xs
xsm
sm
md
lg

“วิว-วรรณรท” นางเอกเบอร์หนึ่งเอ็กแซ็กท์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นางเอกประจำค่ายเอ็กแซ็กท์ ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี มีละครออกอากาศต่อเนื่องกันไม่ห่างหายจากจอ จนมีคนขนานนามว่าเป็นลูกรักเบอร์หนึ่งของคุณบอย "วิว-วรรณรท สนธิไชย" และด้วยหน้าตาหวายหยดย้อย บุคลิกนุ่มนิ่ม เธอจึงมักได้รับบทดราม่า เปลืองน้ำตาอยู่บ่อยครั้ง แต่ใครจะไปเชื่อว่าสาวคนนี้ยืนยันเสียงแข็งว่าตัวละครแสนโศกที่เห็นกันนั้นขัดกับตัวตนที่แท้จริงของเธอแบบฟ้ากับดิน
 



ลูกรัก ค่ายเอ็กแซ็กท์

หลังลาจอไปได้ไม่นานกับละครเมื่อต้นปี "น้ำขึ้นให้รีบรัก" ก็มีละครจ่อคิวฉายต่อกับละครเรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี "สาวน้อย" ที่รับบทโดยนางเอกแสนซื่อ วิว-วรรณรท สนธิไชย ที่ได้ผ่านงานแสดงละครกว่า 10 เรื่องในระยะเวลาแค่ห้าปี จึงทำให้ถูกครหาว่าเป็นลูกรักคนโปรดของเจ้าพ่อเอ็กแซ็กท์

“จริงๆ คำถามนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว เพราะว่าเรามีละครอยู่โดยตลอด แต่จริงๆ ไม่ใช่นะคะ จริงๆ เหมือนกับผู้ใหญ่เขาเมตตา ให้โอกาสเรามากกว่า เหมือนกับอยากให้เราฝึกฝีมือ การที่เราได้เล่นละครเหมือนกับการที่เราได้เจอปัญหาใหม่ๆ ได้รู้จักแก้ไข เป็นประสบการณ์ต่างๆ เพราะการเล่นละคร เราจะได้เจอกับดาราผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน มันก็เลยกลายเป็นถูกมองว่าเป็นลูกรัก

มันอยู่ที่ช่วงเวลามากกว่า วิวก็ถ่ายละครเหมือนกับคนอื่นๆ แต่เวลาที่ลงฉายมันต่อเนื่องพอดี ซึ่งแบบหลายๆ คนก็ถ่ายหลายเรื่อง เพราะฉะนั้นพี่บอยจึงไม่ได้ทิ้งลูกๆ ทุกคนอยู่แล้ว เป็นคนแนะนำงานนั้น งานนี้ แต่พอวิวมีละครก็เลยเห็นว่าเป็นวิวที่มีงานเยอะ เพราะเรื่องมันได้ออนแอร์ติดต่อกันพอดี”

นางเอกหน้าหวานปฏิเสธด้วยน้ำเสียงนิ่มๆ ว่าไม่ได้เป็นลูกรักคนเดียว แต่ทุกคนก็ถูกป้อนงานตามโอกาสและความเหมาะสม ซึ่งตัวเธอเองนั้นถือว่าโชคดีต่างหาก ที่ผู้ใหญ่ได้มอบโอกาสให้เธอ และอย่างงานละครยิ่งใหญ่แห่งปี "สาวน้อย" ที่บทประพันธ์ทำไว้ได้ดีมาก เธอก็ได้ครองบทเป็น นิด หรือ วนิดา ตัวเอกของเรื่อง

“ดีใจมากๆ นะคะ คือตั้งแต่ที่ได้อ่านบทมา อ่านแล้วก็รู้สึกเลยว่าเป็นบทใหญ่ คือในตัวของนิดหรือวนิดาที่วิวเล่น แล้วก็ทั้งเรื่องมันเป็นโปรเจกต์ใหญ่ ตอนแรกที่รู้เรื่องนี้มา มันเป็นโปรเจกต์ใหญ่โปรเจกต์หนึ่งเลยนะ เหมือนละครเรื่องมาลัยสามชายที่มีนักแสดงเก่งๆ หลายคนมาร่วมเล่นกัน แล้วก็จะมีหลายพาร์ท

พอเราได้อ่านบทประพันธ์ บทละครเรื่องนี้แล้ว รู้สึกว่าเขาเขียนเก่งมาก เนื้อเรื่องสนุกมาก เพราะเขาเขียนมาดีอยู่แล้ว ด้วยตัวเนื้อเรื่องที่อ่านก็สนุก เข้มข้นอยู่แล้ว เมื่อเรามาเพิ่มฉาก เพิ่มตัวละครเข้ามาจริงๆ มันก็เลยยิ่งเห็นเป็นสีสัน สวยงาม สนุกมากขึ้นค่ะ”



บทบาทขัดตัวจริง นางเอกสุดซน 

ละครที่ผ่านมาเกินครึ่งต้องยอมรับว่าเธอนั้นเป็นนางเอกที่น่าสงสารเหลือเกิน ด้วยใบหน้าอ่อนโยน กิริยาเรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้ ทำให้ผู้ชมต่างมองว่านี่คือตัวเธอเองจริงหรือไม่ สาววิวรีบชิงตอบก่อนจะจบคำถามว่า เธอนั้นไม่เรียบร้อยเลย

“ไม่เรียบร้อยเลยค่ะ ช่างแตกต่างกับบทที่ได้รับมาก จริงๆ แล้ววิวไม่ใช่คนที่เรียบร้อยเลยนะคะ ซึ่งส่วนมากเล่นละครก็จะได้รับบทเรียบร้อย นุ่มนิ่ม วิวก็ต้องคุมสติตัวเองว่าอยู่ในชุดนี้ต้องระวังนะ ด้วยชุดที่ใส่มันก็บังคับไปเองว่าให้เราต้องเรียบร้อยมากขึ้น เมื่อก่อนช่วงยังเด็กๆ เราก็จะแบบซนๆ เลยโดนฝ่ายเสื้อผ้าดุว่าเดี๋ยวทำชุดยับ วิวก็เลยต้องนิ่ง ต้องเรียบร้อยไปเลย

บทที่ได้รับมาแล้วขัดกับตัวเอง วิวก็ว่ามันดีตรงที่พอมันไม่เป็นตัวเรา เราก็จะได้ลองดูว่าความสามารถในการแสดงเรามีมากน้อยแค่ไหน ดูสิว่า เราเล่นไม่เป็นตัวเองเลย ขัดกับนิสัยจริง เราจะทำให้ผู้ชมมองต่างได้หรือเปล่า ให้แฟนละครเชื่อว่า วิวเป็นคนเรียบร้อยเนอะ เพราะบทอย่างในเรื่องสาวน้อยเราน่าสงสารมาก ก็อยากให้ได้ลองชมละครดู เพราะจริงๆ บทดราม่าเป็นอะไรที่ยากมากหมายถึงว่าเล่นอย่างไรให้ออกมามีเสน่ห์ ดราม่าไม่ใช่แค่ว่าร้องไห้ได้นะ ต้องเล่นยังไงให้ออกมาดี ผู้ใหญ่เลยเปิดโอกาสให้วิวเล่นบทนี้ซึ่งตั้งแต่เรื่องแรกเรื่อง "แก้วล้อมเพชร" มาจนถึงเรื่อง "สาวน้อย" วิวก็ผ่านละครหลายเรื่องมากที่เป็นดราม่า”

หลังจากที่เธออธิบายความให้ฟังว่าความจริงไม่ได้เรียบร้อยเหมือนในจอ แต่ถึงแม้บทที่ได้รับอาจขัดกับชีวิตจริงไปบ้างแต่สาววิวก็ยิ้มรับเพราะเป็นการได้ฝึกฝนฝีมือการแสดงของตนเอง เมื่อถามต่อไปว่าแล้วบทไหนล่ะที่เป็นตัวเธอมากที่สุด

“สำหรับวิวคิดว่าน่าจะเป็นเรื่อง "ดอกรักริมทาง" ค่ะ บทที่เล่นก็จะเป็นสาวทอมๆ หน่อย ต้องปลอมตัวเป็นผู้ชาย แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวเองมากขนาดนั้นนะคะ เพราะเราไม่ได้เป็นทอมค่ะ แต่หมายความว่าในบทจะคล้ายๆ วิวตรงที่เป็นคนตลก เฮฮา เป็นคนที่ไม่ค่อยเครียด เราเป็นคนสนุก มีอารมณ์ขัน และด้วยตัวโทนของละครแบบโรแมนติกคอเมดี้แบบใสๆ เราก็เลยรู้สึกว่า ถ้าเป็นเรื่องดอกรักริมทาง มันเป็นอะไรที่นึกออกง่ายที่สุด แล้วตัวละครนางเอกในเวลานั้นก็ยังไม่ค่อยโต ชอบเลี้ยงสัตว์ ซึ่งหมาเราก็ชอบอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่าใช่ในแบบเรา

มีอีกเรื่องนะคะคือเรื่อง "คนเถื่อน" อันนี้ก็ใกล้ตัวอยู่ เพราะตอนเล่นบทเป็นสมันเนี่ย ตัวนางเอกเขาจะเฮี้ยวๆ ซนๆ ก็พอใกล้เคียงกับวิวอยู่ สรุปง่ายๆ คืออะไรที่ไม่เรียบร้อยคือตัววิวเลยค่ะ”

ต่อไปก็ต้องถามว่าแล้วบทไหนที่ไม่ใช่ตัวสาววิวเลย เธอก็ตอบว่าบทดราม่านี่แหละ นอกจากจะไม่ใช่ตัวตนของเธอแล้ว เธอยังโอดครวญด้วยว่า บทดราม่ามันยาก และอย่างในเรื่องสาวน้อยที่ตัวละครมีความซับซ้อน แต่เธอก็ชอบเพราะมันท้าทาย

“จริงๆ เรื่องสาวน้อยเรื่องนี้ ถือว่าในบรรดาทุกเรื่องที่เล่นมาเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สิบ วิวว่าเป็นเรื่องที่ยากที่สุด เพราะไม่ได้เล่นเป็นแบบตัวเองตัวเดียว คือไม่ได้เป็นนิด แต่ต้องมีเปลี่ยนมาเป็นวนิดา เราไม่ได้แค่เล่นละครตัวเดียวเท่านั้น มันไม่ได้เปลี่ยนตัวเลย ไม่ได้ความจำเสื่อม แล้วมาเล่นเป็นอีกตัวหนึ่ง ไม่ได้เล่นเป็นฝาแฝด แต่มันคือต้องมีความเป็นนิดอยู่แต่ว่าครอบคลุมด้วยตัวของวนิดา เหมือนเล่นละครซ้อนละคร วิวก็เลยว่ามันยาก

แล้วเหตุการณ์ต่างๆ ที่ต้องเจอในเรื่องมันก็ยากด้วยมีฆ่าตัวตาย ติดคุก มีจุดพลิกผันจากคนอ่อนแอมาเป็นคนเข้มแข็ง คือเราต้องเล่นยังไงให้เขารู้สึกว่าจากตอนแรกที่ใสๆ แบบเด็กอินโนเซนส์จริงๆ ในตอนที่ยังไม่ได้เข้ากรุง ทำอย่างไรให้คนดูเชื่อว่าเป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นสาวชาวกรุง คนดูจะยอมรับเราไหม ซึ่งเรื่องนี้มีซีนที่ให้วิวร้องเพลงด้วยมันก็เลยเป็นบทหลากหลายที่ท้าทายแล้วก็ยากด้วย”

ละครที่ผ่านมาก็สามารถพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า เธอมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และสามารถทำให้คนดูเชื่อได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อย น่าสงสาร แต่ลึกๆ สาววิวบอกว่าอยากลองเล่นเป็นผู้หญิงเก่งและแกร่งบ้าง

“ยังไม่เคยได้คิดเลยค่ะ แต่ว่าวิวก็อยากลองเล่นหลายๆบท อยากลองเล่นเป็นสมัยใหม่บ้าง ที่ผ่านมาจะเห็นว่าวิวเล่นละครพีเรียดเยอะ เลยอยากเล่นละครเรื่องอื่นๆ ที่เป็นวัยรุ่นขึ้นมา เป็นยุคปัจจุบัน แล้วก็อยากลองเปลี่ยนบทเป็นผู้หญิงบุคลิกแบบสู้ๆ บ้าง แอบร้ายนิดหน่อย แบบสาวฉลาด แต่ไม่ใช่ห้าว มาสู้ มาท้าต่อยนะคะ อยากเป็นผู้หญิงแกร่งๆ สาวทำงานประมาณนี้ ก็คือบทที่ยังไม่ได้เล่นก็อยากลอง”



กระแสแรง ดังถึงจีน


ความโด่งดังของ วิว-วรรณรท ไม่ใช่แค่ในประเทศเราเองเท่านั้น แต่ได้ไปดังไกล ตีตลาดยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียอย่างประเทศจีน ที่เสียงตอบรับเธอและละครดีเกินกว่าที่เธอคาดคิดไว้

“ละครเรื่องแรกน่าจะเรื่องดอกรักริมทางค่ะที่ทำให้คนจีนรู้จักเรามากขึ้น คือละครถูกส่งไปตั้งแต่เรื่องแก้วล้อมเพชรแล้วที่เล่นคู่กับสน (ยุกต์ ส่งไพศาล) เราก็ไม่รู้หรอก จนกระทั่งมาเห็นว่าละครมีแปลซับเป็นภาษาจีนด้วย มีใส่เสียงพากย์จีนเข้าไป ก็ดีใจค่ะที่เขาให้ความสนใจเรา ตั้งแต่ตอนนั้นก็มีแฟนคลับที่จีนเข้ามาติดต่อพูดคุยกับเราทางทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก ว่าเขาเป็นแฟนคลับจากจีนนะ แต่ตอนนั้นวิวก็ยังไม่ค่อยได้สนใจอะไรมากเท่าไหร่

แล้วพอดีทางเอ็กแซ็กท์ส่งละครที่วิวเล่นไปจีนก็ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน แก้วล้อมเพชร แล้วก็มาสกุลกาที่เล่นกับพี่มอส (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) แล้วก็มาเรื่องดอกรักริมทาง เล่นกับพี่บี้ (สุกฤษณ์ วิเศษแก้ว) ซึ่งพี่บี้ดังมาอยู่ก่อนแล้วที่เมืองจีน เพราะฉะนั้นพอมาเล่นเรื่องดอกรักริมทาง แล้วก็ด้วยตัวบทละคร มีหมา และอะไรหลายๆ อย่าง ทำให้มีช่องโทรทัศน์ที่จีน เขาเอาละครเรื่องนี้ของเราไปออกอากาศ แล้วก็แบบดังข้ามคืน เรตติ้งช่องเข้าเขาดีขึ้นมาเลยเป็นที่หนึ่ง

พอวิวได้ไปจีนครั้งที่แล้วได้มีโอกาสไปที่ช่องโทรทัศน์นี้เขาก็มาขอบคุณเรา ก็เลยรู้สึกว่าแฟนคลับจีนมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเขามาติดต่อพูดคุยกับเรา เราก็เลยได้ติดต่อพูดคุยกับเขามากขึ้นอย่างใน weibo ที่คล้ายๆทวิตเตอร์ ของจีน เราก็พยายามฝึกภาษาจีน แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยได้อะไรมากเท่าไหร่ แล้วพอไปเห็นแฟนคลับจีนที่ประเทศจีนเอง ก็ประทับใจมากค่ะ เขาต้อนรับเราดีมากซึ่งวิวรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะมีแฟนคลับคนละภาษา คนละเชื้อชาติ ที่เขาจะมาสนับสนุนเราขนาดนี้”



กระแสรัก จับคู่หนุ่มร่วมค่าย

เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ในกองถ่ายละครหลายเรื่อง ก็มีปรากฏให้เห็นบ่อยๆ สาววิวเองก็เคยมีข่าวซุบซิบกับพระเอกหนุ่มร่วมค่ายหลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกคนล้วนยังไม่ใช่ตัวจริง

“จริงๆ แล้วเราเหมือนเล่นละคร เราทำงานใกล้ชิดกับใคร มันก็เป็นความสนิท แล้วเวลาทำงานอยู่ที่กอง วิวก็ไม่ได้คลุกคลีสนิทสนมเกินความเป็นเพื่อนหรืออะไร แต่เวลาเราเล่นละคร นักแสดงก็จะรวมกลุ่มกันตลอด มันก็เลยมีข่าวออกไป ซึ่งบางทีมันก็เป็นแค่กระแสในช่วงๆ นั้น แล้วก็ไม่ใช่วิวคนเดียวที่มีข่าวแบบนี้ จะบอกว่าคนดูอิน วิวก็ดีใจค่ะ พอใจที่เราแสดงแล้วคนเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เป็นกระแสขึ้นมา

ทุกครั้งที่มีข่าวจับคู่ขึ้นมาก็จะเป็นแค่ช่วงละครออกอากาศ วิวก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไร พอละครจบเห็นไหม ข่าวมันก็จบกันไป ซึ่งวิวไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลก เพราะไม่ใช่แค่วิวที่มีข่าวกับพระเอกหลายๆ คนที่เล่นด้วย คนอื่นๆ เขาก็มีคู่นั้น คู่นี้”



หลงรักวงการมายาตั้งแต่เล็ก

จุดเริ่มต้นทางการแสดงของเธอนั้น สาววิวเล่าไปแล้วก็ยิ้มไป เพราะครั้งแรกที่มาแคสติ้งนั้น เธอยังไม่ได้กลับไปท่องบทด้วยซ้ำ แต่เพราะโชคนำพาให้เธอเข้ามาสู่วงการบันเทิงและเป็นดาวในที่สุด

“วิวได้มาเป็นนักแสดงซึ่งเกิดจากความไม่ตั้งใจ คือมาแคสติ้งงาน แล้วก็ยังไม่ได้ท่องบท ทำอะไรไม่รู้ไม่เข้าใจ ไม่เคยเรียนมาเลย ก็คือจำแล้วก็ไปเล่น แค่แบบพูดบทไป ความรู้สึกเราก็ตีความเองมั่วๆ ไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะได้ แต่ปรากฏว่าเขาก็ชอบ ก็ติดต่อมาแล้วก็ได้เข้ามาอยู่ในเอ็กแซ็กท์”

ถึงแม้ครั้งแรกของเธออาจเกิดจากความบังเอิญ แต่เมื่อถามว่าเธอประทับใจในวงการบันเทิงบ้างหรือเปล่า สาววิวก็ตอบแบบมั่นใจว่า เธอนั้นชอบวงการบันเทิงเป็นที่สุด แต่ไม่เคยใฝ่ฝันถึงการเล่นละครเลย

วิวชอบวงการบันเทิงค่ะ แต่ไม่เคยคิดเรื่องเล่นละครเลย ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะมาทำงานทางนี้ คือเมื่อก่อนเราดูละครเราก็ชอบ ตอนเด็กๆ ดูโทรทัศน์ เรารู้สึกว่ามันยาก รู้สึกว่ากาสรเล่นละครมันยาก ต้องท่องบท คือวิวไม่ได้มองในงานจุดนั้นเลย แต่วิวเป็นคนชอบถ่ายรูป คือแบบชอบทั้งถ่ายรูปเองแล้วก็เป็นแบบด้วย ถ้าเอารูปตอนเด็กๆ มาดูจะแบบว่าเป็นนางแบบหรือเปล่า โพสท่าแบบนี้ เราก็โพสไปเล่นๆ โตขึ้นมานิดนึง ตอนเรียนอนุบาลก็เริ่มมีแมวมองขนาดวิวยังเด็กนะคะ (หัวเราะ) อาจเป็นเพราะโรงเรียนอนุบาลเราด้วยส่งเสริมทางด้านนี้ ให้เด็กๆ ได้กล้าแสดงออก

วิวก็เลยมีงานตั้งแต่เล็กๆ เคยถ่ายแบบกับพี่คลาวเดีย ตอนนั้นพี่คลาวเดียยังเป็นนางแบบอยู่ ก็ตั้งแต่เล็กๆๆ เลย เริ่มเข้าวงการนางแบบ แล้วก็เหมือนถ่ายแบบ ถ่ายภาพนิ่งเยอะ คือถ่ายหนังสือแฟชั่น วัยรุ่น แต่เราไม่ใช่คนหุ่นดี หุ่นสูง ไม่ใช่ประเภทเดินแคทวอล์ค อย่างนั้น แต่ถ้าถามว่าเราชอบอะไร ก็ตอบเลยว่าเราชอบเป็นนางแบบมาก อาจจะชอบเรื่องแฟชั่น เสื้อผ้า การแต่งตัว มันก็เลยมีใจรักตรงนั้น
ถ้าถามเรื่องเกี่ยวกับวงการบันเทิงอีกอย่างคือวิวเรียนดนตรีตั้งแต่เล็กๆ เรียนเปียโน ชอบร้องเพลง ตอนนั้นคิดว่าถ้าเราโตขึ้นเราก็คงอยากทำงานด้านเพลง เป็นนักร้องวิวก็เคยคิดนะ ชอบ แต่ยังไม่เคยเรียนอะไรทั้งนั้น แต่เราชอบ เรารู้สึกว่าพอไปคาราโอเกะ เราก็ชอบ เราไปบ้านญาติ เราก็ร้องเพลงก็เลยชอบเรื่องดนตรี”

นอกไปจากความหลงใหลในวงการบันเทิงแล้ว สาวน้อยคนนี้ก็ยังเป็นนักกิจกรรมตัวยงอีกด้วย ดังนั้นจึงชัดเจนว่าสาวน้อยกล้าแสดงออกคนนี้เกิดมาเพื่อเป็นบุคคลสาธารณะเสียจริงๆ

“เป็นเด็กกิจกรรมค่ะ ทำกิจกรรมทุกอย่างที่เขามีให้ อย่างเชียร์ ลีดเดอร์ หรือแข่งกีฬาก็ได้ค่ะ วิวเป็นนักกิจกรรมตัวยงเลย พละนี้ก็เป็นวิชาที่โปรดปรานมาก ตอนเด็กๆ ก็จะมีวิชาเรียนหลายๆ อย่าง วิวก็จะชอบวิชาที่ไม่ใช่วิชาหลักค่ะ จะชอบหมด ได้เกรด 4 เลย อย่างกีฬานี่ชอบมาก อย่างถ้าเห็นไหล่วิว จะเห็นว่ากว้าง เพราะเป็นนักกีฬาว่ายน้ำมานานแล้ว ตัวจะบึ้กมากเมื่อก่อน

จริงๆ คือตอนเด็กเหมือนจะห้าวๆ ค่ะ เพื่อนก็เป็นเพื่อนผู้ชาย รู้สึกรำคาญเพื่อนผู้หญิง ไม่ชอบอะไรจุกจิก ไม่เอาสีชมพู ไม่ใส่กระโปรง แต่พอมาเรื่อยๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ”



ชีวิตนักศึกษา 

วัยเรียนของเธอในมหาวิทยาลัยช่างสร้างความสงสัยระคนแปลกใจ เพราะเธอศึกษาอยู่ใน คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งสาววิวก็รีบอธิบายว่าวิชาการเรียนนั้นไม่ใช่เพียงแต่การขุดเจาะอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ

“คณะโบราณคดี ไม่ใช่ว่าเรียนไปเพื่อไปขุด ไปเจาะอะไร มันมีหลายเอกมาก ในตอนแรกวิวก็เอนทรานซ์ไปติด อยากเข้ามหาวิทยาลัยศิลปากร ชอบพวกการออกแบบ ชอบงานศิลปะ เลยอยากเรียนคณะมัณฑนศิลป์ เรียนดรอว์อิ้ง ซึ่งคณะนี้เขามีสอบวิชาเสริมอะไรสักอย่าง แล้ววิวไปสอบไม่ทัน ก็เลยตัดสินใจว่าเลือกมหาวิทยาลัยศิลปากร คณะอะไรก็ได้ คิดว่ายังไงเขาก็มีสอนศิลปะอยู่แล้วในทุกคณะ เพราะเป็นวิทยาลัยศิลป์

พอได้เข้าไป เขาก็ไปคุย คณะโบราณคดีเรียนอะไร ไม่ใช่เรียนขุดเจาะอย่างเดียวใช่ไหม ซึ่งวิวเรียนเอกมานุษยวิทยา เราก็ถามเขาว่าเรียนอะไรที่จะนำความรู้มาใช้ได้กว้างที่สุด เอกนี้จะศึกษาทุกอย่างที่เกี่ยวกับมนุษย์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วิชาก็จะเป็นแบบเรียนรู้ความคิดของมนุษย์ มีแฟชั่น ค่านิยม การแสดง ซึ่งตรงนี้เราเอามาประยุกต์ใช้ได้ พอมาเรียนการแสดง เรายิ่งเอามาใช้ได้ เพราะมันมีความคิด อารมณ์ ความรู้สึก

แล้ววิวเป็นคนชอบพูด ชอบคุย ชอบสื่อสารกับคน เราก็ได้คุยคือเขาให้เราได้ลงไปคุยกับชาวบ้านในต่างจังหวัดเพื่อลงไปแก้ปัญหาชุมชน มันก็เป็นมุมที่เราไม่เคยมี คือปกติเราทำงานก็จะแยกออกมาเลย มันไม่รู้ชีวิตปกติประจำวันของมนุษย์ ไม่ได้ไม่ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกแล้วเป็นอย่างไรซึ่งเราได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคน”

เมื่อเธอต้องเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ด้วยความเหนื่อย จึงถามถึงแรงสนับสนุนของที่บ้าน สาววิวก็ยิ้มก่อนตอบแบบยอมรับว่า ที่บ้านในตอนแรกไม่ได้สนับสนุนเธอเลย แต่พอเวลาผ่านไปก็เข้าใจ และให้กำลังใจเธอ

“ที่บ้านไม่มีใครสนับสนุนเลยที่ผ่านมา คือหมายถึงว่าไม่ได้เคยผลักดันให้ลูกเป็นดาราหรืออะไรเลย อยากทำก็ตามใจซึ่งตอนแรกก็ห้ามด้วย เขาอยากให้ตั้งใจเรียนหนังสือ เพราะว่าที่บ้าน ญาติๆ เป็นหมอเป็นอะไรแบบนี้ เขาก็ไม่อยากให้เราเสี่ยงกับการแสดง ทำงานวงการบันเทิง คือเขาคิดว่ามันเป็นอะไรที่ฉาบฉวย เป็นอะไรที่มีข่าว เข้าไปก็เป็นความเสี่ยง เขาเป็นห่วง

แต่ว่าพอเราเข้ามา เราตั้งใจรับผิดชอบทั้งเรื่องงานและเรื่องเรียนได้ เขาก็เลยให้ลองทำดู ญาติๆ ก็เลยรู้เรื่องวงการบันเทิงมากขึ้นว่าไม่ได้มีอะไรเลวร้าย ถ้าเราดูแลตัวเองดี แล้วเราเองก็ไปไหนมาไหนกับคุณแม่ตลอด เพราะฉะนั้นญาติเลยไม่ค่อยเป็นห่วงแล้ว กลายเป็นว่าก็สนับสนุน เพราะวิวก็เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เขาก็เข้าใจว่าเหนื่อยก็กลายเป็นกำลังใจดีๆ”



มุมมองเรื่องศัลยกรรม 

คำถามอีกหนึ่งคำถามที่ตีคู่มากับเรื่องลูกรักคุณบอย คือเรื่องของการศัลยกรรม ที่มีคนบอกว่านับวันหน้าตาของเธอยิ่งเปลี่ยนไป จนไม่แน่ใจว่าทำศัลยกรรมหรือไม่ สาววิวถึงกับหัวเราะก่อนตอบด้วยคำแรกว่า เซ็ง !

“ข่าวเรื่องศัลยกรรมก็เซ็งๆ ค่ะ (หัวเราะ) ถ้าถามว่าวิวทำไหม ก็มีค่ะ วิวไปทำโบทอกซ์ทั่วไป แล้วก็ฉีดหน้าเล็กอะไรอย่างนี้ แต่ถ้าถามว่าผ่านมีดหมอหรือยัง ก็ยังไม่ได้ทำค่ะ จมูกตอนนี้ก็ยังไม่มีซิลิโคนอยู่กับหน้าเลย แค่ฉีดให้หน้าเล็กลง ฉีดลิฟต์ติ้งเท่านั้น”

สาววิวตอบแบบไม่ลังเลว่าเธอทำศัลยกรรมจริง แต่ไม่ถึงขนาดผ่านมีดหมอ เราจึงกระเซ้าเธอด้วยคำถามที่ว่า แล้วคิดอยากทำบ้างหรือเปล่า

“อยากทำค่ะ ใครๆ ก็อยากสวยใช่ไหมคะ เรารู้สึกว่าคนมันเป็นอะไรที่อยากสวย อยากทำให้ตัวเองดูดี วิวก็ไม่เคยแอนตี้เรื่องศัลยกรรม ถ้าเขาทำแล้วสวยก็ยินดีด้วย คือเราไม่ได้แอนตี้ศัลยกรรมถ้าจะทำก็ต้องรอให้ถึงเวลาก่อน ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลา แต่วันหนึ่ง ถ้าวิวแก่ หน้าวิวเหี่ยว หน้าวิวไม่โอเค วิวก็อาจต้องทำค่ะ”



วาดฝันอนาคต 

วงการบันเทิงเป็นอะไรที่ไม่ค่อยมีความมั่นคง คลื่นลูกใหม่มีเกิดได้เสมอ เราจึงถามไถ่ว่าเธอได้เตรียมแผนสำหรับอนาคตหรือยัง สาววิวก็ตอบว่าคิดไว้แต่คงเป็นแค่แผนการ เพราะตอนนี้หัวใจเธอยังหลงใหลในการแสดงแบบถอนตัวไม่ขึ้น

“ตอนนี้วิวยังรักงานแสดงอยู่ค่ะ แต่ก็มีคิดๆ เรื่องธุรกิจบ้างเพราะเห็นเพื่อนๆ ดาราเขาก็ทำกัน แต่ว่างานหลักเรายังเป็นงานแสดงอยู่ เป็นนักแสดงค่ะ เพราะว่าเราก็ชอบ แล้วก็รู้สึกว่าเราเพิ่งเริ่มเอง เพิ่งก้าวเข้ามา ยังมีอะไรอีกมากมายที่ต้องพัฒนาการแสดง เราไม่ได้รู้สึกว่าพอแล้วกับการเป็นนักแสดง วิวยังชอบอยู่ ยังหลงมนต์เสน่ห์ ยังมีเรื่องที่เล่นแล้วมีความสุข แต่อนาคตก็อยากเปิดอะไรทำเอง เป็นธุรกิจของตัวเองเหมือนกัน”

ทุกถ้อยคำของสาวน้อยคนนี้ ด้วยน้ำเสียงที่ฉะฉาน คำตอบที่ออกมาอย่างมั่นใจเจือด้วยความจริงใจ คงพิสูจน์ได้ว่าตัวจริงของเธอไม่ได้อ่อนแอดังในละครเลยสักนิดเดียว


ภาพโดย ธนารักษ์ คุณทน
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LITE
ขอบคุณภาพ : instagram@villwannarot

 

ประวัติส่วนตัว
ชื่อจริง : วรรณรท สนธิไชย ชื่อเล่น : วิว
วันเกิด : 10 เมษายน 2532น้ำหนัก/ส่วนสูง : 46 กก./166 ซม.
การศึกษา : คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร เอกมานุษยวิทยา โทภาษาอังกฤษ
ของสะสม : เครื่องประดับ,รองเท้าส้นสูง,เครื่องสำอาง
งานอดิเรก : ชอบวาดรูป ชอบดีไซน์ เล่นเปียโน เล่นคอมพิวเตอร์ ชอบร้องเพลง
เข้าสู่วงการ : ออดิชั่นตอนที่เอ็กแซ็กท์เปิดรับสมัคร new generation
ผลงานละคร : แก้วล้อมเพชร, สกุลกา, ดอกรักริมทาง, มาลัยสามชาย, ตลาดอารมณ์, ข้ามเวลาหารัก, คนเถื่อน, น้ำขึ้นให้รีบรัก, นางสิงห์สะบัดช่อ, สาวน้อย
ผลงานมิวสิควิดีโอ : ความผูกพัน (ซื้อความรักไม่ได้) - แก้ม เดอะสตาร์ 4, อยู่เพื่อเธอ - รุจ เดอะสตาร์ 4, Hug - บี้ เดอะสตาร์ 3, หยุดที่เธอ - เป๊ก เปรมณัช, ผู้ชายคนนี้กำลังหมดแรง- อ๊อฟ ปองศักดิ์








ละครเรื่องแรก เก้วล้อมเพชร
ลุคหวานๆ จากละคร
รับบททอมบอยใน ดอกรักริมทาง
ละคร สาวน้อย
สมัยเด็ก
คว้าตำแหน่งนางนพมาศ ขณะศึกษาที่ม.ศิลปากร


มุมสบายๆ
มุมทะเล้น

กำลังโหลดความคิดเห็น