แรกพบสบตากับสาวหมวยรายนี้คงรู้สึกคุ้นๆ คลับคล้ายว่าเคยเห็นที่ไหน ก็จะไม่ให้คุ้นตาได้อย่างไรเพราะ 'กอล์ฟ-ณัฐภัสสรา อดุลยาเมธาสิริ' ผ่านผลงานในวงการบันเทิงมาแล้วไม่น้อย
โดยเฉพาะงานโฆษณาที่นับดูก็ล่อประมาณ 40 กว่าชิ้น หรือภาพยนตร์ก็มีออกมาให้ได้ชมกันเป็นระยะๆ
ล่าสุด รับบท 'เลสเบี้ยนสุดเซ็กซ์ซี่' เข้าฉากเลิฟชีนร้อนฉ่าในแบบหญิงรักหญิงกับสาวสวยอีกคน ในภาพยนตร์เรื่อง ทองสุก 13 ที่อาจจทำให้ผู้ชมหัวใจเต้นผิดจังหวะกันอย่างไม่รู้ตัว
เรือนไมล์บนนาฬิกาเดินย่ำไปตามจังหวะ ไม่นานก็ถึงเวลานัด.. สาวหมวยยิ้มตาหยีเดินเข้ามาทักทายทีมงาน M-lite ด้วยท่าทางเป็นกันเองไม่แสดงออกถึงอาการเคอะเขิน ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศกำลังทำหน้าที่ปรับอุณหภูมิในห้องเล็ก ขณะที่บทสนทนากับหญิงสาวเจ้าของใบหน้าคุ้นเคยค่อยๆ เริ่มขึ้น
ความรักของเลสเบี้ยนเป็นสิ่งสวยงาม
อดไม่ได้ที่ต้องจ้องมองลิปติกสีชมพูระเรือบนริมฝีปากของเธอ เพราะมันช่างตัดผิวขาวนวลของสาวไทยเชื้อสายจีนผู้นี้เสียเหลือเกิน กอล์ฟ เล่าถึงผลงานภาพยนตร์ล่าสุดเรื่อง ทองสุก 13
ในเรื่องเธอรับบทเป็น บีม เลสเบี้ยนสาวนิสัยห้าวๆ ลุยๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่เดินทางไปยังเกาะแห่งหนึ่ง ความคึกคะนองของวัยรุ่นที่เป็นปฐมบทของความน่าสะพรึ่งกลัว
นำแสดงโดยนักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง อาทิ ชิน - ชินวุฒ, น้ำชา - ชีรณัฐ, ฌอห์ณ - จินดาโชติ, น๊อต อัครณัฐ, และ ฐา-กิตติ์ลภัส รับบทเป็นคู่รักเลสเบี้ยนของ กอล์ฟ ขอกระชิบว่าเรื่องราวของหญิงสาวคู่นี้ทำเอาหนังสยองขวัญกลายหนังโรแมนติกไปชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว
“ในเรื่องทองสุก 13 กอล์ฟ รับบทเป็นบีมค่ะ ซึ่งบีมก็เป็นเลสเบี้ยน ตามท้องเรื่องนิสัยลักษณะห้าวๆ เรื่องย่อๆ คือพวกเราเป็นกลุ่มเพื่อนกัน แล้วเดินทางไปบนเกาะทะเล่อทะล่าไปโดยไม่รู้ว่าบนเกาะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น แกล้งเพื่อนแรงจนเลยเถิด เล่นสนุกจนเกิดเหตุการณ์ตามมาเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่อง”
แต่ที่ทำให้เธอถูกจับตาเป็นพิเศษคือบทที่ได้รับนั้นเป็น เลสเบี้ยน งานนี้ไม่มีสแตนอิน เปลือยรักแบบไม่แคร์สายตาใคร ในฉากเลิฟซีนดูดดื่มกับแฟนสาว
กอล์ฟ ยิ้มกรุ่มกริ่มก่อนเผยความในใจต่อบทบาทที่แสดงในเรื่องนี้ “บทเป็นเลสเบี้ยนมันก็มีจุดขายของคู่ กอล์ฟ กับ ฐา มีแบบเลิฟซีนนิดนึง ซึ่งดูภาพมาแล้วเป็นภาพที่สวยค่ะ ดูแล้วมันได้ฟิวของคนรักกัน ด้วยแบบบรรยากาศมันทำให้ภาพออกมาสวย มันเป็นการแสดงออกถึงความรักที่สวยงาม รักมันไม่ได้อนาจารดูเป็นสิ่งสวยงามมากกว่า”
ทีมงาน ถามว่าเป็นผู้หญิงต้องแสดงออกถึงความรักกับเพศเดียวกันต้องทำใจหรือเตรียมตัวเป็นเป็นพิเศษหรือเปล่า กอล์ฟ ตอบขึ้นทันที
“ไม่ได้ทำใจนะ แต่รู้สึกแบบเกรงใจมากกว่า(ยิ้ม) ฐา เองเค้าเป็นผู้หญิงเรียบร้อยมากองทุกครั้ง แม่เค้าก็มาด้วย เราแบบจะมีเลิฟชีนกับลูกเค้าก็เกรงใจ เกรงใจทั้งตัวฐา ทั้งตัวแม่ฐา ก็แบบเฮ้ย! ฐา ไม่ต้องคิดมากนะ เพราะด้วยตัวกอล์ฟเองเป็นคนนิสัยแบบคล้ายๆ บีมอยู่แล้ว แต่รสนิยมทางเพศไม่เหมือนกัน กอล์ฟก็เลยบอกฐา กอล์ฟเป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชายนะ ไม่ต้องห่วง ฐาก็แบบ..โอเคๆ (อมยิ้ม)”
กอล์ฟ เล่าต่อ ว่ากว่าจะผ่านเลิฟซีนฉากนี้ไปได้เล่นเอาแทบแย่ “ที่จริงมันได้ตั้งแต่เทคแรกแล้ว แต่ผู้กำกับบอกตากล้องมือสั่นไปหน่อย อ่า..จูบกันซ่ะปากเปื่อยเลย (หัวเราะร่า)”
บีม เลสเบี้ยนเซ็กซ์ซี่ใน ทองสุก 13
เรื่องการเข้าฉากเลิฟฟซีนแบบหญิงรักหญิงนั้นยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าเรื่องรูปร่าง กอล์ฟ เล่าถึงความกังวลกับบทบาทที่ได้รับเล่นใน ทองสุก 13
“บทเลสเบี้ยนไม่ลำบากใจ แต่มาลำบากใจตรงต้องใส่บิกินี่ค่ะ เพราะเหมือนกับว่าเราก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่ แต่ถ้าโอกาสมันมาแล้วเห็นกับว่าทำอย่างไรให้เราใส่บิกินี่ให้ดูดีที่สุดนั้นคือประเด็นค่ะ (หัวเราะ)”
พอรู้ว่าตัวเองได้รับเลือกให้นำแสดง กอล์ฟ ก็รีบฟิตหุ่นเพื่ออวดเรือนร่างทันที แต่ก็ดูจะมีอุปสรรคจนทำให้ต้องถอดใจไป
“มีเวลาให้เราฟิตหุ่นพอสมควรค่ะ เดือนหนึ่งได้ พอเรารู้ว่าเราได้บทกว่าจะมีฟิตติ่งก็มีเวลาลดน้ำหนัก แต่พอเราได้มาทำงานจริงๆ แล้ว หุ่นที่เราลดมามันไม่ได้ช่วยอะไรเลย แล้วเหมือนกับว่าพอเรามาอยู่ในกองถ่าย ความเป็นเพื่อน ชวนกันกินชวนกันคุย เผละ!”
กอล์ฟ เล่าว่าเป็นคน เอ็นจอย อีสติ่ง อยู่แล้วแล้ว ยิ่งมาเจอเพื่อนๆ ก็สนุกจนลืมเรื่องฟิตหุ่นไปเลย
“พออยู่ด้วยกันหลายคนมันสนุกกับการกิน เรื่องลดน้ำหนักมาตอนแรกผอมๆ อยู่ แต่พวกพี่เค้าดูแลดีมีขนม คอยมาดูและน้องๆ ตลอดเวลา พอเราเหนื่อยก็กินเยอะ ยิ่งอยู่กับเพื่อนก็แบบยิ่งเฮฮาปาร์ตี้”
ถึงก๊วนนักแสดงวัยรุ่นจะสนิทสนมกันในกองฯ แต่ในช่วงแรกก็มีเกร็งๆ กันบ้าง แต่ด้วยความที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันก็เลยทำให้เข้ากันง่ายขึ้น
กอล์ฟบอกว่าในตอนแรก เธอไปแคสบท ปุ้ย เลสเบี้ยนสาวเซ็กส์ซี่อีกคนหนึ่ง แต่ไปๆ มาๆ กลับได้รับบทเลสเบี้ยนนิสัยห้าว
“ตอนที่แคส กอล์ฟ แคสเป็นบทปุ้ยด้วย เลสเบี้ยนผู้หญิงที่เซ็กซ์ซี่ กินเหล้า เต้นยั่ว คือบท ฐา เล่นค่ะ แต่พอเราได้มาเวิร์คช้อป ด้วยรูปพรรณสัณฐานของกอล์ฟ ที่โครงสร้างใหญ่กว่าฐา อุปนิสัยส่วนตัวห้าวๆ แอกติงโค้ชก็เลยมองว่า เหมาะที่จะเป็นบท บีม มากว่า มันก็เอเคค่ะ ไม่ได้เปลี่ยนตัวเรามากนัก”
เหตุเกิดเพราะหน้าใส
กอล์ฟ เล่าถึง ก้าวเล็กๆ ในวงการบันเทิง หลังจากชนะเลิศการประกวดหนุ่มสาวหน้าใส Tea Tree ก็เริ่มมีงานติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะพรีเซ็นเตอร์โฆษณา, มิวสิกวิดีโอ, ภาพยนตร์ ฯลฯ
“เริ่มแรกกอล์ฟมาจากการประกวดค่ะ ประกวด Tea tree facial foam หนุ่มสาวหน้าใสปี 2005 ย้อนกลับไปนานมาก ซึ่งตอนนั้นกอล์ฟอยู่ ม.6 คือเหมือนกับว่าเราชนะการประกวด มีงานเข้ามาเรื่อยๆ เราก็เติบโตจากตรงนั้น”
ส่วนงานชิ้นแรกของเธอนั้นเป็นมิวสิกวิดีโอ ที่ได้รับการทาบทามจากการเดินเล่นสยามสแควร์
“ประกวดชนะแล้วไปเดินเล่นสยาม มีพี่เขาเจอจนมาเล่น mv แล้วมีโอกาสได้แคสงานโฆษณาได้เล่นโฆษณา ทางผู้จัดอีเวนของ facial foam เห็นเราก็เอาเราไปเล่นหนังเรื่องแรกคือ มอ๘ เรื่องที่สองคือ คู่แรด ทิ้งหนังมานานมากจนช่วงปีที่แล้วมีโอกาสได้ร่วมงานกับ พี่พจน์ อานนท์ เรื่องรักเอาอยู่ หอแต๋วแต 4 ก็เหมือนกับว่ามีโอกาสเข้ามาหาเราเรื่อยๆ”
ตัดสินใจสมัครประกวดแบบนี้ท่าทางจะเป็นดาวโรงเรียนแหงๆ แต่ที่ไหนได้ กอล์ฟ เล่าถึงเหตุผลในการสมัครเข้าร่วมประกวด “ความคิดแบบเด็กๆ เลยของรางวัลคือ พาไปเที่ยวต่างประเทศ(หัวเราะ) แล้วเราอยากไปเที่ยวต่างประเทศ ประกวดหนุ่มสาวหน้าใสของรางวัลคือผู้ชนะได้ไปเที่ยวดินแดน ออสเตรเลียต้นกำเนิด ทีทีออลล์ เออ!ไป(ยิ้ม) เราดูตอนกลางคืนแล้วก็สมัครตอนนั้นเลย แล้วค่อยตื่นมาบอกแม่ว่าเมื่อคืนสมัครประกวดไปนะ”
กอล์ฟ เล่าว่าตอนนั้นไม่สวย แถมอวบอ้วนอีกต่างหาก “ตอนเด็กๆ กอล์ฟแบบโก๊ะกังมากเลยนะ เปิดเถิกหัวเหม่งมากเลยนะ เข้าวงการแบบ Baby fatอะ ดูแบบฉันอ้วนได้ขนาดนั้นเลยหรอ แต่เรามั่นใจว่าเราหน้าใส(หัวเราะเสียงดัง) คอนเซ็ปต์หลักคือหนุ่มสาวหน้าใส เรามั่นใจว่าเราหน้าใส(ยิ้ม)”
หมวยหน้าบริ๊งค์! เจ้าแม่พรีเซ็นเตอร์
ในที่สุดใบหน้าอันคุ้นเคยก็เฉลยว่าเราเคยพบกันที่ไหน ก็..ตามหน้าจอทีวีนี่แหละ เพราะนับว่า กอล์ฟ เป็นเด็กสาวที่มีงานพรีเช็นเตอร์เยอะคนหนึ่งเลย กอล์ฟ นับถึงงานโฆษณาเก่าๆ “อืออ..น่าจะเกือบ 40-50 ชิ้นได้ mv ก็ 10 กว่าตัว (ยิ้ม) เคยนับแล้วก็ขี้เกียจนับแล้ว”
ในส่วนของโฆษณานั้นถูกถ่ายทอดออกมาในช่วงเวลาสั้นๆ ต่างจากงานภาพยนตร์ กอล์ฟ ค่อยๆ เล่าขึ้น
“ยากมั้ย..มันก็มีส่วนทั้งง่ายยากนะคะ เพราะว่าการจำไดอะล็อก ฝึกพูดทุกอย่างมันดูสมูท เรื่องทองสุก 13 ต้องเป็นเพื่อนกันจริงๆ ทุกอย่างอารมณ์ที่ออกมาเป็นเพื่อนกัน ภาวะความกดดันในการท่องบทมันหายไป”
หมวยตาหยี เล่าว่ามีทริกง่ายๆ ในการท่องจำ “เป็นคนที่จำผ่านการเขียน อ่านรอบนึง ทำความเข้าใจกับบท แล้วเราก็เขียน เวลาที่เขียนเหมือนผ่านกระบวนการสมอง เข้าสมองก่อน(ยิ้ม) มันก็จำได้”
กอล์ฟ เปิดเผยว่าไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมีโอกาสเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง
“ไม่คิดเลย ตอนแรกเหมือนกับเด็กขี้งกทั่วไป มีโอกาสได้ทำงานหาตังค์ เออๆ สนุกกับตรงนี้ แต่พอ ณ จุดๆ หนึ่งเราได้งานเรื่อยๆ มันเป็นอีกอาชีพนึงที่เราสามารถเลี้ยงครอบครัวเราได้ พ่อแม่เราไม่ต้องเหนื่อย รู้สึกแฮปปี้กับการทำงานตรงนี้ เหมือนมันเป็นโอกาสที่ดี”
ทำงานเลี้ยงตัวเองและครอบครัว
น้ำเสียงเจือความสุขของหญิงสาวค่อยๆ ดังขึ้นเมื่อถูกถามถึงเรื่องราวของครอบครัว กอล์ฟ พูดขึ้นทีเล่นทีจริง “โห.. เข้าขั้นดราม่า(หัวเราะ)”
เธอ เล่าว่า ตั้งแต่ ม.6 ที่มีโอกาสมาทำงานในสายบันเทิงก็ส่งเสียตัวเองและครอบครัวเป็นต้นมา “คือเหมือนกับว่าพอกอล์ฟหาเงินได้ปุ๊บ มหาลัยวิทยาลัย ปี1 - ปี4 ค่าเทอมค่าอะไรกอล์ฟออกหมดค่ะ”
การเข้ามาทำงานในวงการถือเป็นโอกาสที่ดี สาวหมวยพูดขึ้นด้วยความภูมิใจที่ได้ดูแลครอบครัว “เราได้ทดแทน โอกาสที่ดีมากที่เราได้ทดแทนพ่อแม่ พอกอล์ฟเรียนจบปุ๊บก็บอกพ่อแม่ไม่ต้องทำงานแล้วเดี๋ยวกอล์ฟเลี้ยง”
กอล์ฟ เปิดใจว่าครอบครัวตัวเองเป็นครอบครัวหาเช้ากินค่ำ ไม่ได้ร่ำรวยมาจากไหน คุณแม่ทำงานขายประกัน ส่วนคุณพ่อเป็นคนขับรถตู้ น้ำเสียงเริ่มสั่นเครือก่อนความนัยจะเปิดออกมา
“กอล์ฟโชคดีอะค่ะ ที่ได้โตมาในครอบครัวนี้ เค้าสอนเราดีมาก ให้ความอบอุ่น เมื่อก่อนแบบถึงบ้านต้องรอกินข้าวพร้อมกันนะ พอเตี่ยเลิกทำงานเตี่ยกอล์ฟดูแลในเรื่องของสุขภาพและก็ทุกอย่างในบ้านเลย
“ส่วนแม่เหมือนเพื่อน มีอะไรคุยได้ทุกอย่าง แม่คอยดูแลในเรื่องอาหารการกิน เมื่อก่อนแม่จะดูแลตลอดเพราะว่ากอล์ฟติดแม่(ยิ้ม) ไปไหนก็จะเอาแม่ไปด้วย แต่พอเราเรียนจบขับรถเองได้..แม่ทิ้ง(หัวเราะ) เค้าก็เหนื่อย อยากอยู่ดูแลบ้านบ้าง เราก็เข้าใจเค้าก็แก่แล้วมานั่งรอเรา 2-3 ชม. เค้าไม่มีอะไรทำก็เบื่อ ก็เลยเหมือนฝึกตัวเองให้อยู่คนเดียวได้”
หญิงสาว พูดเต็มปากว่าตนอยากมีชื่อเสียงโด่งดัง “อยากดังนะคะ มีความรู้สึกอยากดังอยากมีชื่อเสียง เพราะว่าหนึ่งเราดังเรามีชื่อเสียงก็มีโอกาสที่ดีเข้ามาหาเรา เราทำงานชิ้นเดียวสามารถเลี้ยงครอบครัวทั้งเดือนหรือทั้งปี”
ลูกสาวน่ารักขนาดนี้ มีหรือที่คนเป็นพ่อป็นแม่จะไม่รู้สึกปลาบปลื้ม “เค้าภูมิใจนะคะ แอบไปขี้อวดกับญาติๆ (ยิ้ม) เราก็เข้าใจเค้าภูมิใจในตัวเรา เค้าก็รู้สึกดีแต่เค้าก็เป็นห่วงเราในเรื่องสุขภาพ เมื่อก่อนไม่เคยป่วยเข้าโรงพยาบาล พอทำงานในวงการปุ๊บก็แบบแอดมิดเข้าโรงพยาบาลทุกปี เหมือนกับเราใช้ร่างกายเราเยอะขึ้น ร่างกายไม่ไหวก็มีแฮงค์บ้าง ที่บ้านเขาก็จะดูแลในเรื่องของสุขภาพ”
“กอล์ฟรู้สึกภูมิใจค่ะ รู้สึกดีใจค่ะ เราก็เป็นเด็กธรรมดาคนนึงที่เราสามารถเดินมาได้ถึงจุดๆ นี้ ถึงแม้จะไม่ใช่จุดสูงสุดมันก็เป็นจุดที่เราภูมิใจ(ยิ้ม)”
พ่อ-แม่ สำคัญที่สุดในชีวิต
กอล์ฟ เล่าถึงการเลี้ยงลูกของครอบครัว อดุลยาเมธาสิริ “เค้าสอนให้คิดเองคะ ดูให้เป็นเยี่ยงแต่ไม่ต้องไปทำอย่าง กอล์ฟโชคดีมากถึงแม้เป็นครอบครัวหาเช้ากินค่ำ แต่เค้าก็แบบส่งเสียเราให้อยู่ในสถาบันดีๆ”
“อย่างตอนอนุบาล - ม.ต้น กอล์ฟเรียนเอกชนมาโดยตลอด ซึ่งค่าเทอมมันก็แพง มันทำให้เราแบบได้อยู่ในสภาพแวดล้อมสังคมที่ดี มีเพื่อนที่ดี มีความคิดความอ่าน ทำให้เราเจอคนดีๆ ไม่ไปยุ่งยาเสพติด มั่วเสียคนคน แล้วพอได้โตมาอยู่ ม.ปลาย เราเลือกคบคน เรามีพื้นฐานทางสังคมที่ดีการโพรเทคที่ดี มันทำให้เราคิดอ่านเองได้ที่เราจะเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง”
กอล์ฟ มีพี่ชาย 1 คน แน่นอนว่าสนิทสนมไม่ต่างจากจากคุณพ่อคุณแม่ แต่เขาผู้นี้ชอบแกล้งน้องที่หนึ่งเลย
“พี่ชายก็สนิทนะคะ คุยกันทุกเรื่องแต่ส่วนใหญ่จะทะเลาะ พอเวลาพี่มีแฟนเราจะดีใจมากเขาจะไม่มาหาเรื่องเรา พอเขาโสดเขาไม่รู้จะแกล้งใครก็มาแกล้งเรา ก็ตีกันก็รักกัน ทะเลาะกันเดี๋ยวก็ดีกัน”
ความที่น้องสาวคนนี้เริ่มทำงานเร็วกว่าจึงดูโตเป็นผู้ใหญ่กว่า กอล์ฟ พูดถึงพี่ “กอล์ฟ รู้สึกอยากให้เค้าโตมากกว่านี้ เหมือนกับเค้าก็โตแล้วควรจะหาจุดหมายของชีวิตได้แล้ว เพราะกลับมาบ้านทุกวันนี้ยังเห็นเขานั่งเล่นเกมอยู่เลย เฮ้ย..แล้วเมื่อไหร่จะได้แต่งานสักที อยากให้พี่ชายเราโต เราห่วงเรื่องการวางแผนชีวิต การวางแผนทางการเงินเขา”
อาจกล่าวได้ว่า ณ วันนี้ ชีวิตของกอล์ฟมีสิ่งสำคัญ อยู่เพียง 3 สิ่ง คือเรื่อง การเรียน การงาน และครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องครอบครัวถือว่าสำคัญกว่าสิ่งใด คือถ้ามีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปทานอาหารอร่อยๆ
เงินทองต้องเก็บออม
เธอเปิดเผยว่า สมัยก่อนพอเริ่มมีงานถ่ายโฆษณาเข้ามาก็เริ่มมีเงินก้อน แน่นอนเงินทองที่ได้มาง่ายๆ ก็ทำให้จับจ่ายออกไปง่ายๆ
“กอล์ฟฟุ่มเฟือยนะ มีช่วงก่อนหาเงินได้เยอะๆ แล้วพอมาถามแม่เหลือเงินเท่าไหร่..มันเหลือเท่านี้เอง เราก็ถามแม่ทำไมมันเหลือเท่านี้ แม่ก็ชี้..นั้นไงโน้ตบุ๊กลูก นั้นไง นู้นไง โอเค..เรารู้แล้วบางอย่างก็เกินความจำเป็นของเราไป เราก็ประหยัดลง หลังจากนั้นกอล์ฟขี้งกมาก”
ครอบครัวไม่เคยตำหนิเรื่องการจับจ่ายใช่สอยของเธอ เพราะท่านเคารพในความคิดของผู้เป็นลูกสาว อย่างไรก็ตามพวกท่านจะาอนให้กอล์ฟเรียนรู้และเข้าใจเรื่องบางเรื่องเอง
“เค้าสอนให้เราเรียนรู้เอง ถึงจุดๆ นึงเราแบบเฮ้ย..เป็นผู้ใหญ่ขึ้น พอมาถามว่าเหลือเท่าไหร่มันทำให้เราผิดหวัง เราผิดอะ การที่เราตักสินใจซื้อของบางอย่างมันผิด”
แม่ของกอล์ฟจะเป็นผู้ให้คำแนะนำเรื่องการออมเงิน เพราะท่านมีประสบการณ์มาก่อน
“เค้าแนะนำในสิ่งที่ดีๆ ให้ เพราะแม่กอล์ฟเองขายประกัน ให้ลูกซื้อประกัน ได้ดูแลชีวิตตัวเราเอง และก็ดูแลคนรอบข้างแล้วมันก็มีแบบพวกเงินฝาก และผลตอบแทน เราเหนื่อยตอนนี้ลงทุนไปอีก แก่ตัวเราได้เงินกลับมามันก็โอเค”
กอล์ฟ เผยว่า ปัจจุบันก็ลดการค่าใช้ที่ไม่จำเป็นลงแล้ว เพราะเห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น “ตอนนี้กอล์ฟจัดการเองแบ่งเป็นส่วนๆ หลังจากที่เราถามเหลือเงินเท่าไหร่ พอเรามาเก็บเอง เราก็อยากเห็นมันเพิ่มขึ้นๆ เราก็จะขี้งกมากขึ้น ไม่ใช้ฟุ่มเฟือย”
ที่ผ่านมาของชิ้นที่แพงที่สุดที่ชื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงก็คือ รถยนต์ กอล์ฟเผยซื้อหลังเรียนจบ ถือเป็นของขวัญให้ที่บ้านหลังจากคันเก่าใช้มาแล้วร่วม 8 ปี
ฉันนี่แหละ..นักกิจกรรมตัวแม่
“เต้นงานโรงเรียนตั้งแต่อนุบาลจนถึงม.3 พอมัธยมก็เป็นเชียร์ลีดเลอร์ ดรัมเมเยอร์ เป็นความชอบส่วนตัว ด้วยแบบการทำกิจกรรมมันทำให้เราได้อยู่กับเพื่อน ทำมาตลอดจนถึงปริญาตรีเลย พวกกิจกรรมพวกกีฬาสี สันทนาการ ละครเวที” กอล์ฟเล่าถึงกิจกรรมที่ผ่านมาระหว่างเรียน แน่นอนพูดได้เต็มปากเลยละว่าสาวหมายผู้นี้น่ะเด็กกิจกรรมตัวยง
กอล์ฟ เป็นคนกล้าแสดงออกมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากครอบครัว และสภาพแวดล้อมที่ให้เธอเป็นนักกิจกรรม
“มันทำให้เรากล้าแสดงออกมีมนุษย์สัมพันธ์มีคอนเนคชั่นรู้จักรุ่นพี่รุ่นน้อง มันทำให้เรากล้าเข้าสังคม มันเหมือนเปิดโอกาสให้ตัวเองกล้าแสดงออกมากขึ้น”
หลังสอบติดโควต้า คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กอล์ฟ ก็ปันเวลากว่าครึ่งมาให้งานในวงการบันเทิง
“ช่วงนั้นช่วงม. 6 หัวเลี้ยวหัวต่อ แล้วแบบมีโควต้ามาที่โรงเรียน ก็สอบเลยพอสอบติดโควต้าปุ๊บก็ทิ้งเรื่องเรียนไปถ่ายงานโฆษณา เป็นเด็กกิจกรรมาตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้ว”
ส่วนตอนนี้เธอจบปริญญาตรีแล้ว และกำลังศึกษาปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมด้วย กอล์ฟ เปิดใจกับ M-lite
“อยากสร้างดีกรีให้ตัวเอง มีวุฒิการศึกษา ถ้าเราไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิงแล้วจะได้มีโอกาสทำอย่างอื่นต่อ ซึ่งเลือกเรียนบริหารธุรกิจเพราะอยากหาธุรกิจอะไรให้กับตัวเอง ซึ่งเราไม่มีความรู้ เราจะหาความรู้ไง..เราก็ต้องไปเรียน”
จะว่าไป หญิงสาว ก็แอบบ่นว่าการที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยบางทีก็รู้สึกว่าบางอย่างขาดหายไป แต่ก็มันก็แลกกับโอกาสที่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้รับกันง่าย เธอพูดถึงชีวิตช่วงวัยรุ่น
“รู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้มเลย กอล์ฟ เริ่มทำงานตั้งแต่ม.6 กอล์ฟเรียนเสร็จก็ไปทำงานเลย ไม่มีเวลาอยู่กับเพื่อน เราอาจจะพลาดความสนุกตรงนั้นไป พอเรียนจบเพื่อนก็ทำงานกันหมดเราก็ทำงานไม่เป็นเวลา โอกาสเจอกันน้อยก็เลยทำใก้รู้สึกว่าใช้ชีวิตไม่คุ้มเลย”
ถ้าหาเวลาว่างได้ตรงกับเพื่อนๆ กอล์ฟบอกว่า อยาจัดปาร์ตี้เล็กๆ กับเพื่อนๆ ริมทะเล เหมือนไปเข้าค่ายสัก 3-4 วัน ใช้เวลาด้วยกันไปเที่ยวด้วยกัน
ธุรกิจต่อยอดจากเรียน ป.โท
การที่ตัดสินใจศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ แน่นอนว่าเธอกำลังขวนขวายวิชาความรู้เพื่อมาเป็นประโยชน์ต่อโปรเจกต์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต แม้อากาศในห้องจะอุณหภูมิต่ำจนรู้ผิวกายสัมผัสถึงความหนาว แต่บทสนทนาระหว่างเรายังคงได้อรรถรส
กอล์ฟ เล่าว่าอยากทำธุรกิจหลายอย่างมาก มีที่คิดไว้ แต่ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงศึกษาข้อมูล ยิ่งพอมาได้เรียนด้านบริหารธุรกิจก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น
“เล็งไว้หลายโปรเจคมากเลยคะ ธุรกิจร้านกาแฟ พัฒนาต่อมาเป็น แคทคาเฟ่ อยากทำธุรกิจอาหารเสริม แต่พอเราได้มาเรียนแล้วมีการคิดคำนวนต้นทุน ระยะเวลาคืนเงิน มันก็เหมือนกับทำให้โปรเจกต์ยังต้องศึกษาอีกเยอะ ตอนนี้ที่เรียนเหมือนกับว่าเราได้สะสมความรู้ มีไอเดียในการที่จะทำอะไร ปูพื้นฐานความรู้ไว้ก่อนเมื่อวันนึงที่เรามีเงินมีเวลาก็ลุยโปรเจกต์ที่เราอยากทำด้วยเลย แล้วพอเรียนจบมีเงิน ค่อยตกตะกอนอีกที”
กอล์ฟ เปิดเผยว่า เป็นคนที่มีการวางแผนชีวิต แต่ก็ยอมปรับตามวาระโอกาสที่เข้ามา “กอล์ฟก็มีการวางไว้เหมือนกัน แต่เหมือนกับว่าวางไว้สั้นๆ ภายใน 3 ปี 5 ปี แต่ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เหมือนกับว่าโอกาสจังหวะชีวิตเราเข้ามา เหมือนกับทำให้เราเปลี่ยนไป”
มีโลกส่วนตัวยามค่ำคืน
“กอล์ฟจะเป็นคนมีโลกส่วนตัวเวลากลางคืน เพราะกอล์ฟจะเป็นคนชอบนอนดึก เวลาที่อยูตอนกลางคืนคนเดียวเงียบๆ มันทำให้เราเหมือนได้พักผ่อนอย่างนึงมันทำให้เราได้คิดทบทวน ว่าวันนี้เราทำอะไรมาบ้าง” กอล์ฟ พูดถึงกิจกรรมก่อนนอนที่ปฏิบัติอยู่เป็นประจำ
อีกอย่างครอบครัวกอล์ฟเข้านอนค่อนข้างเร็ว ถึงแม้จะสนิทสนมกันแต่ 4-5 ทุ่มก็เข้านอนกันหมด แต่นั่นยังไม่ถึงเวลานอนของเธอ
“ตอนกลางคืนที่บ้านกอล์ฟ 4 - 5 ทุ่มเค้าก็ขึ้นนอนกันหมดแล้ว กอล์ฟนั่งอยู่ซักประมาณเที่ยงคืนตีหนึ่ง เหมือนกับว่าเราได้ทำสมาธิกับตัวเอง” หลังสิ้นเสียง กอล์ฟเผยยิ้มบาง
ในความเงียบของคืนหนึ่ง กอล์ฟ เล่าว่า ระหว่างนั้นก็เช็คงานบ้าง นั่งเล่นโทรศัพท์บ้าง หรืออย่างน้อย 5 นาที ก่อนนอนต้องพิจารณาว่าวันนี้ตัวเองทำอะไรไปบ้าง ทำจิตใจให้สงบก่อนที่จะไปนอน เธอบอกว่ามันเหมือนการนั่งสมาธิเพียงแต่ยังลืมตาแค่นั้นเอง
“มันทำให้เราใจเย็นนะคะ แล้วก็ทำให้เรารู้ตัวเอง ถ้าวันนี้เราพลาดไปเดี๋ยวพรุ่งนี้จะทำอย่างไรดีบางเรื่องที่ผิดพลาดไป..รู้สึกเสียดายเสียใจนะคะ แต่อย่างน้อยสิ่งที่พลาดไป มันก็เป็นบทเรียนทำให้เราระวังมากขึ้น”
อารมณ์ดี คือต้นทุนที่ดีของชีวิต
มีโอกาสอยู่ใกล้คนสัมผัสถึงความน่ารักของเธอได้ไม่ยาก เพราะเธอเป็นคนอัธยาศัยดีคุยเก่ง กอล์ฟบอกว่า “
เป็นคนอารมณ์ดีนะ แต่กอล์ฟไม่ค่อยเกตกับมุขตลกเท่าไหร่ เป็นคนช้า(ยิ้ม)”
เธอบอกก่อนหน้านี้ เป็นคนมองโลกแง่บวกมากๆ เลยละ แต่มีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องกลับมาพิจารณาบางอย่าง
“มองโลกแง่บวกนะ แต่พอเราโตขึ้นเราจะมอง 2 แง่ มองทั้งแบบแง่ดีแง่ร้ายไว้แล้วก็มาถ่วงดุล ควรเป็นอันไหนมากกว่ากัน ถ้าสมมุติมันเป็นแง่ร้ายเราก็จะระวังมากขึ้น
“ตอนเด็กๆ มองโลกสวยตลอด เฮ้ย! เค้าไม่คิดอย่างนั้นกับเราหรอก ไม่ทำอย่างนั้นกับเราหรอก แล้วแบบเราโดนทำร้ายมาเราเจ็บไงค่ะ แล้วเราเริ่มจำ(หัวเราะ) แล้วเราก็เริ่มมอง 2 แง่มากขึ้น เอ๊ะ! ใช่หรือเปล่า”
ถึงจะเป็นคนอารมณ์ดีมองโลกแง่ดีแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครที่ไม่มีปัญหา กอล์ฟ เล่าว่าเมื่อตนพบปัญหาก็จะใช้วิธีระบายเล่าให้ครอบครัวฟัง เพียงกำลังใจที่พวกท่านให้คืนกลับมาก็ทำให้เธอกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้แล้ว
“อารมณ์ดี มันก็ทำให้ตัวเราเองสดชื่น แจ่มใส่ เราเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีใครๆ ก็อยากเข้าใกล้ มันได้จากทางบ้าน สภาพสังคม เพื่อนที่กอล์ฟอยู่ด้วย มันทำให้เราเป็นคนอารมณ์ดี(ยิ้ม)”
ไม่ถามถึงคงไม่ได้สำหรับบเรื่องราวความรักของเธอ ในจอภาพยนตร์รับบทเป็นเลสเบี้ยนสาวสวย แล้วนอกจอเป็นอย่างไร ทีมงานแหย่กอล์ฟว่าถ้ามีผู้หญิงมาจีบจะเปิดโอกาสให้หรือเปล่า เธอยิ้มแล้วตอบขึ้นสั้นๆ
“ไม่ (หัวเราะ)”
หญิงสาว พูดเพิ่มเติมขึ้นขณะรอยยิ้มยังสะกดอยู่บนใบหน้า “ผู้หญิงมาจีบหรอ เราก็คุยนะ เป็นเพื่อน เราก็คงคุยในฐานะเพื่อน ถ้าเค้าคิดอะไรมากกับเราก็อธิบายให้เค้าเข้าใจว่าเรารู้สึกว่าคุณเป็นพี่เป็นเพื่อนเป็นน้องเรา แต่ยังไม่เคยมีผู้หญิงมาเลยค่ะ มีแต่ไปจีบเค้า(หัวเราะ) ตอนม.ต้น มันจะมีพวกทอมหล่อใช่มั้ยคะ แล้วพวกกอล์ฟเป็นเด็กผู้หญิงก๋ากั่นซนๆ ก็จะไปจีบด้วยความเป็นเพื่อนกันก็เหมือนจีบกันเล่นๆ สุดท้ายก็เป็นเพื่อนกันอะคะ เหมือนเล่นกัน นี่แฟนฉันๆ (ยิ้ม)”
ในเรื่องมุมมองความรัก เธอเปิดเผยว่าวันนี้มองความรักต่างออกไปจากวัยเด็ก ส่วนความรักของกอล์ฟคือความเสมอต้นเสมอปลาย ความเข้าใจกัน
“ตอนเด็กเราแค่ชอบคนที่หน้าตาดี นิสัยดี แต่พอโตขึ้นขอคนที่คุยกันเข้าใจคุยกันรู้เรื่อง เข้าใจกัน แต่พอมาถึง ณ จุดนี้ เราก็อยากได้คนที่ดูแลเทกแคร์เราได้ ดูแลครอบครัวเราได้”
คือรูปลักษณ์ภายนอกลดทอนลงเยอะ กอล์ฟ ตอบทันที “มากกกก(ลากเสียงยาว หัวเราะ)”
…............................
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Lite
ภาพโดย พลภัทร วรรณดี
ภาพประกอบ Instagram @ golf_natpassara
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-นามสกุล : ณัฐภัสสรา อดุลยาเมธาสิริ ชื่อเล่น : กอล์ฟ
วันเดือนปีเกิด : 23 มีนาคม 2531 อายุ : 25 ปี
น้ำหนัก-ส่วนสูง : 54 กก. / 170 ซม.
การศึกษา : ปริญญาตรี - คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, ปริญญาโท - คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
คติประจำใจ : นัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง สุขอื่นนอกจากความสงบไม่มี
รางวัลที่ได้รับ : ชนะเลิศการประกวดหนุ่มสาวหน้าใส Tea Tree, รองชนะเลิศการประกวด Mister & Miss University 2550
ผลงาน : ภาพยนตร์ - ทองสุก 13 (ล่าสุด2555), หอแต๋วแตก, รักเอาอยู่, คู่แรด, มอ๘
มิวสิกวิดีโอ - เพลงเจ้าชู้ไม่รู้ตัว(วงแบล็ควานิลา) ,อย่า(C-Quint) ,ไม่รู้เธอจะโทรหาใคร(GI), first love first hurt(B.O.Y.)
โฆษณา - แชมพู Sunsilk, ครีมบำรุงผิว ซิตร้า ,นมถั่วเหลืองแลคตาซอย, Zenya , Toyota ,วีต้า พรุนสกัดเข้มข้น , AIS ,KFC ,กระดาษชำระ PIGEON BABY WIPES ,ห้างเช็นทรัล , ซิทเท็มม่า , ชีเน่, Net Design ฯลฯ