xs
xsm
sm
md
lg

‘วัน’ (อยู่บำรุง) VS วิน (มอ’ไซค์) ยุทธการหนามยอกเอาหนามบ่งมาเฟียวิน?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัญหามาเฟียวินมอเตอร์ไซค์ ถือได้ว่าเป็นเรื่องสีเทาๆ ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานานแสนนาน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บค่าคุ้มครองโดยผู้มีอิทธิพล หรือจะเป็นปัญหาวินเถื่อนซึ่งใน กทม. นั้น มีอยู่นับพันวิน

และมันก็เหมือนกับอีกหลายๆ เรื่อง ที่แม้เห็นกันอยู่ตำตา แต่ว่าไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ถึงแม้ว่าบ้านเมืองเราจะมีกฎหมายและมีผู้บังคับใช้กฎหมายอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดก็ตาม และเมื่อตำรวจไม่สามารถลุยเดี่ยวทำงานให้ลุล่วงได้ตามลำพัง นั่นจึงทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องคิดหาหนทางใหม่ๆ ออกมา

ล่าสุดทางกระทรวงคมนาคมซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหามาเฟียวิน ก็ได้มอบหมายให้ วัน อยู่บำรุง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้เขามาดูแลเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งถ้านึกดูดีๆ มันก็เหมือนกับเป็นการเอาผู้ที่มีอิทธิพลเหนือกว่าไปปราบผู้มีอิทธิพลอยู่กลายๆ

เพราะเอาเข้าจริง ชื่อชั้นของ วัน นั้นใช่ย่อย และถือได้ว่าเป็นผู้กว้างขวางคนหนึ่ง และงานที่เขาได้รับมอบหมายมาครั้งนี้ ก็ดูเป็นเรื่องเป็นราวกว่างานก่อนๆ ของเขามากนัก

ก็ใครเลยจะคิด ว่าวันหนึ่ง ‘มิสเตอร์ส้วม’ จะได้กลายร่างมาเป็น ‘มิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์’ และบุญพาวาสนาส่งจนกลายมาเป็นผู้ถือดาบอาญาสิทธิ์เข้ามาห้ำหั่นกับมาเฟียวินมอเตอร์ไซค์ในวันนี้

รูปแบบปัญหามาเฟียวิน

ขั้นแรกมาสำรวจกันก่อนดีกว่า ว่าแท้แล้วปัญหามาเฟียวินนั้นมันมีลักษณะอย่างไรกันแน่

ในประเด็นนี้ สมศักดิ์ นัคลาจารย์ อาจารย์จากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์และสวัสดิการสังคม มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ อธิบายว่า ปัญหามาเฟียวินมอเตอร์ไซค์เป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมไทยมานานแล้ว แก้อย่างไรก็แก้ไม่ตกเสียที เพราะว่าวินมอเตอร์ไซค์เอง ส่วนใหญ่ก็ทำผิดกฎหมายกันเยอะ ฉะนั้นเมื่อทำผิดกฎหมายแล้วคุณจะทำอย่างไรละไม่ให้โดนจับ ก็ต้องหาเส้นสาย และมาเฟียวินมอเตอร์ไซค์ ก็เป็นขาใหญ่ที่คุ้มครองพวกเขาได้เป็นอย่างดี

“พูดถึงเมื่อก่อน เขามีช่องทางของเขา ในวินของเขาจะมีคนประสานว่าใครดูแลใครอยู่ เหมือนเราไปขายของอย่างนี้มันก็ต้องมีจ่ายค่าที่ก่อน ฉะนั้นก็จะมีคนที่เป็นตัวแทนซึ่งก็อยู่ในวินนั้นแหละ ก็ส่งให้แก่คนที่ต่อยอดขึ้นไปจนถึงตัวใหญ่ พวกมอ’ไซค์เขารู้อยู่แล้วว่าจะส่งให้ใคร ส่งกันไปเป็นทอด อาจจะส่งให้ตำรวจหรือให้ใครเครือข่ายอิทธิพลไหนเขาก็จะตัดทอนกันไป”

แต่ระยะหลัง ที่มีการจัดระเบียบวินมอเตอร์ไซค์ ก็ดูเหมือนกลุ่มมาเฟียจะลดลงไปบ้าง เพราะคงต้องยอมรับว่ามันยังมีช่องทางอื่นที่ได้เงินมากกว่า อย่าง รถตู้ ฯลฯ ซึ่งสมศักดิ์ มองว่าเรื่องหาประโยชน์พวกจะปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว

“ปัญหาของมาเฟียของวินมอเตอร์ไซค์นั้นยังมีทับถมอยู่อีกไม่น้อย อย่างปัญหาในเรื่องสถานที่จอดวินมอเตอร์ไซค์ที่ยังไม่สามารถหาสถานที่จอดอย่างถูกต้องอย่างพวกอู่รถเมล์ได้ ต้องไปขอความอนุเคราะห์จากร้านค้าหรือหัวมุมที่รกร้าง ซึ่งถ้ามันถูกต้องใครก็เข้ามาเอาผลประโยชน์ยาก แต่มันไม่ถูกต้องปุ๊บก็มีช่องทางจะเก็บทั้งนั้น”

และแม้ว่าสมัยนี้จะมีวินที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ปัญหาการเก็บค่าคุ้มครองก็ยังไม่หมดไป หนำซ้ำในบางพื้นที่ผู้มีอิทธิพลก็ยังออกมาตั้งวินเถื่อนเพื่อหาผลประโยชน์สู่ตนเองโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายอีกด้วย นี่กระมัง ที่ทำให้กระทรวงคมนาคมต้องออกมาใช้ยุทธการหนามยอกเอาหนามบ่งกับผู้มีอิทธิพลเหล่านี้

หรือจะมีวาระซ่อนเร้น?

ถึงแม้ว่าดูเผินๆ มันจะเป็นการเข้ามาพยายามแก้ปัญหาด้วยวิธีที่แตกต่าง แต่คนที่เจนจัดการเมืองอย่างเฉลิมและลูกชาย เมื่อลงมือขยับตัวแล้ว ก็ยากที่จะเชื่อว่าไม่มีสิ่งที่ลึกลับซับซ้อนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเมื่อเราลองสอบถามความเห็นไปยัง รศ. ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในประเด็นนี้ ก็ได้ความว่า

“ผมว่ามันเป็นเรื่องของการสร้างฐานทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยมากกว่านะ เพราะกลุ่มมอเตอร์ไซค์นั้นเป็นฐานเสียงของพรรคอยู่แล้ว อีกอย่างมันก็เป็นการชงของคุณเฉลิมให้ลูกของเขาเองมีผลงานด้านการเมือง สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูก เพราะถ้าหากคุณเฉลิมจะเข้ามาจัดการปัญหานี้ เขาก็สามารถที่จะเข้ามาสั่งการและดำเนินการได้เลย

“คือใครๆ ก็รู้ว่าปัญหามาเฟียวินมอเตอร์ไซค์นั้น มันไม่ได้มีแต่เฉพาะผู้มีอิทธิพลที่เป็นตำรวจ แต่มันยังมีอีกมากมายหลายกลุ่ม ฉะนั้นการให้ลูกชายเข้ามาทำโดยเชื่อมโยงกับตัวพ่อ ก็น่าจะเป็นเรื่องของการสร้างเครดิต และเป็นเรื่องของการต่อรองผลประโยชน์ ซึ่งอาจจะหมายถึงผลประโยชน์ทางการเมืองหรือเป็นผลประโยชน์ทางด้านอื่นก็ได้ ซึ่งจากการแถลงข่าวเปิดตัวที่ผมดู มันเหมือนกับมีการเตรียมการจัดฉาก แสดงให้ว่ากลุ่มเขามีอำนาจและมีบารมีทางการเมือง”

รศ.ตระกูลยังกล่าวต่อไปอีกว่า กระบวนการสร้างนักการเมืองนั้นมันมีได้หลายทาง และนี่คือกระบวนการสร้างสไตล์ของเฉลิม อยู่บำรุง ส่วนในประเด็นเรื่องการสร้างเครือข่ายนั้น ก็เป็นการเสริมฐานกำลังที่มีอยู่แล้วให้แน่นแฟ้นมากขึ้นไป แต่สุดท้ายแล้วปัญหามันก็ยังไม่ได้หายไปอยู่ดี

“ปัญหาวินมอเตอร์ไซค์ เรื่องอิทธิพลนั้นไม่มีทางแก้ได้ ลองดูภาพรวมทั้งระบบก็ได้ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ รถตู้ล้วนเจอปัญหาคล้ายๆ กัน เพราะสังคมเราเป็นสังคมที่อยู่ได้โดยที่ต้องมีคนคุ้มครอง อย่างมอเตอร์ไซค์นี่น่าสงสารมาก เพราะเขาต้องเจอการเปลี่ยนมือผู้คุ้มครองมาตลอด ขึ้นกับว่ายุคใดสมัยใดใครจะเข้ามา การที่คุณวันเข้ามาก็อาจจะเป็นแค่การเปลี่ยนขอนไม้ขอนใหม่เกาะเท่านั้นเอง”

ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน

แต่ไม่ว่าการเข้ามาของ วัน อยู่บำรุง จะมีวาระซ่อนเร้นและลึกลับซับซ้อนขนาดไหน สิ่งหนึ่งที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ก็คือการลงมือทำงานของ วัน เอง โดยในการทำงานนั้น ขั้นแรกนั้น เขาจะล้างวินมอเตอร์ไซค์เถื่อนไปให้หมด และจะจัดการกับพวกเก็บค่าคุ้มครอง ซึ่งหลายคนเมื่อได้ฟังแล้วก็ถึงกับออกปากปรามาสเลยว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน

“ไม่เชื่อ ผมไม่เชื่อหรอกว่าจะมาดูแลได้ กลัวว่าจะเอาพวกเข้ามาเอง แทนที่จะเอามาปราบพวกวินเถื่อน เพราะที่บ้านเขาก็เคยทำมาก่อน พวกวินทางฝั่งธนฯ นี้ เขาชอบเฉลิมอยู่แล้ว เข้ามาดูแลวินแบบนี้ก็เหมือนกับจะเอามอเตอร์ไซค์เป็นพวกไว้ก่อนเผื่อรัฐบาลหน้า จริงๆ แล้วอยากให้เอาคนอื่นมาทำมากกว่า”

สมชัย (นามสมมติ) วินมอเตอร์ไซค์ย่านฝั่งธนฯ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้ามาทำงานด้านนี้ของวัน แต่กระนั้นก็ยังมีบางคนที่ยังเชื่อในน้ำยาของเขาอยู่บ้าง และพร้อมที่จะให้โอกาสเสมอ ดังเช่นที่ จิรศักดิ์ จารุจินดา บอกกับเราว่า

“ผมเชื่อ เพราะว่าเขาก็เคยดูแลพวกนี้มาก่อน ซึ่งเขาน่าจะเอาอยู่นะ เหมือนหนามยอกเอาหนามบ่งนั่นแหละ คิดว่าน่าจะทำได้ ผมเชื่อและจะรอดูผลงาน”

...........

สุดท้ายแล้วก็คงจะต้องตามดูกันต่อไปว่า การเข้ามาทำงานของ วัน ในครั้งนี้ จะมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันออกมาหรือไม่ เพราะเท่าที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปรับหน้าที่มิสเตอร์ส้วม หรือมิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์ ก็ไม่อาจพูดได้เต็มคำว่ามีผลงานที่เป็นรูปธรรมนำเสนอแก่ประชาชนแต่อย่างใด ซึ่งในครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดี ที่เขาจะได้ออกมาแสดงฝีมือได้เต็มที่

และแน่นอนว่ามันก็เป็นโอกาสที่เขาจะได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้ตนเองเพื่อเติบโตขึ้นมาเป็นนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลตามเส้นทางของพ่อเหลิมที่วางไว้ด้วยเช่นกัน!!!

>>>>>>>>>>>>
……….

เรื่อง : ทีมข่าว CLICK
ภาพ : ธนารักษ์ คุณทน

กำลังโหลดความคิดเห็น