xs
xsm
sm
md
lg

ความสุขของ...เต้ วิทย์สรัช

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“วิทย์สรัช สุขวัฒนศิริ หรือ เต้” นักร้องหนุ่มเสียงนุ่มชวนฝัน ชายหนุ่มที่ออกตัวว่าตัวเองเป็นคนขี้เหงา จึงถ่ายทอดอารมณ์เพลงเหงาเศร้าออกมาจนหัวใจละลายแทบทุกครั้งเมื่อได้ฟังเพลงของเขา ไม่ว่าจะเพลงฮิตติดหูอย่าง ความหวังเล็กเล็ก , รักกันครั้งหนึ่ง..คิดถึงตลอดไป , ที่รักของใครสักคน เป็นต้น

วันนี้เขาวางไมค์มาเปิดเผยความลับที่ยังไม่มีใครทราบว่า เขาเป็นนักสะสมตัวยงกับของสะสมที่เขาบอกว่าเป็นความสุขทางใจหลังจากงานหลักทั้งหน้าที่ผู้บริหารของบริษัท “ศิริวัฒน์” และ “นักร้อง” ที่เป็นหน้าที่หลัก

เส้นทางนักร้อง

ก่อนที่เต้ วิทย์สรัช จะได้ก้าวเข้ามายืนอยู่บนเส้นทางสายนักร้องอย่างเต็มตัว จากการแนะนำของแอน ฐิติมา ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ทำให้เขาได้ทำในสิ่งที่เป็นความชอบและความฝันของเขามาตั้งแต่เด็ก

เต้เล่าว่า ตนเองเกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่ค่อนข้างจะตามใจ อยากได้อะไรก็สามารถหาให้ได้ แต่เมื่อการเข้ามาเป็นนักร้อง ทำให้เขาได้เรียนรู้ว่าการใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ได้สวยงามอย่างที่ผ่านมา การทำงานกว่าจะได้มาเป็นนักร้องผ่านอะไรมามากมาย ผ่านโครงสร้างการทำงาน และเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาต้องรักษาโอกาสและทำสิ่งที่ฝันให้ดีที่สุด

“ผมสัญญากับพี่แอน ฐิติมา ที่เป็นคนแนะนำให้ผมได้เข้ามาทำเพลง พี่เขาก็บอกว่า กลัวเราทนกับแรงต้านของวงการบันเทิงไม่ไหว ก็ขอโอกาสและจะรักษาโอกาส เอาไว้ให้ได้ อะไรที่ไม่ได้ดั่งใจ ไม่ได้ในสิ่งที่เราต้องการก็มองข้าม เราอยู่ในอีกหน้าที่หนึ่งก็ต้องวางตัวใหม่ ”

“การทำงานร่วมกันกับคนจำนวนมาก ผมคิดว่าทุกคนเขามาทำงานของเขา และทุกคนก็คือเพื่อนร่วมงานของผม ซึ่งคนเหล่านี้เขาเองกำลังทำงานให้ผม ก็ต้องให้เกียรติ มีการแชร์ความคิดกัน ความสำเร็จในแต่ละอัลบั้มนั้นไม่ใช่เกิดได้เพราะผมคนเดียว”

ตั้งแต่อัลบั้ม “ที่รักของใครสักคน” ที่ผ่านมาจนกระทั่ง อัลบั้ม “Make a wish” เขาได้มีโอกาสร่วมงานกับโปรดิวเซอร์มืออาชีพมากมาย ขัดเกลาจนกลายออกมาเป็นตัวตนในแนวเพลงของ ชายหนุ่มขี้เหงาที่เฝ้ารอความรัก เพราะเต้ออกตัวว่า เพลงก็เหมือนการถ่ายทอดชีวิตจริงของเขาที่ยังไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของความรัก

“แนวเพลงก็เป็นแนวที่เราชอบ มีความหลากหลายที่ทำให้เราได้ออกความเห็นเราได้ดีไซน์การร้องเอง ว่าอยากให้ถ่ายทอดออกมาแบบไหน อยากให้มีเสียงแบบไหน เรื่องของเสื้อผ้าก็ออกแบบในแบบที่ตัวเองชอบ เป็นตัวตนของเรา เราอยากได้ความเป็นจีนเข้ามาร่วมด้วย เพราะเรามีชอบในเรื่องของความเป็นจีนเพราะเราเคยไปเรียนที่เมืองจีนมาก่อน ปกก็มีออกสไตล์จีนหน่อย ตัวตนในเพลง เป็นเพลงที่มีเมโลดีเพราะอยู่แล้ว ฟังเพราะ ความหมายของเพลงต้องไม่คิดมาก เข้าใจง่าย เหงาคือเหงา เศร้าคือเศร้า ไม่ต้องมาตีความไม่ต้องคิดเยอะ”

มาดนักธุรกิจ

นอกจากงานร้องเพลงที่จะต้องทำด้วยความฝันแล้ว เต้ยังมีอีกหนึ่งหน้าที่ในฐานะผู้บริหารของบริษัท “ศิริวัฒน์” ธุรกิจของครอบครัวอีกด้วย การทำงานทั้งสองอย่างในหน้าที่ที่แตกต่างกันจึงทำให้เต้ต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนคาแร็กเตอร์อย่างมาก

“พอผมได้มาทำงานเองตรงนี้ เหมือนเรามีสองคาแร็กเตอร์เหมือนกันครับ เป็นสิ่งที่เราต้องทำและทำให้ได้ และต้องแยกแยะให้ออก วันนี้เป็นนักร้องต้องร้องเพลง มอบความสุขให้ทุกคน อีกวันต้องเป็นผู้บริหาร เปลี่ยนหน้าที่คาแร็กเตอร์ก็ต้องเปลี่ยนครับถ้าไม่เปลี่ยนก็คงทำไม่ได้”

“การทำงานในด้านบริหารผมก็ต้องมีแนวทางของผมที่ชัดเจน มีการตกลงกันในที่ประชุมอย่างก็ต้องจบตรงนั้น ผมมีวิสัยทัศน์ในแบบไหนก็ต้องตามนั้นจะไม่มีการลังเลหรือเปลี่ยนแปลง เมื่อมีการประชุม ใครจะแสดงความคิดเห็นออกมาก็รับฟังและตกลงกันชัดเจนในที่ประชุมให้เป็นมติเอกฉันท์ ถ้าผมอยู่ในมาดผู้บริหารผมจะไม่ลังเล ”

“งานร้องเพลงไม่ใช่งานอดิเรกหรอกครับ มันอยู่ที่ว่าช่วงนั้นงานไหนสำคัญกว่ากัน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงโปรโมตอัลบั้มเดินสายต่างจังหวัดผมก็จะทุ่มเททั้งหมด หนึ่งอาทิตย์ ผมก็ทุ่มกับงานร้องเพลง ช่วงว่างก็พักผ่อน พองานเพลงเสร็จก็ทำงานที่บริษัท”

ความสุขทางใจ

หลากหลายหน้าที่ที่เป็นความสุขทางกาย สิ่งหนึ่งที่ทำให้หนุ่มเต้หายเหงาได้ คือของสะสมที่เขาบอกกับเราว่า แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักสะสมอย่างจริงจัง แต่เขาสะสมหลายๆ อย่างที่สามารถทำให้เขามีความสุขได้

เต้เริ่มนำเอาสิ่งของที่เขาสะสมซึ่งรักมาก และสะสมมานานตั้งแต่เด็ก ออกมาให้เราดู สิ่งแรกคือ ตุ๊กตา พินอกคิโอ ตัวการ์ตูนที่เขาให้เหตุผลว่าเป็นตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบมาก

“ เด็กๆ สะสม พินอกคิโอ เพราะตอนเด็กผมมีญาติพี่น้องเป็นผู้หญิงค่อนข้างเยอะแล้วเค้าก็จะชอบสะสมตัวการ์ตูน มิกกี้เมาส์บ้างตุ๊กตาบ้าง แต่ผมเองก็เริ่มอยากสะสมบ้างแล้วการ์ตูนเรื่องนี้มีคำสอนค่อนข้างดี สอนเด็กๆ ให้รู้ว่าถ้าโกหกแล้วจะเป็นยังไง เป็นสิ่งไม่ดีนะ แต่ท้ายที่สุดถ้าคนเราคิดได้ว่าตัวเองผิดก็จะได้โอกาสที่กลับมาเป็นเด็กเหมือนคนอื่นๆ แล้วเค้าก็จะไม่ทำผิดซ้ำ แล้วเค้าจะรู้ตัวเอง มันสอนคนแล้วการ์ตูนเรื่องนี้ไม่กลับมาทำซ้ำ ”

“วันนี้เอามา 4 ตัว ทุกตัวมีประวัติความเป็นมา ตัวใหญ่ อายุ ประมาณ 40 ปี ได้มาจากร้านขายของเล่นเก่า สมัยก่อนเค้าร้องเพลงได้ เต้นได้ ตอนนี้แก่แล้วก็ร้องไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ พยายามหาร้านซ่อมอยู่เหมือนกัน อีกตัวก็ซื้อเองผมว่ามันนิ่มแล้วมีขนาดใหญ่ แขนขยับได้ ขนมันนิ่มมันไม่เหมือนตุ๊กตาทั่วไป เป็นตัวที่รักที่สุด อยู่บนเตียงนอนเลย ผมมีเยอะมาก ผมเป็นคนสะสมนะแต่ไม่ใช่เจอแล้วซื้อทุกตัว ทุกตัวต้องเจอแล้วถูกชะตานะ ตัวนี้มันใช่นะ ตัวนี้ก็เป็นตัวที่ได้มามีคนซื้อมาฝาก ตัวนี้เป็นตัวที่มาจากยุโรป มันมีตัวเดียวในโลกเพราะมีคนถักให้คนทำให้เค้าใช้ความพยายามมากกว่าจะได้ 1 ตัวเลือกสีที่มันเข้ากับสีการ์ตูนมากที่สุด เป็นตัวที่มีคุณค่าทางจิตใจมากที่สุด
ของสะสมให้ความสุขทางใจ”

อีกทั้งยังมีกางเกงยีนส์ที่เขาชอบมีอยู่ 3 ตัว ซึ่งแต่ละตัวมีที่มา และเป็นรุ่นที่ไม่มีใครผลิตแล้ว เขาบอกว่าแม้จะไม่ได้สะสมกางเกงยีนส์มากมายแต่เป็นสไตล์การแต่งตัวหนึ่งที่เขาชอบ
ไมค์ส่วนตัวที่เอาไว้ตอนร้องเพลง ออกคอนเสิร์ต ซึ่งเขาบอกว่าไมค์ตัวนี้มีความพิเศษที่ทำให้เขาร้องเพลงแล้วรู้สึกมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น

“ไมค์ส่วนตัว เป็นสิ่งที่ทำให้เราไม่เหนื่อย ตัวนี้มันพิเศษตรงความไวของหัวไมค์ที่ใช้ความไวมากในการรับเสียง เราอยากที่จะให้ไมค์รับเสียงจากเราหรือรับเสียงจากแฟนเพลง เราก็เลือกได้ เป็นไมค์ที่ใช้ในห้องอัด มันจะไว้มากกับเสียงรอบข้าง ไมค์ตัวนี้ชอบมากที่สุด เป็นตัวที่ดีที่สุด เพราเขามีความไวในการรับเสียง แค่กลืนน้ำลายเสียงก็เข้า ข้อดีของมันก็มี ข้อเสียก็มีนะ ข้อดี รับเสียงชัดเจน ข้อเสีย ทุกเสียงจะเข้ามาหมดเลย เราต้องมีสมาธิในการคอนโทรลให้ดี ไมค์นี้ค่อนข้างเก็บรายละเอียดทุกอย่าง ”

เอียร์มอนิเตอร์ ของอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญกับการทำงาน ค่อนข้างที่จะมีราคาสูงนิดนึง เพราะมันเป็นรุ่นท็อปของหูฟังทุกชนิด เฉพาะหูฟังราคา 35,000 บาท จะฟังกับอะไรก็ได้นะครับ แต่มันใช้กับการทำงาน แทนที่เราจะฟังมอนิเตอร์ข้างหน้าเราก็ฟังจากตรงนี้

เป็นกำลังใจให้ผู้ชายขี้เหงาคนนี้ไม่ว่าจะมาดนักบริหารหรือนักร้องที่สร้างความสุขให้แฟนเพลง ได้กับอัลบั้มใหม่ “Make a wish” และตามติดการทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศของเขาได้ตลอดเดือนมิถุนายน
 
ข่าวโดย Manager Lite / ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย พลภัทร วรรณดี




กำลังโหลดความคิดเห็น