นหลายเพศจัง (ยิ้มขำๆ) แต่ก็ไม่แปลกหรอกค่ะที่จะมองอย่างนั้น ถ้ามองจากแค่ภายนอก แต่ถ้าดูจากนิสัยจริงๆ เขาก็จะรู้ค่ะว่าเอมไม่ใช่ทอม ต้องรู้จักจริงๆ
แอม: มีครั้งนึง เอมกับแอมไปร้านทำผม ก็ได้ยินคนอื่นเขาคุยกัน บอกว่าเราเป็นคู่เลส(เบี้ยน) กันหรือเปล่า เอม: คนอื่นเขาไม่รู้ว่าเป็นพี่น้องกันค่ะ เห็นหน้าคล้ายๆ กัน บอกว่าเป็นเนื้อคู่ (หัวเราะ)
แอม: บางคนก็บอกว่าเราเป็นทอมตามกระแส



 
แต่งแมนแล้วรุ่ง
M-Lite: ประเด็นการเป็นทอมตามกระแส ถึงเราจะปฏิเสธว่าไม่ใช่ทอม แต่คนบางส่วนก็ปักใจเชื่อว่าเราเป็นทอม แต่เลิกเป็นแล้ว
แอม: เวลาเต้น เราต้องแต่งตัวอย่างนั้นค่ะ ตอนแรกหนูก็ทำใจไม่ได้นะคะที่ต้องตัดผมเพื่อเต้น แต่พอเริ่มตัดทีละนิดๆ ก็เริ่มทำใจได้ มันต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปค่ะ ส่วนคนอื่นจะเข้าใจแบบไหน ก็อีกเรื่องหนึ่งค่ะ เพราะเราก็เป็นตัวของเราเอง การเต้นก็คือการแสดงอย่างหนึ่งที่เราต้องทำให้ดีค่ะ
แต่ก่อน ไม่รู้จักเลยค่ะว่าเต้นคัฟเวอร์เป็นยังไง ซูเปอร์จูเนียร์คือใคร มีกี่คน แต่เพื่อนก็เลือกให้ ดูให้ว่าเราลักษณะเหมือนใคร ก็ให้เลียนแบบคนนั้น
 

M-Lite: อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นมาเต้น?
เอม: อยากลุกขึ้นมากล้าแสดงออกค่ะ เพราะว่าแต่ก่อน แค่อยู่เฉยๆ เจอคนเยอะๆ ก็จะเป็นลมแล้วค่ะ จริงๆ นะ (ยิ้มเขินๆ) ไม่ได้ออกไปไหนเลยค่ะ อยู่แต่ในบ้าน พอเห็นเพื่อนเต้นกันก็เลยคิดว่าอยากเต้นบ้าง ตอนนั้นเรายังไม่รู้จัก เราก็เลยบอกเขา ให้เขาช่วยสอน พอได้สักพักก็รวมตัวกัน ได้เกือบสิบคน ก็เลยเลือกว่าจะคัฟเวอร์ใคร สุดท้ายก็เต้นคัฟเวอร์ซูเปอร์จูเนียร์ค่ะ
แอม: ก่อนหน้านี้ก็มีวงผู้หญิงมาชวนเหมือนกันค่ะ แต่ว่าหนูไม่เอา เพราะว่าเขาเต้นแบบเซ็กซี่ๆ ใส่ชุดเปรี้ยวๆ น่ะค่ะ มันไม่ใช่แนวของเรา
เอม: ไม่ไหวๆ แล้วต้องใส่ส้นสูงด้วย
แอม: ใช่ค่ะ ลำบากมาก ปกติชอบแต่งตัวสบายๆ อยู่แล้ว พอเพื่อนอีกวงหนึ่งมาชวนเต้นแบบแมนๆ ก็เลยลองดูค่ะ ตอนแรกๆ ก็ลองเต้นแบบเล่นๆ แล้วก็ซ้อมบ่อยขึ้น พอมีงานที่โรงเรียนก็มีโชว์ เริ่มจริงจังมากขึ้น พอมีงานนอกก็เริ่มไปแข่ง ได้ที่ 2 ได้ที่ 1 บ้าง
เอม: ตอนแรกๆ เต้นปวกเปียกกันมากค่ะ ไม่แข็งแรงเลย ฟีลลิ่งก็ไม่ได้ เราไม่มั่นใจเลย ทำไม่ได้ ตอนแรกๆ ไม่ชอบเสียงกรี๊ดเลยค่ะ พอคนกรี๊ดมา เราจะลืมจังหวะไปเลย ตื่นเต้น แต่เดี๋ยวนี้ ชอบเสียงกรี๊ด ชอบให้คนมอง ยิ่งถึงท่อนเราร้อง ยิ่งมองเยอะๆ เรายิ่งมีความสุขมากเลยค่ะ ก็เลยชอบค่ะ มีคนชอบเรา เราก็เลยรู้สึกดีใจ ก็เลยชอบเต้น อยากเต้น
 

M-Lite: มีแฟนคลับเยอะไหม?
เอม: ก็ประมาณหลักพันค่ะ พอดีเคยเต้นรายการ To be Number One แล้วเด็กต่างจังหวัดก็รวมตัวกันมาตามดู มีคนเข้ามาขอจับมือ ขอลายเซ็น จนต้องมีคนมากันเลยค่ะ เพราะว่าโดนลากตัว เดินไปถ่ายรูป ตอนแรกๆ ก็รู้สึกแปลกนิดหน่อยค่ะเพราะเราไม่ได้เป็นดาราแต่ดันมีแฟนคลับ ตอนนั้นก็เต้นยังไม่เก่งเท่าไหร่ แต่คนคงชอบเพราะเราหน้าเหมือนกัน
แอม: เวลาแต่งแมนแล้วดูเหมือนมันจะรุ่งกว่าค่ะ (หัวเราะ) บุคลิกแข็งๆ ด้วยพอดี
เอม: แต่แต่งหญิง แอมก็แต่งได้แหละ (หันไปพูดกับน้อง)
แอม: แต่ท่าเดินจะเหมือนกะเทยไปนิดนึงนะ (หัวเราะ) หนูก็เลยไม่ค่อยมั่นใจค่ะ ก็เลยคิดว่าเดี๋ยวรอผมยาวก่อน แล้วเดี๋ยวจัดเต็ม (หัวเราะพร้อมกัน)

M-Lite: อาจยังมีหลายคนมองการเต้นคัฟเวอร์ของวัยรุ่นอย่างไม่เข้าใจ หาว่าไร้สาระ
เอม: คนที่เต้นคัฟเวอร์ก็อาจจะคล้ายๆ คนที่แต่งคอสเพลย์ค่ะ คนอื่นอาจจะมองว่าทำอะไรไม่รู้ วันๆ ดูแต่การ์ตูนแล้วมานั่งแต่งตัว แต่บางทีถ้าเราชอบอะไรจริงๆ หนูว่าเราก็ทำด้านนั้นให้มันดีไปเลยดีกว่า อาจจะได้ผลดีๆ ตามมา อาจจะประกวดชนะก็ได้ ส่วนเรื่องเต้นคัฟเวอร์นี่ คนอื่นอาจจะมองว่าเราตามกระแสเกาหลี แต่หนูมองว่ามันคือการแสดงความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งนะคะ เราสามารถเลียนแบบศิลปินได้ อย่างน้อยว่างๆ เราได้ออกกำลังกาย ได้เจอเพื่อน
แอม: บางคนบอกว่าเอาเวลาไปอ่านหนังสือดีกว่าไหม ทำไมต้องเอาไปเต้นเลียนแบบเกาหลีด้วย แต่มันก็เป็นความคิดของเขาน่ะค่ะ หนูว่าคนที่มีความสุขตรงนี้ก็มีข้อดี เราได้ผ่อนคลาย ได้ทำสิ่งที่อยากทำ และเราก็ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน ไมได้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เรียนไปด้วยเต้นไปด้วย ก็ต้องแบ่งเวลาดีๆ ค่ะ แต่ก็ต้องยอมรับค่ะว่าเต้นโคฟ (คัฟเวอร์) ต้องใช้ทุนเยอะมาก ทั้งต้องตัดชุดด้วย เพราะออกงานบ่อยมาก ถ้าถึงขั้นเต้นประกวดแล้วก็จะต้องใช้เงินเยอะเหมือนกัน
เอม: ถ้าจะเต้นแล้วก็ต้องเต้นให้เต็มที่ค่ะ จะได้คุ้มกับค่าชุดที่ตัดไป และยิ่งเต้นแล้วได้รางวัลด้วยก็ยิ่งดีใหญ่เลยค่ะ
แอม: ที่มาประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ เราก็ใช้การเต้นนี่แหละค่ะเป็นความสามารถพิเศษ ทั้งเต้นคัฟเวอร์แล้วก็เต้นป๊อปปิ้ง




 

ไม่อยากแยกจากกัน
M-Lite: บอกว่าไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เรียนก็เรียนด้วยกัน?
แอม: ใช่ค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ปี 1 มหาวิทยาลัยธุรกิจฯ คณะศิลปกรรม เอกคอมพิวเตอร์กราฟิก ออกแบบแอนิเมชั่น
M-Lite: เป็นแฝดกัน ชอบเหมือนกันด้วย เลือกเรียนเหมือนกันเลย?
เอม: จริงๆ แล้วตอนแรกหนูอยากเรียนพยาบาลนะคะ แต่พ่อบอกว่ามันไกล หนูก็เลยเรียนเหมือนแอม ตั้งแต่นั้น ก็เลยเรียนเหมือนแอมทุกอย่างเลยค่ะ ไม่อยากแยกกัน (ทิ้งท้ายประโยคหลังด้วยเสียงเบาๆ คล้ายบ่นกับตัวเอง) เพราะเราไม่เคยแยกกันเลยค่ะ เพิ่งมาแยกเซ็กชั่นกันตอนมหาวิทยาลัยนี่แหละค่ะ
แอม: เพราะชื่อมันมาตัดที่เราสองคนพอดี
เอม: เซ็กชั่นหนึ่ง เลขที่ 1-60 เช็กชั่นสอง เลขที่ 61 แล้วเอมได้เลขประจำตัว 60 แอมได้ 61 พอดี ก็เลยต้องแยกกันค่ะ วันแรกก็กลัวไม่มีเพื่อนเหมือนกันค่ะ เพราะหนูเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง แต่แอมจะพูดเก่งกว่าหนู
แอม: จริงๆ เราก็เคยแยกกันเหมือนกันนะ แอมเคยไปเที่ยวที่ใต้และเอมอยู่กรุงเทพฯ ค่ะ เป็นอาทิตย์ๆ เลย
เอม: แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ด้วยกันค่ะ แต่เวลาอยู่ด้วยกัน แต่ก่อนจะทะเลาะกันตลอด แต่พอห่างกันก็จะคิดถึงค่ะ แปลกค่ะ ปกติอยู่ด้วยกันตลอด เลยไม่เคยคิดถึงเลย (ยิ้ม)
แอม: แล้วเวลาอยู่ด้วยกันก็ไม่ค่อยได้คุยกันด้วยนะ ต่างคนต่างมีโลกส่วนตัว

เอม: ต่างคนต่างเล่นเกมค่ะ เกมในโทรศัพท์ (ยิ้ม) เวลาคุยกันก็จะเถียงกันตลอด ทุกเรื่องเลยค่ะ บอกว่าแอม หยิบของให้หน่อย ก็เถียงกันได้ละ (หัวเราะ) บางทีก็เถียงเรื่องยืมตังค์กันค่ะ ไม่รู้เป็นอะไรค่ะ กับคนอื่น เอมจะไม่เคยหวงนะ แต่ถ้าแอมยืม เราจะหวง จะทวงตลอด
แอม: ใช่ๆ เอมงกเงิน (ยิ้ม) ถ้าหนูยืมเงินเอม เอมจะทวงทุกวันเลย แต่ถ้าเอมยืมหนู เอมก็จะเงียบ (หัวเราะชอบใจทั้งสองคน)
เอม: เวลาอยู่ด้วยกันแล้วอุ่นใจค่ะ คิดดูว่าขนาดอยู่ที่หอยังอันตรายเลย เคยมีเหตุการณ์นึงเกิดขึ้นค่ะ ตอนนั้นแอมอยู่บนห้อง แล้วเอมกำลังรอลิฟต์อยู่พอดี มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งออกมาจากลิฟต์ พอเห็นเราจะขึ้น ผู้ชายคนนึงก็ตะโกนบอกเพื่อนว่าลืมของ เดี๋ยวขึ้นไปเอาก่อน แต่เพื่อนในกลุ่มเขาก็ทำหน้าทำตาแล้วบอกว่า แหม...รู้นะ แล้วผู้ชายคนนั้นเขาก็ขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันกับเราไปบนคอนโดอีกรอบค่ะ เหมือนเขาอยากตามขึ้นไปดูว่าเราอยู่ชั้นไหน แต่เอมก็ไม่ได้สนใจค่ะ ก็รีบออกจากลิฟต์ เดินเข้าห้องเลยค่ะ
แอม: เอมมาถึง ก็รีบเคาะประตูเลยค่ะ หนูก็เลยรีบไปเปิด เห็นหน้าเขาตื่นมาก เลยถามว่าเป็นอะไร เอมก็เล่าให้ฟังว่ามีคนขึ้นลิฟต์ตามมา ผู้ชายสมัยนี้น่ากลัวค่ะ
เอม: ต้องบอกว่าคนสมัยนี้น่ากลัว ไม่ใช่แค่ผู้ชาย (หัวเราะ) แล้วก็มีบ่อยมากค่ะ เหมือนมีคนมาเคาะประตู แต่พอเปิดมาดูก็ไม่เห็นมีใคร อยู่ด้วยกันสองคนก็เลยอุ่นใจกว่าค่ะ ไปไหนมาไหนด้วยกัน มีอะไรก็ช่วยกันได้




เร้นลับเรื่อง “แฝด”
M-Lite: ขอถามเรื่องความเป็นแฝดบ้าง เอมเป็นพี่แอม เกิดก่อนนานไหม?
เอม: เกิดก่อนแอม 1 นาทีค่ะ
M-Lite: ตอนเกิด ตัวติดกันหรือเปล่า
แอม: ไม่ติดค่ะ
เอม: แค่ใช้สายสะดือร่วมกันค่ะ แต่ก็จะมีบางคู่ที่ตัวติดกัน ก็ต้องผ่าแยก หรือถ้าใช้อวัยวะร่วมกันก็ต้องผ่าเลือกคนใดคนหนึ่ง ก็โชคดีค่ะที่ไม่ได้เกิดมาตัวติดกัน จะได้อยู่เป็นเพื่อนกัน ดูแลกัน เพราะหนูไม่ค่อยชอบอยู่คนเดียว ก็จะให้แอมดูแลตลอด ให้น้องดูแลพี่ (หัวเราะ)
 

M-Lite: ตอนแรกคุณแม่รู้ไหมว่าเป็นลูกแฝด
แอม: ตอนแรกสุด ตอนที่ตั้งท้อง คุณแม่ยังไม่รู้เลยค่ะ พอไปหาหมอ หมอเห็นท้องโตมาก หมอบอกว่าน่าจะ 7-8 เดือนแล้ว ใกล้คลอดแล้วนะ แม่เลยเถียงกับหมอเลยค่ะ บอกว่าไม่ใช่นะ นี่เพิ่ง 4 เดือนเอง เพราะว่านับอยู่ทุกวัน หมอก็เลยสงสัยค่ะ ไปอัลตร้าซาวนด์ดูถึงได้รู้ว่าเป็นลูกแฝด
M-Lite: พอรู้ว่าเป็นแฝด แม่แปลกใจมากไหม?
เอม: คุณแม่ดีใจค่ะ แต่คุณแม่ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากค่ะ เพราะญาติฝั่งแม่เป็นแฝดเยอะค่ะ แต่เป็นแฝดผู้ชายหมดเลย เป็นกรรมพันธุ์ ส่วนคุณพ่อจะกลัวมาก แม่เล่าให้ฟังว่า แค่แม่ปวดท้องนิดหน่อย คุณพ่อก็ทำอะไรไม่ถูกแล้วค่ะ กรอกใบประวัติคนไข้ก็กรอกไม่ถูก ลนไปหมด (ยิ้ม) ที่คุณพ่อเป็นห่วงมาก คงเป็นเพราะสุขภาพเราสองคนตอนเด็กๆ ดูอ่อนแอด้วยมั้งคะ หนูไม่รู้เป็นอะไร จะไม่สบายแล้วก็จะชักบ่อยมาก
 

M-Lite: เป็นเหมือนกันทั้งสองคนเลยหรือ?
แอม: เหมือนเป็นกรรมพันธุ์น่ะค่ะ มีครั้งหนึ่ง เห็นคุณหมอบอกว่าถ้ามาช้ากว่านี้ 5 นาที อีกคนนึงคงเสียไปแล้ว
เอม: ใช่ค่ะ เพราะตอนนั้นพวกเราชักบ่อยมาก แต่หนูจะเป็นหนักกว่าเอมค่ะ ทั้งไม่สบาย ทั้งขี้แย แม่ก็เลยจะชอบแอมมากกว่า เพราะแอมไม่ร้อง แอมไม่ดื้อ แต่หนูร้องตลอดเลย แม่บอก (ยิ้มกว้าง) พอมีน้องอีกสองคนหลังจากเรา คุณแม่ก็สบายแล้วค่ะ เพราะเราสองคนเลี้ยงยากสุดละ

M-Lite: เขาว่ากันว่า คู่แฝดจะรู้สึกอะไรคล้ายๆ กัน สื่อถึงกันได้ จริงไหม?
แอม: มีบ้างค่ะ มันจะรู้สึกคล้ายๆ กัน ทั้งตอนที่ไม่สบาย ก็จะรู้สึกเหมือนๆ กัน ยิ่งตอนเด็กๆ ยิ่งเป็นบ่อยค่ะ ตอนที่เอมล้ม เป็นแผลที่หัวเข่า อยู่ดีๆ แอมก็จะรู้สึกเจ็บๆ ที่หัวเข่า ทั้งที่เราไม่ได้ล้มนะคะ แล้วก็ยังไม่รู้ด้วยว่าเขาล้ม แต่ตอนนี้ไม่เป็นแล้วค่ะ
M-Lite: รู้สึกคล้ายๆ กัน ชอบอะไรคล้ายๆ กัน รวมถึงเรื่องสเปกด้วยหรือเปล่า?
แอม: ไม่แน่ใจค่ะ หนูยังไงก็ได้ค่ะ แค่นิสัยดีแล้วก็เข้ากันได้ ส่วนใหญ่ที่เคยชอบจะเป็นเกย์หมดเลยค่ะ หนูเคยไปกรี๊ดผู้ชายคนหนึ่งในวงเกาหลี เต้นเท่มาก เราชอบมาก พอลงมาจากเวที ปรากฏว่าบิดตูดเลย (หัวเราะ) (พี่เลี้ยงกระซิบว่าชอบ เคน-ภูภูมิ มาก เธอยิ้มรับแล้วเสริมต่อ) ชอบคนขาวๆ หน่อยค่ะ ดูเรียบร้อย จริงใจ คุยกันรู้เรื่อง มีอะไรก็ปรึกษากัน คบที่นิสัยค่ะ
เอม: ส่วนหนู จะผิวขาว ผิวแทน ยังไงก็ได้ค่ะ ขอให้สูงกว่าหนู ส่วนใหญ่น่าจะดูนิสัยมากกว่าค่ะ ถ้าหน้าตาดี ตรงสเป็ก หน้านิสัยไม่ได้ก็ไม่คบนะ จะคบกันต้องรับนิสัยหนูได้ หนูเป็นคนรั่วๆ ไม่ค่อยเอาไหนเท่าไหร่ แล้วก็ขี้ลืมด้วย
แอม: เหมือนเรื่องยืมตังค์ไงคะ ลืมตลอด เอมไม่ค่อยได้กินปลาค่ะ สงสัยต้องกินทั้งทะเล (สองพี่น้องหัวเราะพร้อมกัน)





ประวัติส่วนตัว

ชื่อ-สกุล: เอม-ศุกลนิจ เมทางสุเวช
วันเกิด: 7 สิงหาคม 2536
ส่วนสูง: 170 ซม.
น้ำหนัก: 50 กก.
การศึกษา: นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะศิลปกรรม เอกคอมพิวเตอร์กราฟิก ออกแบบแอนิเมชั่น มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ความสามารถพิเศษ : เต้นคัฟเวอร์
บุคลิกโดดเด่น: อ่อนนอก แข็งใน ดูบอบบาง แต่จริงๆ แล้วลุยกว่าน้องสาวเสียอีก
ความฝัน: อยากแสดงละคร บทหญิงห้าว เจ้าฮะ
 
ชื่อ-สกุล: แอม-ศุทธิกาญจน์ เมทางสุเวช
วันเกิด: 7 สิงหาคม 2536
ส่วนสูง: 170 ซม.
น้ำหนัก: 53 กก.
การศึกษา: นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะศิลปกรรม เอกคอมพิวเตอร์กราฟิก ออกแบบแอนิเมชั่น มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ความสามารถพิเศษ : เต้นคัฟเวอร์,ป๊อปปิ้ง
บุคลิกโดดเด่น: แข็งนอก อ่อนใน ดูแมนๆ แบบนี้แต่จริงๆ แล้ว พี่สาวบอกว่าเป็นคนขี้กลัว โดยเฉพาะจิ้งจก
ความฝัน: อยากแสดงละคร บทหญิงเท่ ไร้อารมณ์ เฉยชา พูดจาเนิบๆ

ภาพโดย... สันติ เต๊ะเปีย
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE










แอม เวอร์ชั่นหวานๆ
เอม เวอร์ชั่นแอบเปรี้ยว
สมัยยังแมน เต้นคัฟเวอร์





เอม ในชุดนักศึกษา
เอม-แอม
กำลังโหลดความคิดเห็น