“ประวิทย์” ฟุ้งภาพรวมช่อง 3 ในปีเสือดีมาก ได้ทั้งบุคลากรที่มีคุณภาพ ผลงานก็เกิดทั้งด้านข่าวและละคร ส่วนกรณี “หยาด” เตรียมชิ่งซบช่อง7 เจ้าตัวโบ้ยถาม “สมรักษ์” พร้อมแย้งเป็นนางเอกละครเย็นลดเกรดตรงไหน ทั้งเผยเตรียมเพิ่มเวลาละครหลังข่าว และเปิดช่วงเวลาใหม่ละครบ่าย
ถือว่าปีเสือที่ผ่านมาเป็นปีทองสำหรับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เพราะไม่ว่าจะหยิบจับทำอะไร ก็ดีและโดดเด่นไปเสียหมด ทั้งในด้านงานข่าวที่นอกจากจะได้ผู้ประกาศหน้าใหม่คุณภาพมาเสริมทัพแล้ว ในช่วงที่บ้านเมืองเจอวิกฤตน้ำท่วม ช่อง 3 ยังได้เข้าร่วมเป็นสื่อกลางในการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ และกระจายความช่วยเหลือไปทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย จนถูกมองทำผลงานแซงหน้ารัฐบาล
ในส่วนของละครเองก็โดดเด่นได้กระแสตอบรับไปเต็มๆ จากเรื่อง “ระบำดวงดาว” และ “4 หัวใจแห่งขุนเขา” ที่แจ้งเกิดพระ-นางใหม่ให้ดังระเบิดระเบ้อหลายต่อหลายคน เมื่อสอบถามภาพรวมผลงานกับผู้บริหารใหญ่ “ประวิทย์ มาลีนนท์” เจ้าตัวถึงกับยิ้มแก้มปริ เผยปีก่อนมีความสุขกับการทำงานมาก
“ปีที่ผ่านมาดีมากภาพพจน์เราดี เรตติ้งก็ดี ที่มีความสุขมากที่สุดคือ เราได้บุคลากรโดยเฉพาะด้านละคร คือถ้าละครเรตติ้งสูง หรือมีกระแสมันก็ผ่านไป แต่ช่วงนี้โดยเฉพาะละคร 4 ขุนเขาฯ เราได้บุคลากรใหม่มาหลายคนเลยทีเดียว มีความสุขมาก อย่างละคร คู่เดือด ที่หลายคนมองว่าหนักไป แต่ก็มีอีกด้านนึงที่เขามองว่ามันก็ไม่ได้หนักนี่ กระแสก็ดี มีคนถาม หลายคนก็พูดถึง โดยเฉพาะวันอังคารที่ผ่านมา (4 ม.ค. 2555) คุณสรยุทธ สุทัศนจินดา เขาก็เอาช่วงหนึ่งในละครมาออกในรายการเขา คนเลยพูดถึงเยอะ”
“ที่เขาพูดถึงอาจจะด้วยเรื่องนี้มีการพูดถึงการทำงานของหน่วยราชการ พอดีเมื่อวันก่อนมีท่านนายกฯมาให้สื่อโทรทัศน์ไปพบ ก็มีโอกาสได้คุยกับท่าน ก็บอกว่าบันเทิงเมืองไทยโดยเฉพาะละคร เราทำอะไรแตกต่างจากที่เรามีอยู่ได้ยาก โดยเฉพาะเรื่องอาชีพ อย่างเรื่องนี้อาชีพเขาเป็นปลัด พอไปกระทบนักการเมือง กระทบข้าราชการ มันก็จะมีคนประท้วง ก็มันเป็นเรื่องสมมติ เป็นเรื่องบันเทิงก็ต้องยอมรับ ก็เลยยกตัวอย่างของประธานาธิบดีสหรัฐ เวลาเขาสร้างหนัง เขาสร้างให้เป็นฆาตกรก็ได้ ข่มขืนผู้หญิงก็ได้ ทรยศต่อชาติก็ได้ ประธานาธิบดีเขาเป็นได้สารพัด ซึ่งหนังเรื่องนี้เขาจำลองเป็นจริงหมด ก็ไม่เห็นใครประท้วงกัน ของเราประท้วงจัง (ตอนนี้ผู้ใหญ่ไม่ว่า) ยังครับยัง แสดงว่ามันมีโอกาสเจออยู่เรื่อย เผอิญเมื่อวานบอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) ไปด้วย ผมเลยโยงเรื่องที่บอยทำละครเรื่อง สงครามนางฟ้า ซึ่งตอนนั้นบอยก็โดน แต่โดยข้อมูลก็โอเค ถือว่ามีความสุขมากปีที่แล้ว”
“ด้านข่าวเองปีที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการเข้าถึง เราลงงานช่วยสังคมเยอะ ถามว่าดูแซงล้ำหน้ารัฐบาลเกินไปไหม ไม่ได้ล้ำหน้า จริงๆ รัฐบาลเขาก็ช่วย แต่ไม่มีใครไปถ่าย รัฐบาลไม่มีกล้อง เราไม่ใช่คนที่บุกเบิกที่จะเข้ามาทำตรงนี้ในเรื่องการช่วยเหลือ ก็ทุกรายการเขามีกล้อง เราถ่ายของเราตลอดเวลา ยืนยันว่าไม่ล้ำหน้า เผอิญเรามีกล้องก็เลยได้เปรียบ ผมก็ทำข่าวของผม ผมไปแจกที่ไหน แต่ท่านนายกฯไม่มีกล้อง มันเป็นความตั้งใจของช่องเราจริงๆ”
“ฝ่ายข่าวปีที่ผ่านมาก็สร้างชื่อเสียงให้เรามาก ซึ่งมันเป็นการริเริ่มของเขาเอง ตั้งแต่แรกคือช่วยเฮติ อันนั้นก็ชัดเจน เรารวบรวมเงินเรียกได้ว่าเยอะที่สุดในโลก แล้วเรื่องช่วยน้ำท่วมเราแตกต่างจากช่องอื่นเพราะว่าเราผูกกัน จากรายการหนึ่งไปอีกรายการหนึ่ง แค่ช่วงเช้ารายการผมมีตั้งเท่าไหร่ นับตั้งแต่ตี 4 ไปถึงบ่ายโมง ซึ่งจะโยงกันตลอด โยงไปช่วงเย็น และภาคดึกเราได้น้ำหนักมากกว่า แต่ช่องอื่นต่างคนต่างทำ ไม่มีลูกโซ่ จริงๆ ก็ไม่ใช่เฉพาะเรื่องช่วยน้ำท่วม ความจริงเราลงพื้นที่มานานแล้ว เราสัญจรตั้งกี่ครั้ง เราก็ลงพื้นที่เรื่อยๆ แต่เที่ยวนี้เราได้ใจเขาเต็มๆ”
“ส่วนเรื่องละครเราชัดเจน เราต้องการทำละครสะท้อนสังคม เรื่องแนวโน้มละครก็จะดีขึ้น เราได้คนอีกรุ่นหนึ่งที่เป็นลูกหลานของผู้จัดเก่า เขาได้เรียนรู้จากรุ่นพ่อ-แม่เขา แล้วก็เติมไอเดียของเขาลงไป แล้วเขาก็มีความกล้าที่จะทำ อย่างละคร 4 ขุนเขาฯ ก็4 คนไปผนึกกำลังกัน แล้วร่วมสร้างงานนี้ขึ้นมา อย่างตู่ (นพพล โกมารชุน) ที่หลายคนมองว่าเราไปดองเขาหรือเปล่า เพราะไม่ได้เห็นผลงานเขาเลย ต้องเรียนว่าส่วนใหญ่ละครที่ส่งมาจะมีปัญหา 2 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกคือบทประพันธ์มาแล้วเราไม่พอใจ ไม่ถูกใจเรา ไม่ได้คิดดองเค็มละครเขา ส่วนเรื่องที่สองคือปัญหาเรื่องคิว คือถ้าใครมีดาราของตัวเองก็เปิดกล้องได้ แต่ถ้าเราจะไปหยิบยืมดารา โดยเฉพาะตอนคุย ถ้าต้องการดาราดังมากๆ มาแสดง มันก็ต้องรอ 5 ปี เพราะฉะนั้นงานก็เลยไม่ได้เปิดสักที ผมถึงพยายามบอกให้สร้างใหม่ ไม่ใช่เฉพาะดาราเท่านั้น ทั้งผู้กำกับ ผู้เขียนบท เพราะมันล้วนมีความสำคัญทั้งนั้น”
โบ้ยถาม “สมรักษ์ ณรงค์วิชัย” ผู้บริหารฝ่ายผลิตรายการของช่อง 3 หลังลือนางเอกสาว “หยาด หยาดทิพย์ ราชปาล” เตรียมซบ 7 สี โวเตรียมขยายเวลาละครหลังข่าว ทั้งเตรียมสร้างผู้จัดทีมใหม่ทำละครช่วงบ่าย
“เรื่องหยาดนี่ไม่รู้เท็จจริงแค่ไหน หยาดเขาพูดเองหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็ดูเขาแฮปปี้ เขาจะต่อสัญญาหรือเปล่านั้น เรื่องนี้ไปถามคุณสมรักษ์ แหม...แต่อย่างที่ข่าวลงว่าหยาดน้อยใจโดนลดเป็นนางเอกละครเย็น ผมถามหน่อยว่าแล้วละครเย็นเสียหายอะไร คนดูมากกว่าหลังข่าวอีก เราไม่ได้ไปลดเกรดเขาเลย ช่วงเย็นเราตั้งใจ เพราะคนดูต้องมากกว่าหลังข่าว เราคุยกันตั้งแต่ต้นแล้ว สมัยก่อนเบอร์หนึ่งของเราอย่างจอย (ศิริลักษณ์ ผ่องโชค) ก็ยังมาลงละครเย็นเลย”
“คือในช่อง 3 เราจะแบ่งหน้าที่กัน ผมมีหน้าที่หาเงิน คุณสมรักษ์มีหน้าที่ใช้เงิน ดังนั้นเรื่องต่างๆ พวกนี้ต้องไปถามคุณสมรักษ์ อย่างตอนนี้ใครๆ ก็แย่ง ณเดชน์ (คูกิมิยะ) มาร่วมงาน เราก็ต้องช่วยกันสร้างบุคลากร คนที่ได้ ณเดชน์ ตอนแรกเขาก็ไม่รู้ว่า ณเดชน์ จะดังขนาดนี้ ก็ต้องช่วยกันสร้างจะได้มีคนไว้ใช้ เรื่องที่ว่านักแสดงใหม่เกิดเยอะ แล้วจะมาแย่งงานนักแสดงรุ่นเก่า บอกเลยว่าไม่มีปัญหาหรอกครับ นักแสดงของเรามีงานกันทุกรุ่น เพราะทุกรุ่นมีความสำคัญ เราไม่ได้ทิ้ง เรายังเกรงว่าละครที่จะผลิตต่อไปอาจไม่ทัน เพราะกำลังจะเพิ่มเวลาละคร จาก 1 ชั่วโมงเป็นชั่วโมงครึ่ง เริ่มปลายเดือนหน้า ช่วงเวลา 18.00-20.00 น. นอกจากนี้เรายังมีแผนละครช่วงบ่ายอีก ดังนั้นผมต้องสร้างทีมใหม่ขึ้นมา ไม่ให้เป็นทีมช่วงค่ำ ไม่งั้นมันแย่งไปแย่งมางานหลักเสียหมด”
“สาเหตุที่เพิ่มเวลาเพื่อให้ผู้จัดมีพื้นที่มากขึ้น มันไม่ใช่ จริงๆ แล้วงานละครโดยทั่วไป อย่างของอเมริกาอยู่กลางวัน แล้วเป้าหมายเราอยู่ตรงนั้นด้วย ตอนนี้เลยต้องมีทีมต่างหากแล้วทำงานได้เร็วกว่านี้ เพราะมันฉายทุกวัน แล้วต้นทุนต้องถูกกว่า ประณีตแบบนี้ไม่ได้...เจ๊ง ความประณีตจะน้อยลงไหม ละครเย็นทุนเท่าหลังข่าว ละครในช่วงปีที่ผ่านมาก็ดีขึ้น ดีทุกเรื่อง แต่ละเรื่องก็มีจุดเด่นของตนเอง อย่างที่ฉายตอนนี้ มงกุฎดอกส้ม ก็เจี๊ยวจ๊าวหน่อย มนต์รักลูกทุ่ง เองจริงๆ เราตั้งใจเป็นละครเย็น เผอิญละครหลังข่าวไม่ทัน ไม่มีเรื่องใส่ก็เลยต้องโยก แต่ผมว่าก็ดีนะ ผมก็ดูอยู่ อย่าเอาเราไปเปรียบใคร เพราะเราเสียหายทุกที จริงๆ เราก็มีดี”