.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - อีกไม่นานชาวเวียดนามเพศเดียวกันจะสามารถมีเพศสัมพันธ์กันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และอยู่กินกันได้อย่างเปิดเผย ถ้าหากร่างรัฐบัญญัติว่าด้วยการแต่งงานและครอบครัวฉบับใหม่ ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาปลายปีนี้ ผู้ที่รักชอบไม้ป่าเดียวกันยังจะสามารถจัดงานวิวาห์ได้ แม้กฎหมายจะไม่รับรองฐานะก็ตาม
ถึงแม้ว่าคู่เกย์ หรือเลสเบียนจะไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ก็ตาม แต่สิ่งใหม่ก็คือขบวนแห่ขันหมากของไม้ป่าเดียวกันจะไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐกระโดดเข้าไปขวางทางเช่นในปัจจุบัน และงานเลี้ยงฉลองวิวาห์ก็ไม่ต้องจัดแบบหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป
กว่าจะมาถึงวันนี้ได้มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง กระทรวงสาธารณสุขที่เป็นเจ้างานได้สำรวจความคิดเห็นจากหลายประชาคม และพบว่า อย่างน้อยที่สุดฝ่ายต่างๆ ได้มีจุดร่วมสำคัญในประเด็นหนึ่งซึ่งนั่นก็คือ พลเมืองเวียดนามทุกคนมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญในการเกิด การเลือกที่จะแต่งงาน และมีเสรีในการใช้ชีวิตครอบครัว
แต่ด้วยความเห็นที่ยังแตกหต่างกันมาก กฎหมายใหม่จะยังคงบทบัญญัติห้ามหลายประการ รวมทั้งห้ามคู่เกย์ หรือเลสเบียนรับบุตรบุญธรรม และห้ามคู่เลสเบียนรับ “อุ้มบุญ” ให้กำเนิดทารกแก่ผู้อื่นอีกด้วย ร่างกฎหมายใหม่ยังไม่ยอมรับรองพลเมืองเวียดนามที่แต่งงานกับชาวต่างชาติซึ่งเป็นพลเมืองของประเทศที่มีกฎหมายรับรองการแต่งงานของคนเพศเดียวกันอีกด้วย
หมายความว่า ถึงแม้จะแต่งงานในประเทศอื่นที่มีกฎหมายรับรอง แต่เมื่ออยู่ในเวียดนามทั้งคู่จะไม่สามารถใช้สถานะดังกล่าวในการกล่าวอ้างสิทธิใดๆ เช่นคู่สมรสปกติทั่วไปได้
กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ประชามติส่วนใหญ่ยังเห็นพ้องควรอนุญาตให้การแต่งงานของเพศเดียวกันสามารถกระทำได้ เนื่องจากเป็นสิทธิมนุษยชนพื้นฐานประการหนึ่ง ซึ่งกฎหมายฉบับปัจจุบันได้มีบทบัญญัติห้ามเรื่องนี้ โดยให้เหตุผลว่า การแต่งงานของเพศเดียวกันไม่สามารถรองรับวิถีแห่งครอบครัวที่มุ่งผดุงความเป็นชนชาติได้ ทั้งยังสุ่มเสี่ยให้เกิดความเบี่ยงเบนในสังคม ทั้งทางด้านจิตวิทยา และสังคมวิทยา อาจส่งผลลบต่อเด็กที่ทั้งคู่รับเป็นบุตรบุญธรรมอีกด้วย
ผู้แทนราษฎรจำนวนหนึ่งเป็นกังวลว่า การออกกฎหมายรับรองวิวาห์เพศเดียวกัน อาจจะทำให้นิยามของคำว่า “บิดา” และ “มารดา” ต้องถูกลบออกไปจากกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
.
2
3
4
5
แต่กระทรวงสาธารณสุขเห็นว่า กลุ่มคนชอบไม้ป่าเดียวกันก็ไม่ได้ต่างไปจากพลเมืองกลุ่มอื่นๆ ที่มีสิทธิในการดำรงชีพ อยู่อาศัย แต่งกาย สิทธิที่จะได้รับความรัก มีความรัก และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข พลเมืองเวียดนามทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับสูติบัตรและมรณบัตร สิทธิในการแต่งงาน ไปโรงเรียน และสิทธิอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง เช่นเดียวกับหน้าที่ที่มีต่อรัฐ และสังคม
เนื่องจากไม่ได้รับการรับรองโดยกฎหมาย กลุ่มเพศเดียวกันจึงต้องจัดพิธีวิวาห์แบบหลบๆ ซ่อนๆ และพยายามปิดบังเพศอันแท้จริงของตน เกือบทั้งหมดมักถูกเลือกปฏิบัติจากครอบครัว จากสังคมรอบข้าง จำนวนหนึ่งถูกนำส่งโรงพยาบาลรักษาโรคจิต เนื่องจากในบางครั้งพวกเขาถูกมองว่า มีอาการเหมือนคนที่ป่วยด้วยโรคจิต
ในย่านเอเชีย ปัจจุบันยังไม่มีประเทศใดที่มีกฎหมายรับรองการแต่งงานของเพศเดียวกัน รวมทั้งจีน และอินเดีย แม้ว่าทั้ง 2 ประเทศจะมีกฎหมายรับรองความสัมพันธ์ทางเพศของคนกลุ่มนี้ โดยจีนออกกฎหมายรับรองเมื่อปี 2540 และอินเดียในปี 2552 ซึ่งทำให้ทั้งเกย์ และเลสเบียนแต่งงานกันได้อย่างเปิดเผย
การศึกษาของสมาคมเยาวชนแห่งชาติเวียดนามได้ข้อสรุปว่า การแต่งงานในเพศเดียวกันควรได้รับอนุญาต และรัฐบัญญัติครอบครัวฯ ควรจะมีบทบัญญัติห้ามครอบครัวของทั้งสองฝ่ายทำการห้ามปราม หรือแทรกแซงใดๆ สถาบันอาชญาวิทยา รวมทั้งสำนักงานอัยการประชาชนสูงสุดต่างก็สนับสนุนแนวคิดนี้ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม
แต่ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอย กับสมาคมสตรีเวียดนามที่ทรงอิทธิพลต่อประชามติทางสังคม ได้มีความเห็นคัดค้านไม่ให้กฎหมายครอบครัวฯ รับรองการแต่งงานของเพศเดียวกัน โดยให้เหตุผลว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อวัฒนธรรมแห่งชาติ ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี และวิถีปฏิบัติของสังคมชาวเวียดนาม
ร่างแก้ไขรัฐบัญญัติครอบครัวและการแต่งงานจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในเดือน ก.ย.ศกนี้ และคาดว่ารัฐสภาจะเปิดการพิจารณาในเดือนถัดไป เตื่อยแจ๋กล่าว.