xs
xsm
sm
md
lg

"แดกด่วนติวเตอร์"..สิทธิบนความไร้สำนึก?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ภาพนักเรียน นักศึกษา สิงสถิตจับจองโต๊ะเก้าอี้ในร้านอาหารฟาสต์ฟูดเพื่อใช้อ่านหนังสือ ติวหนังสือ หรือภาพพนักงานขายตรงที่นัดแนะลูกค้ามาเจรจาเรื่องธุรกิจเครือข่าย กลายเป็นวัฒนธรรมที่เห็นชินตา จนเกิดคำถามตามมาจากสังคมส่วนรวม โดยเฉพาะในสังคมบนโลกออนไลน์มาระยะหนึ่งแล้วว่า นี่ร้านขายอาหาร หรือองค์กรสาธารณกุศลที่เปิดให้เป็นที่เฉพาะสำหรับติวเตอร์ ขายตรง หรืออาศัยพื้นที่ในร้านเพื่อประโยชน์ส่วนตัวกันแน่

ปัญหาที่เกิดขึ้น แน่นอนว่า ร้านอาหารคือฝ่ายได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะเมื่อลูกค้าเข้ามาซื้ออาหารในร้าน แต่กลับไม่มีที่นั่งรับประทาน เนื่องจากถูกจับจองไปด้วยโต๊ะติวเตอร์ที่ถูกนำมาต่อ ๆ เรียงกันเป็นแถว ๆ หรือโต๊ะพนักงานขายตรงกับลูกค้า ซึ่งบางโต๊ะสั่งแค่น้ำแก้วเดียว แต่นั่งแช่กันทั้งวัน ทำให้ลูกค้าหลาย ๆ ท่านเอือมระอา และเลือกไปรับประทานอาหารร้านอื่นแทน



แมคฯ ประกาศชัด ห้ามนั่งติว-ขายตรงเกิน 1 ชม.


เรื่องราวความไร้สามัญสำนึกของคนบางกลุ่มในข้างต้น เป็นปัญหาที่สะสมมานาน และถูกนำมาพูดคุยในเชิงถกเถียงบนโลกออนไลน์อยู่พักหนึ่ง กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ทางร้านแมคโดนัลด์ในกรุงเทพฯ ทนกับเสียงเรียกร้องไม่ไหว จึงได้ออกประกาศขอความร่วมมือลูกค้า และผู้ที่จะเข้ามาใช้สถานที่ในร้านเพื่อทำกิจกรรม ที่อาจส่งผลต่อลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ โดยในประกาศดังกล่าว ได้ระบุข้อความ มีรายละเอียดดังนี้

-----------------------------

ประกาศขอความร่วมมือ

แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ให้บริการลูกค้าไม่ต่ำกว่า 7 ล้านคนในแต่ละเดือนภายใต้บรรยากาศร้านที่ทันสมัย พรั่งพร้อมด้วยความสะดวกสบาย อาทิ การเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง สัญญาณ WiFi หรือแม้กระทั่งปลั๊กไฟ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ทันสมัยของคนรุ่นใหม่ในปัจุบัน เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน บริษัทฯ ขอความร่วมมือ เพื่อรักษาสิทธิของลูกค้าทุกท่านอย่างเท่าเทียมกัน ดังนี้

- ไม่ใช้สถานที่เพื่อการสอนหนังสือ ซึ่งมีการหมุนเวียนนักเรียนตลอดทั้งวัน การรวมกลุ่มทำงาน ประชุม สัมภาษณ์งาน ฯลฯ เป็นเวลานานเกินกว่าการใช้บริการปกติ (มากกว่า 1 ชั่วโมงขึ้นไป)

- ห้ามรวมโต๊ะเป็นกลุ่มใหญ่เพื่อทำกิจกรรมดังกล่าวข้างต้น

- มิให้มีการวางสิ่งของทิ้งไว้เพื่อจองโต๊ะ หากพบเห็นบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บทรัพย์สินดังกล่าวทันที เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าที่ไม่มีที่นั่ง และไม่รับผิดชอบใด ๆ ในทรัพย์สินดังกล่าว

- กรุณาสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มทุกครั้งที่ใช้บริการตามจำนวนผู้เข้าใช้บริการ ห้ามเข้ามานั่งเฉย ๆ เพื่อรอติวหนังสือ รอสัมภาษณ์งาน หรือรอประชุมงานขาย ฯลฯ

- หากต้องการชาร์จแบตเตอรี่แล็ปท็อปหรือโทรศัพท์มือถือ กรุณาชาร์จไม่เกิน 30 นาที เพื่อเอื้อเฟื้อแก่ลูกค้าท่านอื่น

- เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกของลูกค้า ไม่อนุญาตให้นำปลั๊กต่อพ่วงมาใช้โดยเด็ดขาด

บริษัท ขอขอบพระคุณในความร่วมมือ มา ณ ที่นี้

-----------------------------

ทั้งนี้ การออกประกาศดังกล่าวของบริษัทแมคโดนัลด์ในครั้งนี้ ไม่ได้เพิ่งมาเริ่มทำ แต่ได้เริ่มมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนแล้ว แต่มีเพียงบางสาขาเท่านั้น เนื่องจากมีผู้ใช้บริการจำนวนมากร้องเรียนกับทางร้านว่าไม่สามารถใช้บริการพื้นที่ภายในร้านได้ และมีบุคคลบางกลุ่มได้อาศัยพื้นที่ในร้านเพื่อประโยชน์ส่วนตัวเป็นระยะเวลานาน



"ไม่แดก..อย่ามาติว" วลีเด็ดกัดเกรียนติว


ภายหลังมีประกาศดังกล่าวออกมา สิ่งที่ทีมข่าว Live สังเกตพบก็คือ มีเสียงส่วนใหญ่ค่อนข้างเห็นด้วย ถึงกับมีการทำแผ่นโปสเตอร์เขียนข้อความจิกกัดกันเลยทีเดียว เห็นได้จากเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งที่มีคนนำภาพมาตัดต่อสร้างสีสันด้วยข้อความดุเด็ดเผ็ดมันว่า "ติว เต็ม แมค" "ไม่แดกอย่ามาติว คนอื่นไม่มีที่จะแดก" เพื่อเป็นการเหน็บแนมกลุ่มเกรียนติวที่ชอบมานั่งแช่เป็นประจำ

นอกจากนี้ ยังมีความเห็นต่าง ๆ ในสังคมออนไลน์ชื่อดังอย่างเว็บไซต์พันทิป ที่หลาย ๆ ความเห็น ต่างก็เอือมระอากับพฤติกรรมไร้สามัญสำนึกของกลุ่มเด็กนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ใหญ่บางกลุ่มในร้านฟาสต์ฟูด ซึ่งส่วนมากจะเป็นลูกค้าประจำของร้านแมคโดนัลด์

"เราเซ็งกับคนพวกนี้มาก เคยเจอแบบลากเก้าอี้มาต่อ ๆ กัน มีหมอนมีผ้าห่มมาพร้อม ยกขาขึ้นมานอนเหยียดก็ไม่เห็นจะได้อ่านจริงจังอะไรเลยนะ อยู่กันเป็นแก๊งค์แบบนั้นจะมีสมาธิเหรอ ก็เปิดหน้าเดิม ก้มไปแป๊บเดียวเงยหน้ามาคุยกันอีกละ อ่านไปอ่านมาเบื่อมั้ง ทิ้งของไว้แล้วหายไปไหนไม่รู้ นานมากก (เราเดินกลับมาอีกรอบก็ยังไม่มา) อยู่กันอย่างเป็นบ้านตัวเองเลยทีเดียว" เป็นความเห็นจากคุณดินสอไม้กับสีเทียนในห้อง blueplanet

สอดรับความเห็นของ คุณ Deawpentor ที่เห็นด้วยกับประกาศที่ออกมา เพราะเคยมีประสบการณ์ตรงจากความไร้สามัญสำนึกของคนบางกลุ่ม

"เห็นด้วยอย่างแรงครับ เบื่อมากเวลาไปพวกร้านกาแฟหรือแมค ไม่เว้นกระทั่งเคเอฟซี คือบางคนมานั่งตากแอร์เท่ ๆ อะครับ เห็นแค่ตั้งหนังสือ ไม่เห็นจะอ่านอะไรเลยส่วนพวกที่ตั้งกลุ่มติวกันจริงจังเนี่ย ไม่คิดจะเกรงใจคนอื่นเค้าเลย เสียงก็ไม่ได้เบา ๆ แถมนั่งทีหลายชั่วโมงเลยมั้ง"

หรืออีกความเห็นจากคุณปณิตา นักธุรกิจสาวซึ่งเป็นลูกค้าประจำ ได้ออกมาส่งเสียงเล็ก ๆ ผ่านทีมข่าว Live ว่า นอกจากการติวหนังสือ หรือนั่งทำรายงานของกลุ่มนักเรียน นักศึกษาแล้ว ยังมีพนักงานขายตรงบางคนเลือกร้านฟาสต์ฟูดมาคุยธุรกิจ ซึ่งบางคนมานั่งโดยที่ไม่สั่งน้ำ หรือแม้แต่อาหารอะไรเลย ส่วนตัวเห็นแล้วแทบเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เพราะหิว และต้องรีบไปทำธุระต่อ การมีประกาศออกมาคิดว่าคงลดปัญหาดังกล่าวนี้ลงไปได้มาก แต่พนักงานร้านจะต้องจริงจัง และเด็ดขาดกับประกาศดังกล่าวด้วย


ทำไมต้องเป็นแมคโดนัลด์?

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องมานั่งติว นั่งทำงานกลุ่ม หรือนั่งทำธุระส่วนตัวอื่น ๆ กันที่ร้านฟาสต์ฟูดแห่งนี้ด้วย เรื่องนี้ ทีมข่าว Live ได้ลงพื้นที่สอบความคิดเห็นของนักเรียน นักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สถานที่ที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยจัดเตรียมไว้ให้ ไม่เย็นสบายเหมือนนั่งในแมคโดนัลด์ที่พร้อมไปด้วยอาหาร และเครื่องดื่ม สามารถนั่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง

"ส่วนตัวจะมานั่งคุยงานกับเพื่อน และก็ซื้ออาหารกินกันด้วย เนื่องจากในมหาวิทยาลัยร้อน หรือในห้องสมุดเองก็มีที่นั่งให้อ่านเยอะ แต่บางครั้งก็อึดอัด คุยกันลำบาก ที่สำคัญกินอะไรก็ไม่ได้ ผิดกับบางมหาวิทยาลัยที่จะมีสถานที่เย็นสบาย ปิดดึก มีอาหารกิน หนูกับเพื่อนก็เลยต้องมานั่งกันที่แมคฯ หน้ามหาวิทยาลัย เพราะมีแอร์ มีของกิน และไม่อึดอัดด้วย" โบ-พิชญาภรณ์ อนุพันธ์ นักศึกษาชั้นปี 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาให้ความเห็น

ด้านข้าวฟ่าง-เมธาวี สีทองเพีย นักเรียนชั้นม.4 จากรั้วสาธิตฯ แห่งหนึ่ง มองคล้าย ๆ กันว่า ที่เลือกมานั่งร้านแมคโดนัลด์ เพราะเปิด 24 ชั่วโมง และอยู่ใกล้โรงเรียน ส่วนร้านฟาสต์ฟูดอื่น ๆ มักจะอยู่ในศูนย์การค้า ซึ่งบางร้านก็แพงเกินไป ส่วนอีกหนึ่งเหตุผลก็คือ ทางโรงเรียนไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามาติว ทำให้ต้องออกมาหาสถานที่นอกโรงเรียนเพื่อนั่งติว ซึ่งร้านฟาสต์ฟูดนับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะมีแอร์ และอาหารให้เลือกรับประทานไปพร้อม ๆ กัน

"หนูกับเพื่อนจะนั่งติวกันแค่ 2-3 ชั่วโมง แล้วก็จะซื้อน้ำ ซื้ออาหารของทางร้านมากินด้วย ผิดกับบางคน นั่งแช่นาน ๆ สั่งแค่น้ำแก้วเดียว บางครั้งก็เห็นใจทางร้านเขาเหมือนกัน" ข้าวฟ่างเผย

ถึงกระนั้น ยังมีอีกหลาย ๆ ความเห็นที่มองลึกลงไปอีกด้วยว่า ประเด็นอาจไม่ได้อยู่ที่ "ไม่มีที่ติว หรืออ่านหนังสืออย่างเดียว" แต่มันเป็น "รสนิยมผิด ๆ" ของคนบางกลุ่มมากกว่า เช่น การมานั่งติวหนังสือ หรือนั่งอ่านหนังสือในร้านฟาสต์ฟูดชื่อดังอย่าง แมคโดนัลด์ สตาร์บัคส์ หรืออื่น ๆ ทำให้บางคนรู้สึกว่าตัวเองดูมีระดับ ดูโก้เก๋ และดูมีรสนิยม ผิดกับการนั่งติว นั่งสัมภาษณ์งานที่ศูนย์อาหารภายในศูนย์การค้าบางแห่งที่ดูธรรมดา หรือดูไม่รวยนั่นเอง



สิทธิของฉัน ใครจะทำไม !?!

แม้จะมีคนในสังคมเห็นด้วยเป็นส่วนใหญ่กับเรื่องป้ายประกาศดังกล่าว แต่ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งออกมาอ้างถึงสิทธิในการใช้พื้นที่ดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ หากมองอีกแง่มุมหนึ่ง สิทธิควรจะต้องมาคู่กับความรับผิดชอบ และสามัญสำนึกต่อส่วนรวมด้วย นี่คือสิ่งที่สังคมไทยกำลังทวงถามกันมากขึ้นในปัจจุบัน

"เราจะมาอ้างเรื่องสิทธิมันไม่ได้ จริงอยู่ที่ทุกคนมีสิทธิ แต่สิทธิต้องอยู่บนความมีจิตสำนึกด้วย ซึ่งเราต้องใจเขาใจเรา ร้านอาหาร มันเป็นธุรกิจ แน่นอนว่า เขาก็ต้องการกำไร ดังนั้น เราในฐานะลูกค้าก็ต้องเข้าใจเขาด้วย บางคนก็เกินไป นั่งแช่ นั่งคุย นั่งทำงานกันเป็นวัน ๆ ลูกค้าท่านอื่น ๆ เข้ามาก็ไม่มีที่นั่ง เมื่อไม่มีที่นั่งก็ต้องไปหาร้านอื่นกิน คนที่ได้รับกระทบก็คือเจ้าของธุรกิจ" ข้าวฟ่าง และเพื่อน ๆ โรงเรียนเดียวกันช่วยกันเสริม

เช่นเดียวกับ ความคิดเห็นของคุณ "แมวนุ่มนิ่ม" ที่โพสต์ความเห็นเกี่ยวกับสิทธิการใช้บริการในร้านฟาสต์ฟูดบนเว็บบอร์ดชื่อดังแห่งหนึ่งไว้อย่างน่าสนใจว่า

"..เราไม่ได้จะห้ามสิทธิ์ที่คุณมาก่อนก็จะมีสิทธิ์ใช้สถานที่ก่อน เราไม่ได้จะห้ามสิทธิ์ในการประกอบอาชีพของคุณ เราไม่ได้จะห้ามสิทธิ์ในการอ่านหนังสือของคุณ แต่เราขอปกป้องสิทธิ์ที่เราสมควรได้รับเช่นกัน เพราะเป็นหลักพื้นฐานอยู่แล้วว่าสิทธิ์ที่ทุกคนพึงมีพึงได้นั้น ต้องไม่กระทบต่อสิทธิ์ของผู้อื่นด้วย ไม่อย่างนั้นทุกคนก็อ้างแต่สิทธิ์ของตัวเอง สุดท้ายก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ดังนั้น สถานที่ใช้สำหรับทำอะไร ก็ควรเข้าไปสถานที่เพื่อทำสิ่งนั้น ไม่ใช่ว่าซื้อกาแฟกี่แก้ว แล้วจะอ้างสิทธิ์อย่างไรก็ได้ ไม่ถูกต้องครับ"



ถึงแม้ประกาศดังกล่าวของแมคโดนัลด์ ประเทศไทยจะไม่ได้ "ห้าม" ให้นักเรียน นักศึกษามานั่งติว ทำงานกลุ่ม หรือทำธุระส่วนตัวอื่น ๆ เพียงแต่กำหนดระยะเวลานั่งไม่เกิน 1 ชั่วโมง และควรสั่งอาหารรับประทานบ้างก็เท่านั้น แต่คงต้องยอมรับในความจริงอย่างหนึ่งด้วยว่า ร้านอาหารเป็นธุรกิจ ไม่ใช่องค์กรสาธารณกุศล การใช้สิทธิของตัวเองโดยไม่แคร์สังคมส่วนรวม คงต้องย้อนกลับมาถามตัวเองกันดูว่า "สามัญสำนึก" ยังมีหลงเหลือกันอยู่หรือไม่
 


ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live



ขอบคุณภาพประกอบจาก http://drama-addict.com/2012/08/06/แมคติวเตอร์
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://board.postjung.com/m/647188.html
กำลังโหลดความคิดเห็น