เพิ่งผ่านพ้นวันวาเลนไทน์กันมาได้ไม่กี่วัน ยังขออินกับกระแสวันแห่งความรักกันอีกนิด เชื่อว่าใครหลายๆ คนคงอยากมีความรักที่ดี มีความรักที่สมหวังกันทั้งนั้น แต่พวกเขาเหล่านั้นจะมีวิธีอย่างไรหล่ะ ก็คงไม่พ้นเรื่องที่พึ่งทางจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการบนบานสารกล่าวกับเหล่าเทพ เทวดาทั้งหลายทั้งปวง แล้วเมื่อพูดถึงเทพที่เกี่ยวข้องกับความรัก ใครๆ ก็คงจะนึกถึง ‘พระตรีมูรติ’ เทพแห่งความรักที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณลานหน้าห้างอิเซตัน เซ็นทรัลเวิลด์ย่านราชประสงค์
เทพแห่งความรัก
ย่านใจกลางเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร แหล่งการค้าที่ใครๆ ก็รู้จักอย่าง ราชประสงค์ ที่มีห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ตั้งตระหง่านเคียงคู่กับห้างอิเซตัน ซึ่งที่นี่นอกจากจะเป็นแหล่งสะพัดเงินชั้นดีแล้วยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ถึง 2 องค์อีกด้วยโดยเป็นเทวาลัยแห่งเทพ 2 องค์ที่ผู้คนต่างเคารพนับถือนั่นคือเทวาลัยแห่งองค์พระตรีมูรติ - เทพผู้ดลบันดาลความรัก และเทวาลัยแห่งองค์พระพิฆเนศ - เทพผู้ประทานความสำเร็จ
‘พระตรีมูรติ’ นั้น เป็นรูปหนึ่งของพระวิษณุ (นารายณ์) ที่รวมเทพทั้งสามไว้ในพระองค์ มีพระเศียร 3 เศียร แทนพระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ มีสุนัข 4 ตัวติดตาม สุนัขเป็นตัวแทนพระเวททั้ง 4 และมีแม่โคศักดิ์สิทธิ์ ติดตามด้วย1 ตัว เสมือนเป็นการรวมพลังของเทพเจ้าทั้งสามได้แก่ พระพรหม พระอิศวร (ศิวะ) และพระวิษณุ (นารายณ์) ไว้ในรูปเดียวหรือร่างเดียว อาวุธและพาหนะที่ปรากฏในภาพ คือ อาวุธและพาหนะประจำองค์เทพเจ้าทั้ง 3 องค์นั่นเอง
อาจกล่าวได้ว่าพระตรีมูรติมีพลังของเทพเจ้าทั้ง สามในรูปเดียวคือ การสร้างโลก (สฤษฏิ) เป็นพลังของพระพรหม รักษาโลก (สถิติ) เป็นพลังของพระวิษณุ (นารายณ์) และทำลายโลก (ประลัย) เป็นพลังของพระอิศวร (ศิวะ) การรวมตัวกันของ ‘พลังทั้งสาม’ คือการแสดงออกของปรมาตมันพลังอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้าในสรรพสิ่ง
ในอดีตนั้น พระตรีมูรติ คือเทพพารักษ์ประจำวังเพ็ชรบูรณ์ (เพชรบูรณ์) มาก่อน ซึ่งเดิมที่ตั้งของพระตรีมูรติและเซ็นทรัล เวิลด์ พล่าซ่า นั้น ได้ตั้งอยู่บนพื้นที่ของวังเพ็ชรบูรณ์เดิม และมีเรื่องร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระตรีมูรติว่า ในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 วังเพ็ชรบูรณ์ได้รอดพ้นความเสียหายมาได้อย่าง ปาฏิหาริย์ ทั้งๆ ในช่วงเวลานั้นมีสงครามและได้มีการทิ้งระเบิดลงกรุงเทพฯ และบางส่วนตกลงมาบริเวณวัง แต่ปรากฏว่าระเบิดนั้นไม่ระเบิด และมิได้ทำความเสียหายใดๆ ให้แก่วังเพ็ชรบูรณ์เลย ทำให้หลายคนแปลกในปาฏิหาริย์ครั้งนั้นมาก
สำหรับความเชื่อเรื่องที่พระตรีมูรติเป็นเทพเจ้า แห่งความรักที่สามารถดลบันดาลให้ชาย-หญิงสมหวังในรักนั้น ไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามาจากสาเหตุใด แต่กระนั้นในทุกค่ำคืนของวันพฤหัสบดี เวลา 21.30น.ซึ่งเชื่อว่าเป็นเวลาดี-เวลามงคลที่เทพจะเสด็จลงมาจากสรวงสวรรค์ลงมาประทานพรให้ผู้ที่มาวิงวอน จะมีผู้คนที่อยากสมหวังในความรักพากันมาอธิษฐานจิตขอพรให้สมหวังในความรักในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขอให้แฟนเก่ากลับมาหา ขอให้เจอคู่แท้ที่หามานานหรือขอให้ได้แต่งงานไวๆ ต่างก็นำดอกไม้ ธูปเทียนและผลไม้ต่างๆมาบนบาน
สิ่งที่ควรปฏิบัติ
ขั้นตอนในการกราบไหว้ขอพรตามคติพราหมณ์ ให้บูชาองค์พระพิฆเนศก่อน เนื่องจากถือว่าพระพิฆเนศเป็นเทพองค์สำคัญในการประกอบพิธีต่างๆ จากนั้นจึงจุดธูปเทียน ตั้งจิตอธิษฐาน ท่องคาถาบูชา และถวายดอกไม้หรือสิ่งของอื่นๆ แด่พระตรีมูรติตามลำดับ
สิ่งของที่ใช้ในการบูชาได้แก่ ดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก พวงมาลัยกุหลาบ 1 พวง ธูปสีแดง 9 ดอก เทียนสีแดง 1 เล่ม (คนที่มีคู่แล้วใช้เทียน 2 เล่ม) สิ่งของอื่นๆ ที่มีสีแดง หรือสิ่งที่ท่านโปรด เช่น ปูนปั้นรูปสุนัขและวัว น้ำผึ้ง น้ำอ้อย นมสด และของหวาน (ห้ามนำอาหารคาวไปถวาย) สิ่งของเหล่านี้ควรเตรียมไปด้วยตนเอง หรือหากไม่สะดวก พ่อค้าแม่ค้าบริเวณนั้นก็มีบริการจำหน่าย แต่บางร้านอาจตั้งราคาแพงกว่าปกติ ควรพิจารณาให้ดี
คาถาบูชาพระตรีมูรติ
ตรี สัตกุรุ ทัตตาเตร ยายะ นะมะหะ (3จบ)
สาธุ สาธุ สาธุ อุกาสะ ข้าแต่องค์พระตรีมูรติผู้ยิ่งใหญ่
ข้าพเจ้า.................. (ชื่อ นามสกุล ที่อยู่)
กราบเบื้องบาทแด่พระองค์ท่านแล้ว พระองค์เคยประทานพรแด่ทวยเทพทั้งหลาย ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบทั้งหลาย
บัดนี้ ข้าพเจ้ามากราบพระบาทพระองค์แล้ว จึงขอพรจากพระองค์ซึ่งประทานไว้ ณ บัดนี้ (ขอพร........)
เตสัง อัมหากัง พรใดอันประเสริฐจงมาบังเกิดแก่ข้าพเจ้า
ตุมหากัง และจงบังเกิดแก่ผู้คุ้มครองข้าพเจ้า
ทีฆายุกา มหาปัญญา มหาโภคา มหายะสา มหาลาภา ปัญจวีสติ ภยันจะ ทวัตติงสะ
ฉันนะวุฒิติโรคัญจะ โสระสะ อุบัติอันตรายยัญจะ อัยยัญติกะ
อันตรายยัญจะ พาหิระ อันตรายยัญจะ วิระหิตะวา
โหตุ ยาวะชีวัง พระวิสตีติ (พระตรีมูรติ)
ลานขอความรัก
ในบริเวณเทวาลัยของพระตรีมูรติยามค่ำคืนนั้น มีผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคู่รักวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา รวมถึงคนวัยทำงาน ผู้คนหลากหลายวัย หลากหลายอาชีพ ต่างมารวมตัวกันที่นี่ เพื่อที่จะมาขอพรในเรื่องของความรักของพวกเขาเอง บรรยากาศภายในนี้ ล้วนเต็มไปด้วยควันธูป ลอยตลบอบอวล มีดอกกุหลาบวางอยู่อย่างล้นหลาม และแรงศรัทธาของความเชื่อ
อย่างกับพรพิมล ไม้แก่น ที่ตั้งใจมาไหว้ขอพรพระตรีมูรติที่นี่โดยเฉพาะ เธอบอกว่า
“วันนี้มาขอก็มาขอเรื่องความรักกับเรื่องเรียน เพราะเชื่อว่าพระตรีมูรติเป็นเทพแห่งความรักและความประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ก็ขอให้รักที่เข้ามาเป็นรักดีๆ ค่ะ”
หรือจะเป็น ศิวรัตน์ ภูติวณิชย์ ที่บอกว่า
“มาขอเรื่องความรักค่ะ ก็ไม่รู้จะไปที่ไหนดี เลยมาขอที่นี่ เพราะรู้มาว่าที่นี่เป็นเทพแห่งความรักก็เลยมาขอให้มีรักดีๆ รักกันนานๆ ค่ะ”
แล้วยังมีชาวต่างชาติ อย่าง รีแบก้า (Rebaka) ชาวไต้หวัน ที่มาไหว้ขอพรในเรื่องของความรัก เธอได้บอกว่า
“ได้ยินเกี่ยวกับเทพองค์นี้มาจากเพื่อนๆ ว่า เทพองค์นี้เป็นเทพแห่งความรักใครมาขอความรักที่นี่ส่วนมากจะสมหวัง เมื่อมีโอกาสมาเที่ยวเมืองไทย จึงได้มาไหว้เทพองค์นี้ เผื่อจะสมหวังความรักบ้าง”
อรทัย สอนพวง คนขายดอกไม้ ของสักการะบูชา บริเวณลานเทวาลัย เล่าถึงบรรยากาศที่คึกคักยามค่ำคืนที่ผู้คนต่างทยอยมาขอพรจากพระตรีมูรติว่า
“คนจะเยอะมาก ในช่วงวันพฤหัสฯ ในเวลาสามทุ่มครึ่ง ตามความเชื่อที่ว่าเป็นวันที่เทพจะลงมาในวันและเวลานั้น คนจะเยอะมากๆ ล้นลานเลย แทบไม่มีที่ให้ยืน ส่วนวันปกติ ก็จะมีมาบ้าง กลุ่มที่มาไหว้ก็จะคละๆ กันไป ทั้งวัยทำงานและวัยรุ่นแต่ส่วนใหญ่แล้วนั้น ล้วนมาขอพรเรื่องความรักกันทั้งสิ้น”
ผู้คนที่มาที่นี่ ทุกคนล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยศรัทธาในความรัก พวกเขาจึงได้มาขอพร ณ ที่สถานแห่งนี้ ‘เทวาลัยพระตรีมูรติ’ ดังนั้นคงจะปฏิเสธไม่ได้ที่จะเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า ‘ลานขอความรัก’
>>>>>>>>>>>>>
……….
เรื่อง+ภาพ : อารยา ภู่ผึ้ง