ASTVผู้จัดการรายวัน - ตำรวจบางชัน คุมตัว"อ๊อด บางกรวย”ผู้ต้องหาค้าซากเสือโคร่ง ฝากขังค้านประกันหวั่นหลบหนี คำฟ้องชัด ซากของกลางเป็นของผู้ต้องหา แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธ ญาติหอบเงินสด1.5 แสนบาทยื่นขอประกัน ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวออกไป แฉซื้อเสือแก่มาในราคา 1 ล้าน เมื่อชำแหละออกจำหน่ายแล้ว จะได้กำไรถึง 6 แสนบาท
วานนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สน.บางชัน พ.ต.อ.ดร.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ ผกก.สน.บางชัน ร.ต.อ.ธวัชชัย มานันตพงษ์ พงส.(สบ 1) สน.บางชัน นำตัวนายธนานุวัฒน์ หรืออ๊อด บางกรวย ผู้ต้องหาคดีครอบครองซากสัตว์ป่าสงวนมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวไปฝากขัง โดยนายอ๊อดยังให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะวันเกิดเหตุตนอยู่ช่วยงานศพที่วัดสนามนอกใน จ.นนทบุรีทั้งวัน
นายธนานุวัฒน์กล่าวว่า ที่รู้จักกับนายยูซุป หนึ่งในผู้ต้องหานั้นรู้จักกันมาประมาณ 6-7 ปี เนื่องจากนายยูซุปทำธุรกิจเกี่ยวกับค้าพลอยที่ อ.แม่สอด ซึ่งมักเดินทางไปบ่อยๆ เพื่อซื้อลูกปูจากฝั่งพม่ามาขายตามฟาร์มต่าง ๆจนสนิทสนมคุ้นเคย ส่วนตัวก็ทำธุรกิจเพาะพันธุ์ลูกจระเข้ส่งขาย โดยบ้านหลังที่ตำรวจเข้าตรวจค้นก็เคยนำซากจระเข้ไปสตัฟ เนื่องจากเจ้าของบ้านเชี่ยวชาญด้านการสตัฟจระเข้ พร้อมยืนยันว่า ถูกกล่าวหาและจะขอต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ เพราะไม่มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าซากสัตว์ และยืนยันว่าไม่เคยมีร้านอาหารสัตว์ป่าอยู่ที่บางกรวย อีกทั้งที่ผ่านมาไม่เคยมีกลุ่มขบวนการค้าสัตว์ป่าข่มขู่ ส่วนคดีที่เคยนำหนังเสือปลอมไปหลอกขายชาวลาวยอมรับว่าเคยทำ แต่ถูกจับเพราะถูกคนลาวให้เงินปลอมมา เมื่อนำไปแลกจึงถูกจับ
ด้าน พ.ต.อ.ศราวุธกล่าวว่า คดีนี้ สน.บางชัน ยังเป็นผู้รับผิดชอบ แต่หากทาง บก.ปทส.ทำเรื่องขอสำนวนคดี มาก็พร้อมที่จะโอนคดีให้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าสำนวนคดีนี้น่าจะเสร็จในอีก 2-3 อาทิตย์ เนื่องจากต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอซากเสือโคร่งจากทางกรมอุทยานและพันธุ์พืช ส่วนของนายยูซุปนั้น หากเจ้าหนาที่พบหลักฐานเพิ่มเติมว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าสัตว์ป่า ก็จะทำเรื่องขอถอนประกันเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีเช่นกัน ทั้งนี้ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.ได้กำชับให้สืบสวนคดีขบวนการค้าสัตว์ป่ากลุ่มนี้อย่างละเอียดรอบคอบเพื่อให้สาวไปถึงผู้บงการได้ เนื่องจากเป็นคดีที่สร้างความเสียหายกับระบบนิเวศ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับซากเสือโคร่ง 2 ตัวที่พบในบ้านหลังเกิดเหตุ เป็นเสือโคร่งของผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งใน จ.นนทบุรี ที่เลี้ยงไว้นานจนเสือเริ่มแก่ นายยูซุปจึงขอซื้อต่อในราคา 1 ล้านบาทเพื่อนำไปชำแหละซากส่งขายต่อ โดยจะได้กำไรไม่ต่ำกว่า 6 แสนบาททีเดียว จากการสอบสวนยังพบอีกว่า มีสถานที่ลักลอบชำแหละสัตว์ป่าคุ้มครองเป็นจำนวนมากใน กทม. โดยจะเปิดเป็นสถานที่ชำแหละซากไก่เพื่ออำพรางชำแหละซากสัตว์ป่าคุ้มครองเหล่านี้ส่งขายต่างประเทศ
ต่อมา ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ พนักงานสอบสวน สน.บางชัน ควบคุมตัวนายธนานุวัฒน์ บุญเพิ่ม หรืออ๊อด บางกรวย อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาความผิดฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.กรมศุลกากร มาขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 19 ก.พ.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ต้องรอสอบสวนพยานเพิ่มเติมและรอผลสอบประวัติอาชญากรผู้ต้องหา ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาเนื่องจากเป็นคดีที่น่าสนใจของประชาชนและผู้ต้องหาให้การปฏิเสธโดยไม่มีพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาอาจหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
คำร้องฝากขังสรุปว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2555 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน บุกจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองฯประกอบด้วย น.ส.ณัฐสุดาพรรณ เรืองศรี อายุ 38 ปี นายยูซุป แซ่ม้า อายุ 61 ปี นายอนุชา แซ่ม้า อายุ 33 ปี นายสมบัติ น้อยชมพู อายุ 49 ปี นางภัทรธมพรรณ มุ่งเกี้ยวกลาง อายุ 40 ปี นางนวล คำจู อายุ 53 ปี และนางบุญชู ขวัญเขียว อายุ 64 ปี ได้ที่บ้านเลขที่ 64/5 ซอยพระยาสุเรนทร์ 12 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.พร้อมของกลางซากเสือโคร่งขนาดใหญ่ ชำแหละแล้วอยู่ในถุงดำ 3 ถุง และซากสัตว์ป่าหายากอีกจำนวนมาก เช่น เสือขาว กระทิง โดยทั้งหมดให้การซัดทอดว่าซากสัตว์ของกลางเป็นของผู้ต้องหา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
ศาลพิจารณาแล้วสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง ต่อมาญาติผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1.5 แสนบาท ขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวออกไปโดยตีราคาประกัน 1.5 แสนบาท
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงวานตำรวจแห่งชาติแถลงว่า ผบ.ตร.ได้สั่งการกำชับให้มีการดำเนินการเกี่ยวกับการทำผิดเรื่องค้าสัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติและพันธุ์พืชต่างๆ อย่างเข้มข้น หากมีกระทำผิดเกิดขึ้น ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.ศุลกากร อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบนานาชาติ เรื่องอาชญากรรมการลักลอบฆ่าสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 9 ก.พ.เวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนจะเริ่มจัดการประชุมขึ้นในวันที่ 13-17 ก.พ.ตั้งแต่เวลา 09.30-15.00 น.ที่โรมแรงดุสิตธานี โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
วานนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สน.บางชัน พ.ต.อ.ดร.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ ผกก.สน.บางชัน ร.ต.อ.ธวัชชัย มานันตพงษ์ พงส.(สบ 1) สน.บางชัน นำตัวนายธนานุวัฒน์ หรืออ๊อด บางกรวย ผู้ต้องหาคดีครอบครองซากสัตว์ป่าสงวนมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวไปฝากขัง โดยนายอ๊อดยังให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะวันเกิดเหตุตนอยู่ช่วยงานศพที่วัดสนามนอกใน จ.นนทบุรีทั้งวัน
นายธนานุวัฒน์กล่าวว่า ที่รู้จักกับนายยูซุป หนึ่งในผู้ต้องหานั้นรู้จักกันมาประมาณ 6-7 ปี เนื่องจากนายยูซุปทำธุรกิจเกี่ยวกับค้าพลอยที่ อ.แม่สอด ซึ่งมักเดินทางไปบ่อยๆ เพื่อซื้อลูกปูจากฝั่งพม่ามาขายตามฟาร์มต่าง ๆจนสนิทสนมคุ้นเคย ส่วนตัวก็ทำธุรกิจเพาะพันธุ์ลูกจระเข้ส่งขาย โดยบ้านหลังที่ตำรวจเข้าตรวจค้นก็เคยนำซากจระเข้ไปสตัฟ เนื่องจากเจ้าของบ้านเชี่ยวชาญด้านการสตัฟจระเข้ พร้อมยืนยันว่า ถูกกล่าวหาและจะขอต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ เพราะไม่มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าซากสัตว์ และยืนยันว่าไม่เคยมีร้านอาหารสัตว์ป่าอยู่ที่บางกรวย อีกทั้งที่ผ่านมาไม่เคยมีกลุ่มขบวนการค้าสัตว์ป่าข่มขู่ ส่วนคดีที่เคยนำหนังเสือปลอมไปหลอกขายชาวลาวยอมรับว่าเคยทำ แต่ถูกจับเพราะถูกคนลาวให้เงินปลอมมา เมื่อนำไปแลกจึงถูกจับ
ด้าน พ.ต.อ.ศราวุธกล่าวว่า คดีนี้ สน.บางชัน ยังเป็นผู้รับผิดชอบ แต่หากทาง บก.ปทส.ทำเรื่องขอสำนวนคดี มาก็พร้อมที่จะโอนคดีให้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าสำนวนคดีนี้น่าจะเสร็จในอีก 2-3 อาทิตย์ เนื่องจากต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอซากเสือโคร่งจากทางกรมอุทยานและพันธุ์พืช ส่วนของนายยูซุปนั้น หากเจ้าหนาที่พบหลักฐานเพิ่มเติมว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าสัตว์ป่า ก็จะทำเรื่องขอถอนประกันเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีเช่นกัน ทั้งนี้ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.ได้กำชับให้สืบสวนคดีขบวนการค้าสัตว์ป่ากลุ่มนี้อย่างละเอียดรอบคอบเพื่อให้สาวไปถึงผู้บงการได้ เนื่องจากเป็นคดีที่สร้างความเสียหายกับระบบนิเวศ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับซากเสือโคร่ง 2 ตัวที่พบในบ้านหลังเกิดเหตุ เป็นเสือโคร่งของผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งใน จ.นนทบุรี ที่เลี้ยงไว้นานจนเสือเริ่มแก่ นายยูซุปจึงขอซื้อต่อในราคา 1 ล้านบาทเพื่อนำไปชำแหละซากส่งขายต่อ โดยจะได้กำไรไม่ต่ำกว่า 6 แสนบาททีเดียว จากการสอบสวนยังพบอีกว่า มีสถานที่ลักลอบชำแหละสัตว์ป่าคุ้มครองเป็นจำนวนมากใน กทม. โดยจะเปิดเป็นสถานที่ชำแหละซากไก่เพื่ออำพรางชำแหละซากสัตว์ป่าคุ้มครองเหล่านี้ส่งขายต่างประเทศ
ต่อมา ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ พนักงานสอบสวน สน.บางชัน ควบคุมตัวนายธนานุวัฒน์ บุญเพิ่ม หรืออ๊อด บางกรวย อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาความผิดฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.กรมศุลกากร มาขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 19 ก.พ.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ต้องรอสอบสวนพยานเพิ่มเติมและรอผลสอบประวัติอาชญากรผู้ต้องหา ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาเนื่องจากเป็นคดีที่น่าสนใจของประชาชนและผู้ต้องหาให้การปฏิเสธโดยไม่มีพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาอาจหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
คำร้องฝากขังสรุปว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2555 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน บุกจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองฯประกอบด้วย น.ส.ณัฐสุดาพรรณ เรืองศรี อายุ 38 ปี นายยูซุป แซ่ม้า อายุ 61 ปี นายอนุชา แซ่ม้า อายุ 33 ปี นายสมบัติ น้อยชมพู อายุ 49 ปี นางภัทรธมพรรณ มุ่งเกี้ยวกลาง อายุ 40 ปี นางนวล คำจู อายุ 53 ปี และนางบุญชู ขวัญเขียว อายุ 64 ปี ได้ที่บ้านเลขที่ 64/5 ซอยพระยาสุเรนทร์ 12 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.พร้อมของกลางซากเสือโคร่งขนาดใหญ่ ชำแหละแล้วอยู่ในถุงดำ 3 ถุง และซากสัตว์ป่าหายากอีกจำนวนมาก เช่น เสือขาว กระทิง โดยทั้งหมดให้การซัดทอดว่าซากสัตว์ของกลางเป็นของผู้ต้องหา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
ศาลพิจารณาแล้วสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง ต่อมาญาติผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1.5 แสนบาท ขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวออกไปโดยตีราคาประกัน 1.5 แสนบาท
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงวานตำรวจแห่งชาติแถลงว่า ผบ.ตร.ได้สั่งการกำชับให้มีการดำเนินการเกี่ยวกับการทำผิดเรื่องค้าสัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติและพันธุ์พืชต่างๆ อย่างเข้มข้น หากมีกระทำผิดเกิดขึ้น ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.ศุลกากร อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบนานาชาติ เรื่องอาชญากรรมการลักลอบฆ่าสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 9 ก.พ.เวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนจะเริ่มจัดการประชุมขึ้นในวันที่ 13-17 ก.พ.ตั้งแต่เวลา 09.30-15.00 น.ที่โรมแรงดุสิตธานี โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน