จะไม่เสียดายเงิน 499 บาทเลย ถ้าแวะมากินบุฟเฟต์ชาบูสไตล์ไต้หวันกันที่นี่ ด้วยเวลาไม่จำกัดในการลิ้มน้ำจิ้มรสเด็ด น้ำซุปรสนุ่ม และเนื้อนำเข้าคุณภาพเยี่ยม ก็ทำให้ยิ้มรับท้องตึงๆ ได้สบายๆ ด้วยคำสั้นๆ ง่ายๆ ว่า “อร่อย” และ “คุ้ม”
หลายคนคงคุ้นเคยกับอาหารประเภทสุกี้ ชาบู และจุ่มแซบกันดีอยู่แล้ว เพราะมีร้านประเภทนี้เปิดให้ชิมอยู่หลายที่หลากสไตล์ด้วยกัน แต่สำหรับ “ชาบูสไตล์ไต้หวัน” แท้ๆ คงมีน้อยคนนักที่เคยลิ้มลอง ส้ม-กมลธร ปริสัญโญดม เจ้าของร้านผู้รักการกินสุกี้และมีโอกาสไปเที่ยวไต้หวันอยู่บ่อยๆ จึงหอบเอาความประทับใจในรสชาติดั้งเดิมที่หากินได้ยากกลับมาฝากคนไทยด้วย โดยเฉพาะน้ำจิ้มสูตรเด็ดและเซตอร่อยสัญชาติไต้หวันที่รับรองว่าหากินจากที่อื่นไม่ได้แล้ว
“พอได้ไปเที่ยวที่ไต้หวันก็รู้สึกติดใจชาบูของเขา เลยไปหาสูตรแล้วก็ทำกินเองที่บ้าน พอกินเราก็คิดว่าเอ้อ! มันอร่อยนะ (หัวเราะ) คนอื่นน่าจะได้กินด้วย ก็เลยหาทำเล เปิดร้านเสียเลย” เจ้าของร้านวัย 38 พูดถึงที่มาที่ไปของร้านบนทำเลทองย่านพระราม 9 แห่งนี้
“จริงๆ แล้วสุกี้ไทยกับไต้หวันก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ แต่ต่างกันที่น้ำจิ้ม” คุณส้มบอกอย่างนั้น ว่าแล้วก็หยิบน้ำจิ้มสูตรดั้งเดิมจากไต้หวันมาให้ได้ชิม ซึ่งชื่อของมันคือ “น้ำพริกผัด” ดูภายนอกแล้วหน้าตาคล้ายๆ น้ำพริกเผาบ้านเรา แต่รสชาติต่างออกไป ไม่หวานนำ แต่มีความมันและเค็มนิดๆ ที่ปลายลิ้น นำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผสมเป็นน้ำจิ้มรสเด็ด แค่เติมพริก กระเทียม ต้นหอม น้ำส้มสายชู และโชยุจากรวงเครื่องปรุงในอัตราที่ต้องการ เสร็จแล้วจ้วงน้ำพริกผัดเข้าไปคลุกเคล้า ก็จะได้รสมันๆ เค็มๆ ปนเปรี้ยวนิดๆ จิ้มกินกับเนื้อแบบไหนก็ไม่มีเลี่ยนรับรองได้
นอกจากน้ำจิ้มรสดั้งเดิมจากไต้หวันแล้ว ทางร้านยังมีอีกหลากหลายรสชาติให้ลิ้มลอง ทั้งน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดของไทยเราเอง, น้ำจิ้มสุกี้รสกลมกล่อม และน้ำจิ้มงาบดละเอียดเข้าเนื้อตามสไตล์ญี่ปุ่น ชอบแบบไหนก็เลือกจิ้มจุ่มสลับกันไปแก้เบื่อได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าทางร้านรู้จักนำจุดแข็งของชาบูมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เพราะน้ำจิ้มคือความประทับใจแรกที่จะตัดสินได้ว่าจุ่มแซบร้านไหนเด็ดจริง
องค์ประกอบในการตัดสินความอร่อยรองลงมาคือเรื่องน้ำซุป ที่นี่เน้นขายน้ำซุปน้ำใส เป็นต้มซุปโครงไก่สูตรดั้งเดิม ใช้เวลาเคี่ยวอย่างต่ำ 5 ชั่วโมง ไม่ใส่ผงชูรส ทั้งยังประกอบไปด้วยส่วนผสมอันหลากหลาย หากชิมดีๆ จะได้กลิ่นแอปเปิลและปลาแห้งอยู่ในน้ำ ถือเป็นสูตรลับเฉพาะที่ปรุงกินเองในบ้านสไตล์ชาบูโฮมเมดจริงๆ
“ปกติกินที่บ้านใส่ปลาหมึกลงไปเคี่ยวด้วยนะ ใส่แล้วน้ำจะหวานมากๆ แต่เกรงใจลูกค้าส่วนใหญ่ที่อาจจะไม่ชอบกลิ่นแรงๆ ของปลาหมึก เลยใส่แค่ปลาแห้งให้แทนค่ะ แต่ถ้าใครมาแล้วอยากได้ปลาหมึกเหมือนกัน บอกได้นะ เดี๋ยวจัดให้ (ยิ้มใจดี) เราชอบกินยังไง เราก็อยากให้ลูกค้าได้กินอย่างนั้น ทำแบบให้ใจคนกิน ไม่ใช่สักแต่จะขายอย่างเดียว” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะแม้แต่เรื่องผัก คุณส้มยังเลือกแล้วเลือกอีก กระทั่งผักกาดขาวที่ใช้ก็ต้องเป็นยอดผักเท่านั้น “ราคามันต้องมาพร้อมคุณภาพอยู่แล้ว” เธอย้ำอีกครั้งด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
พูดถึงน้ำจิ้มรสเด็ด น้ำซุปรสนุ่มกันไปแล้ว แต่สุดท้ายถ้าเนื้อที่นำมาขายคุณภาพไม่ถึงก็ไม่อาจเรียกว่าเป็นชาบูได้อย่างแท้จริง เทียบกับราคาค่าหัว 499 บาทแล้ว หลายคนคงคิดแล้วคิดอีกว่าจะลองดีไหม แต่ถ้ารู้ว่ามีเนื้อพวกนี้ในรายการด้วยจะบอกว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
เริ่มตั้งแต่เมนูเพื่อคนรักเนื้ออย่าง “โคขุนเกรดสูง” ชิ้นใหญ่เฉือนบางได้ขนาด นำลงไปจุ่มในซุปเดือดๆ ชั่วพริบตา ให้สัมผัสเนื้อนุ่มฟู เคี้ยวทีเต็มปากเต็มคำเกินห้ามใจ และ “เนื้อ US” นำเข้าจากอเมริกา มีชั้นติดมันตัดสลับชั้นเนื้อ เคี้ยวแล้วนุ่มๆ หยุ่นๆ แถมกลิ่นไม่แรงกวนใจ นักชิมที่ไม่ถนัดกินเนื้อจะเริ่มลองที่นี่ก็ได้ ถือเป็น First Impression ที่ดีทีเดียว
แม้แต่ “เนื้อแกะ Aus” (นำเข้าจากออสเตรเลีย) ที่ว่ากลิ่นแรงและกินยาก ทางร้านยังปราบข้อด้อยเหล่านั้นไว้ได้อย่างอยู่หมัด ทำให้คนที่ไม่เคยลองสามารถกินได้อย่างไม่ลำบากใจแม้แต่นิดเดียว คือเคี้ยวแล้วอาจมีกลิ่นนิดๆ ที่ปลายจมูกพอให้รู้ว่าเป็นเนื้ออะไร แต่ไม่เหม็นสาบจนทนกินไม่ได้อย่างที่เคยเจอในร้านอื่นๆ
นอกจากเนื้อชั้นดีแล้ว จุดขายอีกอย่างคือเซตอร่อยสัญชาติไต้หวัน อย่าง “หมูยอไต้หวัน” ที่เนื้อแน่นเคี้ยวเพลิน, “ลูกชิ้นหมู” สูตรไต้หวันไม่ติดแป้งให้กวนใจ, “ปลาสวรรค์” ก็น่าลิ้มลอง โดยเฉพาะ “เกี๊ยวซ่า” ที่มีเอกลักษณ์มากๆ หลายคนอาจจะเคยชินกับแบบทอดๆ กันมากกว่า แต่ถ้าได้ลองเกี๊ยวซ่าชาบูจะรู้ว่าเด็ดไม่แพ้ใครเหมือนกัน ยิ่งแช่เอาไว้ในน้ำซุปนานเท่าไหร่ ความหวานยิ่งซึมลึกลงไปในเนื้อแป้งมากเท่านั้น บวกกับรสเผ็ดของพริกไทยที่ผสมไว้ได้อย่างลงตัว รับรองว่าเซตนี้ทั้งเซตหากินที่อื่นแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ
ชุดอาหารทะเลก็มีเหมือนกัน อย่าง “หอยเชลล์” แค่เห็นครั้งแรกก็ต้องตะลึงเพราะแต่ละตัวชิ้นใหญ่มาก ทั้งยังสดใหม่เพราะขนมาจากแหล่งในต่างจังหวัดเองอาทิตย์ละสองรอบ รสชาติจึงไม่จืดชืดเหมือนแบบฟรีซทั่วๆ ไป ต่อด้วย “ลูกชิ้นกุ้งสด” ที่ผสมเนื้อกุ้งและหมูสับเสิร์ฟมาเป็นถ้วย ต้องการกินชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ก็ปั้นแล้วโยนลงไปในหม้อให้เดือดได้ตามใจ ส่วนเรื่องรสสัมผัสขอบอกว่าเด้งดึ้งได้ใจทั้งหมูทั้งกุ้งจริงๆ
พูดถึงเมนูเบาๆ อย่างเนื้อปลากันบ้าง ที่เด่นๆ ก็มี “แซลมอน” และ “ดอรี” ซึ่งคัดมาอย่างดี โดยเฉพาะอย่างหลังที่เลือกแล้วเลือกอีก เพราะส่วนตัวแล้วคุณส้มไม่ชอบรสชาติของปลาดอรีเท่าไหร่ บอกว่าส่วนใหญ่ที่เคยชิมให้รสชาติเหมือนปลาน้ำกร่อย เจ้าตัวจึงพยายามไปเฟ้นหาจนได้อย่างที่ถูกปาก ต้องบอกว่าร้านนี้เขาทุ่มทั้งตัวทุ่มทั้งทุนเลยทีเดียว
กินกันจนพุงกาง มาตบท้ายด้วยของหวานล้างคาวกันเสียหน่อย “ถั่วแดงไข่มุก” เป็นตัวเลือกปิดท้ายที่น่าประทับใจจริงๆ ปกติแล้วเวลาสั่งของหวานจะเห็นถั่วแดงอยู่คู่กับไอศกรีมหรืออยู่เดี่ยวๆ เสียมากกว่า แต่นี่หยิบมาจับคู่กับ “ไข่มุกไต้หวัน” ได้อย่างลงตัว ลิมิตอยู่ที่คนละถ้วย แต่แค่ถ้วยเดียวก็เกินพอแล้ว
ถ้าแวะมาช่วง 11.00-14.00 น. ยังไม่พร้อมกินอิ่มแบบไม่อั้น จะเลือกสั่งเซตกลางวันมากินก็ยังได้ มีทั้งชุดไก่ ชุดหมู ชุดเนื้อ และชุดซีฟูด ส่วนคอบุฟเฟต์ที่มีงบไม่พอสั่งชุดใหญ่ จะเริ่มที่ชุดเล็กราคา 299 ก่อนก็ได้ แต่คงต้องทำใจเสียหน่อย เพราะถึงแม้ราคาจะถูกลงไปครึ่งหนึ่งก็จริง แต่กินได้เฉพาะเนื้อหมูและไก่เท่านั้น เซตเนื้อคุณภาพซึ่งเป็นจุดขายของร้านอย่างเนื้อวัว เนื้อแกะ และเซตลูกชิ้นไต้หวัน คงไม่มีโอกาสได้ลิ้มลอง เพราะฉะนั้นไหนๆ ก็มาถึงที่แล้ว แนะนำให้จัดชุดใหญ่ 499 บาทไปเลยดีกว่า ไม่เช่นนั้นเห็นคนอื่นกินอย่างเอร็ดอร่อยแล้วเกิดน้ำลายสอขึ้นมา จะหาว่าไม่เตือน
“Zuki Zuki (Authentic Taiwanese Hotpot)”
ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของโครงการ The Nine (Neighborhood Center) ถนนพระราม 9 บนร้านแมคโดนัลด์
ดูแผนที่ได้ที่ http://www.thenine.co.th/th/contact/
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-22.00 น.
เบอร์ติดต่อ 02-716-7891, 08-1805-7115
5 อันดับเมนูคุณภาพ!
1. เนื้อแกะ Aus : รสสัมผัสนุ่มเนื้อแน่น มีกลิ่นเนื้อแกะนิดๆ กลิ่นไม่แรง
2. โคขุนเกรดสูง : เฉือนบางได้ขนาด จุ่มร้อนเนื้อนุ่มฟู เต็มปากเต็มคำ
3. เนื้อ US : ชั้นมันสลับชั้นเนื้อ นุ่มๆ หยุ่นๆ เคี้ยวเพลิน
4. เซตอร่อยสัญชาติไต้หวัน : หมูยอ ลูกชิ้นหมู เกี๊ยวซ่า ปลาสวรรค์ โดนทุกแบบจริงๆ
5. เซตอร่อยจากทะเล : ลูกชิ้นกุ้งสด หอยเชลล์ แซลมอน ดอรี เด็ดๆ ทั้งนั้น
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย... พลภัทร วรรณดี