ห้องน้ำ คือ หนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของทุกคนตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าห้องน้ำที่คิดว่าสะอาด ไม่ได้สะอาด ปลอดภัยอย่างที่ตาเห็น เพราะมีผลวิจัยของ บริษัท เอแอลเอส แลบอราทอรี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เผยให้เห็นว่า ทุกห้องน้ำที่เห็นว่าสะอาดนั้น แฝงไปด้วยจุลินทรีย์ และเชื้อราที่อาจเป็นเชื้อโรคและก่อให้เกิดโรคได้
พญ.อุไรวรรณ โลหะอนันต์พงศ์ กล่าวว่า สภาพห้องน้ำคนไทยส่วนใหญ่มีความอับชื้น ซึ่งอาจเป็นที่สะสมของเชื้อโรคต่างๆทั้งที่มองเห็นเป็นคราบบนพื้นรวมถึงผนังห้องน้ำ และที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เชื้อโรคเหล่านี้เกิดจากสภาพที่อับชื้นและสิ่งปฎิกูลที่เราขับถ่าย สามารถแพร่กระจายไปสู่พื้นผิวต่างๆในห้องน้ำได้ ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และ เชื้อรา หากนำมือไปสัมผัสเชื้อแบคทีเรียบางชนิดและนำมาหยิบจับอาหารรับประทาน อาจก่อให้เกิดโรคทางเดินอาหารได้ เช่น เชื้อซาลโมเนลล่า (Salmonella) ก่อให้เกิดโรคไข้รากสาดน้อยหรือไข้ไทฟอยด์ ถ้ามีการติดเชื้อที่รุนแรงอาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด ในเด็กเล็กและผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำสามารถเกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้
"นอกจากนั้น สภาพที่อับชื้นในห้องน้ำเป็นสภาวะเหมาะสมของเชื้อรา โดยเฉพาะสปอร์ของเชื้อราที่มีน้ำหนักเบาและขนาดเล็กกระจายอยู่ในอากาศ หากสูดดมเข้าไปสามารถทำให้ร่างกายเกิดภูมิแพ้ได้ เช่น โรคหอบ ปอดอักเสบติดเชื้อ ทั้งยังก่อโรคทางผิวหนัง ขน เล็บ และเยื่อบุต่างๆได้อีกด้วย โดยเฉพาะโรคกลากที่เท้า หรืออาจมีลักษณะเปื่อยขาวจากการถูกความชื้นมาก มีกลิ่นเหม็น หรือที่เรียกว่า ฮ่องกงฟุต มักเป็นๆ หายๆ อีกลักษณะมักเกิดในผู้ที่ไม่มีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อเชื้อราจึงมีการติดเชื้อลุกลามทั่วฝ่าเท้า หนาตัวขึ้นและลอกออก อาจลุกลามไปทำให้เกิดการติดเชื้อราที่เล็บได้"
พญ.อุไรวรรณ กล่าวต่อว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันเชื้อโรคในห้องน้ำ แต่ส่วนใหญ่มีส่วนผสมที่เป็น "กรด" ซึ่งอาจฆ่าเชื้อโรค เชื้อราและสปอร์ของเชื้อราได้บางชนิดเท่านั้น นอกจากนี้ฤทธิ์ของกรดหากใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมหรือใช้อย่างไม่ระวัง ถ้าสัมผัสถูกผิวหนังอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง บวม แดง เจ็บแสบ หรือหากใช้ในปริมาณมาก ๆ อาจทำให้เกิดแผลไหม้หรือตาบอดได้ ตงอดจนการสูดดมไอระเหยเป็นระยะเวลานาน ทำให้มีผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจอาจ ส่งผลให้เกิดอาการแสบจมูก แสบลำคอ ไปจนถึงหายใจลำบาก
ดังนั้นห้องน้ำที่เห็นว่าสะอาดถึงแม้ว่าจะทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำที่มีส่วนผสมของกรดก็อาจไม่ได้สะอาดอย่างแท้จริง เพราะยังมีเชื้อบางชนิดหลงเหลืออยู่ อีกทั้งยังต้องใช้อย่างระมัดระวังมิฉะนั้นอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย
ทั้งนี้ พรทิพย์ ปัตยะกร นักวิชาการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ เผยถึงผลวิจัยพบว่า ผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค และยังเป็นสารที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกควรมีส่วนผสมของสารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ ซึ่งสามารถกำจัดเชื้อโรคได้ทั้ง 3 ประเภทอันได้แก่เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อราโดยเฉพาะสปอร์ของเชื้อรา ด้วยคุณสมบัติที่เป็นด่างของผลิตภัณฑ์ที่มีสารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ ยังขจัดคราบสกปรกได้ โดยไม่มีกลิ่นฉุนที่รุนแรง ไม่ทำลายยาแนวพื้นกระเบื้องและไม่ทำให้เกิดรอยด่างบนพื้นผิวอีกด้วย