นักร้องหนุ่มหน้าหวาน เสียงดี “แหนม รณเดช วงศาโรจน์” ตอนนี้ทุกคนคงรู้จักผู้ชายมากความสามารถคนนี้ในบทบาทคุณพฤกษ์ หนุ่มอบอุ่นอารมณ์ดีและโรแมนติก จากละครยอดฮิต “ดวงใจอัคนี” ทางช่อง 3 ได้เรียกกระแสแฟนคลับอย่างล้นหลามในอีกบทบาทหนึ่งของเขา
วันนี้ทีมงาน m-open นัดพบกับหนุ่มคนนี้ที่มีบุคลิกช่างแตกต่างจากหน้าตา เขามาในชุดเสื้อยืดสีขาว คลุมทับด้วยเสื้อยีนส์สีเข้ม กางเกงยีนส์สีดำ ดูท่าทางขรึมเข้มต่างจากที่เห็นในงานแสดง ถือเป็นอีกลุคหนึ่งของแหนม รณเดช ที่วันนี้เรายังคงมองเขาเป็นนักร้องเสียงดี ที่มีสไตล์แนวเพลงหวาน ฟังสบาย ให้ความรู้สึกดีๆ ถ้าใครอยากรู้จักเขาคนนี้ให้มากกว่าที่เห็นจากบุคลิกภายนอก ก็ไปกันเลย!
แรกเข้าวงการบันเทิง
แหนม รณเดช เป็นลูกชายคนโตของครอบครัววงศาโรจน์ ชีวิตวัยเรียนในชั้นประถมและมัธยม จบจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ตั้งแต่ชั้น ป.1-ม.6 จึงอยู่โรงเรียนนี้ถึง 12 ปีเลยทีเดียว และเรียนต่อปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยมหิดล คณะบริหารธุรกิจ หลักสูตรนานาชาติ จากนั้นก็มาต่อปริญญาโท คณะเศรษฐศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้านผลการเรียน แหนมบอกกับเราว่า “อยู่ในระดับปานกลาง คิดว่าเฉยๆนะที่เราเรียนด้านนี้เพราะอยากเรียนรู้เพิ่มเติมทางด้านธุรกิจมากกว่า”
เรียนเศรษฐศาสตร์ แต่ทำงานดนตรี? “เราคิดว่าทางด้านดนตรีเราสามารถหาเรียนเอาเองได้ และเราฝังใจมาแต่เด็กว่าถ้าเรียนปริญญา ต้องเรียนอะไรเกี่ยวกับด้านนี้ อย่างการบริหาร ส่วนดนตรีเราก็เคยเรียนมาบ้างแล้ว เราไม่ได้อยากเรียนทุกวิชาที่มันเป็นดนตรี คือมันเยอะไปและเราอยากฉีกตัวเองให้ออกไปจากเดิมที่เราเป็นอยู่”
พรสวรรค์ของแหนม ถือได้ว่าเกิดจากความชอบเป็นหลัก และชอบที่จะเรียนรู้และฝึกซ้อมในสิ่งที่ตนเองรัก ในงานเพลงเขาจึงทุ่มเทความสำคัญในสิ่งที่เขาชอบ “เราเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็กและครอบครัวก็สนับสนุน พ่อพาส่งไปเรียนดนตรีตั้งแต่อายุ 9-10 ขวบ เริ่มจากเรียนกลองก่อน เรียนได้ประมาณ 4-5 เดือน เราก็เลิกเรียนจากที่เดิม และต่อมาก็ได้ย้ายไปเรียนใกล้ๆบ้าน คราวนี้เราอยากเรียนกีตาร์ พอมาเรียนกีตาร์คลาสสิก เลยชอบกีตาร์ ตั้งแต่นั้นมาเมื่ออายุ 10 ขวบ”
ขณะเรียนมหาวิทยาลัย เขาก็ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงเป็นครั้งแรก “ได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงตั้งแต่ชั้นปีที่ 2 ตอนนั้นเราเข้ามาดูเขาถ่ายทำมิวสิกวิดีโอของพี่นิโคล คือเราอยากรู้ว่าเขาถ่ายทำกันยังไง เรานั่งอยู่ในห้องอัด แล้วมีคนเห็นเราเล่นกีตาร์ หลังจากนั้นเขาก็เลยติดต่อเราให้มาลองทำเพลงดูจึงได้เข้ามาทำงานที่แกรมมี่ เราก็ได้มีโอกาสฝึกหัดและกำลังจะได้ออกเพลง แต่ได้มาทำงานพิธีกรก่อน ครั้งแรกได้ทำที่ช่องรายการทรูเอ็กซ์ไซท์ ได้เป็นพิธีกรเกี่ยวกับหนังภาพยนตร์และแนะนำรายการใหม่ๆที่น่าสนใจ ซึ่งตอนแรกที่ทำงานพิธีกรไม่ค่อยถนัดหรอก เขินๆด้วย เรารู้สึกว่าไม่ถนัดพูดกับกล้อง พอให้พูดก็ต้องพูด อ้าว...แล้วเราพูดกับใครอยู่? มันไม่มีฟิลลิ่ง ก็จะเคอะเขินหน่อยในตอนแรกแต่ก็สนุกดี และตอนนี้งานด้านพิธีกรที่ทำอยู่ก็เป็นหนัง แนะนำหนังเข้าใหม่และหนังที่ฉายอยู่ ทางรายการ UBC X-zyte”
งานเพลงเพราะๆ
อะไรกันนะ? ที่ทำให้แหนมรณเดชชอบ รัก และหลงใหลในงานดนตรี จากความฝันของเด็กหนุ่มคนหนึ่งจนได้มีโอกาสเข้ามาทำงานเพลงที่ตัวเองรัก และแจ้งเกิดตัวเองกับงานเพลงประกอบละคร ในเพลง “ให้ฉันดูแลเธอ” ซึ่งวันนี้แฟนคลับแหนม รณเดช ร้องกันได้ทั่วประเทศ
“คือเรามีเพื่อนๆในยุคนั้น ซึ่งเด็กผู้ชายจะต้องเป็นอะไรหน่อย เราคิดอย่างนั้น และเราก็อยากเล่นกีตาร์ คือเป็นคนที่ชอบเล่นดนตรีซึ่งจะเล่นกับกลุ่มเพื่อนๆด้วยกัน และบางครั้งก็ไปร้องคาราโอเกะบ้าง พอเรามีโอกาสมาทำงานตรงนี้ก็คิดว่าใช่ เพราะมันเป็นตัวเราเอง ซึ่งเราก็หาเรียนเพิ่มเติมเองเกี่ยวกับเรื่องดนตรีมาตลอด”
ด้วยความรักและใส่ใจกับการเล่นดนตรี ทำให้บทเพลงที่แหนม รณเดช ถ่ายทอดออกมามีอะไรมากกว่าเสียงเพราะๆจากเขา งานเพลงทุกชิ้นแหนมบอกกับเราว่ามันคือเรา เราตั้งใจทำในทุกชิ้นงานที่ถ่ายทอดออกไป และความตั้งใจของเขาในวันนั้นก็ทำให้วันนี้เขาได้โด่งดังไปพร้อมกับงานที่เขารักจริงๆ
“กับงานเพลงแรก “ให้ฉันดูแลเธอ” ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครผู้ใหญ่ลีกับนางมา “เพลงนี้ได้มีพี่หนึ่ง ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์ เขียนเนื้อเพลงเพลงนี้ด้วย หลังจากเพลงนี้ออกมาก็มีเสียงตอบรับจากแฟนเพลงดี และละครก็ดังมาก พอมาถึงเพลงที่สองก็เป็น “เพลงคุ้น คุ้น” เพลงนี้อยู่ในโปรเจกต์ของอัลบั้มอยู่แล้ว ก็เป็นซิงเกิ้ลที่สอง แต่ไม่ใช่เพลงประกอบละคร และมีอีกหนึ่งเพลงที่ดังมากๆเช่นกัน คือ “เพลงเส้นขนานที่รักกัน” ได้เป็นเพลงประกอบละครเรื่องเลื่อมพรายลายรัก ซึ่งได้ยินเพลงนี้จะนึกถึงความไม่สมหวัง แต่คนเขียนเพลงคือพี่หนึ่ง ณรงค์วิทย์อีกเหมือนเดิม พี่เขาบอกว่าในความหมายของเพลงถึงแม้ว่าคนเราจะแตกต่างกัน จะคนละรสนิยม คนละไลฟ์สไตล์แต่ก็สามารถรักกันได้ ถึงแม้จะเป็นเส้นขนานที่คู่กันไปแต่ก็เห็นกันตลอดไม่มีที่สิ้นสุด ก็คือต้องคู่กันรักกันไปตลอดนั่นเอง”
และ “เพลงหนึ่งคำสำคัญ” ในเนื้อหาเพลงนี้นักร้องของเราได้ให้คำอธิบายว่า “เนื้อหาของเพลงคือ หนึ่งคำว่ารักที่อยู่คู่กับโลกใบนี้มายาวนาน ซึ่งวัยรุ่นยุคใหม่สมัยนี้จะพูดคำว่ารักง่ายๆ พูดเร็ว และก็เลิกกันเร็ว ในความหมายของคำว่ารัก มันเป็นคำที่ต้องไม่จากกัน ถ้าพูดออกไปแล้วก็ต้องรักเขาจริงๆ เพลงนี้จะทำให้เรามองคำว่ารักมีค่าขึ้น “ช้าหน่อย คิดหน่อย” และเพลงนี้จะเป็นเพลงที่มีแนวดนตรีใหม่ต่างไปจากที่เคยเล่น ออกร็อกนิดหนึ่ง แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ฟังสบายๆ”
เล่นละคร...ครั้งแรก
เมื่อได้ยินชื่อแหนมในงานเพลงอย่างเต็มตัวแล้ว ที่ผ่านมาเขาได้รับเล่นละครในเรื่องดวงใจอัคนี ซึ่งบทบาทแรกนี้ก็พาให้แฟนคลับแหนม รณเดช พอถึงช่วงเวลา 2 ทุ่มครึ่งพากันมานั่งติดจอดูละครตามๆกัน เสียงตอบรับจากแฟนละครก็พอให้รู้เลยว่ากระแสของเขาแรงจริงๆ ยิ่งได้ร้องเพลงประกอบละครเรื่องนี้ด้วย คะแนนแฟนคลับแหนมจึงพุ่งฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว
เมื่อทางผู้จัดช่อง 3 กับแกรมมี่ได้คุยกันเพื่อเตรียมส่งแหนม รณเดช ลงจอเป็นครั้งแรกกับงานละคร 4 หัวใจแห่งขุนเขา ตอนดวงใจอัคนี “วันแรกที่เข้าไปเล่นละคร งงมากกับมุมกล้อง บังเขาตลอด เวลาเราเล่นแอ็กติงก็จะสับสนอีก ไม่รู้ว่ากล้องไหน แล้วอีกอย่างในทีมงานเราก็ยังไม่ค่อยสนิท ซึ่งก่อนหน้านั้นเราก็มีเรียนแอ็กติงบ้าง แต่ตอนเรียนเขาไม่ได้สอนว่า ทำหน้าเศร้าต้องทำยังไงหรือสนุกต้องทำหน้าแบบไหน แต่เรียนให้รู้สึกมีสมาธิ จึงเป็นการฝึกสมาธิมากกว่า ซึ่งเราก็มีโอกาสได้ฝึกในกองถ่ายและผู้กำกับเขาก็ช่วยสอนเราด้วย พอเมื่อได้เล่นไประยะหนึ่งแล้วรู้สึกชอบมาก คิดว่าคงเสียดายถ้าในวันนั้นไม่ได้ตอบรับเล่น”
ในบทบาทคุณพฤกษ์ หนุ่มรูปหล่อ อบอุ่น ลูกคุณหนู ทำให้หลายต่อหลายคนมองเขาเปลี่ยนไป (เกย์รึเปล่าเนี่ย?) “ด้วยรูปหน้าของเรานี่ ซึ่งดูออกหวานๆ ก็เคยมีคนบอกว่าเราหน้าคล้ายๆผู้หญิง จึงอาจทำให้คนมองเราแบบนั้น และยิ่งมาเล่นละครในบทบาทคุณพฤกษ์ที่ดูอ่อนหวาน ทำให้คนเข้าใจผิดกันใหญ่ และได้มีโอกาสร้องเพลงประกอบละครเรื่องนี้ด้วย ชื่อเพลงว่า “ไม่รักไม่เป็นไร” ซึ่งเพลงนี้เราร้องเอง แต่งเองด้วย ได้แต่งในส่วนทำนอง ส่วนเนื้อร้องจะเป็นพี่หนึ่ง ณรงค์วิทย์ ซึ่งจังหวะดนตรีฟังแล้วจะสนุก แต่ในเนื้อหานี้บอกว่าไม่รักฉันก็ไม่เป็นไรหรอก เราเป็นเพื่อนกันได้ ซึ่งเป็นความผิดหวังแบบคุณพฤกษ์ในละคร เขาเป็นคนมองโลกในแง่ดี อารมณ์ดี ไม่ได้อกหักแบบฟูมฟาย งานนี้เราจึงทั้งเล่นเอง แต่งเอง และร้องเอง จึงถือเป็นความโชคดีมากที่ได้มีโอกาสร่วมงานในละครฟอร์มยักษ์ ครบรอบ 40 ปีของช่อง 3”
เรทติงละครดวงใจอัคนีก็ถือว่าเกินคาด ไปที่ไหนก็มีแต่คนเรียกคุณพฤกษ์ แล้วแหนมล่ะคิดยังไงกับแฟนคลับ? “เสียงตอบรับกลับมาดีมาก เพราะแรกๆที่ร้องเพลงคนจะไม่ค่อยได้เห็นหน้ามากนัก พอมาเล่นละครเรื่องนี้คนก็เห็นเรามากขึ้น คนก็รู้จักเรา และชื่อเราก็เป็นนักร้องอยู่แล้ว พอเขาดูละครแล้วเขาชอบในละครนี้ แต่พอมาดูชื่อปรากฏว่าชื่อมาตรงกับนักร้องที่ร้องเพลงให้ฉันดูแลเธอ เขาก็จะจำเราได้”
ตอนนี้ใครที่เป็นแฟนละครของแหนม รณเดช และติดอกติดใจในบทบาทคุณพฤกษ์ เตรียมชมอีกบทบาทหนึ่งชื่อแวน ในละครเรื่องพิมมาลา ถ้าออนแอร์เมื่อไหร่แฟนๆนั่งติดหน้าจอตาไม่กระพริบแน่ๆ
อีกมุมหนึ่งของแหนม รณเดช
แหนม รณเดช จากที่เห็นกันในลุคศิลปินนักร้องเสียงดีคนหนึ่งในวงการเพลง มาตอนนี้เป็นทั้งพิธีกร นักร้อง และนักแสดงในคราวเดียวกัน เมื่อถามว่าทั้ง 3 งานหลักที่ทำอยู่นี้แตกต่างกันยังไงบ้าง? “ก็แตกต่างกันเยอะนะ ตามที่เห็น แรกเริ่ม เราเริ่มจากดนตรี เรามีความรู้สึกรักและชอบดนตรี แต่พอหลังๆเราได้มาแสดงละคร ก็เริ่มสนุกกับงานละคร คิดว่ามันก็เป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่ท้าทาย แล้วอีกอย่างเราก็เป็นคนชอบดูหนัง ดูละครอยู่แล้ว พอได้เล่นเองมันก็รู้สึกสนุกไปอีกแบบ
ที่จริงผมเป็นนักร้องนะและคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็คิดว่าเราเป็นนักร้อง ซึ่งเราก็อยากให้เป็นอย่างนั้น ยิ่งตอนนี้มีงานละครเข้ามาด้วยก็คิดว่าเป็นทั้งสองอย่างได้ก็คงจะดีนะ อย่างการเล่นละคร เราจะขอรับเล่นในบทบาทที่ไม่ได้ขัดกับเรามาก คือคนดูดูแล้วยังเชื่อว่าเราเป็นนักร้องอยู่และให้เราดูไม่เปลี่ยนไปจากนักร้องมาก ตอนนี้บทที่อยากเล่นอยากให้เป็นคนที่มีบุคลิกหลากหลายอารมณ์หน่อย มีเศร้า มีเครียด มีโหด สนุกสนาน เป็นแบบตลกๆก็ได้ก็คงจะสนุกไปอีกแบบหนึ่งที่ต่างจากบุคลิกเราดี แต่ถ้ามีโอกาสผมก็อยากกำกับหนังเองเลย เพราะเราชอบดูหนังจึงอยากลองกำกับเอง ประเภทหนังแอ็กชัน สืบสวน สอบสวน อย่างเจมส์บอนด์”
จริงๆแล้วแหนม รณเดชเป็นคนยังไง? “เป็นคนสนุกสนาน ร่าเริงนะ เป็นคนไม่ขี้เก๊ก ซึ่งเพื่อนเราแต่ละคนก็จะเป็นแนวๆนี้ แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน คบกันตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเพื่อนก็เล่นดนตรีกันอยู่แล้ว เราก็จะเป็นแนวเดียวกัน คือผมไม่ชอบคนที่ท่าเยอะ ฟอร์มเยอะ เก๊กเยอะ” หลายคนมองแหนม รณเดชเป็นนักร้องหนุ่มหล่อ หน้าหวาน แล้วตัวเขาเองล่ะจะคิดยังไง? “ก็รู้สึกดีนะที่เขามองเราอย่างนั้น ดีกว่าเขามองเราแบบเลวร้าย แต่อยากจะบอกว่าเราก็ไม่ได้หวานอะไรขนาดนั้น เราก็เป็นแบบผู้ชายๆนะ อาจจะเป็นเพราะสไตล์ดนตรีที่เราเล่น ผสมกับหน้าตาแบบนี้จึงออกเป็นแนวอบอุ่น โรแมนติก”
เรามาดูกิจกรรมยามว่างของหนุ่มคนนี้กันดีกว่าในมุมง่ายๆ สบายๆ ตามสไตล์ของแหนม รณเดช “โดยส่วนตัวก็เป็นคนง่ายๆ สบายๆอยู่แล้วเมื่อพักจากงาน ส่วนใหญ่ก็จะใช้เวลาพักผ่อนนอนเล่นอยู่บ้าน เล่นคอมพิวเตอร์ เล่นกีตาร์ ถ้ามีโอกาสพักยาวบางทีก็ออกไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศกับครอบครัวบ้าง และก็มีออกกำลังกายอยู่เรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะชอบวิ่ง ปั่นจักรยาน มีอยู่ช่วงหนึ่งชอบตีเทนนิสมาก”
เห็นหน้าหวานๆแบบนี้จะมีมุมมองความรักยังไงบ้างนะ? “ความรักเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทุกคน ความรักมันทำให้เรามีความสุข ถ้าเรามองความรักแล้วทำให้เราทุกข์ ผมคิดว่าไม่ใช่ความรัก พอถามเรื่องสเปกสาวของหนุ่มเสียงดีคนนี้ เขารีบตอบกลับมาทันทีทันใดเลยว่า “ไม่มีอ่ะครับ คิดว่าถ้าคนเราพอเจอแบบนี้ สามารถเข้ากันได้ในทุกแบบ ทุกไลฟ์สไตล์ และด้วยความที่เราเป็นคนง่ายๆ สบายๆ เราเห็นผู้หญิงคนไหนน่ารักๆ เราจะชื่นชมมากกว่าไม่ได้สานต่ออะไร (เป็นบางครั้งนะ)”
ฝากถึงแฟนคลับ
ถือได้ว่าตอนนี้แหนม รณเดช กำลังเนื้อหอมกับทั้งงานเพลงและงานละครที่เข้ามาไล่คิวงานกันไม่ทันเลยทีเดียว ในขณะที่ละครเรื่องพิมมาลากำลังถ่ายทำ เขาก็ได้วางอัลบั้มใหม่ในต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และตอนนี้ก็ได้ออกซิงเกิลเพลงใหม่ล่าสุดในอัลบั้มนี้แล้วกับเพลงอกหักครั้งแรกของเขาที่ชื่อว่า “พอได้แล้ว”
“เพลงพอได้แล้ว เป็นเพลงเศร้าๆของคนอกหักซึ่งเป็นเพลงหนักครั้งแรกที่ได้ทำ เพราะแต่ละเพลงที่เคยทำออกมานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นแนวฟังสบายๆ ชิลชิล ไม่ค่อยอกหัก ก็ไม่รู้เหมือนกันจะเป็นยังไง แต่ผมชอบในเนื้อหาเพลงนี้นะ มันดีมาก และตอนนี้ผมยังมีอ่านสปอตโฆษณาด้วย งานนี้เป็นงานที่ชอบมากเพราะได้อ่านสินค้านั่น อันนู้น ชิ้นนี้ ก็สนุกดี”
อยากฝากผลงานอะไรกับแฟนคลับที่ติดตามผลงานเราอยู่บ้าง? “ก็อยากฝากถึงแฟนเพลง เราก็กำลังมีผลงานต่างๆออกมา ในแต่ละผลงานเราก็ตั้งใจทำอย่างดี ตัวเราเคารพในงานนี้ ผมไม่อยากออกไปแล้วให้คนมาว่าเราได้ในงานที่เราทำ จึงอยากฝากทุกคนด้วย แล้วใครที่ชอบเราอยู่แล้ว ผมก็ขอฝากขอบคุณถึงทุกคนด้วย ขอบคุณเป็นอย่างมาก และใครที่เพิ่งจะเริ่มรู้จักเราก็อยากจะให้ลองดูผลงานของเราหน่อย อย่างในชุดนี้ผมก็ได้ทำเองหลายอย่าง อย่างแต่งทำนองเอง อัดกีตาร์เอง ช่วยโปรดิวส์ คือเราก็โตขึ้นสามารถทำอะไรได้เยอะขึ้น ผมไม่อยากให้คนมองที่รูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียว บางทีผมอาจดูหวานๆจากหน้าตา ซึ่งจริงๆผมอาจจะร็อกก็ได้ และการที่เรามาถึงทุกวันนี้ก็ไม่ได้คิดถึงแล้วว่าจะคาดหวังอะไรมากมาย ถ้ากระแสตอบกลับดีขึ้น เราก็ดีใจแต่ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะดังเปรี้ยงปร้าง คือถ้าดีก็ดีใจแต่ผมก็ไม่ได้หวังอะไรมากขนาดนั้น”
ใครที่เป็นแฟนคลับหรือคนที่กำลังชื่นชอบหนุ่มคนนี้อยู่ก็อย่าลืมติดตามผลงานของหนุ่มหน้าหวานเสียงดีคนนี้ ที่เขายืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเลยว่า “ตั้งใจทำเพื่อแฟนเพลงอย่างดีที่สุด”
ประวัติส่วนตัว : แหนม รณเดช วงศาโรจน์
วันเกิด : 22 เมษายน 2527
ส่วนสูง-น้ำหนัก : 177 ซม./ 67 กก.
การศึกษา : ปริญญาตรี-มหาวิทยาลัยนานาชาติมหิดล (ศาลายา) ปริญญาโท-คณะเศรษฐศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พิธีกร : รายการ UBC X-zyte
งานละคร : 4 หัวใจแห่งขุนเขา (ดวงใจอัคนี), พิมมาลา (กำลังถ่ายทำ)
ผลงานเพลง : เพลงให้ฉันดูแลเธอ, เส้นขนานที่รักกัน, หนึ่งคำสำคัญ, คุ้น คุ้น, ไม่รักไม่เป็นไร, คนไม่รู้จักพอ, รักครั้งนี้ และซิงเกิลล่าสุดเพลง พอได้แล้ว
ข่าวโดย M-Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย ธนารักษ์ คุณทน