xs
xsm
sm
md
lg

แฝดผู้น้อง “แอม” เปิดใจประกวด “มิสไทยแลนด์เวิลด์” เพราะอยากเปลี่ยนลุกเป็นผู้หญิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 หมายเลข 14 “แอม ศุทธิกาญจน์ เมทาสุเวช”  โดนแฉว่าเคยเป็นทอมมาก่อน
แฝดผู้น้อง “แอม” เปิดใจเข้าประกวด “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2013” เพราะอยากจะเปลี่ยนลุกตัวเองให้เป็นผู้หญิง ยันไม่ใช่ทอม แค่เป็นสาวห้าว พ้อตอนนี้ยังปรับตัวให้เข้ากับลุกนางงามไม่ได้

หลังจากถูกงัดภาพในอดีตออกมาแฉว่า พี่น้องฝาแฝดผู้เข้าประกวดเวที “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2013” หมายเลข 6 “เอมศุกลนิจ เมทางสุเวช” และ “แอม ศุทธิกาญจน์ เมทาสุเวช” หมายเลข 14 เป็นทอม กระทั่งทั้งสองสาวต้องออกมาชี้แจงไปแล้วว่าตนเองเป็นผู้หญิงแท้ พร้อมแจงภาพแต่งหล่อเป็นภาพจากการโชว์เต้นคัฟเวอร์เพลงของศิลปินเกาหลีเฉยๆ อีกทั้งพ่อก็ให้แต่งเป็นผู้ชายเพื่อความปลอดภัย ซึ่งในการทำกิจกรรมเก็บตัวสาวงามที่จังหวัดภูเก็ต ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสคุยกับสาวแอมแฝดผู้น้อง เจ้าตัวก็เปิดใจ ว่าที่ตัดสินใจมาประกวดครั้งนี้เพราะอยากจะเปลี่ยนลุกส์ตัวเองให้เป็นผู้หญิงมากขึ้น

“มาเก็บตัวก็รู้สึกเกร็งๆไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ การวางตัว อาจจะด้วยเป็นบุคลิกของแอม เพราะแอมจะเป็นคนที่นิ่งๆ คนไม่รู้จักก็จะไม่กล้าเข้ามาคุยเพราะเราหน้าดุ แต่ตอนนี้ก็ต้องปรับตัวเยอะ เรียกว่าใหม่หมดเลยทุกอย่าง การแต่งตัวก็ต้องเริ่มใหม่หมด เพราะตอนเราเต้นคัฟเวอร์ของซูเปอร์จูเนียร์ เราก็จะต้องแต่งตัวตามวงเขา เราไม่อยากเต้นเลื่อยๆ ก็เลยไม่เต้นคัฟเวอร์วงผู้หญิง ตอนนี้ก็เลยต้องมาเปลี่ยนการแต่งตัวใหม่หมดเพื่อมาเข้าเวทีการประกวด จริงๆ ก็เป็นความตั้งใจของเราที่จะเปลี่ยนลุกส์ตัวเองให้เป็นผู้หญิงมากขึ้นด้วย ก็เลยตั้งใจมาประกวด เหมือนเป็นการปฎิวัติตัวเอง แต่ก็ยังปรับตัวไม่ทัน ทำอะไรมันก็เลยเก้ๆ กังๆ”

“ที่อยากจะเปลี่ยนตัวเองเพราะว่าเลิกเต้นคัฟเวอร์แล้ว ซึ่งแอมตั้งใจไว้ว่าถ้าเลิกเต้นเมื่อไหร่จะไว้ผมยาว มาประกวดเห็นว่าพี่สาวมา ก็เลยอยากมาด้วยจะได้เป็นเพื่อนกัน ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะติดเข้ารอบ 20 คนทั้ง 2 คน มันเป็นอะไรที่เกินความคิดเรามาเยอะ ต่อจากนี้ก็พยายามทำให้ดีที่สุด จะได้ไม่ได้ยังไงไม่เสียใจ”

“กับข่าวที่ออกมาแอมไม่รู้สึก ไรเท่าไหร่ เพราะเมื่อก่อนตอนที่เรายังเต้น คนก็คิดว่าเราเป็นทอมอยู่แล้ว เราก็เข้าใจเพราะการแต่งตัวลุกส์นั้นใครๆ เห็นก็ต้องคิดว่าเราเป็นทอมอยู่แล้ว อย่างที่ผ่านมาก็มีสาวๆ มาชอบเยอะ แต่ก็บอกเขาไปว่าเราไม่ได้เป็นทอมนะ เขาก็หรอๆ พอเขามาเห็นเราในลุกส์นี้เขาก็บอกว่าแต่งแบบนี้ก็โอเคนะ เมื่อก่อนเราผมสั้นไงค่ะ แต่งตัวเป็นผู้หญิงมีแต่คนบอกว่าเราเหมือนกะเทย เลยเสียความมั่นใจตลอด ก็เลยห้าวๆ ตอนนี้ไว้ผมยาวแล้วก็เป็นสาวได้เต็มที่”

สำหรับกิจกรรมการเก็บตัว “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2013” วันที่ 2 ก็เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยสาวงามตื่นแต่เช้าตรู่ แต่งกายด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงขายาว ซึ่งกิจกรรมแรกคือนมัสการหลวงพ่อแช่ม วัดฉลองหรือวัดไชยธาราราม ซึ่งถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองแห่งจังหวัดภูเก็ต ก่อนเดินทางไปนมัสการพระผุด ณ วัดพระทอง ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย จากนั้นเดินทางมายัง“ศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดภูเก็ต” โดยกองประกวดฯ กำหนดให้ 20 สาวงามฯ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ร่วมทำกิจกรรมกับน้องๆ ต่อจากนั้น 20 สาวงาม เดินทางมายัง “บ้านลุงพิทักษ์” ที่เป็นศูนย์ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส อาทิ บุตรของนักโทษ เด็กเร่ร่อน เด็กขอทาน เป็นต้น เพื่อมอบเครื่องแต่งกายและเงินที่ทั้งหมดช่วยกันหาทุนจากการขายน้ำพริกกุ้งเสียบระหว่างทำกิจกรรม นอกจากนั้นสาวงามแต่ละคน ยังเตรียมของขวัญพิเศษมามอบให้น้องๆ อย่าง อุปกรณ์การเรียน ตุ๊กตา ของเล่นต่างๆ

จากนั้นในช่วงเย็น กองประกวดให้สาวงามได้ทำกิจกรรมเพนต์ผ้าปาเต๊ะ ณ ชายหาดโรงแรมเคปพันวา ก่อน 20 สาวงามเปลี่ยนเป็นชุดกีฬาเพื่อผ่อนคลายกับกิจกรรมที่เหนื่อยล้าตลอด 2 วัน ด้วยการเล่นกีฬาชายหาด วอลเลย์บอล โพสท่าถ่ายภาพกับเรือคยัค และในช่วงค่ำผู้เข้าประกวดทั้ง20 คน ผ่อนคลายด้วยการแต่งกายสีสันคัลเลอร์ฟูลและร่วมร้องเพลงสนุกสนาน ณ ริมชายหาดโรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต เป็นการผ่อนคลายก่อนเข้านอน





























กำลังโหลดความคิดเห็น