พริกกับเกลือ ตอนที่ 16
ยอดชายนั่งเศร้า จิตรวรรณควงศยามเดินมาเห็น หญิงสาวมองเพื่อนอย่างเห็นใจ
“ฉันสงสารยอด ฉันอยากให้เขาสมหวัง”
ศยามเซ็งๆ
“เขาขี้กลัวเอง”
“ช่วยยอดหน่อยได้มั้ย นายดิ่ง”
“ผมช่วยแล้วนะ แต่ที่เหลือ คุณยอดต้องปิดจ๊อบด้วยตัวเอง”
“เมื่อไหร่ยอดจะก้าวข้ามจุดนั้น”
“หรืออาจจะไม่มีวันนั้น”
จิตรวรรณและศยามมองยอดชายอย่างเห็นใจ
ศยามเดินเข้าบ้านมา เห็นศุวิมลกำลังนั่งตรวจงานนักศึกษาอยู่ก็เดินเข้ามาหา
“ทำไมเดี๋ยวนี้กลับดึก”
“ช่วยคำนวณทำวิจัย แล้วก็...ใกล้สอบแล้ว ศุต้องตัดเกรดเด็ก กลัวไม่ทัน เลยทำที่คณะ”
“ตกลงเรากับนายคำนวณนี่ยังไง”
“ก็ไม่ยังไงนี่คะ”
ศุวิมลเหลือบมองไปข้างหลังศยาม...ชะงัก ศยามหันตามไปมอง แม่บ้านหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตของมารศรีเดินออกไป มารศรีเดินเข้ามา หยุดมองมาที่สองคน ศุวิมลมองหยัน
“ตายแล้ว...รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากะทันหัน เมื่อเห็นก้อนเนื้อร้ายกำลังจะกระเด็นออกไปจากชีวิต”
ศยามปราม
“ศุ...อย่าซ้ำเติมคน”
“ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนค่ะ แต่เป็นก้อนมะเร็ง ที่ไม่มีใครต้องการ!”
มารศรีอึ้ง...เก็บอารมณ์และความแค้น ศุวิมลเก็บงาน
“พี่ดิ่งคะ หวังว่า....มะเร็งก้อนนี้มันจะไม่กลับมาคอยทำลายใครอีกนะคะ เพราะโอกาสจะไม่มีเป็นครั้งที่สองสำหรับคนที่ไม่มีสำนึก!”
มารศรีกลืนก้อนแข็งๆลงคอ ไม่ตอบโต้ หากแต่มองศุวิมลที่สะบัดออกไปอย่างเคียดแค้น ศยามมองมารศรีก่อนจะพูดเรียบเฉย
“ผมจัดการเรื่องเงินให้คุณเรียบร้อยแล้ว ขอให้คุณโชคดี”
มารศรีตบหน้าศยามเปรี้ยง! จนศยามหน้าหัน แต่เขายังคงสงบ หันหน้ามามองมารศรีช้าๆ มารศรีมองศยามอย่างเจ็บปวด น้ำตารื้น ศยามอึ้งไป
เทวัญยืนรอจิตรวรรณอยู่ที่มุมหนึ่งลับตาคน สักครู่จิตรวรรณเดินเข้ามาหา
“นัดจี๊ดมาที่นี่ทำไมคะ”
“น้องจี๊ดไปไหนมา”
“ไปไหนมา ก็...ไปทำฟันตามที่หมอนัดต่อเนื่อง ทำไมเหรอคะ”
“หาหมอฟันที่ไหน”
“ก็ที่คลินิก”
เทวัญเสียงเครียดอย่างไม่พอใจ
“หรือที่โรงแรม!”
จิตรวรรณ อึ้ง ตกใจ
“และไปกับไอ้ดิ่ง”
ก่อนหน้านี้ ตอนที่เทวัญเดินผ่านรถเข็นกระเป๋ามาทางมุมหนึ่ง โดยที่ข้างหลังเทวัญ จิตรวรรณและศยามวิ่งออกจากโรงแรม เทวัญย้อนกลับมา เห็นศยามจับมือจิตรวรรณวิ่งหายออกไปจากหน้าโรงแรม เทวัญเคียดแค้น
จิตรวรรณอึ้ง ปฏิเสธไม่ออก เทวัญคว้าข้อมือจิตรวรรณขึ้นมา
“นัดเจอกับมันกี่ครั้งแล้ว หา!”
“พี่เทวัญ จี๊ดเจ็บ ปล่อย”
“เจ็บแค่นี้ มันไม่เท่ากับที่พี่เจ็บเพราะถูกน้องจี๊ดหลอกมาตลอดว่าไม่มีอะไรกับมันลับหลังพี่ ยังจะกล้าปฏิเสธมั้ย ว่าไม่มีอะไร”
“แล้วพี่เทวัญจะทำไมจี๊ด”
“แพศยา”
เทวัญลืมตัว จะหลังแหวนตบหน้า จิตรวรรณเชิดหน้าใส่อย่างไม่เกรงกลัว
“เอาเลย! อยากจะทำร้ายจี๊ดก็เอาเลย จี๊ดมันแพศยา ตบเลย แล้วก็เลิกๆกับจี๊ดไปซะ!”
เทวัญอึ้ง
ศยามยังคงมองหน้ามารศรีนิ่ง มารศรีตบหน้าศยามอีกครั้ง ศยามยังคงนิ่ง
“ทำไม! จะมีความรู้สึกอะไรกันบ้างไม่ได้เลยใช่มั้ย ถึงจะไม่มีความรักให้ ก็บอกฉันสิว่าคุณเจ็บหรือไม่ก็เกลียด! หรืออะไรก็ได้! ไม่ใช่เย็นชาแบบนี้!”
“แคร์ความรู้สึกคนอื่นด้วยเหรอมารศรี”
“คนที่ฉันแคร์ในโลกนี้มีคนเดียวคือคุณ! ถึงคุณจะไม่แคร์ฉันเลยก็ตาม”
“ใช่...เพราะผมไม่แคร์คุณ ผมจึงไม่มีความรู้สึกอะไรเลย”
มารศรีอึ้ง ยิ่งฟูมฟายเข้าไปทุบศยามอย่างเจ็บแค้น
“ทำไม ทำไม ทำไม!”
“คุณรู้ดีว่าทำไม ถ้าคุณไม่เริ่มต้นในวันนั้น มันก็จะไม่จบลงอย่างในวันนี้ โชคดีนะ ผมช่วยคุณได้เท่านี้”
ศยามก็เดินออกไป ทิ้งให้มารศรียืนร้องไห้อย่างเดียวดายด้วยความเจ็บแค้นใจอย่างที่สุด
จิตรวรรณมองหน้าเทวัญอย่างไม่พอใจ
“ว่ายังไงล่ะคะ ถ้าพี่เทวัญไม่ไป จี๊ดจะไปเอง”
เทวัญเปลี่ยนท่าที...เดินเข้ามาจับไหล่จิตรวรรณอย่างอ่อนโยน ทำให้จิตรวรรณไม่ไว้ใจ เทวัญพูดหวานมาก
“อย่ากลัวพี่เลยจ๊ะ พี่ไม่มีทางทำร้ายจี๊ดแม้แต่ปลายเล็บ...ถึงแม้ว่าน้องจี๊ดจะรักมันและกำลังร่วมมือกับมันทำร้ายพี่”
จิตรวรรณไม่ตอบ
“พี่เสียใจมากเลยนะคะ...แต่พี่...จะไม่มีวันเลิกกับน้องจี๊ดหรอกค่ะ”
จิตรวรรณหันมามองหน้าเทวัญอย่างไม่พอใจและอัดอั้นใจ เทวัญสวมกอด
“ยังไงพี่ก็จะแต่งงานกับน้องจี๊ดให้ได้...!”
จิตรวรรณผลักเทวัญออกไป
“แต่จี๊ดไม่ได้รักพี่เทวัญได้ยินมั้ย จี๊ดไม่ได้รัก”
“ไม่เป็นไร....ตอนนี้ไม่ได้รัก แต่ก็เคยรัก พอแต่งงานกัน พี่จะทำให้น้องจี๊ดกลับมารักพี่เหมือนเดิม”
“จี๊ดไม่แต่ง!”
จิตรวรรณเดินหนี เทวัญคว้ามือดึงตัวจิตรวรรณเข้ามา กอดเอาไว้อย่างแน่น
“ปล่อยจี๊ดนะ!”
“ขยะแขยงพี่มากใช่มั้ยคะ หือ...แล้วไอ้ดิ่งมันทำยังไงบ้างล่ะที่จี๊ดชอบ บอกซิ พี่จะทำ แบบนี้ใช่มั้ย”
เทวัญคว้าตัวจิตรวรรณมา จะจูบ จิตรวรรณผลักออกไปได้ ตบหน้าอย่างแรงอีกที แล้วจิตรวรรณก็รีบวิ่งหนีไป เทวัญตะโกนตอกย้ำกับจิตรวรรณ
“ยังไงพี่ก็ไม่เลิก ได้ยินมั้ยน้องจี๊ด พี่จะไม่ไปไหน!”
จิตรวรรณกลับมาที่บ้านวิ่งเข้าบ้านปิดประตู รู้สึกตื่นตระหนก
“ฉันจะทำยังไงดี ฉันจะทำยังไงดี”
เจตนาเข้ามา เห็นจิตรวรรณผิดปกติ
“เป็นอะไรยัยจี๊ด”
จิตรวรรณโผเข้าไปกอดเจตนา
“คุณพ่อขา ช่วยจี๊ดด้วย จี๊ดจะทำยังไงดี”
“ใจเย็นๆ ค่อยๆพูด ลูก”
จิตรวรรณไม่สบายใจและเครียดมาก เจตนาเป็นห่วงลูกสาวอย่างที่สุด
เจตนาพาจิตรวรรณลงนั่ง
“จะให้พ่อช่วยจี๊ดได้ยังไงบ้าง”
“ช่วยพูดกับคุณแม่ให้จี๊ดทีได้มั้ยคะ ถ้าคุณแม่เข้าใจ จี๊ดจะไม่ลังเลเลยที่จะกำจัดพี่เทวัญออกไปจากชีวิตจี๊ดในตอนนี้ จี๊ดแคร์แต่คุณแม่คนเดียว”
เจตนาอึ้ง... จิตรวรรณขอร้อง
“จี๊ดรู้ว่ามันยาก แต่อย่างน้อย ถ้าเราสองคนช่วยกัน คุณแม่ก็น่าจะฟังบ้าง”
เจตนามองหน้าลูกสาว
“รู้ใช่มั้ยว่าเราอาจจะเจอกับอะไรบ้าง”
“รู้ค่ะ แต่ก็ยังดีกว่าไม่คิดทำอะไรเลย ไม่ใช่เหรอคะคุณพ่อ”
เจตนาหนักใจเรื่องเจรจากับวันดี แต่ก็เห็นใจจิตรวรรณ
วันใหม่...ศยามเดินออกมาจากตัวบ้านจะออกไปข้างนอก ศุวิมลเข้ามาหาเหมือนมีอะไรจะพูดด้วย
“มีอะไร”
“ป๊อดโทรมาเล่าเรื่องคุณพ่อ...ท่านแข็งแรงขึ้นมากแล้วนะคะ”
“ดีแล้ว เดี๋ยวพี่จะหาเวลาว่างไปเยี่ยมท่าน”
ศยามเดินไป ศุวิมลอ้าปากจะถาม แต่ไม่กล้า นิ่งเงียบ ศยามที่เดินออกไปแล้ว ยิ้มรู้ทัน หยุดเดิน หันมาถามศุวิมล
“ส่วนคุณยอด ไม่ค่อยสบาย เพราะพักผ่อนน้อย ต้องคอยเฝ้าดูอาการของเจ๊ยุพา”
ศุวิมลเชิด
“ไม่ได้ถามซะหน่อย”
“พี่อยากบอก...ทำให้เขาไม่มีเวลาที่จะมาง้อศุได้เหมือนก่อนหน้านี้”
ศุวิมลอึ้ง
“น่าเห็นใจนะ...ไปล่ะ”
ศยามเดินออกไป ศุวิมลเป็นห่วงยอดชาย
ยอดชายเดินเรื่อยเปื่อยคิดมาก...คิดถึงศุวิมล แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นเงาะเดินเข้ามา
“เงาะ!”
“ไม่เจอกันซะนานเลยนะยอด คิดถึง เลยมาเยี่ยม”
ยอดชายอึกอัก คิดไม่ถึงว่าเงาะจะมา
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ ฉันจะมาหาเธอบ้างไม่ได้หรือไง”
“ได้ แต่ร้อยวันพันปีไม่เคยมา แล้ววันนี้ไม่ทำงานเหรอ”
“วันนี้หยุด คิดถึงเธอเลยมา แล้วก็...คิดถึงที่นี่ด้วย คิดถึงตอนสมัยเรียนที่เรามานั่งติวหนังสือด้วยกันที่นี่ สนุกมากเลย”
ยอดชายประชด
“ยังจำมันได้ด้วยเหรอ”
“จำได้สิ ฉันไม่เคยลืม เมื่อยแล้ว ร้อนด้วย เข้าไปคุยในบ้านได้มั้ย”
ยอดชายเข้าไปขวาง พยายามหลอกล่อ
“เอ่อ...พอดี เราเพิ่งให้คนมาฉีดปลวกน่ะเหม็นเป็นบ้าเลย เราถึงต้องออกมาอยู่ข้างนอกนี่ไง”
เงาะมองเข้าไปข้างในนึกสงสัย แต่ก็ยิ้ม
“ไม่เป็นไร...พอดีนึกขึ้นได้ว่า จริงๆแล้วเรามีธุระต้องรีบไปทำต่อ...เธอสบายดีนะ”
“สบายดี”
“แต่เหมือนคนอดนอนเนอะ นอนดึกเหรอ ทำอะไรอยู่ล่ะ”
“ก็...อ่านหนังสือทำอะไรไปเรื่อยเปื่อย...มันนอนไม่หลับน่ะ ตกงานก็เงี้ย”
“งั้น...ไม่กวนแล้ว เธอควรจะนอนพักบ้างนะ เป็นห่วง”
“จ๊ะ ขอบใจนะ”
เงาะเดินออกไป ยอดชายมองตามโล่งใจ รีบเดินกลับเข้าไปในบ้านทันที โดยไม่เห็นว่าเงาะย้อนกลับมาแอบดู
“ไหนบอกว่าอยู่ในบ้านไม่ได้ไง”
ยอดชายคุยมือถือกับศยามที่มุมหนึ่งของบ้าน
“เงาะมาที่นี่ แต่ผมให้กลับไปแล้ว”
“คุณจี๊ดรู้เรื่องนี้หรือยัง”
“ผมโทรไปแล้ว แต่จี๊ดไม่รับสาย”
“คุณอยู่แต่ในบ้านนะ ไม่ต้องออกไปไหน ผมจะติดต่อคุณจี๊ดเอง”
“โอเค”
ยอดชายวางสาย ร้อนใจ กังวล
จิตรวรรณและเจตนาลงนั่งกับวันดี
“ผมมีเรื่องนายเทวัญที่ต้องคุยกับคุณ”
“ยัยจี๊ด ทะเลาะอะไรกับพี่เขาอีก ถึงได้ไปฟ้องคุณพ่อใช่มั้ย”
“คุณแม่คะ...ตัวตนของพี่เทวัญ ไม่ได้เป็นอย่างที่แสดงออกให้เราเห็นเลย”
วันดีอึ้ง
“จี๊ดอยากให้คุณแม่รับรู้ความจริง”
“ตาเทวัญเป็นเด็กกำพร้า ช่วยตัวเองส่งเสียน้องมาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เขามีความรับผิดชอบและขยันทำงาน แม่นับถือผู้ชายคนนี้ นี่คือความจริง”
เจตนาถอนใจ
“ข้อนั้นผมไม่เถียง แต่ก็ยังมีความจริงที่เป็นด้านมืดของนายเทวัญที่คุณยังไม่รู้”
วันดีแปลกใจ
“ด้านมืด อะไร”
“ความทะเยอทะยานที่จะบินสูง”
“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ”
“แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีทำร้ายคนอื่น”
“ฉันไม่เข้าใจ”
จิตรวรรณตัดสินใจบอกความจริง
“พี่เทวัญนอกใจจี๊ด มีอะไรกับเงาะ จ้างนายด้วงให้ไปทำร้ายนายศยาม แล้วฆ่าปิดปาก รวมถึงเจ๊ยุพาด้วยอีกคน และอาจจะเป็นคนที่จ้างวานให้คนมาลอบยิงพ่อ และทำให้ทางเยอรมันยกเลิกการเป็นตัวแทนจำหน่ายของเรา”
วันดีตกใจ
“อะไรนะ”
เจตนายืนยัน
“คุณได้ยินไม่ผิดหรอก คุณวันดี”
วันดีอึ้ง จิตรวรรณและเจตนาลุ้นให้วันดีเชื่อในสิ่งที่พูด
ศยามมาที่หน้าบ้านเจตนา แช่มวิ่งเข้ามา
“คุณจี๊ดอยู่มั้ย พี่แช่ม”
“อยู่ครับ แต่กำลังคุยเรื่องเครียดกันอยู่เลย พ่อแม่ลูก”
“เรื่องเครียด”
ศยามเป็นห่วงจิตรวรรณ
จิตรวรรณเข้าไปจับมือแม่อ้อนวอน
“คุณแม่ขา เชื่อพวกเราเถอะนะคะ จี๊ดไม่ได้ปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมาโดยไม่มีหลักฐาน”
“แล้วไหนล่ะหลักฐาน”
จิตรวรรณและเจตนาอึ้ง
“คุณพูดเหมือนคุณไม่เชื่อ”
“ใช่ ฉันไม่เชื่อ แค่คำพูดไม่กี่ประโยค มันเปลี่ยนความรู้สึกดีๆที่ฉันมีให้ตาเทวัญมานานหลายปีไม่ได้หรอก”
เจตนาเหนื่อยใจ
“คุณวันดี ผมขอล่ะนะ...เชื่อลูก เชื่อผมสักครั้ง”
วันดีไม่ฟัง
“เพราะเราเบื่อตาเทวัญใช่มั้ย จี๊ด! เลยหาทางที่จะเลิกกับเขา”
“ไม่ใช่นะคะ!”
วันดีเริ่มโมโห
“เพราะนายดิ่งใช่มั้ย!”
เจตนาปราม
“คุณวันดี อย่าหลงประเด็น ไม่เกี่ยวกับนายดิ่ง”
“ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนดี คนดีที่ไหนกันมายุ่งกับผู้หญิงที่มีคู่หมั้นแล้ว!”
จิตรวรรณกับเจตนาอึ้ง หนักใจที่วันดีไม่เชื่อ
“อยากจะยกเลิกงานแต่งงานก็ตามใจ แต่ฉันก็จะยกเลิกความเป็นแม่ลูกกับเธอด้วยเหมือนกัน เพราะฉันอายที่มีลูกอย่างเธอ”
วันดีลุกออกไปจิตรวรรณอึ้งเสียใจ
“คุณแม่ไม่เคยเชื่อใจจี๊ดเลย”
เจตนาปลอบลูกสาว
“แม่เป็นคนมั่นใจในความคิดของตัวเอง ถ้าเรามีหลักฐานเอาผิดนายเทวัญได้เมื่อไหร่ แม่ก็จะเปลี่ยนความคิดเอง...เข้มแข็งไว้นะลูก”
จิตรวรรณสวมกอดเจตนาเอาไว้
“ขอบคุณค่ะพ่อ...”
ศยามยืนรอเพื่อจะพบจิตรวรรณอยู่อย่างกระวนกระวายใจ วันดีเดินสะพายกระเป๋าออกมาอย่างหงุดหงิดตะโกนลั่น
“แช่ม เอารถออก ฉันจะไปข้างนอก”
ศยามสะดุ้ง หันไป...วันดีหันมาเห็นศยามยืนอยู่ ศยามยกมือไหว้ วันดีเดินฉับๆมาหา
“สวัสดีครับ”
วันดีตบหน้าศยามทันที จี๊และเจตนาเดินออกมาเห็นพอดีก็ตกใจ ศยามอึ้ง...จิตรวรรณเข้าไปขวางระหว่างวันดีกับศยาม เจตนาเข้ามาดึงตัววันดีออกห่าง
“คุณวันดี ทำอะไรของคุณ”
“ทำให้ผู้ชายคนนี้รู้ตัวไงว่า...การกระทำของเขาในตอนนี้เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุด”
จิตรวรรณเถียงทันที
“นายดิ่งไมได้ทำอะไรที่น่ารังเกียจนะคะคุณแม่ เขาทำทุกอย่างเพื่อช่วยจี๊ด”
“ช่วยให้เราเหม็นกลิ่นคาวและฉาวโฉ่น่ะสิ! ออกไปเลยนะ ไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก ใครต้อนรับเธอ ฉันไม่สน แต่ฉัน...ไม่ต้อนรับ”
“ครับ...”
ศยามยกมือไหว้เจตนาและวันดีอีกครั้ง หันไปส่งยิ้มให้จิตรวรรณทำนองว่าไม่เป็นไร จิตรวรรณสงสารเขามาก ศยามเดินออกไป...วันดีมองอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะสะบัดเดินออกไป เจตนาเข้ามาปลอบใจจิตรวรรณ
“ไม่ต้องกลัวหรอกลูก แค่นี้ ทำอะไรนายดิ่งไม่ได้หรอก ลูกต้องเอาอย่างความอดทนของเขานะ อดทนไว้”
จิตรวรรณพยายามเข้มแข็ง ทั้งที่น้ำตาจะไหล...เครียดอย่างที่สุด
ศยามนั่งซึมอยู่เพียงลำพัง....เสียงมือถือดังขึ้นเขายิ้มออกมาได้ กดรับ
“ว่าไง...”
จิตรวรรณคุยมือถือ
“เจ็บมั้ย”
“ไม่เจ็บ”
“ฉันขอโทษแทนแม่ฉันด้วยนะ”
“ไม่เป็นไร...ผมเข้าใจ คนมีลูกสาวที่ทั้งสวยและเก่งอย่างคุณ แม่คนไหนก็ต้องหวงและห่วงมากเป็นธรรมดา”
จิตรวรรณอมยิ้ม
“อย่ามาชมตอนนี้น่ะ ยังไม่มีอารมณ์เขิน”
“คุณจี๊ด...ผมไม่เป็นไร ผมทนได้ ไม่ต้องห่วงผมนะ”
“ฉันต้องห่วงคนที่ฉันรักสิ”
“อยากอยู่ใกล้คุณตอนนี้จัง”
“ถึงจะไกลตาและใกล้ใจนะ”
“อ้วกได้มั้ย”
“อุตส่าห์คิดก่อนพูด...ห้ามอ้วก เสียของ”
ศยามและจิตรวรรณหัวเราะให้กัน ลืมความเศร้าหมองไปได้
“มาหาฉันถึงที่บ้าน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
“มีสิ...เรื่องด่วนด้วย...คุณเงาะไปหาคุณยอดที่บ้าน แบบไม่บอกไม่กล่าว”
จิตรวรรณตกใจ
“เงาะน่ะเหรอ”
ในออฟฟิศโมเดิร์นคาร์...เงาะชงกาแฟยื่นให้ เทวัญรับมา มองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร จึงเริ่มการสนทนา
“แล้วเห็นอะไรผิดปกติที่บ้านมันบ้างมั้ย”
“ไม่มีอะไรผิดปกตินี่คะ”
“แน่ใจเหรอ ว่าไม่เห็นอะไร...”
“จะให้เห็นอะไรล่ะคะ”
“มีใครอยู่ที่บ้านมันอีกบ้าง”
“อยากให้มีใครล่ะคะ”
“อย่าเล่นลิ้นกับฉัน”
“พี่เทวัญก็บอกเงาะมาสิ...ว่าพี่เทวัญกำลังตามหาใครอยู่ และทำไม”
เทวัญหงุดหงิด
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ”
“งั้นเงาะจะได้ไปคุยกับจี๊ด ว่าพี่เทวัญน่ะ...”
เทวัญไม่พอใจ วางถ้วยลง ลากเงาะไปที่กระติกน้ำร้อน เงาะตกใจ
“พี่เทวัญ จะทำอะไรเงาะ เงาะจะร้องให้คนช่วยนะ”
“ร้องสิ!”
เทวัญกดน้ำร้อนให้ลวกมือ เงาะร้องลั่น
“โอ๊ย!” เงาะพยายามจะชักมือหนี “ปล่อยเงาะ”
“ร้องดังๆ ถ้าแกอยากจะพังไปด้วย! นังเงาะ!”
เงาะตื่นกลัว
“เงาะไม่ร้องก็ได้”
“ทีหลังถ้าฉันถามก็ตอบดีๆ อย่ามายอกย้อน”
ใจดีเดินเข้ามา ตกใจ
“เสียงใครร้องอ่ะ มีใครเป็นอะไร”
เงาะสบตาเทวัญ เห็นสายตาที่น่ากลัว เทวัญยื่นผ้าเช็ดมือที่วางอยู่ให้ เงาะรับผ้ามา
“ฉันทำน้ำร้อนหกใส่มือน่ะ”
ใจดีมองเทวัญและเงาะอย่างไม่ไว้ใจ รีบเดินมาดูมือของเงาะ
“โดนลวกเยอะหรือเปล่าเงาะ อุ๊ย...แดงแจ๋เลย ไปห้องพยาบาลกันแก”
ใจดีพาเงาะไปห้องพยาบาล เทวัญมองตามยิ้มเย้ยๆ
“บ้านไอ้ยอดชายเหรอ”
ยอดชายคุยกับศยามอยู่ในบ้าน ยอดชายตกใจเมื่อได้ฟังสิ่งที่ศยามบอก
“จะย้ายเจ๊ยุพาไปที่อื่นเหรอครับ!”
“ใช่! ที่นี่คงไม่ปลอดภัยอีกแล้ว”
“เฮ้ย! ผมเอาอยู่ ผมดูแลได้”
“ผมไม่อยากให้คุณเอาตัวเองมาเสี่ยงขนาดนี้อีกแล้วคุณยอด ขอบคุณนะที่ยอมช่วยพวกเราขนาดนี้”
“ผมเกลียดมัน ผมอยากดูแลเจ๊ยุพาให้ดีที่สุด เพื่อจะได้หายดีและให้ปากคำเอาผิดมัน”
“มีวันนั้นแน่นอน อีกไม่นานหรอก”
“ซึ่งอาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้ อยู่ที่นี่ใกล้หมอ ใกล้ตำรวจ...และผมเอาอยู่”
ศยามเห็นสายตาที่มุ่งมั่นของยอดชายแล้วใจอ่อน
“เอาไงเอากัน...ผมเอาด้วย”
ศยามตบไหล่ยอดชาย...ให้กำลังใจ
“ถ้ายัยศุเป็นแฟนนายคำนวณนั่น ผมจะอดข้าวประท้วงเจ็ดวัน ฐานทำให้ผมอดมีน้องเขยที่เป็นยอดชายสมชื่อ”
“นายคำนวณนั่น อาจจะเป็นยอดชายกว่าผมก็ได้ คุณศุถึงได้ไม่คิดถึงผม ถ้ามีเยื่อใยกันจริงๆ คงต้องติดต่อมาบ้าง...อย่าพูดชื่อคุณศุให้ผมได้ยินอีกเลยครับ...ผมขอร้อง”
ยอดชายคอตกอีก
“ตกลง...ถอดใจแล้วแน่นอนใช่มั้ย”
“ครับ ผมไม่คิดอะไรอีกแล้ว เรื่องคอขาดบาดตายของเพื่อนสำคัญกว่าเรื่องหัวใจของผม ผมยอมอกหัก”
ยอดชายหันเดินออกไป อย่างหมดอาลัยตายอยาก ศยามมองยอดชายอย่างเห็นใจ
เงาะนั่งซึมอยู่ที่โต๊ะ จิตรวรรณ ใจดีและรัตนาโผล่มาแอบดูเงาะอยู่จากมุมหนึ่ง จิตรวรรณกระซิบถาม
“ใจดี พี่เทวัญออกไปข้างนอกแล้วใช่มั้ย”
“ใช่! ตอนนี้เราจะซุ่มโป่งอะไรยังไง ทางสะดวก”
รัตนาขัดขึ้น
“ไม่เห็นจะต้องมาซุ่มกันอย่างนี้เลย คนก็ยิ่งเห็นว่าเรามีพิรุธ”
จิตรวรรณเห็นด้วย
“นั่นสินะ รัตนาพูดถูก ทำตัวปกติเถอะ”
แล้วจิตรวรรณ ใจดี และรัตนาก็ยืนเป็นปกติ
“ฉันว่า...เงาะกับพี่เทวัญต้องขัดแย้งเรื่องอะไรกันอยู่แน่ๆ”
“เมื่อกี้ตอนพาเงาะไปทายา ฉันหลอกถามวนไปวนมาเผื่อเงาะจะพลาดพูดออกมาบ้าง ก็ไม่สำเร็จ”
พนักงานคนหนึ่งเข้ามาหาใจดี
“มีคนมาพบคุณใจดีค่ะ”
“ใครอ่ะ ชื่ออะไร”
“โยฮันน์ค่ะ”
จิตรวรรณกับรัตนาโพล่งออกมาพร้อมกัน
“คุณโยฮันน์!”
จิตรวรรณและรัตนาแปลกใจมาก มองหน้าใจดีอย่างมีเลศนัย ใจดีเขินๆ
“อย่ามาตั้งคำถามฉันด้วยสายตาแบบนั้น ฉันเองก็งง ว่าเขาจะมาหาฉันทำไม”
รัตนามองหน้า
“ไม่รู้จริงๆเหรอคะว่าเขามาหาคุณใจดีทำไม”
ใจดีบิดตัวอายๆ
“แหม...พี่รัตนาล่ะก็...หนูรู้ว่าหนูสวยแบบตะวันออกๆทำให้เตะตาคนต่างชาติ แต่...แหม...เจอกันแค่ครั้งสองครั้งเอง...”
จิตรวรรณยิ้มแย้ม
“งั้นให้ฉันไปเป็นเพื่อนมั้ย”
ใจดีรีบบอก
“โอ๊ย ไม่ต้อง เขามาหาฉัน ไม่ได้มาหาแก”
อ่านต่อหน้า 2 เวลา 17.00น.
พริกกับเกลือ ตอนที่ 16 (ต่อ)
ในออฟฟิศโมเดิร์นคาร์...เงาะชงกาแฟยื่นให้ เทวัญรับมา มองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร จึงเริ่มการสนทนา
“แล้วเห็นอะไรผิดปกติที่บ้านมันบ้างมั้ย”
“ไม่มีอะไรผิดปกตินี่คะ”
“แน่ใจเหรอ ว่าไม่เห็นอะไร...”
“จะให้เห็นอะไรล่ะคะ”
“มีใครอยู่ที่บ้านมันอีกบ้าง”
“อยากให้มีใครล่ะคะ”
“อย่าเล่นลิ้นกับฉัน”
“พี่เทวัญก็บอกเงาะมาสิ...ว่าพี่เทวัญกำลังตามหาใครอยู่ และทำไม”
เทวัญหงุดหงิด
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ”
“งั้นเงาะจะได้ไปคุยกับจี๊ด ว่าพี่เทวัญน่ะ...”
เทวัญไม่พอใจ วางถ้วยลง ลากเงาะไปที่กระติกน้ำร้อน เงาะตกใจ
“พี่เทวัญ จะทำอะไรเงาะ เงาะจะร้องให้คนช่วยนะ”
“ร้องสิ!”
เทวัญกดน้ำร้อนให้ลวกมือ เงาะร้องลั่น
“โอ๊ย!” เงาะพยายามจะชักมือหนี “ปล่อยเงาะ”
“ร้องดังๆ ถ้าแกอยากจะพังไปด้วย! นังเงาะ!”
เงาะตื่นกลัว
“เงาะไม่ร้องก็ได้”
“ทีหลังถ้าฉันถามก็ตอบดีๆ อย่ามายอกย้อน”
ใจดีเดินเข้ามา ตกใจ
“เสียงใครร้องอ่ะ มีใครเป็นอะไร”
เงาะสบตาเทวัญ เห็นสายตาที่น่ากลัว เทวัญยื่นผ้าเช็ดมือที่วางอยู่ให้ เงาะรับผ้ามา
“ฉันทำน้ำร้อนหกใส่มือน่ะ”
ใจดีมองเทวัญและเงาะอย่างไม่ไว้ใจ รีบเดินมาดูมือของเงาะ
“โดนลวกเยอะหรือเปล่าเงาะ อุ๊ย...แดงแจ๋เลย ไปห้องพยาบาลกันแก”
ใจดีพาเงาะไปห้องพยาบาล เทวัญมองตามยิ้มเย้ยๆ
“บ้านไอ้ยอดชายเหรอ”
ยอดชายคุยกับศยามอยู่ในบ้าน ยอดชายตกใจเมื่อได้ฟังสิ่งที่ศยามบอก
“จะย้ายเจ๊ยุพาไปที่อื่นเหรอครับ!”
“ใช่! ที่นี่คงไม่ปลอดภัยอีกแล้ว”
“เฮ้ย! ผมเอาอยู่ ผมดูแลได้”
“ผมไม่อยากให้คุณเอาตัวเองมาเสี่ยงขนาดนี้อีกแล้วคุณยอด ขอบคุณนะที่ยอมช่วยพวกเราขนาดนี้”
“ผมเกลียดมัน ผมอยากดูแลเจ๊ยุพาให้ดีที่สุด เพื่อจะได้หายดีและให้ปากคำเอาผิดมัน”
“มีวันนั้นแน่นอน อีกไม่นานหรอก”
“ซึ่งอาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้ อยู่ที่นี่ใกล้หมอ ใกล้ตำรวจ...และผมเอาอยู่”
ศยามเห็นสายตาที่มุ่งมั่นของยอดชายแล้วใจอ่อน
“เอาไงเอากัน...ผมเอาด้วย”
ศยามตบไหล่ยอดชาย...ให้กำลังใจ
“ถ้ายัยศุเป็นแฟนนายคำนวณนั่น ผมจะอดข้าวประท้วงเจ็ดวัน ฐานทำให้ผมอดมีน้องเขยที่เป็นยอดชายสมชื่อ”
“นายคำนวณนั่น อาจจะเป็นยอดชายกว่าผมก็ได้ คุณศุถึงได้ไม่คิดถึงผม ถ้ามีเยื่อใยกันจริงๆ คงต้องติดต่อมาบ้าง...อย่าพูดชื่อคุณศุให้ผมได้ยินอีกเลยครับ...ผมขอร้อง”
ยอดชายคอตกอีก
“ตกลง...ถอดใจแล้วแน่นอนใช่มั้ย”
“ครับ ผมไม่คิดอะไรอีกแล้ว เรื่องคอขาดบาดตายของเพื่อนสำคัญกว่าเรื่องหัวใจของผม ผมยอมอกหัก”
ยอดชายหันเดินออกไป อย่างหมดอาลัยตายอยาก ศยามมองยอดชายอย่างเห็นใจ
เงาะนั่งซึมอยู่ที่โต๊ะ จิตรวรรณ ใจดีและรัตนาโผล่มาแอบดูเงาะอยู่จากมุมหนึ่ง จิตรวรรณกระซิบถาม
“ใจดี พี่เทวัญออกไปข้างนอกแล้วใช่มั้ย”
“ใช่! ตอนนี้เราจะซุ่มโป่งอะไรยังไง ทางสะดวก”
รัตนาขัดขึ้น
“ไม่เห็นจะต้องมาซุ่มกันอย่างนี้เลย คนก็ยิ่งเห็นว่าเรามีพิรุธ”
จิตรวรรณเห็นด้วย
“นั่นสินะ รัตนาพูดถูก ทำตัวปกติเถอะ”
แล้วจิตรวรรณ ใจดี และรัตนาก็ยืนเป็นปกติ
“ฉันว่า...เงาะกับพี่เทวัญต้องขัดแย้งเรื่องอะไรกันอยู่แน่ๆ”
“เมื่อกี้ตอนพาเงาะไปทายา ฉันหลอกถามวนไปวนมาเผื่อเงาะจะพลาดพูดออกมาบ้าง ก็ไม่สำเร็จ”
พนักงานคนหนึ่งเข้ามาหาใจดี
“มีคนมาพบคุณใจดีค่ะ”
“ใครอ่ะ ชื่ออะไร”
“โยฮันน์ค่ะ”
จิตรวรรณกับรัตนาโพล่งออกมาพร้อมกัน
“คุณโยฮันน์!”
จิตรวรรณและรัตนาแปลกใจมาก มองหน้าใจดีอย่างมีเลศนัย ใจดีเขินๆ
“อย่ามาตั้งคำถามฉันด้วยสายตาแบบนั้น ฉันเองก็งง ว่าเขาจะมาหาฉันทำไม”
รัตนามองหน้า
“ไม่รู้จริงๆเหรอคะว่าเขามาหาคุณใจดีทำไม”
ใจดีบิดตัวอายๆ
“แหม...พี่รัตนาล่ะก็...หนูรู้ว่าหนูสวยแบบตะวันออกๆทำให้เตะตาคนต่างชาติ แต่...แหม...เจอกันแค่ครั้งสองครั้งเอง...”
จิตรวรรณยิ้มแย้ม
“งั้นให้ฉันไปเป็นเพื่อนมั้ย”
ใจดีรีบบอก
“โอ๊ย ไม่ต้อง เขามาหาฉัน ไม่ได้มาหาแก”
จิตรวรรณนั่งทำงานอยู่ เสียงเคาะประตูดังขึ้น จิตรวรรณพูดขึ้นโดยมามอง
“เข้ามา”
รัตนาเปิดประตู เผยให้เห็นใจดีพาโยฮันน์เข้ามา ใจดีท่าทางเซ็งๆ
“เขามาหาแก แต่อ้างชื่อฉัน เพราะไม่อยากให้ใครสงสัย”
จิตรวรรณหัวเราะขำใจดี
“ฮ่ะๆๆๆ”
ใจดีค้อน
“จี๊ด ฉันเซ็งอยู่นะ”
“ขอโทษ สวัสดีค่ะคุณโยฮันน์ นั่งสิคะ รัตนาปิดประตูล็อกเลย”
โยฮันน์เข้ามานั่ง
“สวัสดีครับ”
ใจดีและรัตนาเข้ามายืนข้างๆรอฟังด้วย จิตรวรรณยิ้มแย้มถาม
“มีเรื่องอะไรคะ”
“ข่าวดีครับ”
ทุกคนตื่นเต้นกับข่าวดีที่จะออกจากปากของโยฮันน์
จิตรวรรณนัดเจอกับศยามเล่าเรื่องโยฮันน์ให้ฟัง ศยามตื่นเต้นเมื่อรู้เรื่องราวจากปากหญิงสาว
“ทางเยอรมันรับปากจะส่งอีเมล์จดหมายฉบับนั้นมาให้คุณ”
“ใช่! จดหมายนั่นใช้หัวจดหมายของโมเดิร์นคาร์ รายละเอียดระบุว่าเป็นความไม่พร้อมของโมเดิร์นคาร์เองที่ไม่สามารถเป็นตัวแทนจำหน่ายให้เขาได้ ลงชื่อใครรู้มั้ย”
“นายเทวัญ”
“ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโมเดิร์นคาร์ ด้วยตำแหน่งที่น่าเชื่อถือและมีตัวตน ทำให้ทางเยอรมันเชื่อ”
“อีเมล์จะมาเมื่อไหร่”
“เขาขอทำเรื่องแจ้งให้ผู้บริหารรับทราบก่อน อาจจะเป็นภายในสองสามวันนี้ ฉันดีใจที่สุดเลย ฉันจะใช้จดหมายฉบับนั้นเอาผิดพี่เทวัญได้ก่อนที่เจ๊ยุพาจะหายดี”
“แต่ผมก็มีแผนสองนะ”
จิตรวรรณแปลกใจ
“แผนสอง...ทำอะไร”
“ไม่จำเป็นที่จะต้องรอเจ๊ยุพาให้หายดี แล้วถึงจะมีพยานบุคคลเอาผิดนายเทวัญ”
“แล้วใครล่ะที่จะเป็นคนนั้น”
จิตรวรรณกับศยามกอดกันอย่างมีความสุขและมีความหวัง
ที่ลานจอดรถแห่งหนึ่ง เงาะเปิดประตูเข้ามานั่งในรถเทวัญ ด้วยสีหน้ามึนตึง
“เรียกเงาะมาพบอีกทำไม”
เทวัญหวานใส่
“พี่ขอโทษนะ น้องเงาะ”
เงาะหันมามองเทวัญ ประหลาดใจ
“จะมาไม้ไหนอีกล่ะคะ”
“ไม่ได้มาไม้ไหนทั้งนั้น น้องเงาะต้องเข้าใจพี่บ้างสิคะ ในขณะที่พี่เครียด น้องเงาะไม่ควรทำอย่างนั้น”
“ก็ถ้าพี่อยากให้เงาะช่วยพี่ พี่ก็ไม่ควรมีความลับกับเงาะ”
“พี่รู้ ถึงได้เรียกน้องเงาะมาปรับความเข้าใจอยู่นี่ไง พี่จะเล่าทุกอย่างให้น้องเงาะฟัง”
เงาะยิ้มกริ่ม
“เจ๊ยุพาจะทำให้ชีวิตของเราสองคนต้องพัง...พี่พยายามกำจัดมัน แต่มันรอดไปได้”
เงาะตะลึง
“อะไรนะคะ!”
“พี่ถึงได้พยายามหาตัวมันอยู่”
เงาะตกอกตกใจมาก เทวัญจับมือเงาะขึ้นมาจุมพิต
“น้องเงาะ...ช่วยพี่นะคะ พี่อยากรู้ว่านังยุพาอยู่ในบ้านไอ้ยอดชายหรือเปล่า”
เงาะอึ้ง
วันใหม่...จิตรวรรณ ใจดีและรัตนาพากันเดินมามาตามทางเดินที่จะเข้าบ้านยอดชาย ใจดีดูมีพิรุธมาก เหลียวมองไปข้างหลังตลอดเวลา จิตรวรรณกระซิบเตือน
“เดินดีๆสิ ทำตัวปกติ”
“ก็ฉันตื่นเต้นอ่ะ เงาะจะตามเรามาหรือเปล่า”
รัตนาหันมาบอก
“ดิฉันเห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งวิ่งตามหลังรถเรามาตั้งแต่ออกจากออฟฟิศค่ะ”
“เงาะแน่ๆ”
จิตรวรรณเหลือบตาไปข้างหลังเห็นเงาเงาะที่ตามมา แอบหลบหลังต้นไม้ทันที
“อุ๊ยตาย...” จิตรวรรณพูดเบาๆกับใจดีและรัตนา “คิดว่าตัวเองฉลาดนักหรือไง ขอโทษ...พวกเราฉลาดกว่า...ใจดี รัตนา เดินต่อไป สวยๆเหมือนไม่มีใครตามเรามา”
ใจดีตื่นเต้น
“เหมือนในหนังสืบสวนสอบสวนฆาตกรรมซ่อนเงื่อนเลยอ่ะ”
“อยากจะกรี๊ด จี๊ดตื่นเต้น”
จิตรวรรณและใจดีเดินตื่นเต้นกันไป รัตนามองตามอมยิ้มขำๆ เงาะค่อยๆปรากฏตัวออกมาจากหลังต้นไม้ ค่อยๆเดินตามไป...โดยทิ้งระยะห่างเอาไว้
ในบ้านยอดชาย...จิตรวรรณ ใจดีและรัตนาเดินเข้ามา ศยามและยอดชายอยู่กับยุพาที่ยังนอนหลับอยู่ จิตรวรรณเข้ามามักมาย
“มาแล้ว!”
ศยามถามทันที
“เป็นไงบ้าง”
“ทุกอย่างเป็นไปตามแผน เงาะกำลังเลาะต้นไม้สะกดรอยตามพวกเรามา”
ใจดียังตื่นเต้นไม่หาย
“ตื่นเต้นที่สุด”
จิตรวรรณลากเสียงยาว
“มากกกกกกก!”
รัตนาหัวเราะคิก จิตรวรรณเขินๆ
“ก็มันตื่นเต้นจริงๆนี่ รัตนา...ไม่รู้สึกเหมือนกันบ้างหรือไง”
รัตนายิ้ม
“รู้สึกค่ะ แต่ไม่เท่าคุณสองคน”
ยอดชายแดกดัน
“สองคนนี้จอมเว่อร์อยู่แล้วพี่รัตนา”
ศยามจับมือจิตรวรรณไว้
“ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะคุณ ซีเรียสกับปฏิบัติการหน่อย”
“แล้วฉันไม่จริงจังตรงไหน เห็นมั้ยล่ะว่า...ฉันทำสำเร็จ”
รัตนาหันมาถาม
“แล้วยังไงกันต่อล่ะคะคุณดิ่ง จะทำให้คุณเงาะเห็นได้ยังไง ว่าเจ๊ยุพาอยู่ที่นี่”
ศยามตอบออกมาหน้าตาเฉย
“ยังไม่รู้เลย”
ทุกคนหน้าเหวอกันไป
“อ้าว!”
ศยามมองไปที่เตียงยุพาเห็นเธอค่อยๆลืมตาขึ้น พยาบาลหันมาบอกทุกคน
“คนไข้ตื่นแล้วค่ะ”
ศยาม จิตรวรรณและทุกคนกรูกันเข้าไปหายุพาทันที
เงาะแอบอยู่หลังต้นไม้ แถวๆหน้าบ้านยอดชายเห็นจิตรวรรณประคองยุพาเดินออกมา ยุพาดูสงบ ไม่ตื่นตระหนก ศยาม ช่วยเข็นเสาน้ำเกลือ ยอดชาย ใจดีและรัตนาเดินตามออกมาด้วย เงาะตื่นเต้น รีบวิ่งออกไป รัตนาเหลือบมองมาที่เงาะ...ยิ้มพอใจ
ยุพาลงนั่ง มุมหนึ่งหน้าบ้านยอดชาย ยังอ่อนเพลียนิ่งๆ จิตรวรรณ ศยามและทุกคน...พากันลุ้น จิตรวรรณมองอย่างแปลกใจ
“วันนี้ยุพา...ไม่เหมือนทุกวัน”
ศยามพูดขึ้นเรียบๆ
“ยาที่หมอให้คงได้ผล ถึงได้ไม่ตื่นตกใจเหมือนทุกวัน”
ยอดชายมองอย่างมีความหวัง
“อีกไม่นานคงจะดีขึ้นร้อยเปอร์เซ็นต์”
ใจดีหันไปถาม
“พี่รัตนา...เห็นเงาะอยู่มั้ย”
รัตนาป้อนน้ำให้ยุพา
“ไปแล้วค่ะ”
ศยามมั่นใจ
“อีกไม่นาน นายเทวัญก็จะรู้ว่า เจ๊ยุพาอยู่ที่นี่”
ยุพากระตุกอย่างแรง ทุกคนอึ้ง จิตรวรรณตีแขนศยาม
“บอกว่าไม่ให้พูดชื่อพี่เทวัญ รู้อยู่ว่ายุพาได้ยินชื่อพี่เทวัญแล้วจะตกใจกลัว”
ศยามหันมาเถียง
“คุณน่ะแหละ พูดมากกว่าผมพูดอีก”
จิตรวรรณอึ้ง...ทุกคนมองไปที่ยุพา...ยุพากลับไม่ได้ตื่นตกใจเหมือนที่เคย แต่นิ่ง ตัวแข็งทุกคนลุ้น
เงาะรีบเข้ามาในห้องเทวัญ ปิดประตูทันที
“เจอตัวเจ๊ยุพาที่นั่นแล้ว จะเอายังไงต่อคะพี่เทวัญ”
“ก็ต้องรีบน่ะสิ”
เงาะแปลกใจ
“รีบ ทำอะไรคะ”
“น้องเงาะคะ น้องเงาะคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยพี่ได้”
เงาะงงๆ
“จะให้เงาะทำอะไรคะ”
เทวัญยิ้มกริ่ม
ค่ำนั้น วันดียืนรอจิตรวรรณอยู่หน้าบ้าน ด้วยท่าทางซึมๆและคิดมาก เจตนาเข้ามาหา วันดีถามทันที
“รู้มั้ยจี๊ดไปไหน ทำไมยังไม่กลับบ้าน ไปเที่ยวอีกหรือเปล่า”
“ยัยจี๊ดโตแล้ว คิดได้เองแล้วว่าควรหรือไม่ควรทำอะไร”
“เหรอ”
“ลูกอาจจะเคยทำตัวให้เราไม่ไว้ใจ แต่เขาก็พยายามปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว...และดีขึ้นมาก”
“กลับบ้านดึกแบบนี้เหรอ ดีขึ้นมาก”
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกจะไปเที่ยวเตร่ หรือทำอะไรไม่ดี”
วันดีอึ้ง เมินหน้าหนี
“คุณควรจะให้โอกาสลูกบ้างนะ อย่าลืมสิ ว่าทั้งคุณและผมที่ยังอยู่ด้วยกันมาจนวันนี้ได้ก็เพราะโอกาสที่เราให้ซึ่งกันและกัน”
วันดีอึ้ง...หันมามองเจตนาด้วยสายตาที่อ่อนลง
“ฉันขอโทษ...ฉันแค่...เป็นห่วงลูก อาจจะมากเกินไปสินะ”
“ความรักและความเป็นห่วงของคุณไม่ใช่เรื่องผิด แต่วิธีแสดงออกนี่สิ...อาจจะไม่ถูกต้องนัก...ลูกของเราเป็นเด็กดีนะ คุณวันดี จี๊ดเป็นเด็กดี”
“เพราะจี๊ดเป็นเด็กดีน่ะสิ ฉันถึงอยากให้ลูกพบเจอแต่สิ่งดี”
“คาดหวังได้ แต่ต้องให้เขาจัดการชีวิตของเขาเอง...เราเป็นพ่อเป็นแม่แต่ไม่ใช่เจ้าชีวิตของลูก อย่าลืมสิ”
“คุณกำลังบอกอะไรเป็นนัยๆกับฉันหรือเปล่า”
“เปล๊า ผมพูดแต่เรื่องของลูก ไม่ได้มีอะไรเป็นนัยยะ”
เจตนายักไหล่เดินออกไป วันดีถอนใจ รู้สึกเครียด เป็นห่วงลูกสาว
ยอดชายเดินนำเงาะเข้ามาในบ้านตนเอง
“เข้ามาก่อนสิเงาะ”
“ขอบใจนะยอด...ที่ยังเปิดบ้านรับฉัน แต่ฉันไม่รู้จะไปคุยกับใครจริงๆ”
“เราเป็นเพื่อนกันนะเงาะ”
“ฉันโชคดีที่ยังมีเธอ ในขณะที่คนอื่นๆ ทำตัวแปลกๆกับฉัน”
“ไม่เอาน่า คิดมาก”
เงาะทำเป็นเหลือบไปเห็นเตียงของยุพา ซึ่งนอนหลับอยู่
“เอ๊ะ ใครน่ะ”
“อ๋อ...เจ๊ยุพาไง...ฉันรับอาสาพามาดูแลที่บ้าน”
“ที่นี่เหรอ แต่วันนั้นเธอฉีดปลวก มันเหม็นมาก โดยที่เจ๊ยุพาอยู่ในบ้านงั้นเหรอ”
“ฉันยอมรับว่าฉันโกหกเธอ”
เงาะอึ้ง ยอดชายยิ้มให้ดูจริงใจ ไม่มีแผนการในใจ
วันดีเดินมาหยิบมือถือ กดโทรหาจิตรวรรณ
“ไปไหนของเขานะ ไม่โทรมาบอกกันสักคำ”
วันดีรอสาย
ศยาม จิตรวรรณและใจดีแอบอยู่ มุมห้องที่วางเตียงยุพา เสียงมือถือดังขึ้น จิตรวรรณตกใจ ศยามและใจดีก็ตกใจ
“ว้าย! มือถือฉัน ลืมปิด”
“ก็รีบปิดสิ เร็ว!”
จิตรวรรณรีบเปิดกระเป๋าควานหามือถือ ซึ่งยังดังต่อเนื่อง
เงาะได้ยินเสียงมือถือ
“มือถือดังน่ะยอด ของเธอหรือเปล่า”
ยอดชายกุมขมับ รีบตอบ
“ใช่ ของฉันเอง...”
“ไม่รับก่อนล่ะ”
ยอดชายจงใจพูดเสียงดัง
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็เงียบไปเอง”
จิตรวรรณกดปิดมือถือ ศยามทำหน้าดุใส่
“อย่าดุสิ แม่โทรมา! ปิดเครื่องแล้ว”
จิตรวรรณจับหน้าศยามให้หันออกไปแอบดูสถานการณ์ต่อ
วันดีกดปิดมือถือหงุดหงิด
“ปิดเครื่องหนีแม่เหรอ จี๊ด เดี๋ยวเถอะ”
วันดีลงนั่งรอจิตรวรรณต่อไป
ยอดชายลงนั่งตรงหน้าเงาะ
“ที่พวกเราต้องปิดบังเรื่องเจ๊ยุพา เพราะไม่อยากให้เจ๊ยุพาตกอยู่ในอันตราย”
“อันตรายจากใคร ยอด”
“นายเทวัญ”
เงาะอึ้ง
“นายเทวัญพยายามฆ่าเจ๊ยุพาปิดปาก”
เงาะถามทันที
“เธอมีหลักฐานเหรอ”
“เพราะไม่มีไง มันถึงยังได้ลอยนวลอยู่แบบนี้”
“เธอไว้ใจฉัน ถึงได้ยอมให้ฉันมาเจอเจ๊ยุพาที่นี่เหรอ”
“เพราะเราเป็นเพื่อนกัน เราไว้ใจเธอ”
เงาะอึ้ง
“และเราก็เชื่อว่าเธอจะไม่ทำให้เราผิดหวัง”
“เธอไว้ใจฉันได้เลยยอด ฉันไม่มีทางทำให้เพื่อนผิดหวังอีกแล้ว”
ยอดชายยิ้ม
“ดีใจที่ได้ยินแบบนี้...”
พยาบาลเข้ามา
“ดิฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ อีกครู่หนึ่งจะมีอีกคนมาเปลี่ยนเวรค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
พยาบาลเดินออกไป ยอดชายหันมาหาเงาะ
“ฉันขอตัวก่อนนะ ไปเช็คโทรศัพท์หน่อย อาจจะเป็นใครสักคนติดต่อมาเรื่องงานใหม่...เธอช่วยอยู่เป็นเพื่อนเจ๊ยุพาก่อนได้มั้ยเงาะ”
“จ๊ะ ฉันจะดูให้ ไม่ต้องห่วง”
ยอดชายเดินออกไป เงาะนั่งสูดลมหายใจ คิดสับสน ไม่แน่ใจในอะไรบางอย่าง
ก่อนหน้านี้...เงาะนั่งอยู่ในรถ เทวัญยื่นหลอดยาและเข็มฉีดยาให้
“หาทางฉีดเข้าทางสายน้ำเกลือของมันซะ”
เงาะรับมามือสั่น
เงาะยืนอยู่ที่ข้างเตียง มองไปที่ยุพา เธอกอดกระเป๋าถือของตัวเองแน่น
“ขอโทษนะเจ๊”
เงาะค่อยๆเปิดกระเป๋าถือออก หยิบขวดยาและไซลิงก์ออกมา ศยาม จิตรวรรณ ยอดชายและใจดีที่แอบดูอยู่ ตกใจ
อ่านต่อ หน้า 3
พริกกับเกลือ ตอนที่ 16 (ต่อ)
เงาะลังเลที่จะฉีดไซริงก์เข้าทางสายน้ำเกลือ เงื้อง่า...ไม่กล้าพอ...แต่แล้วเธอก็คิดถึงคำพูดของเทวัญ
“เจ๊ยุพาจะทำให้ชีวิตของเราสองคนต้องพัง...”
เงาะมือสั่น คำพูดของเทวัญดังก้องในหัว
“น้องเงาะคะ น้องเงาะคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยพี่ได้”
เงาะตัดสินใจ จรดเข็มไปที่สายน้ำเกลือ ทันใดนั้น...มือของจิตรวรรณก็เข้ามาจับข้อมือ เงาะตกใจ เมื่อเห็นจิตรวรรณเป็นคนจับมือ ศยาม ยอดชายและใจดีเข้ามา
“จี๊ด...”
“เพื่อผู้ชายเลวๆคนนั้นที่ไม่เคยทำอะไรดีๆให้เธอ เธอถึงกับยอมฆ่าคนตายเลยเหรอ เงาะ”
เงาะอึ้ง ตกใจ จิตรวรรณดึงเงาะจะออกไป
“มานี่!”
เงาะตกใจและแปลกใจ รวมทั้งศยาม ยอดชายและใจดี ประหลาดใจว่าจิตรวรรณจะทำอะไร
จิตรวรรณลากตัวเงาะออกมาด้วยความโมโห ทุกคนตามมา ศยามเรียกไว้
“คุณจี๊ด! จะพาคุณเงาะไปไหน”
“เข้าคุก!”
เงาะหน้าตื่น
“ฉันไม่ไป!”
“ไม่มีสิทธิ์ไม่ไป คนที่ชอบทำร้ายคนอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเธอ จะมีสิทธิ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือ...ติดคุก”
เงาะหน้าเสีย
“จี๊ด ฉันเสียใจนะ ฉันขอโทษ!”
ใจดีโมโห
“ยังจะมีหน้าพูดคำๆนี้อีกเหรอ พูดกี่ครั้งแล้ว”
จิตรวรรณจ้องหน้าเงาะอย่างเอาเรื่อง
“เสียใจครั้งเดียวเรียกว่าพลาด แต่ถ้าเสียใจทั้งชาติแบบเธอ เรียกว่าสันดานเลว!”
เงาะโกรธจัด สะบัดมือหลุดจากจิตรวรรณ
“ใช่สิ ฉันทำอะไรมันก็เลว อยู่เฉยๆมันก็เลว ในขณะที่เธอ...เอาแต่ใจ เหวี่ยงวีน ทำตัวน่าเกลียดที่สุด กลับกลายเป็นน่ารัก น่าเอ็นดู มีแต่คนให้โอกาสให้อภัย...ทำไม เธอกับฉันมันก็คน แล้วทำไมถึงได้รับการปฏิบัติที่ไม่เหมือนกัน แบบนี้!”
ทุกคนอึ้ง เงาะมองหน้าจิตรวรรณและทุกคนอย่างน้อยใจและเสียใจ ยอดชายจ้องหน้าเงาะ
“เพราะจิตสำนึกไงเงาะ ทำให้จี๊ดและเธอได้รับการปฏิบัติไม่เหมือนกัน...จี๊ดคิดได้ แต่เธอ...ไม่คิด”
เงาะกรีดร้องเสียงดังอย่างอัดอั้นตันใจ จนทำให้ทุกคนอึ้งกันไปตามๆกัน ศยามและยอดชายรู้สึกสงสารและเวทนา ในขณะที่ใจดีมอเงาะอย่างเหยียดหยัน โกรธ ส่วนจิตรวรรณอึ้ง สับสน...ระหว่างความสงสารกับความโกรธ
เทวัญเดินไปเดินมารอฟังข่าวจากเงาะอย่างร้อนใจ แต่แล้วเทวัญก็ชะงัก เมื่อเห็นทันวิทย์เข้ามา ทันวิทย์ดูกล้าๆกลัวๆ การมาครั้งนี้ รวบรวมความกล้าสุดชีวิต
“ฉันนึกว่าแกจะไปจากชีวิตของฉันแล้วซะอีก กลับมาทำไม หา!”
“พี่ครับ...”
“ยังเห็นฉันเป็นพี่แกอยู่อีกเหรอ”
“วันนั้นผมตามพี่ไป เห็นพี่เอาเสื้อเปื้อนเลือดทิ้งลงถังขยะ”
“ไอ้ทันวิทย์...แก!”
“พี่ไปทำอะไรมา”
เทวัญอึ้ง โกรธทันวิทย์มาก
เงาะนั่งร้องไห้หมดสภาพ จิตรวรรณ ศยาม ยอดชาย และใจดียืนมองสภาพของเงาะอยู่จากมุมหนึ่ง ยอดชายเห็นใจ
“น่าสงสารเงาะนะ”
ใจดีเบ้หน้า
“จะไปสงสารทำไม นังเงาะมันร้าย ควรจะถูกตบสักฉาดสองฉาดด้วยซ้ำไป”
จิตรวรรณเดินเข้าไปหาเงาะ
“หมดเวลาคร่ำครวญแล้วเงาะ ลุกขึ้น!”
เงาะค่อยๆลุกขึ้นอย่างหมดอาลัยตายอยาก
“ถึงเวลาที่เธอต้องเข้าไปใช้กรรมของเธอ”
ศยามเข้ามาหาจิตรวรรณ
“เดี๋ยวก่อนคุณจี๊ด”
จิตรวรรณและทุกคนอึ้ง มองศยามอย่างประหลาดใจ ศยามเข้าไปดึงตัวจิตรวรรณ เดินฉีกออกไปทางหนึ่งทันที
ทันวิทย์เดินตามเทวัญ ที่เดินหนี เลี่ยงที่จะคุยด้วย
“พี่ฆ่าคนใช่มั้ย”
“บอกว่าไม่ใช่เรื่องของแก”
“พี่เป็นพี่ชายผม ผมรักพี่ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของผมด้วย!”
เทวัญเดินหนี
“ผมเก็บเสื้อตัวนั้นมา!”
เทวัญชะงัก ตกใจ
“อะไรนะ”
“เสื้อตัวนั้น อยู่กับผม”
เทวัญตกใจ เข้าไปกระชากเสื้อทันวิทย์ทันที”
“เอามันมาให้ฉัน”
“ไม่”
“ไอ้ทันวิทย์”
“มันมากเกินไปแล้วนะครับ...พี่...ยอมเถอะครับ หยุดเถอะครับ ก่อนที่พี่จะทำร้ายใครมากไปกว่านี้”
“ฉันไม่ยอม ฉันไม่หยุด! ฉันไม่หยุด! ได้ยินมั้ย!”
“ผมจะแจ้งตำรวจ”
เทวัญโกรธมาก
“ฉันจะฆ่าแก”
ทันวิทย์มองหน้าอย่างท้าทาย
“งั้นก็ฆ่าผมเลย! ถ้าผมยังมีชีวิตอยู่ ผมก็จะคอยขวางพี่ไม่ให้พี่ทำเรื่องเลวร้ายอย่างนี้ ไปตลอดชีวิต แต่ขอได้มั้ย ฆ่าผมแล้ว ขอให้พี่หยุด”
เทวัญเงื้อหมัดจะต่อยทันวิทย์....แต่แล้วก็ยอมปล่อยมือลง น้ำตาไหลด้วยความคับแค้นใจ ทันวิทย์...ค่อยๆคุกเข่าลงตรงหน้าพี่ชาย
“หยุดเถอะนะครับพี่ ผมขอร้อง...”
เทวัญอึ้ง...
ศยามพาจิตรวรรณเข้ามามุมหนึ่งของบ้านยอดชาย
“จะคุยอะไร เสียเวลา”
จิตรวรรณจะเดินกลับ ศยามรีบพูด
“ไม่คิดจะให้โอกาสคุณเงาะบ้างเลยเหรอ”
จิตรวรรณอารมณ์ขึ้น
“ให้โอกาสกับเพื่อนทรยศ ที่ฉันให้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วงั้นเหรอ ในเมื่อเขาเองไม่เคยรักษาโอกาส ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะให้ๆๆๆๆ แล้วอย่างนี้ เมื่อไหร่ เขาจะรู้สำนึก”
“คุณรักคุณเงาะมั้ย”
“เมื่อก่อนรัก แต่ตอนนี้ไม่รัก”
“ตอนนี้เป็นไง”
“มีแต่ความสมเพช”
“แล้วคุณไม่สงสารคุณเงาะบ้างหรือไง”
จิตรวรรณอึ้ง
“ถามอีกที คุณรักเพื่อนคุณมั้ย”
จิตรวรรณยอมจำนน
“รักสิ สงสารด้วย...แต่...ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ เงาะก็ไม่มีทางหยุดเด็ดขาด นายเคยบอกฉันเองไม่ใช่เหรอ...ว่าโอกาสในชีวิตของเรามีไม่มากนัก”
“แต่เราจะให้โอกาสกับคนที่เรารักได้เสมอ ทั้งชีวิต”
จิตรวรรณชะงักนิ่งเงียบไป
“และตอนนี้คนที่คุณรักคนหนึ่ง กำลังตกเป็นเหยื่อและเครื่องมือของนายเทวัญ จะด้วยความเต็มใจหรือไม่ ผมไม่รู้ แต่ที่ผมเห็น...คุณเงาะไม่ได้อยากทำ”
จิตรวรรณนึกถึงที่เห็นเงาะเมื่อครู่ที่ผ่านมา เงาะมือสั่น ลังเลใจ กว่าจะจรดเข็มลงที่สายน้ำเกลือได้...จิตรวรรณอึ้ง คล้อยตามคำพูดของศยาม
“คุณเงาะเป็นคนที่ชอบสงสารตัวเอง เพราะความขาด จนทำให้ขี้อิจฉา แต่ถ้าคุณทำให้เธอรู้สึกว่า...ทุกคนมีแต่ความรักให้ มันอาจจะทำให้หัวใจคุณเงาะ ได้รับการเติมจนเต็ม...เธออาจจะต้องการเพียงโอกาสสุดท้ายนี้ก็ได้”
จิตรวรรณนิ่งงัน ศยามมองๆ
“แล้วแต่คุณนะ...”
ศยามเดินกลับเข้าไป จิตรวรรณคิดหนัก
เทวัญยังร้องไห้...ทันวิทย์สงสารพี่ชาย ร้องไห้ตามไปด้วย
“ได้มั้ยครับพี่”
“แกอยากเห็นฉันติดคุกใช่มั้ย”
“ผมอยากเห็นพี่กลับใจเป็นคนดี...ถ้าพี่รับปากผมว่าพี่จะยอมหยุดทุกอย่าง ผมก็จะรับปากพี่เหมือนกันว่าผมจะเผาเสื้อตัวนั้นซะ”
เทวัญชะงัก
“ทันวิทย์...”
“ยังมีโอกาสนะพี่ อย่าทำให้วิญญาณพ่อกับแม่ และผม...คนที่รักพี่ ศรัทธาในตัวพี่ต้องผิดหวังเลยนะ”
เทวัญซึ้งใจกับความรักของทันวิทย์ เข้าไปกอดน้องชายร้องไห้ออกมา
“ฉันรับปาก...ฉันจะหยุด ฉันจะไม่ทำให้คนที่รักฉันผิดหวัง...แกเป็นน้องชายที่ดีมากทันวิทย์ ฉันรักแก”
ทันวิทย์น้ำตาไหลด้วยความปลื้มใจ โดยไม่เห็นสีหน้าของเทวัญที่แสยะยิ้มด้วยความสมใจ
ยอดชายกับใจดีเข้ามาถามศยาม
“คุณดิ่งคุยอะไรกับจี๊ดคะ”
“แล้วจี๊ดอยู่ไหน”
ใจดีมองหน้าศยาม
“อย่าบอกนะคะ ว่าคุณหว่านล้อมให้จี๊ดเปลี่ยนใจ ไม่เอาผิดเงาะ”
ศยามพยักหน้า
“ครับ ผมทำอย่างนั้น”
ยอดชายกับใจดีตกใจ
“คุณดิ่ง!”
เงาะหันมามองหน้าศยาม อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ใจดีหันไปตวาดเงาะ
“ไม่ต้องดีใจเลยนะ จี๊ดไม่มีทางปล่อยเธอลอยนวลแน่ นังเพื่อนทรยศ!”
ยอดชายปรามๆ
“ใจดี ใจเย็นๆ”
“แค่นี้ฉันยังเย็นไม่พออีกเหรอยอด ไม่พุ่งเข้าไปฉีกอกมันก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
เงาะก้มหน้างุดทันที ไม่กล้าสบตาใจดี จิตรวรรณเข้ามา ทุกคนเงียบกริบ จิตรวรรณเดินมาหาเงาะ
“ลุกขึ้น! แล้วไปกับฉัน”
เงาะอึ้ง ศยามถอนใจ คิดว่าจิตรวรรณจะเอาผิดเงาะให้ได้ ใจดีสะใจมาก จิตรวรรณสั่งเสียงเขียว
“ฉันบอกให้ลุกขึ้น ถึงเวลาที่เธอต้องไปแล้ว เร็วๆ!”
เงาะลุกขึ้น จิตรวรรณหยิบกระเป๋าของเงาะมาถือเอาไว้ ลากเงาะไปที่ประตู ทุกคนตามไป
จิตรวรรณพาเงาะมาที่ประตูเปิดประตู แล้วตัวเองก็หยุดยืนอยู่ตรงนั้น ก่อนจะหันไปบอกเงาะ
“กลับไปได้แล้ว”
จิตรวรรณยื่นกระเป๋าถือให้เงาะ ทุกคนอึ้ง เงาะแปลกใจ
“หมายความว่ายังไง”
“ฉันบอกให้เธอกลับบ้านไปได้แล้ว”
เงาะชะงัก ใจดีกับยอดชายงง ศยามยิ้มพอใจ ใจดีหันมาถามจิตรวรรณอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่เอาผิดยัยเงาะ ทำไมล่ะจี๊ด”
จิตรวรรณสบตาศยาม...ชายหนุ่มยิ้มให้กำลังใจหญิงสาว
“เธอเป็นเพื่อนฉัน”
ใจดีกับยอดชายอึ้ง
“จี๊ด!”
“ใช่ ฉันคือจี๊ด คุณหนูนิสัยเสีย เคยเอาแต่ใจยังไง ก็ยังเป็นอย่างนั้น ฉันถือว่า...ที่เงาะต้องกลายเป็นเครื่องมือของพี่เทวัญ ความผิดส่วนหนึ่งเกิดจากฉัน...”
ใจดีพยายามเตือน
“อย่ามาทำตัวเป็นนางเอกตอนนี้ได้มั้ยจี๊ด”
“ฉันไม่ได้เป็นนางเอก ฉันเป็นแค่คนธรรมดา...ที่อาจจะกลายเป็นนังมารร้าย จับเธอส่งให้ตำรวจทันที ถ้าเธอไม่กลับไปซะตั้งแต่วินาทีนี้”
จิตรวรรณยื่นกระเป๋าให้อีกครั้ง เงาะรับกระเป๋ามา ทั้งดีใจและแปลกใจกับความใจดีของจิตรวรรณ
“ขอบใจนะจี๊ด”
“ไม่ต้องขอบใจฉันหรอก ขอบใจนายดิ่งเถอะ เขาเป็นคนทำให้ฉันคิดได้ว่า ฉันควรให้โอกาสคนที่ฉันรัก ซึ่งมันอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายของเขา”
เงาะอึ้ง...ซาบซึ้งใจ จิตรวรรณเมินหนี ทำใจแข็ง เงาะหันไปหาศยามยิ้มให้...ศยามยิ้มรับ ใจดีตะคอก
“ยังไม่รีบไปอีก อยากเห็นจี๊ดเป็นนางมารร้ายขึ้นมาหรือไง”
ยอดชายขู่
“เธอก็รู้ว่ามัน...สยองมาก”
เงาะจะไป จิตรวรรณเรียกไว้
“เดี๋ยวก่อน!”
เงาะหันมาตกใจ ใจดีมองหน้าจิตรวรรณ
“แกจะเปลี่ยนเป็นนางมารร้ายแล้วใช่มั้ยจี๊ด”
“ฉันขอเตือน...หนึ่ง...ไปให้พ้นหน้าฉัน สอง...ไปให้พ้นจากพี่เทวัญ และสาม” จิตรวรรณเสียงอ่อนลง “โชคดีนะ แล้วว่างๆก็ติดต่อมาบ้าง”
เงาะอึ้ง เหวอๆ ไม่รับ ไม่หือไม่อือ รีบออกไป จิตรวรรณถอนหายใจอย่างโล่งอก...ใจดีและยอดชายหันมองศยามพูดออกมาพร้อมกัน
“ฉัน /ผมไม่เข้าใจ!”
ศยามชี้ไปทางจิตรวรรณ ใจดีและยอดชายหันมอง
“เรื่องของพวกแก...แต่...ฉันสบายใจมากเลยที่ได้ให้อภัย ว้าย!”
ทุกคนตกใจ สะดุ้งเฮือก
“เป็นอะไรคุณจี๊ด!”
“ลืมกันตัวเงาะไว้เป็นพยานเอาผิดพี่เทวัญ...ทำไมไม่มีใครบอกฉัน! ยอดไปตามเงาะกับมา เร็ว!”
จิตรวรรณวิ่งออกไป ยอดชายและใจดีวิ่งตาม ศยามยิ้มขำๆกับจิตรวรรณ ตามออกไปด้วย
จิตรวรรณ ยอดชาย ใจดีลงนั่งหมดแรงหน้าบ้าน จิตรวรรณถอนใจบ่น
“ตามไม่ทันอ่ะ เฮ้อ เสียดายจัง”
ใจดีหอบ
“แกบอกให้ยัยเงาะไปให้พ้นๆหน้า แล้วจะหาตัวเจอมั้ยอ่ะ”
ยอดชายตำหนิ
“ทีหลังจะขู่ใคร ก็คิดซะก่อนนะจี๊ด”
“ก็ตอนนั้น...สวยๆนี่ คิดไม่ทันหรอก”
ศยามถอนใจ
“ไม่เป็นไร...บางที เราอาจจะไม่ต้องตามหาคุณเงาะก็ได้”
จิตรวรรณหันมองหน้าศยาม
“จะมองโลกในแง่ดีไปถึงไหน ความหวังรีบหรี่มากเลยนะที่เงาะจะติดต่อมาเอง”
“ก็ยังดีกว่าไม่มีความหวัง”
“แสงแห่งความหวังของเราช่างอ่อนแรงเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นหนทางไหน”
ศยามจับมือจิตรวรรณให้กำลังใจ ยอดชายและใจดีเองก็ลุ้นไปด้วย ศยามมองหน้าจิตรวรรณด้วยสายตาเชื่อมั่น
“เชื่อสิ...ถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว ในความมืดมิด เราจะเห็นแสงสว่างที่ประตูบานหนึ่งเสมอ”
ยอดชายและใจดีสบตากัน...เหนื่อยใจแต่ก็พยายามจะเชื่ออย่างนั้น ยอดชายหันมาถาม
“แล้ว...เราจะเอายังไงกันต่อสำหรับเรื่องคืนนี้”
ศยามและจิตรวรรณมองหน้ากัน...
ที่โมเดิร์นคาร์ วันใหม่...ใจดีทำเป็นร้องไห้ ขณะที่เล่าเรื่องให้ทุกคนฟัง
“เจ๊ยุพาตายแล้ว ฮื้อ!”
พนักงานคนอื่นๆครางฮือ ตกใจ ในขณะที่รัตนา ลุงแปลง โพและแต้วหันมาสบตากัน...อึ้งๆกับแอ็กติ้งของใจดี
“อยู่ๆก็หมดลมหายใจไปซะเฉยๆ หาสาเหตุไม่เจอ ฮื้อ ไม่น่าเลยเจ๊ยุพาเห็นกันอยู่หลัดๆแท้ๆ ฮื้อ!”
รัตนาทำทีเข้าไปปลอบ
“ทำใจดีๆนะคะ คุณใจดี เจ๊ยุพาไปสบายแล้ว”
“ใจหายค่ะ เจ๊ยุพาเป็นคนดี เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ”
พนักงานคนหนึ่งเบ้หน้า
“เหรออออ”
“คนอื่นไม่รู้ แต่ฉัน...เคารพ ฮื้อ!”
รัตนาปลอบ
“ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ ไม่ต้องพูดนะคะ รู้ว่าเสียใจ แต่ไม่ต้องพูดนะคะ”
“ทำไมล่ะคะ”
“จะร้องไห้ตามค่ะ”
“ก็ได้ค่ะ ไม่พูดก็ได้ แต่ร้องไห้ได้ใช่มั้ยคะ”
รัตนาถอนใจ โพ แต้ว ลุงแปลงพยายามอั้นขำกันสุดฤทธิ์ เทวัญแอบดูมาจากมุมหนึ่งยิ้มสมใจ หยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์หาเงาะแล้วเดินออกไป
เทวัญเดินหงุดหงิดเข้าห้องลงนั่งที่โต๊ะทำงาน
“เงาะไปไหน...ติดต่อไม่ได้เลย!แต่ก็ดี...ที่ทำงานสำเร็จ ฮ่ะๆๆๆๆ” เทวัญหัวเราะอย่างสะใจ “ไม่มีอะไรมาขวางความสำเร็จของฉันอีกแล้ว ฮ่ะๆๆๆ”
จิตรวรรณแต่งตัวจะไปทำงาน วันดีเดินออกมาทัก เสียงเครียด
“เมื่อคืนกลับบ้านกี่โมง ยัยจี๊ด”
จิตรวรรณชะงัก หันมาหน้าจ๋อยๆ
“ก็...ไม่ค่อยดึกค่ะ”
“ตีสามแม่ขึ้นห้อง เรายังไม่กลับเลย”
“จี๊ดก็กลับมาถึงตอนแม่ขึ้นห้องได้สักพักค่ะ”
วันดีขึ้นเสียง
“จี๊ด...!”
จิตรวรรณอึ้ง เตรียมตัวถูกด่า
“แม่จะว่าอะไรจี๊ด ก็ว่าเลยค่ะ จี๊ดบอกได้คำเดียวว่า จี๊ดไม่ได้...”
วันดีตัดบท เสียงอ่อน เต็มไปด้วยความเมตตา
“ทีหลังก็โทรบอกแม่สักนิดว่าเราจะกลับดึก แม่จะได้ไม่เป็นห่วง”
จิตรวรรณงง...ที่แม่ไม่ด่า
“จี๊ดโตแล้ว และคงจะคิดได้แล้วว่าอะไรดีอะไรชั่ว แม่ไม่อยากเซ้าซี้ให้รู้สึกรำคาญ...”
“จี๊ดไม่เคยรู้สึกรำคาญแม่”
“แม่รำคาญตัวเองต่างหาก”
จิตรวรรณชะงัก
“ไปทำงานเถอะไป...กลับมาทานข้าวเย็นกับแม่นะ”
“ค่ะแม่”
จิตรวรรณเข้าไปกอดแม่อย่างมีความสุข...วันดีลูบผมลูกสาวอย่างเอ็นดู...เจตนายืนดูจากมุมหนึ่ง ด้วยความอิ่มใจ
จิตรวรรณเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาหน้าบ้านกับเจตนา
“ไงเรา...ยิ้มแก้มปริเลยนะ”
“จี๊ดมีความสุขจังเลยค่ะคุณพ่อ วันนี้คุณแม่น่ารักที่สุดเลย”
“แม่เราน่ารักเสมอ เวลาอารมณ์ดีๆนะ แต่อย่าพูดถึงตอนอารมณ์เสีย”
“คุณพ่อเคยมีความรู้สึกว่าทนคุณแม่ไม่ไหวหรือเปล่าคะ”
“เคย...อย่างที่เราก็เห็น...แต่มาคิดอีกที เพราะแม่รักพ่อ แม่เลยเป็นแบบนี้ตอนนี้เลยไม่รู้สึกว่าต้องทน เพราะพ่อเข้าใจ”
“วันนี้คุณพ่อก็น่ารักค่ะ ขอกอดทีนะคะ”
“จ้า”
จิตรวรรณกอดเจตนาอย่างมีความสุข แล้วจู่ๆหญิงสาวก็หน้าหมองลง
“วินาทีนี้จี๊ดมีความสุข แต่เชื่อมั้ยคะ ว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า จี๊ดอาจจะเจอเรื่องที่ทำให้มีความทุกข์”
“จะสุขหรือทุกข์ มันก็อยู่กับเราไม่นานหรอกลูก แต่ถ้าลูกมีสติ ไม่ว่าจะรับมือกับอะไร ลูกก็จะมีแต่คำว่า...ไหว”
“ค่ะ”
“แล้วตอนนี้ทุกอย่างยังไหวอยู่มั้ย”
“ไหวค่ะ!”
“ดีมาก”
“ไปออฟฟิศ ทำงานที่เรารักกันดีกว่าค่ะ คุณพ่อ”
จิตรวรรณกอดพ่อหัวเราะกันอย่างมีความสุข
ยอดชายนั่งดูพยาบาลป้อนข้าวให้ยุพาที่ตอนนี้ไม่ได้ใส่สายน้ำเกลือแล้ว ยุพายังซึมๆ ศยามเข้ามาถาม
“วันนี้ เจ๊ยุพาเป็นไงบ้างคุณยอด”
“อาการบาดเจ็บดีขึ้นมาก...แต่ก็นั่นแหละ จากตื่นตกใจ ตอนนี้กลายเป็นซึมไม่ยอมพูดอะไรสักแอะ...เฮ้อ...คนล่ะขั้ว”
“ใจเย็นๆ”
“เย็นเสมอครับ”
“วันนี้ผมไม่เข้าออฟฟิศ ผมจะมาช่วยดูแลเจ๊ยุพา คุณยอดพักก็ได้นะ”
“ก็พักอยู่นี่ไง”
“หมายถึงไปข้างนอก เปิดหูเปิดตา”
“คงมีอารมณ์หรอกนะ”
“ไม่ไปเหรอ”
“ไม่ไปล่ะ”
“งั้น...ไปเดินเล่นสักหน่อยไป รอบๆบ้าน อากาศดีมาก”
“จะไล่ผมให้ออกไปอีกนานมั้ยเนี่ย”
“ผมไม่ได้ไล่ แค่เสนอ”
“ไปเดินเล่นดีกว่า ฟังคุณเสนอแล้ว...เหมือนไล่”
ยอดชายก็ลุกออกไป ดิ่งมองตามยิ้มๆ
ยอดชายเดินเรื่อยเปื่อยมามุมหนึ่งหน้าบ้าน ศุวิมลเข้ามา ยอดชายตกใจ
“คุณศุ!”
“ยังจำกันได้อยู่เหรอ”
“ยังจำทางมาบ้านผมได้ด้วยเหรอ”
“เมื่อไหร่จะเลิกประชด”
“คุณก็เหมือนกัน”
ศุวิมลอึ้ง...ถอนใจ ใจเย็น
“มาทำไมครับ”
“ฉันมาขอคำอธิบายที่คุณหายหน้าไป”
“ต้องอธิบายอีกเหรอ”
“ต้องสิ”
“ข้อสอบข้อนี้ ผมขอส่งกระดาษเปล่า”
“คุณอยากสอบตกใช่มั้ย”
“ไม่ได้อยากสอบตก แต่...อย่าให้ผมอธิบายเลย”
“ทำไม”
“มันเจ็บ”
“ไม่ยุติธรรม!”
“ทำไมไม่ยุติธรรม”
“ฉันมีคำอธิบายเยอะแยะที่จะบอกให้คุณรู้ ว่าฉันรู้สึกยังไง”
ยอดชายชะงักนิ่งงัน
“ฉัน...”
อ่านต่อหน้า 4เวลา 17.00น.
พริกกับเกลือ ตอนที่ 16 (ต่อ)
ทันใดนั้น คำนวณเดินเข้ามา
“ศุ...เสร็จหรือยัง สายแล้วนะ”
ยอดชายอึ้งไป
“คุณจะมาเสียเวลาอธิบายอะไรก็ไม่รู้กับผมทำไม เดินไปข้างหน้ากับคนของคุณดีกว่า ทิ้งผมให้อยู่ข้างหลังกับกระดาษเปล่าของผมเถอะ!”
ยอดชายเดินหนี ศุวิมลอ่อนใจ หันไปทำตาดุใส่คำนวณ
“จังหวะนรก มาทำไมตอนนี้”
“ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าเธอกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ว่าแต่...เขาพูดเมื่อกี้ว่าฉันเป็นคนของเธอ...รับไม่ได้นะ ไม่แฮปปี้”
“โอ๊ย ฉันก็ไม่แฮปปี้...ช่างมันเถอะ ไปกันเถอะ สายมากแล้วจริงๆ”
ศุวิมลเดินตามคำนวณไป...มองเหลียวหลัง ยังค้างคาใจกับยอดชาย ศุวิมลควงแขนคำนวณไปอย่างสนิทสนม ยอดชายแอบดูมาจากมุมหนึ่ง อย่างเสียใจ
“ควงมาเย้ยกันชัดๆ คุณศุนะคุณศุ...ผมเจ็บนะ”
ศยามนั่งอยู่ข้างเตียงยุพาที่นอนตาลอยอยู่ ยอดชายเข้ามา เซ็งๆ
“อ้าว...เดินเล่นมาแล้วเหรอคุณยอด เป้นไงบ้าง สดชื่นขึ้นมั้ย”
“สดชื่นครับ สดชื่นมาก”
“แต่หน้าไม่ใช่นี่”
“คุณดิ่ง...ผมบอกแล้วใช่มั้ย ว่าขอให้จบเรื่องผมกับคุณศุ ผมไม่อยากคิดถึงเธอ เห็นหน้าเธอ หรืออะไรๆเกี่ยวกับเธออีกแล้ว”
“ใช่คุณบอกผม แล้วไง”
“แล้วไง ทำไมคุณศุยังมาหาผมที่นี่อีก”
“ผมไม่รู้...ผมไม่เกี่ยว! ผมไม่มีอำนาจเหนือน้องสาวผมได้หรอกนะ ทุกอย่างที่ยัยศุทำ เขาตัดสินใจของเขาเอง”
“ผมขอโทษ...ผมหงุดหงิดมากไปหน่อย ไม่น่ามาลงที่คุณเลย”
“เอาน่า...ทำใจให้สบาย อย่าเครียด...อย่าเร่ง...เวลาจะช่วยรักษาทุกอย่างเอง”
เสียงมือถือของศยามดังขึ้น ยุพากระตุก หันขวับไปที่มือถือของศยาม ซึ่งศยามหยิบมารับสาย ยุพาจ้องมือถือเขม็ง
“ฮัลโหล...คุณจี๊ด”
ยุพานึกเหตุการณ์ในอดีตที่เธอกำลังละล่ำละลักคุยมือถือวิ่งหนีเทวัญ
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย!”
ยุพาสะดุ้งสุดตัว ร้องเหมือนในอดีตนั้น
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย!”
ศยามและยอดชายตกใจ
“แค่นี้ก่อนนะคุณจี๊ด”
ศยามกดวางสาย รีบเข้าไปดูอาการของยุพา ซึ่งไมได้ตกใจเหมือนตอนแรกที่จำความได้
“ช่วยด้วย!”
ศยามเข้าไปถาม
“เจ๊ยุพา...เป็นไงบ้าง...ใครทำอะไรเจ๊”
“ช่วยด้วย!”
ยุพาหลับตา ภาพในสมองของเธอเป็นภาพเบลอๆของเทวัญที่วิ่งตามมา
“หยุดนะ!”
ยุพายังวิ่งต่อไป เทวัญเร่งฝีเท้าเร่งตามไป...ยุพาปวดหัวหนัก
“โอย! เจ๊ปวดหัว”
ยอดชายหันไปบอกกับพยาบาล
“พี่พยาบาล...เจ๊เขาปวดหัว”
“ให้คนไข้พักก่อนนะคะ”
ศยามและยอดชายผละออกมา พยาบาลประคองยุพาลงนอน...แล้วหายาแก้ปวดพร้อมน้ำให้กิน
ศยามและยอดชายมองหน้ากัน
ศยามและยอดชายคุยกันเรื่องอาการของยุพาที่มุมหนึ่งในบ้าน
“เรากำลังมีแสงสว่างที่ประตูแห่งความหวังบานนี้แล้วใช่มั้ยครับ”
“ใช่...ความทรงจำของเจ๊ยุพากำลังกลับคืนมา...เหลือแค่ปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดอย่างสมบูรณ์”
“ขอให้ทุกอย่างทันเวลาด้วยเถอะ ผมสงสารจี๊ด”
ศยามคิดถึงจิตรวรรณขึ้นมา
จิตรวรรณนั่งทำงานอยู่ในห้อง เทวัญเข้ามายืนคุยด้วย
“น้องจี๊ดพร้อมหรือยังคะ”
“พร้อมเรื่องอะไรคะ งานศพเจ๊ยุพาเหรอ จี๊ดคงไม่ไปค่ะ จะส่งรัตนาไปเป็นตัวแทน พี่เทวัญน่าจะไปเป็นเจ้าภาพสักคืนนะคะ ฐานทำให้เจ๊ยุพาตาย”
“ฮ่ะๆๆๆๆๆ ให้เกียรติพี่เป็นฆาตกรอีกแล้ว น้องจี๊ด”
“ไม่มีใครให้เกียรติฆาตกรหรอกค่ะ อย่าเข้าใจผิด”
“เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า ท่าทางน้องจี๊ดจะอารมณ์เสีย...น้องจี๊ดพร้อมสำหรับงานแจกรางวัลของสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์หรือยัง”
“ดูพี่เทวัญใจจดใจจ่อกับงานนี้มากนะคะ”
“แน่นอนสิคะ มันจะเป็นวันที่พี่ภาคภูมิใจที่สุดอีกวัน นอกเหนือจากวันแต่งงานของเรา”
“ค่ะ จี๊ดก็ภูมิใจแทนพี่เทวัญ ที่ได้ทุกอย่างมาอย่างบริสุทธิ์ ขาวสะอาด”
เทวัญอึ้ง ที่ถูกประชด ยิ้มกลบเกลื่อน เข้าไปประชิดตัว จิตรวรรณตัวแข็ง
“พี่ไม่แคร์หรอกค่ะ ว่าจะได้ทุกอย่างมายังไง พี่เล็งที่ผลอันเป็นเลิศมากกว่า”
“ไม่เผื่อใจให้กับความผิดพลาดบ้างเลยสักนิดเหรอคะ”
“ไม่มีคำว่าผิดพลาดค่ะ ไม่เชื่อคอยดูสิ...”
“ค่ะ จี๊ดจะคอยดู...”
เทวัญยิ้มให้อย่างท้าทาย จิตรวรรณแอบหวั่นไหวในหัวใจ
จิตรวรรณแอบเดินหลบเทวัญ มาหารัตนาและใจดีที่ยืนรออยู่แล้ว
“ว่าไง ติดต่อเงาะได้มั้ย”
ใจดีส่ายหน้า
“ไม่ได้เลยแก”
รัตนาหนักใจ
“คุณเงาะย้ายออกไปแล้วค่ะ ไม่มีใครรู้ว่าไปไหน”
จิตรวรรณถอนใจ
“เฮ้อ!”
“ทำใจเถอะแก เงาะมันคงกลัวว่าถ้าร่วมมือกับพวกเรา อาจจะถูกพี่เทวัญคิดบัญชี”
จิตรวรรณเดินพล่านด้วยความเจ็บใจ
“ฉันจะทำไงดี ๆๆๆๆๆ”
ใจดีและรัตนามองหน้ากัน สงสารจิตรวรรณ ที่กังวลและเครียดมาก
ค่ำคืนนั้น จิตรวรรณยืนมองพระจันทร์อยู่ที่มุมหนึ่งที่หน้าบ้านอย่างกังวลใจ เจตนาและวันดียืนดูอยู่ที่มุมหนึ่ง วันดีรู้สึกเป็นห่วงและสงสัยในพฤติกรรมของจิตรวรรณ
“ยัยจี๊ดไม่สบายใจเรื่องอะไรคะ”
“เรื่องที่คุณก็น่าจะรู้”
“ตาเทวัญน่ะเหรอ”
“ก็มีเรื่องเดียว”
วันดีอึ้ง
“เครียดมากขนาดนี้เลยเหรอ”
“ใช่”
วันดีหันไปมองหน้าเจตนา เห็นความเครียดบนใบหน้าของเขาเช่นกัน จนวันดีรู้สึกหวั่นใจ
“ฉัน...ฉัน...”
เจตนายิ้ม โอบไหล่วันดี ปลอบเบาๆ
“ความสุขของเรา ไม่ใช่ความสุขของลูก แต่ความสุขของลูกคือความสุขของเรานะ คุณวันดี”
วันดีหันมองจิตรวรรณอย่างไม่สบายใจที่เห็นลูกสาวทุกข์ใจ
“ฉันไม่อยากให้ลูกทุกข์ใจเลย”
“ผมรู้...ไปพักเถอะ พรุ่งนี้เราต้องไปแสดงความยินดีกับลูกนะ”
วันดีหันไปมองลูกสาวอีกครั้ง ก่อนจะตามเจตนาไป ในใจคิดทบทวนเรื่องราวเกี่ยวกับจิตรวรรณและเทวัญ...จิตรวรรณยังคงยืนเหม่อมองพระจันทร์ คิดถึงศยาม
“นายดิ่ง ตอนนี้ นายอยู่ที่ไหน”
ทันใดนั้น ศยามเดินเข้ามา
“คุณจี๊ด”
จิตรวรรณตกใจ
“ว้าย! โอย...นายนี่เอง ตกใจหมดเลย ตายยากชะมัด”
“คิดถึงผมอยู่แน่ๆ”
“เออสิ!”
จิตรวรรณยิ้มเขินกับสายตาของเขา หญิงสาวพูดออกมาเขินๆ
“คืนนี้ ไม่เข้าไปคุยในห้องคนสวนแล้วนะ”
“อืม”
ศยามและจิตรวรรณพากันมานั่งอิงแอบกันใต้ต้นไม้ ที่มีพระจันทร์เป็นโคมไฟธรรมชาติ สองคนมองพระจันทร์ แต่ช่วยกันตบยุงให้กันและกันเปาะแปะ
“มาหาเนี่ย...มีข่าวดีมาบอกมั้ย”
“ไม่มี”
“ทีหลังก็ไม่ต้องมา”
“ไม่ได้หรอก ใจมันสั่งมา”
“ขออ้วกได้มั้ย”
“ไม่ได้หรอก เสียของ”
ทั้งสองสบตากันยิ้มๆ
“เจ๊ยุพายังจำอะไรไม่ได้มากเลย”
“จำอะไรได้แค่ไหน”
“ตอนที่ผมรับโทรศัพท์คุณ แกมองมาที่มือถือ แล้วก็ตะโกนว่าช่วยด้วย ช่วยด้วย แต่ก็แค่นั้น”
“ใช่! ตอนที่พวกฉันพยายามโทรติดต่อแก แกรับสายแล้วก็ร้องแบบนี้แหละ” ทันใดนั้นจิตรวรรณก็เสียงดัง นึกแผนการบางอย่างขึ้นได้ “ฉันนึกออกแล้ว!”
“นึกอะไรออก”
“ว่าจะกระตุ้นให้ความจำของเจ๊ยุพากลับมาได้ยังไง”
ศยามไม่เข้าใจ
“ยังไง!”
“นายต้องช่วยฉัน”
จิตรวรรณยิ้มอย่างสมอารมณ์หมาย ชายหนุ่มประหลาดใจว่าหญิงสาวคิดจะทำอะไร
วันใหม่...งานมอบรางวัลนักธุรกิจคลื่นลูกใหม่ยอดเยี่ยม จัดโดย สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ จัดขึ้นที่โรงแรมหรู คนมาร่วมงาน กำลังเดินเข้างาน เจตนาและวันดีในชุดสวย หล่อ เดินควงคู่กันเข้ามา กรรมการบริหารสมาคมประมาณ 3 -4 คนยืนอยู่ รวมถึงประธานกรรมการตัดสิน เจตนาและวันดีเข้าไปทักทาย
อีกมุมหนึ่งหน้างาน เทวัญเข้ามา มองหาจิตรวรรณ รัตนา ลุงแปลง โพ แต้วยืนคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่ง มองมาที่เทวัญด้วยความเกลียดชัง เทวัญเดินผ่านกลุ่มนี้มามองเหยียดๆ
“กระจอกๆอย่างพวกแก กล้าเสนอหน้ามางานแบบนี้ด้วยเหรอ”
รัตนายิ้มบางๆ
“ไม่กล้าหรอกค่ะ ถ้าท่านประธานไม่เจาะจงว่าพวกเราต้องมาแสดงความยินดีกับคุณจี๊ด”
โพสอดขึ้น
“ซึ่งไม่มีใครยินดีกับแก”
“สนที่ไหน!” เทวัญตบไหล่โพ “คางคกขึ้นวอเอ๊ย...นั่งบนวอให้สบายนะ อีกไม่นาน ฉันจะเขี่ยพวกแกลงจากวอให้หมด ฮ่ะๆๆๆๆ”
แล้วเทวัญก็หัวเราะเหยียดหยันออกไป โพหมั่นไส้ ถลันตัวเข้าไปประหนึ่งจะต่อย แต้วกับลุงโพห้ามเอาไว้
“พี่โพ! หยุดนะ!”
ลุงแปลงปราม
“อย่าทำให้เสียงาน!”
โพฉุนมาก
“ก็ดูมันสิ!”
แต้วโมโห
“นิสัยอย่างนี้ไง!”
“เออ พี่ก็เป็นของพี่แบบนี้!”
แต้วฉุน เดินเลี่ยงออกไป โพไม่สนใจ รัตนาปรามเสียงแข็ง
“โพ ถ้าไม่ยอมคุมอารมณ์ของตัวเอง พี่ก็จะให้เราอยู่ข้างนอกห้องจัดงาน”
โพจ๋อยไป
“ครับ”
รัตนามองไป เห็นเทวัญตรงไปหาเจตนาและวันดี
เทวัญเข้าไปสวัสดีเจตนา วันดี และกรรมการ เทวัญแอบสบตากับประธานกรรมการตัดสิน
“น้องจี๊ดล่ะครับ ท่าน”
“เห็นว่าจะเลยไปรับใจดีมาด้วย รถใจดีเสียน่ะ”
เทวัญกระตุกทันที ด้วยความไม่ไว้วางใจ
ที่บ้านยอดชาย...จิตรวรรณในชุดสวยงามพร้อมรับรางวัลกำลังยืนตระหว่านอยู่กลางห้อง ทำท่าโทรศัพท์ แสดงเหตุการณ์จำลองเมื่อครั้งที่ยุพาถูกไล่ล่า
“ตอนนี้เจ๊อยู่ที่ไหน!”
ใจดีร่วมแสดงเหตุการณ์ทำเป็นคุยมือถือโต้ตอบ
“ตอนนี้เจ๊อยู่...อยู่ที่ไหนวะ!”
ยุพามองมานั่งนิ่ง ศยามและยอดชายมองมาอย่างอึ้งๆ
“เจ๊อยู่ที่ไหน บอกมาเร็วๆ”
“เจ๊อยู่ที่...”
ใจดีบอกซอยที่เกิดเหตุ จิตรวรรณทำเสียงปืนลั่น
“ปัง!”
ใจดีร้องลั่น
“อ๊ายยย เจ๊!”
จิตรวรรณกับใจดีร้องพร้อมกัน
“อ๊ายยย!”
จิตรวรรณและใจดีหันมองยุพา ลุ้นๆ ยุพายิ้ม
“คุณจี๊ด กับคุณใจดีเล่นละครเก่งจังค่ะ”
จิตรวรรณกับใจดีเซ็ง
“เฮ้อ!”
ศยามและยอดชายกลั้นหัวเราะ จิตรวรรณหันไปดุ
“หัวเราะขำอะไร ฉันไม่ขำ อุตส่าห์ลงทุนแสดงเหตุการณ์จำลองกระตุ้นความทรงจำนี่!จำอะไรได้หรือยัง”
ยุพาส่ายหน้า จิตรวรรณลงนั่ง เหนื่อย หมดแรง มองหน้าศยามเศร้าๆ ศยามตัดบท
“ไปงานเถอะ”
“แต่...”
“ยอดจะอยู่ทางนี้เอง จะช่วยกระตุ้นต่อเอง นะ”
ใจดีรีบบอก
“ไปกันก่อนเถอะจี๊ด ก่อนที่ใครจะสงสัย”
จิตรวรรณถอนใจ
“ก็ได้”
ศยามลุกขึ้น ส่งมือให้จิตรวรรณ
“มา มากับผม”
จิตรวรรณจับมือศยามเอาไว้อย่างมั่นคง ออกเดินเคียงคู่กัน ใจดีมองตาม...เหงาๆ ยอดชายหันมาแซว
“คิดถึงฝรั่งเหรอใจดี”
“เขาหายไปหลายวันแล้วอ่ะ ไม่รู้กลับไปเยอรมันหรือยัง”
“ของแบบนี้ ยิ่งวิ่งตาม มันจะวิ่งหนี อย่าตาม อย่าคิด เดี๋ยวมันก็มาเอง”
“ใช่ แต่ตอนนี้ ขอวิ่งตามเพื่อนไปก่อนนะ”
ใจดีวิ่งออกไป ยอดชายถอนใจ หันมาสนใจยุพาต่อไป
เจตนาและวันดีอยู่ในงาน รัตนาเดินเข้ามาเอาเครื่องดื่มมาให้ทั้งสอง เจตนารับเครื่องดื่มมา แต่วันดียังไม่ยอมรับ มองรัตนาอึ้งๆ เจตนาสบตา วันดีตัดสินใจรับมาเปรยๆ
“ยัยจี๊ดล่ะ มาหรือยัง”
“ใกล้ถึงแล้วค่ะ”
“ช่วยเร่งเขาหน่อย”
“ค่ะ”
รัตนายอบตัวออกไป นึกโล่งใจ เจตนายิ้มๆ วันดีเห็นเข้า
“วันนี้เป็นวันดีของลูก ฉันเลยจำเป็นต้องทำตัวดีมีมารยาท”
“ก็โอเค”
“ไม่มีคนของลักชัวรี่คาร์มาเลยเหรอคะ”
ขณะเดียวกันนั้น ศุวิมลเดินเข้างานมาเพียงลำพังมองไปไม่เห็นใคร เธอเดินไปยืนอยู่ที่มุมหนึ่ง วันดีสังเกตเห็น
“แปลกจัง ไม่ยักเห็นนายดิ่ง”
“เดี๋ยวก็มา”
เทวัญกระวนกระวายใจอยู่ที่มุมหนึ่ง รัตนายืนอยู่กับโพ แต้วและลุงแปลงแต้วดูเฉยเมยกับโพ เทวัญเดินเข้าไปหารัตนา
“น้องจี๊ดอยู่ไหน”
“กำลังมาค่ะ”
“กับใคร”
“คุณดิ่งกับคุณใจดีค่ะ”
เทวัญชะงักไม่พอใจ รัตนายิ้มเย้ย
“เป็นความจริงที่แสนจะเจ็บปวดนะคะ”
เทวัญมองรัตนาไม่พอใจ ฮึดฮัดออกไป รัตนายิ้มเยาะ ทันใดนั้นมีเสียงเตือนว่ามีข้อความเข้าอีเมล์
“มีอีเมล์เข้า...จากไหน”
รัตนาเปิดเครื่องกล่องข้อความแล้วก็ใจเต้นแรง
“อีเมล์จากเยอรมัน”
โพ แต้วและลุงแปลงตื่นเต้นตามไปด้วย รัตนารีบเดินออกไปจากห้องจัดงานทันที
ศยามจูงมือจิตรวรรณเร่งเท้าเข้างาน ใจดีตามมาด้วย จิตรวรรณรีบมาก จนสะดุดเท้าตัวเอง
“โอ๊ย!”
ศยามรีบประคองเอาไว้
“คุณจี๊ด!”
“ขอบใจนะ”
ศยามส่งสายตาหวานให้ จิตรวรรณยิ้มหวานตอบ ใจดีแอบเซ็ง
“โอย...ฉันล่วงหน้าไปก่อนนะ”
ใจดีวิ่งออกไป ศยามหันมาถามจิตรวรรณอย่างเป็นห่วง
“เท้าแพลงหรือเปล่า”
“ไม่...แค่อยากถูกนายประคองบ้างไรบ้าง”
“ไม่รู้จักเวล่ำเวลาจริงๆ”
“ล้อเล่นน่ะ เอาไง เราควรเข้างานด้วยกันหรือไม่ควร”
“ต่างคนต่างมาดีกว่า”
“โอเค งั้น แยก! ฉันไปก่อน เลดีเฟิร์ส โอเค้!”
จิตรวรรณเดินออกไป ศยาม มองตามยิ้มๆ
“ตลอด!”
ศยามยืนรอสักพัก มารศรียืนสวมแว่นกันแดด แอบมองอยู่มุมหนึ่งด้วยความเคียดแค้น
“หวานกันมากนักใช่มั้ย...”
ศยาม เดินออกไป มารศรีจะตามไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อ ทันวิทย์เดินเข้ามา มารศรีรีบหลบ นึกเซ็ง ทันวิทย์เดินเข้างานไป มารศรีเดินออกมา...นั่งรออยู่บนเก้าอี้ รอเวลา
รัตนาพุ่งเข้ามาหาพนักงานที่เคาน์เตอร์ของโรงแรม
“ขอใช้บริการเช็กอีเมล์และปริ้นต์จดหมายหน่อยได้มั้ยคะ”
“ได้ค่ะ ทางนี้ค่ะ”
พนักงานเดินนำรัตนาไปทางหนึ่ง
เทวัญเห็นทันวิทย์เข้ามารีบตรงไปหา
“ไม่มีเรียนหรือไง”
“ผมมาแสดงความยินดีกับพี่”
“ขอบใจมาก...เห็นมั้ยทันวิทย์ ว่าอนาคตของฉันมันกำลังสดใส”
“เห็นครับ...”
“แต่ฉันคงมีอนาคตที่สดใสไม่ได้ ถ้ายังมีอดีตที่มืดมนตามหลอกหลอนฉันอยู่”
“ผมลบมันไปแล้ว พี่สบายใจได้ ผมเผามันทิ้งไปแล้ว”
“ขอบใจมากนะน้องรัก”
เทวัญแอบโล่งใจ...จิตรวรรณเดินเข้างานมา เทวัญเห็นจิตรวรรณรีบเดินเข้าไปรับ จิตรวรรณยิ้มให้เจื่อนๆ ศยามเดินเข้ามา เทวัญเห็นศยาม แล้วไม่พอใจ...ศยามยิ้มให้ เทวัญดินเข้าไปหาศยาม
“ยินดีที่ได้พบกันแบบซึ่งๆหน้าสักที หลังจากที่คุณเอาแต่ทำอะไรลับหลังผมอย่างน่าไม่อาย”
“ยินดีเหมือนกันครับ กับคนที่ชอบทำอะไรลับหลังเหมือนกัน แต่ขอแก้ตัวหน่อยนะ ว่า...การกระทำของผมเป็นการกระทำของมนุษย์ที่มีหัวใจ ส่วนคุณมัน...หมาลอบกัด”
เทวัญของขึ้น
“ไอ้...!”
จิตรวรรณเข้าขวาง
“พี่เทวัญ หยุดนะ!”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่ไม่ทำอะไรมันหรอก...พี่จะยืนดูความย่อยยับของมันเฉยๆ”
ศยามนึกแปลกใจในคำพูดของเทวัญ จิตรวรรณถามเสียงเข้ม
“พี่เทวัญจะทำอะไร”
“ไม่ต้องกลัวหรอก...ว่าพี่จะทำอะไร เพราะกลัวไปก็ไม่ช่วยให้มันรอด”
เทวัญควงจิตรวรรณออกไปหาเจตนาและวันดี ศยามถอนใจ นึกระวังตัว ศุวิมลเข้ามาหา
“พี่ดิ่ง...หายไปไหนมา”
“ไปบ้านคุณยอดชายมา”
“คุณยอดเป็นไงบ้าง” ศุวิมลถามทันที
ที่บ้านยอดชาย...ยุพาบอกกับพยาบาล
“อยากเดินน่ะค่ะ”
“ได้ค่ะ ดิฉันช่วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เจ๊ไหว”
ยอดชายมองอย่างเป็นห่วง
“เจ๊ ให้คุณพยาบาลช่วยเถอะ ล้มลงไป อัมพาตเล่นงานเข้าอีก ผมไม่ต้องดูแลเจ๊ตลอดชีวิตหรือไง”
“คุณยอดก็ไม่มีเมีย ก็น่าจะว่างดูแลเจ๊นะคะ”
“ผมว่าเจ๊ยุพาคนเดิมกลับมาแล้วล่ะมั้ง”
ยุพาหัวเราะ ค่อยลงจากเตียง...พยาบาลประคอง ยุพายังเดินเซๆ ยอดชายยังห่วง
“ดีๆ เจ๊ ดีๆ”
“เจ๊ไหวค่ะ เจ๊ไหว ไม่เชื่อคุณพยาบาลปล่อยมือเจ๊สิคะ”
“จัดให้เจ๊เขาหน่อยเหอะครับ เดี๋ยวจะกินข้าวไม่ลง”
พยาบาลปล่อยมือ ยุพาเดินตัวปลิวแล้วก็สะดุดเท้าตัวเองล้มลงหัวกระแทกพื้น
“โอ๊ย!”
ยอดชายตกใจ
“เจ๊ยุพา!”
ยอดชายรีบเข้าไปดูอาการ ยุพาที่ล้มอยู่บนพื้น ทันที ยุพาเจ็บที่หัว
“โอย...”
“เป็นไงบ้าง เจ๊ เจ็บตรงไหนบ้าง”
“เจ๊เจ็บหัว...”
ทันใดนั้นภาพต่างๆขณะที่ยุพาถูกไล่ล่าก็เข้ามาในหัวของเธอ...ตอนนั้นเธอถูกเทวัญตบหน้า เซถลา
“โอ๊ย! อย่าทำเจ๊เลย เจ๊ยอมแล้ว เจ๊ไม่สู้!”
มือถือยุพาที่ตกอยู่บนพื้นดังขึ้น ต่อเนื่องตลอดเวลา แต่เทวัญยังคงเข้าไปตบไม่หยุด
“แกบอกพวกมันใช่มั้ยว่ากลับมากรุงเทพ...มันถึงได้โทรหาแกไม่หยุดหา!”
“โอ๊ย!”
เทวัญชักปืนขึ้นมา
“ไม่ ไม่ อย่าทำเจ๊ ไม่”
จบตอนที่ 16
อ่านต่อตอนที่ 17 พรุ่งนี้ เวลา 09.30 น.