ไก่ฟ้า Golden จัดเป็นสายพันธุ์ไก่ฟ้าต่างประเทศที่สวยที่สุดตัวหนึ่ง ใครได้เห็นเป็นต้องทึ่ง! กับความงดงามที่น่าลุ่มหลง ด้วยสีสันที่แต่งแต้มลงบนเส้นขนด้วยกันถึง 5 เฉดสี ราวกับนำพู่กันจุ่มสีสดมาระบายได้อย่างสวยงาม ทำให้หลายคนถูกอกถูกใจและอยากเลี้ยงไว้ดูเล่น วันนี้ M-Pet จะพาไปรู้จักเจ้าไก่ฟ้าสีทอง สัตว์เศรษฐกิจที่เศรษฐีนิยมเลี้ยงสูงเป็นอันดับต้นๆ ในไทย
บี-สิทธิกร ดำจีน หนุ่มใต้ชาวจังหวัดชุมพร ผู้หลงรักไก่ฟ้าและมีประสบการณ์การเลี้ยงมา 15 ปีแล้ว จากไก่ฟ้าคอแหวนคู่แรก และเลี้ยงต่อมาอีกหลากหลายสายพันธุ์ร่วม 100 ตัว เขาจึงเปิดกิจการขายไก่ฟ้าซึ่งสามารถสร้างรายได้เลี้ยงชีพจนถึงทุกวันนี้
“พอเราเลี้ยงโตไปมันก็เริ่มเปลี่ยนสีเรื่อยๆ และหันมาเลี้ยงพวก Golden, Yellow, Lady และพวกไก่ไทย เมื่อพอเลี้ยงได้ลูกแล้วก็ฝากร้านที่ซื้อมาขาย ขายได้เท่าไหร่เขาให้หมดเลย ตอนหลังมันเยอะขึ้น 40-50 ตัว เขาเลยชวนมาขายด้วย พอขายได้ มันก็เริ่มเข้าท่า ยึดเป็นอาชีพเลยคราวนี้ แต่ก็ยังทำงานประจำอยู่ มาขายเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ และช่วงนั้นก็ขายได้ดีทุกวัน จนไม่พอขาย”
ไก่บินได้ดั่งนก
บางคนถึงกลับหลงใหลในสีสันที่งดงามของมัน และด้วยชื่อที่ฟังดูช่างสูงส่ง ยิ่งทำให้ความสวยงามของไก่ฟ้าเป็นที่น่าเกรงขาม หลายคนจึงนิยมเลี้ยงไว้เพื่อประดับบารมี โดยเฉพาะบรรดาเศรษฐีน้อยใหญ่ทั้งหลาย
ไก่ฟ้า Golden หรือไก่ฟ้าสีทอง จัดเป็นสายพันธุ์ที่สวยที่สุดตัวหนึ่ง จะเน้นโทนสีแดงตรงหน้าอก ตามชื่อเต็มๆ ที่เรียกว่า Red Golden แต่คนไทยนิยมเรียกสั้นๆ ว่า Golden จึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อนี้ มีสายพันธุ์มาจากประเทศจีน อยู่ในตระกูลไก่ป่า ถือเป็นไก่ป่าที่บินได้เหมือนนก จึงเรียกเป็นไก่ตระกูลนก
“บินเป็นนกเลยล่ะ ไปแล้วไปลับเลย” คุณบีกล่าวเสริม ซึ่งที่ยุโรปมีการเพาะเลี้ยงเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง แต่จริงๆ แล้วไก่ฟ้าเหล่านี้มีต้นกำเนิดมาจากแถบเอเชียทั้งหมด เช่น ประเทศจีน อินเดีย ศรีลังกา รวมถึงประเทศไทยด้วย
ลักษณะที่โดดเด่นของไก่ฟ้า Golden อยู่ที่ความสวยงามของสีสันเป็นหลัก จึงทำให้มันแตกต่างจากไก่ฟ้าสายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งมีถึง 5 สีในตัวเดียว ได้แก่ สีแดง สีเหลือง-ทอง น้ำเงิน เขียว และส้ม (เฉพาะตัวผู้เท่านั้น) มีลักษณะรูปร่างป้อมๆ ไม่มีหงอนเหมือนไก่ ส่วนหัวจึงดูคล้ายนกมากกว่าไก่เลี้ยงทั่วไป
ไก่ฟ้าตัวผู้จะมีสีสันสวยงาม แปลกตา นัยน์ตาจะเป็นวงแหวน สีทับทิม ในขณะที่ตัวเมียจะไม่มีวงแหวน และมีดวงตาเป็นสีทับทิมทั้งหมด ส่วนสีตัวเมียจะเป็นสีพื้นเทา-น้ำตาลธรรมดาทั่วทั้งตัว ซึ่งผิดกับตัวผู้ที่มีสีสันโดดเด่นจึงดูแตกต่างจากตัวเมียอย่างสิ้นเชิง
ในขณะที่เป็นลูกไก่ฟ้าทั้งตัวผู้และเมีย สีตัวจะออกเทา-น้ำตาลไม่มีสีสันสวยงาม เมื่อโตขึ้นตัวผู้สีขนจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงตอนอายุประมาณ 4-5 เดือน และสามารถดูเพศออก ประมาณอายุ 3 เดือน อย่างสายพันธุ์ Golden, Yellow, Lady สามารถแยกเพศได้ตั้งแต่อายุ 2-3 เดือน โดยดูความแตกต่างที่วงแหวนของดวงตา (ที่กล่าวไว้ข้างต้น) ส่วนสีขนจะค่อยๆ ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งตัวเต็มวัย เฉลี่ยประมาณ 1.5-2 ปี จึงจะออกมาสวยงามได้อย่างที่เห็น
“ผมเห็นไก่ฟ้าแล้วชอบ รู้สึกว่ามันแปลกดี มีสีสันสวยงาม เที่ยวมาดูที่จตุจักรอยู่ 2-3 รอบกว่าจะตัดสินใจซื้อเพราะกลัวโดนหลอก เพราะไก่ฟ้าตอนเล็กๆ ยังไม่มีสีสันสวยงามเหมือนตอนโต พอศึกษาแน่ชัดแล้วจึงตัดสินใจซื้อตัวที่มีราคาถูกที่สุดไปก่อน คือพันธุ์คอแหวน ตอนนั้นคู่ละ 300 บาทเอง อายุประมาณ 3-4 เดือน”
เมื่อลูกน้อยจะเกิด
กว่าจะสวยงามเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้ต้องใช้เวลาอย่างน้อยร่วม 2 ปี แต่บางครั้งความพร้อมที่จะผสมพันธุ์ของไก่ฟ้าอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุเสมอไป แต่ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งโดยทั่วไปไก่ฟ้ามีความพร้อมที่จะผสมพันธุ์เมื่ออายุ 2 ปีขึ้นไป และบางทีอายุเพียง 1 ปีครึ่งก็สามารถผสมพันธุ์ได้แล้ว แต่ได้ผลไม่ 100% เนื่องจากการผสมอาจจะได้รับเชื้อที่ยังไม่แข็งแรงพอ
ไก่ฟ้าสามารถออกลูกในช่วงหน้าร้อนได้ปีละครั้งเท่านั้น ช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ในระยะ 3-4 เดือนนี้ ไก่ฟ้าจะเริ่มออกไข่ จากนั้นฟาร์มจะใช้เครื่องฟักไข่ช่วยในการฟักเลี้ยง เนื่องจากเมื่อคนนำไก่ฟ้ามาเป็นสัตว์เลี้ยง ทำให้มันลืมพฤติกรรมตามธรรมชาติ เช่น การฟักไข่ และวิธีการเลี้ยงลูก ฉะนั้นจึงมีโอกาสที่จะดูแลไข่ได้ไม่ดีพอ
“น้อยตัวมากที่ฟักไข่เองได้ แทบจะไม่มี แต่ว่าถ้าเราจะทำเพื่อการค้าขายแล้วให้มันกกไข่เองเนี่ย มันจะไม่คุ้มทุนหรอก เพราะมันช้า และไข่น้อย แต่ถ้ามันไข่เราเก็บ ไข่อีกเราเก็บ มันก็จะไข่ได้เรื่อยๆ และสมมติเราจะให้มันกกเองตามธรรมชาติ พอไข่ 5-6 ฟอง มันก็กกล่ะ แล้วมันก็จะไม่ไข่อีก เพราะพวกนี้มันไม่ได้ไข่ทุกวันเหมือนไก่ไข่ มันจะไข่วันเว้นวัน หรือสองวัน-สามวันไข่ ไม่แน่นอน”
วิธีการเลี้ยงแบบฟาร์ม สามารถได้ไข่เฉลี่ยแล้ว 20-30 ฟองต่อปีเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละสายพันธุ์จะไข่ไม่เท่ากัน และมีความน่าจะเป็นในการฟักออกมาเป็นตัวถึง 60-70% มีระยะในการฟักไข่ 21-23 วัน (เหมือนไก่เลี้ยงทั่วไป) ขนาดตัวเต็มวัยไม่เกิน 1 กิโลกรัม โดยเฉลี่ย 700-800 กรัม และมีอายุขัยอยู่ที่ประมาณ 15 ปี
เลี้ยงง่าย ตายยาก
ไก่ฟ้า Golden ถือเป็นไก่ตลาดที่ใครเห็นเป็นต้องติดใจในความสวยงาม แต่การเพาะเลี้ยงบ้านเรายังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก ซึ่งยังอยู่ในเฉพาะกลุ่ม หลายคนอาจกังวลใจถึงวิธีการเลี้ยงที่เห็นขนสีสวยงามอย่างนี้คงต้องมีการดูแลอย่างดีเป็นพิเศษ แต่ที่จริงแล้วไก่ฟ้าเลี้ยงดูง่ายไม่ต่างจากไก่บ้านๆ ที่เราเคยเห็นกัน
“การเลี้ยงไก่ฟ้าต้องเตรียมสถานที่เลี้ยงเบื้องต้นก่อน เริ่มจากพื้นกรงจะใช้เป็นดินหรือทรายก็ได้ เพราะไก่ฟ้าชอบอยู่บนพื้นธรรมชาติ ส่วนกรงควรมีพื้นที่ขนาด 2x3 เมตร ไม่ควรน้อยกว่า 1.5x2 เมตร ถ้าเลี้ยงในพื้นที่จำกัด แต่ห้ามเลี้ยงปล่อยเด็ดขาด เพราะมีโอกาสบินหนีไปโดยไม่กลับมา”
เรื่องอาหารการกิน ถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงง่ายกินง่าย ไก่ฟ้ากินอาหารไม่ต่างจากไก่ธรรมดาทั่วไป จำพวกเมล็ดพืช กล้วย มะละกอ และหญ้า “เลี้ยงเหมือนไก่ไข่ทั่วๆ ไป มันกินน้อย ให้อาหารไก่วันละกำก็ไม่หมดแล้ว จำพวกข้าวโพด ข้าวฟ่างก็กินเหมือนกัน หรือให้ผลไม้สุกๆ เป็นอาหารเสริมก็ได้แล้วแต่จะให้ แต่หลักๆ เป็นอาหารไก่”
ไก่ฟ้ามีโรคหรือสิ่งที่ต้องระวังไหม? “นานๆ จะเห็นไก่ฟ้าป่วยตาย ซึ่งมีอัตราการตายน้อยมาก ถ้าเจ้าของเลี้ยงและดูแลเป็นอย่างดี อย่างเราไม่ได้เลี้ยงรวมกัน แยกเลี้ยงเป็นคู่ๆ จึงทำให้ไก่แข็งแรง ซึ่งไม่เหมือนไก่ไข่ที่เลี้ยงรวมกัน มันก็จะอ่อนแอ”
“ตอนนี้มีไก่ฟ้าหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น Golden, Yellow, Lady, ไก่ฟ้ารีฟ, ไก่ฟ้าคอแหวน, ไก่ฟ้าหน้าเขียวบอร์เนียว, ไก่ฟ้าสวินโฮล, ไก่ฟ้าพญาลอ, ไก่ฟ้าหลังขาว, ไก่ฟ้าหลังเทา นอกจากนี้ยังมี นกยูงอินเดีย, หงส์ขาว และหงส์ดำ ทั้งหมดประมาณ 40-50 คู่ เมื่อก่อนมีเป็นร้อย แต่ขายออกไปเยอะ เมื่อวิกฤตน้ำท่วมก็ตายไปอีก ถ้าปกติไม่มีอะไรมากระทบมันเลย ปีหนึ่งจะได้ลูกถึง 300-400 ตัว แต่ถ้าปีไหนอากาศแปรปรวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว การผสมพันธุ์จะไม่ค่อยได้ผล เพราะร่างกายปรับตัวไม่ทัน สภาพอากาศจึงมีส่วนสำคัญมาก”
ขายเป็นรายได้หลัก
จะมีสักกี่อาชีพเสริมที่สร้างรายได้มากกว่างานหลัก ซึ่งเป็นงานประจำที่ทุ่มเทแรงกายทำมานานหลายปี แต่คุณบี เจ้าของร้านไก่ฟ้า ได้ค้นหาสิ่งที่เขารักและชอบเจอก่อนใคร จนถึงวันนี้ผ่านมา 20 ปีแล้วที่เขาทุ่มเททั้งแรงกาย-แรงใจเพื่อทำสิ่งที่รักนั้น การเกิดขึ้นของ “ฟาร์มไก่ฟ้า” จึงกลายเป็นงานอดิเรก ทั้งยังสร้างเม็ดเงินได้ไม่น้อย
“ย้อนไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ไก่ฟ้ามีราคาถูก คู่ละไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งต่างกันมากกับปัจจุบัน จากที่ซื้อมาทีละคู่ จนมีพ่อแม่พันธุ์ทั้งหมดประมาณ 10 คู่ และพอได้ลูก จึงมาเช่าพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรขาย คิดเป็นเงินลงทุนค่าตัวไก่ฟ้า ประมาณ 10,000 กว่าบาท และมาเริ่มขายอย่างจริงจังเมื่อปี 2539-2540 ถึงแม้จะเป็นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ไก่ฟ้ากลับขายดีอย่างไม่น่าเชื่อ”
“มันวิกฤตสำหรับคนบางกลุ่มเท่านั้น คนที่มั่นคงไม่สะเทือนหรอก กลายเป็นว่าของฟุ่มเฟือยขายดี พูดง่ายๆ เลย ระดับคนมีตังค์จะซื้อ คนอยู่ในระดับกลางขึ้นไปจะขายได้เยอะ ลูกค้าที่เคยมาซื้อเป็นระดับมหาเศรษฐีก็มี ซื้อทีหนึ่ง 4-5 แสนบาท เศรษฐีชอบเลี้ยงสัตว์แปลกๆ หายาก ที่ไม่มีใครมี แต่เขามี และนายแบงก์ก็เลี้ยงเยอะเหมือนกัน”
ราคาขายไก่ฟ้า Golden ขึ้นอยู่กับอายุของแต่ละตัว ตกคู่ละ 6,000-7,000 บาท (อายุ 1.5 ปีขึ้นไป) เมื่อเต็มวัยจะมีสีสันสวยงาม แต่ส่วนใหญ่จะเริ่มขายเมื่ออายุ 3 เดือน ราคาประมาณตัวละ 1,000 บาท เพราะลูกค้านิยมเลี้ยงไซส์เล็กตั้งแต่เด็กมากกว่า
นอกจาก Golden ไก่ฟ้าสายพันธุ์ต่างประเทศ จะขายดีกว่าสายพันธุ์อื่นๆ แล้ว Yellow และ Lady ก็มีกลุ่มลูกค้าสนใจเป็นอันดับรองลงมา จึงถือว่าเป็นไก่ฟ้าตลาดที่คนนิยมเลี้ยงเป็นอันดับต้นๆ ในตอนนี้
“ลูกค้ามีทั้งคนไทยและต่างชาติ คิดเฉลี่ยประมาณ 70:30 ได้ คนไทยเยอะกว่า เนื่องจากลูกค้าต่างชาติมักมีปัญหาเรื่องการขนส่ง ส่วนใหญ่จะเป็นประเทศอินโดนีเซีย อินเดีย ปากีสถาน คูเวต ดูไบ พวกนี้จะชอบมาก ถ้าเป็นประเทศเพื่อนบ้านก็จะเป็นมาเลเซีย เวียดนาม ซึ่งเขามีไก่ฟ้าน้อยกว่าบ้านเรา แต่เราก็มีไม่มากเท่าประเทศจีน และประเทศแถบยุโรป อย่างฮอลแลนด์ เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี ซึ่งเขาทำเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงเพื่อส่งออกเป็นธุรกิจอย่างจริงจังเลย”
“ลูกค้าคนไทยที่ซื้อไป เมื่อได้ลูก ทางร้านยินดีรับซื้อคืน ซึ่งฟาร์มใหญ่ๆ ในประเทศไทยก็มีเพียงไม่กี่ฟาร์มเท่านั้น เพราะบางคนเห็นว่าเมื่อทำเป็นธุรกิจมันจะไม่คุ้ม เพราะออกไข่แค่ปีละครั้งเท่านั้น จึงต้องเลี้ยงในระบบฟาร์ม ถ้าไม่มีใจรักจริงก็เลี้ยงกันไม่ได้ การได้ลูกจึงเป็นผลพลอยได้ แต่ถ้าคิดเล็กคิดน้อยอย่างนักธุรกิจ คงทำกำไรให้ไม่ได้ขนาดนั้น”
แต่อย่ามองข้ามธุรกิจเล็กๆ อย่างนี้ เพราะทุกวันนี้คุณบียืนยันว่ามีรายได้จากการขายไก่ฟ้ามากกว่างานประจำเสียอีก จากที่เคยเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม แต่ตอนนี้ร้านไก่ฟ้าของเขากลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้หลักให้แก่ครอบครัวได้
ถ้าใครสนใจอยากเลี้ยงไว้ดูเล่น หรือต้องการขอคำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยง ติดต่อได้ที่ คุณบี เจ้าของร้านไก่ฟ้า จตุจักรพลาซ่า โซน D83 ซอย 9โทร. 08-1826-1633
จากสัตว์ป่า...สู่สัตว์เศรษฐกิจ
"ไก่ฟ้า" ที่ปัจจุบันกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าจับตา เมื่อสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ หรือ สพภ.(องค์กรมหาชน) เข้ามาส่งเสริมการเพาะเลี้ยงในเชิงพาณิชย์แก่เกษตรกรและผู้สนใจเพื่อสร้างรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
หลังมีการประกาศตามกรอบเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 กำหนดให้ไก่ฟ้าเป็นหนึ่งในสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวน59 ชนิดที่สามารถนำมาเพาะเลี้ยงในเชิงพาณิชย์ได้ ไก่ฟ้าชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ฟ้าหลังขาว ไก่ป่า ไก่จุก นกยูงไทย เป็นต้น
นอกจากนี้ไก่ฟ้ามีทั้งชนิดที่สามารถเลี้ยงได้อย่างเสรี ได้แก่ ไก่ฟ้าสายพันธุ์ต่างประเทศ เช่น ไก่ฟ้าโกลเด้น ไก่ฟ้าเยลโล่ ไก่ฟ้าเลดี้ ไก่ฟ้ารีฟ ไก่ฟ้าคอแหวน นกยูงอินเดีย ไก่ฟ้าหน้าเขียวบอร์เนียว ไก่ฟ้าสวินโฮล เป็นต้น
ไม่ว่าจะเลี้ยงไก่ฟ้าไว้ดูเล่นเพื่อความสวยงามหรือเลี้ยงในเชิงธุรกิจการค้า จึงสามารถทำได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นไก่ฟ้าสายพันธุ์ต่างประเทศที่เพาะเลี้ยงได้เลย หรือไก่ฟ้าไทยซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ก็สามารถหาซื้อได้จากส่วนราชการ (กรมอุทยานฯ) หรือภาคเอกชนที่ได้รับอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าและค้าสัตว์ป่าฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
วัยเจริญพันธุ์ 2 ปีขึ้นไป
จำนวนไข่ 20-30 ฟอง/ปี
มีระยะในการฟักไข่ 21-23 วัน
น้ำหนักโตเต็มวัย ประมาณ 700-800 กรัม
อายุขัยเฉลี่ย 15 ปี
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย พงศ์ศักดิ์ ขวัญเนตร