มหกรรมบันเทิงเมามันและเปียกปอนแห่งสงกรานต์ผ่านพ้นไป ตามมาด้วยตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเหมือนทุกปี พิเศษกว่าปกติคือปีนี้มีการโชว์ที่ออกจะเลยเถิดในสายตากฎหมายและกระทรวงวัฒนธรรม การเต้น ‘โชว์นม’ บนหลังคารถของสามสาวนิรนาม ท่ามกลางสายน้ำ สายตา และกล้องมือถือ
ภาพของพวกเธอระบาดอย่างเร็ว ปรากฏบนสื่อ การดำเนินคดีจึงตามมา พ.ต.อ.มนต์ชัย ศรีประเสริฐ ผกก.สน.ยานนาวา กล่าวถึงกรณีการโชว์ในลักษณะการเปลือยร่างกาย โดยการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 388 ประมวลกฎหมายอาญา ในข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ...ก็ว่าไปตามกฎหมาย
[1]
แต่เมื่อเอ่ยถึง ‘สีลม’ แหล่งเกิดเหตุ สถานที่อันจัดจ้านด้วยสีสันที่ตัดกันระหว่างภาคกลางวันและภาคราตรี เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มหยุดทำงาน ถนนเศรษฐกิจก็แปรสภาพเป็นถนนโลกีย์ คนทำงานออฟฟิศ-คนทำงานกลางคืน ร้านค้าแบรนด์เนม-แผ่นผีซีดีเถื่อน สุภาพบุรุษ-หนุ่มกลัดมัน ฯลฯ
อเนชา คุณารักษ์วงศ์ เจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสีลม-สุริวงศ์ ซึ่งเป็นคนที่เกิดและเติบโตมาในย่านนี้ เล่าให้เราฟังว่า
“สีลมเมื่อก่อนเป็นถนนที่โล่งกว่านี้นะ คือมันมีความเจริญมาตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว แต่มันจะดูเหมือนเป็นย่านของคนทำงานมากกว่า มองไปทางไหนก็เจอแต่พนักงานออฟฟิศ พวกที่เที่ยวก็จะมีแต่ในพัฒน์พงษ์เท่านั้น ไม่ได้กินอาณาเขตกว้างออกมาข้างนอกเหมือนทุกวันนี้
“เมื่อก่อน มีฝรั่งมาเที่ยวเฉพาะตอนกลางคืน แต่เดี๋ยวนี้นี่เห็นนักท่องเที่ยวได้ทั้งวันเลย ตอนแรกๆ มันเริ่มมีพวกร้านนวดเข้ามาก่อน จากนั้นก็ขยายกลายเป็นที่เที่ยวเต็มรูปแบบ”
อเนชาบอกว่า ตั้งแต่มีพวกรถไฟฟ้าเข้ามา ถนนสีลมที่เคยโล่งๆ ก็มีความเป็นแหล่งท่องเที่ยวชัดเจนขึ้น ถึงแม้ว่าตอนกลางวันยังดูเป็นย่านออฟฟิศเหมือนแต่ก่อน แต่พอตกเย็นก็กลายเป็นอีกเรื่องไปเลย
[2]
ทุกคนรับรู้ว่า สีลมเป็นย่านร้อนแรงด้วยเรื่องอย่างว่า...โลกีย์ประเวณีและค้าบริการทางเพศ คำบอกเล่าของคนละแวกนั้นหรือนักเที่ยว ภาพผู้หญิงเปลือยอกเป็นความปกติชินตา สถานบันเทิงในย่านนั้นมักเปิดประตูให้คนเดินผ่านไปมาได้เห็นกิจกรรมภายในเพื่อสร้างแรงดึงดูด เส้นกั้นบางๆ ระหว่างการเปลือยอกในที่สาธารณะกับไม่สาธารณะจึงมีแค่ประตูหนึ่งบาน หรือจะถือเป็นความผิดของสายตาที่ซุกซน
ในมุมมองของประชาชนชาวสีลมอย่าง ปัฏฐา ทองปาน กลับมองว่า แม้สีลมจะขึ้นชื่อลือชาด้านโลกียสถาน แต่ต้องยอมรับว่า ภาพที่ปรากฏนั้นไม่ได้เกิดขึ้นอยู่ตลอด และถึงจะเกิดขึ้นก็จะถูกจำกัดอยู่ในเฉพาะบางพื้นที่ เช่น พัฒนพงษ์เท่านั้น ไม่ได้กระจายไปอยู่ในทั่วพื้นที่อย่างที่เข้าใจกัน
"ส่วนตัวแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าเรื่องการโชว์นมมันเกิดขึ้นมากหรือเปล่า แต่ปกติเวลาเดินในซอยพัฒนพงษ์ หรือซอยนู้นซอยนี้ หากมองจากข้างนอกอาจจะมีแวบๆ บ้าง แต่เขาก็ไม่ได้ทำริมถนนไง อาจจะทำข้างในร้าน หรือในห้องก็ว่าไป พูดง่ายๆ ก็คือทำกันมิดชิดนิดหนึ่ง และถ้าจะว่าไปแล้ว ผมมองว่าการทำแบบนี้ มันมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เน้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก แม้คนที่เต้นจะเป็นคนไทยก็ตาม"
สำหรับในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ พ.ต.อ.มนต์ชัย เขายืนยันว่าปกติแล้วไม่มีการโชว์ในลักษณะดังกล่าวในสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน แต่หากมีการกระทำเช่นนี้ก็สามารถจับกุมได้เลย
"ถ้ามีก็คงมีการป้องกันและปราบปราม และถ้าโชว์แบบนั้นก็โดนเหมือนกัน ถ้าเจ้าหน้าที่เห็นก็เป็นความผิดและเข้าไปจับกุมได้"
สำหรับการแก้ไขเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกตรวจและดูแล สอดส่อง รวมถึงการแจ้งให้ประชาชนรู้ถึงว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
"เราจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ถ้าเป็นตามร้าน เราก็ต้องห้ามแต่ถ้ายังมีทำแบบนี้อีก เราต้องเข้าไปดูแล และถ้าเจอก็สามารถเข้าไปจับกุมได้เลย"
[3]
อเนชาบอกว่า สงกรานต์สีลมตั้งแต่เธอจำความได้ เมื่อก่อนยังไม่มีนโยบายเรื่องการปิดถนน งานสงกรานต์สีลมเลยยังไม่คึกคักเหมือนทุกวันนี้
“เมื่อก่อนนี่รถกระบะเล่นน้ำขาก็ขับเข้ามาได้นะ คนเล่นก็ยังไม่มาก จะออกมาเล่นกันก็ช่วงบ่ายๆ แล้วก็เป็นคนที่บ้านอยู่ละแวกนี้ด้วย ยังไม่ค่อยมีคนนอกมาเท่าไหร่ แต่พอมีการปิดถนนจัดงานเป็นเรื่องเป็นราว คนจากที่อื่นๆ เขาก็มาเล่นที่นี่กันหมด อย่างปีนี้เราเห็นคนเข้ามาเบียดเสียดกันเล่นสงกรานต์ตั้งแต่ 11 โมงแล้ว มากันเยอะมาก แล้วก็มาไวมาก สงสัยคงเป็นเพราะปีที่แล้วไม่ได้เล่นกัน เลยอั้นไว้มาเล่นกันปีนี้”
ส่วนเรื่องของความคึกคะนองของวัยรุ่นที่ออกมาเต้นเปลือยอก อเนชาบอกว่าแต่ก่อนไม่เคยมี ถึงแม้ว่ามันจะมีย่านโลกีย์อย่างพัฒนพงษ์ ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนามตั้งอยู่ใกล้ๆ ก็ตาม
ปัฏฐาแสดงความเห็นกรณีสามสาวเปลือยอกว่า เทศกาลสงกรานต์สีลม ถือว่าอยู่ในบริบทที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นคนที่มาเต้นเองก็ไม่ใช่คนที่เต้นอยู่ตามปกติตามสถานที่ท่องเที่ยว และที่สำคัญ คนที่มาเที่ยวส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่คนสีลม แต่เป็นคนจากที่อื่นมากกว่า เพราะฉะนั้นความรู้สึกต่อพื้นที่นี้อาจจะต่างกัน และกล้าที่จะทำอะไรที่ไม่สมควรก็เป็นได้
"แต่ก่อนก็มีนะ แต่ปีนี้ได้ยินว่ามีการโชว์เยอะขึ้น ซึ่งผมว่า มันอาจจะเกี่ยวกับที่ 2-3 ปีให้หลังมานี้ ทุกศุกร์-เสาร์ ที่สีลมมีเด็กแว้นมาแข่งมอเตอร์ไซค์เยอะขึ้นมาก คือมันเป็นเหมือนแหล่งรวมของเด็กพวกนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่แน่พอถึงช่วงสงกรานต์ก็อาจจะมีเด็กพวกนี้มาเล่นเยอะตามไปด้วย มันถึงเกิดเรื่องอะไรตามมาเยอะ"
[4]
เรื่องแว้นบอย-สก๊อยเกิร์ลเป็นอีกหนึ่งข้อสังเกตที่อาจดันให้ดีกรีความคึกคะนองของสงกรานต์สีลมปีนี้ทะลักจุดเดือด ศิริลักษณ์ อยู่เกตุ นักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ที่ได้รับคำชักชวนจากเพื่อนๆ ไปร่วมเล่นสงกรานต์ที่สีลม เธอเล่าบรรยากาศว่า สงกรานต์สีลมที่เพิ่งผ่านพ้นค่อนข้างแออัดและวัฒนธรรมอันดีงามของการเล่นน้ำก็ขาดหายไป
“ปีนี้คนเยอะขึ้น ร้านค้าก็เยอะ ระเกะระกะมาก เด็กแว้นสก๊อย ก็เยอะขึ้นด้วย ถนนไม่มีทางเดินเลย ไม่ค่อยสนุกเท่าปีที่แล้ว เทศกาลใครๆ ก็อยากสนุกให้เต็มที่ แต่กาลเทศะก็เป็นสิ่งที่คนไทยพึ่งระลึกถึงบรรยากาศการเล่นน้ำบริเวณสีลมนั้นลบภาพประเพณีไทยอย่างสิ้นเชิง
“ก็มีคนเต้นโชว์อยู่เยอะเหมือนกันเต้นโชว์ตามจังหวะเพลงที่แข่งกันเปิดมีทั้งเต้นเดี่ยว เต้นเป็นกลุ่ม แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้ถอดเสื้อผ้าโชว์เรือนร่าง แค่แต่งตัววับๆ แวมๆ แต่ก็มีบางรายที่ถอดโชว์ แต่พวกนั้นเป็นสาวประเภท 2 ที่ศัลยกรรมนมมาแล้ว พวกแก้ผ้าโชว์ส่วนมากเป็นสาวประเภท 2 และก็พวกเกย์ แต่ก็ไม่ถึงกะถอดเสื้อผ้าหมด เกย์เขาจะใส่แค่กางเกงในชิ้นเดียว”
ส่วนตัวเธอ ถ้ามองแบบไม่คิดอะไรมากก็รู้สึกเฉยๆ เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ถ้ามองในเรื่องวัฒนธรรมก็ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไม่น้อย ชาวต่างชาติต่างพากันมาเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็จะติดภาพสงกรานต์ไทยในแบบที่พวกเขาเห็น
ความพล่านคะนองของสามสาวจึงอยู่ผิดที่และเวลา ผิดที่คืออยู่บนหลังคารถ ไม่ได้อยู่หลังประตู และผิดเวลาคือเป็นช่วงสงกรานต์ที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมประเพณีของไทย เป็นเหตุให้เว็บไซต์ของกระทรวงวัฒนธรรมต้องนำภาพวาดหญิงสาวเปลือยอกฝีมือวิจิตรของ สมภพ บุตรราช ออกจากหน้าเว็บ
>>>>>>>>>>>
เรื่อง: ทีมข่าว CLICK
ภาพ: ธนารักษ์ คุณทน