xs
xsm
sm
md
lg

แมวสุดรักหมาสุดป่วนของ “ผัดไท”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


วันนี้ M-Pet ขออาสาพามาบุกบ้านสาวอารมณ์ดีอย่าง “ผัดไท” กับชื่อและนามสกุลใหม่เอี่ยม “ดีใจ ดีดีดี” ผู้สร้างความบันเทิงในวงการมายามานาน ซึ่งเธอเองก็มีความบันเทิงส่วนตัวที่บ้านจากคู่หูสัตว์เลี้ยงแสนรักนั่นเอง

คุณผัดไทเล่าว่าเธอมีความรักและผูกพันกับสัตว์เลี้ยงอย่างหมาและแมวมาตั้งแต่เด็ก โดยตั้งแต่จำความได้ที่บ้านยายของเธอเคยเลี้ยงแมวหลากวัยมากถึง 24 ตัว ซึ่งเมื่อก่อนเธอก็เคยเลี้ยงกระต่ายตัวน้อยน่ารัก แต่เลี้ยงดูค่อนข้างยาก บวกกับไม่สามารถฝึกฝนได้ง่ายเท่าหมาแมว ในวันนี้ภายในบ้านหลังน้อยริมสระว่ายน้ำจึงเหลือเพียงน้องหมาและน้องแมวอย่างละหนึ่งชีวิตเท่านั้น

แมวเอ๋อหมาเหวอ
สุนัขพันธุ์แจ็กรัสเซลชื่อเคิร์ฟ อายุปีกว่า และแมวน้อยพันธุ์ผสมสีขาวชื่อคุณพาทีอายุยังไม่ถึงขวบดีที่ได้มาจากตอนทำงานถ่ายละครเรื่องมหาชนชาวแฟลต แมวจะออกแนวเอ๋อ นิสัยดี ใจดี ขนาดที่เจ้าเคิร์ฟเล่นด้วยมากัดหูเกือบขาดก็ไม่ดิ้นไม่หนี ลากคอไปถูลู่ถูกังก็ไม่โกรธ ไม่เคยทะเลาะกัน ซึ่งเคิร์ฟก็ไม่ได้ทำจริงๆ เพียงแค่เล่นแรงไปหน่อยเท่านั้น

วีรกรรมน้องแมวก็มาจากพื้นฐานความรักอิสระของแมวธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะชอบออกไปเดินสำรวจบ้านนั้นบ้านนี้แต่หาทางกลับบ้านตัวเองไม่เคยถูกสักวัน ทำให้คุณผัดไทต้องออกไปเรียกรับกลับบ้านเสมอๆ เนื่องจากจำทางเดินอ้อมกำแพงกลับออกมาไม่ได้ จนต้องลอดรั้วข้างบ้านกลับมาบ่อยครั้ง

“เลี้ยงไว้จะไม่ให้ออกก็ไม่ได้ เพราะนำเข้าบ้านขนร่วงเยอะมาก ตัวเองกับลูกจะเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้วตั้งแต่ก่อนเลี้ยง แต่เพราะรักทั้งหมาทั้งแมวก็เลยพยายามเลี้ยงให้ดีที่สุด แต่แมวมันเป็นอะไรก็ไม่รู้นะ คือเวลาอยู่นอกบ้านก็เรียกร้องจะเข้า จะตายอยู่ตรงนี้แล้วจะเข้าให้ได้ พอพาเข้ามาได้ไม่นานก็เดินทะลุมุ้งลวดตรงครัวออกไปอีก เอาใจไม่ถูกเลย”

ตัวป่วนประจำบ้าน
ส่วนหมาเคิร์ฟคือสมาชิกที่ทุกคนโหวตให้เป็นตัวแสบที่สุดของบ้าน ด้วยนิสัยแบบไฮเปอร์แอ็กทีฟตลอดเวลา ไม่ว่าใครจะออกไปทำอะไรหน้าบ้านก็จะเข้ามาวุ่นวายทุกครั้ง ดักหน้าดักหลังต้องวิ่งสะกดทุกฝีเก้าจะได้รู้ว่าใครทำอะไรบ้าง จนเคยตกบ่อตอนที่ซ่อมสระว่ายน้ำ แต่ก็สามารถช่วยขึ้นมาได้ทัน เวลาใครมาบ้านมักจะนึกว่าดุ เพราะมันจะพุ่งเข้าใส่ แต่ไม่ได้กัด กลับพุ่งเข้ามากระโดดเล่นด้วย เรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยกับท่าทีตลกปนน่ารักของมัน

“ที่บ้านจะฝึกให้เขารอได้แบบถือของกินแล้วให้รอแต่เราไม่พูดหรอก ก็จะทำเสียงแบบ อ๊ะๆๆ มันก็รู้บอกให้กินถึงจะกิน หรือบางทีแฟนเขาก็จะออกคำสั่งตรวจอาวุธ มันก็จะขึ้นนั่งตัวตรง ให้ตรวจตัวตรวจเล็บ คือเล่นกันเองแล้วเออสามารถใส่คำสั่งได้ด้วย มันก็เป็นเอง”

สิ่งที่หมาตัวแสบของบ้านกลัวที่สุดคือขวดน้ำพลาสติกเปล่าๆ ซึ่งเวลาตีๆ แล้วจะมีเสียงดัง เวลาที่ดื้อมากๆ เพียงแค่นำขวดมาตั้งพูดว่าขวดมาแล้วนะ! ก็จะนิ่งทันที

K-9 จำเป็น
อีกพฤติกรรมแปลกๆ ของเจ้าเคิร์ฟก็คือ เวลาที่ใครลงไปว่ายน้ำในสระข้างบ้าน มันมักจะคิดไปเองว่ามีคนตกน้ำ จึงต้องกระโดดลงไปช่วยทุกครั้งทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้ชอบลงเล่นน้ำ ด้วยการว่ายเข้าไปใกล้ๆ แล้วพยายามลากเข้ามาที่ฝั่งขอบสระ ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษที่ไม่ได้ฝึก ทุกวันนี้เวลามีใครเข้าใกล้สระก็จะเห่าเสียงแหลมอย่างเอาเป็นเอาตาย หรือเข้าไปกันให้อยู่ไกลจากสระบ่อยๆ

“ในบ้านมีสระแบบนี้ เวลามันอยู่ตัวเดียวทั้งวัน ถ้ามันชอบน้ำก็คงลงไปเล่นแล้ว แต่นี่ไม่ได้อยากลงนะ แต่มีเรื่องก็เลยต้องลงไปช่วย เวลาเปิดประตูหน้าบ้านก็จะรู้มุม นั่งนิ่งเรียบร้อยเพราะเราไม่อยากให้ออก ล่าสุดออกไปโดนฟัดกลับมาตาบวมเป่งมาข้างหนึ่ง แต่มันไม่คอยเชื่อเราหรอก เชื่อแฟนมากกว่า เพราะเป็นคนให้อาหารมันประจำ”

นอกจากสระว่ายน้ำที่บ้านแล้ว เจ้าเคิร์ฟยังมีวีรกรรมกับสระน้ำนอกบ้านด้วย ครั้งที่ครอบครัวของคุณผัดไทไปเที่ยวพัทยา เยี่ยมเยียนรีสอร์ตของเพื่อนซึ่งมีสระว่ายน้ำใหญ่หรูหรา เห็นอย่างนั้นแล้วเคิร์ฟไม่รอช้ากระโดดลงสระทันที ทั้งที่เวลาอยู่บ้านไม่เคยคิดจะลง หรือบางทีเดินผ่านก็ฟอร์มแกล้งตกน้ำเสียเอง

เที่ยวทรหด
รวมไปถึงวีรกรรมบนบกอย่างยืนล่อลิงครั้งที่ครอบครัวคุณผัดไทไปเที่ยวเขาสามมุก รวมทั้งอาการเมารถระหว่างเดินทางที่ต้องจดจำไม่รู้ลืม พอหมาเคิร์ฟอาเจียนออกมาเลอะรถ จึงจอดรถเปิดโอกาสให้อาเจียนเสียให้พอกลับไม่มีอาการใดๆ จึงต้องออกรถต่อไป

“งานนั้นทุกคนไม่ได้เที่ยวเพราะรอมันอ้วก พอปล่อยให้เดินตามสนามหญ้าหมาจรจัดก็เข้ามา โห!น่ากลัวมากเลยนะ ฮายีน่ามาเพียบเลย แฟนเราเลยใจเด็ดเข้าไปอุ้มออกมา ขึ้นรถได้ก็ตบกบาลว่าเรื่องเยอะที่สุดเลย หลังจากนั้นก็ให้มันไปนั่งข้างหน้า ให้มองนู่นนี่จะได้ไม่เมา เท่านั้นแหละ...อ้วก! ต้องจอดรถรื้อเบาะออกมาทำความสะอาดยกใหญ่ ขากลับเวลานั่งรถก็จะไม่ให้มันกินมื้อเช้าแล้วเดี๋ยวอ้วกอีก ให้กินตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น เข็ดมากๆ”

ส่วนคุณชายพาทีจะไม่ได้ออกไปตะลอนที่ไหนไกล แห่งเดียวที่ไปคือร้านเสริมหล่อสำหรับคุณชายแมวนั่นเอง ถึงเวลาแต่ละเดือนจะมีรถจากร้านมารับไปอาบน้ำแต่งขน กลับมาก็จะตัวหอมขนขาว แต่หล่ออยู่ได้สัก 3 วันเท่านั้นก็กลับไปมอมแมมเหมือนเดิม

อุ่นรักต่างสายพันธุ์
“ครอบครัวนี้เวลากลับมาถึงบ้านก็จะทักทายหมาก่อน อย่างเรากลับมาก็เล่นกันอยู่ตรงหน้าบ้านนั่นแหละ ลูกสาวก็เหมือนกัน ส่วนแฟนถ้ามาถึงบ้านก็จะได้ยินเสียงจอดรถแล้วก็จะได้ยินสียงเขาเล่นกับเจ้าเคิร์ฟว่า หมาดีหรือเปล่า อ๊ะๆ กู๊ดด็อกๆ ไม่ๆ อ้าวไอนี่!! แบบนี้ทุกวันกว่าจะเข้าบ้านตีไปก็ครึ่งชั่วโมง”

ถึงเวลายามค่ำคืนเจ้าเคิร์ฟและคุณแมวพาทีก็จะเข้ามานอนในห้องครัว โดยที่หมานอนในกรงและแมวนอนบนกรงอีกทีหนึ่ง ด้วยความสงสารเพื่อนว่าถูกขัง พาทีจะเข้าไปเรียก เอาขาหน้าแหย่ลงไปในกรงให้เจ้าเคิร์ฟขบเล่นๆ ให้รู้ว่ามันไม่ได้อยู่ตัวเดียว ซึ่งหลายคนที่เห็นครั้งแรกอาจนึกว่าพาทีไปหยาม แต่จริงๆ คือไปอยู่เป็นเพื่อนกัน กลัวเพื่อนเหงานั่นเอง

นอกจากงานด้านบันเทิงแล้ว คุณผัดไทก็ยังร่วมทำฟาร์มแมวกับเพื่อนด้วย โดยเป็นเหมือนประชาสัมพันธ์ของฟาร์มในขณะที่เพื่อนดูแลฟาร์ม ซึ่งจะมีทั้งแมวพันธุ์เปอร์เซีย และแมวพันธุ์สกอตติช โฟลด์ แมวหูพับซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น

สัตว์เลี้ยงบอกตัวตน
คุณผัดไทบอกว่าก่อนจะเลี้ยงสัตว์อะไรควรคิดก่อนว่าจะมีเวลาให้สัตว์เลี้ยงไหม แต่คนควรจะเลี้ยงสัตว์อย่างน้อยหนึ่งอย่างหรือต้นไม้สักต้น ซึ่งสามารถบอกได้ถึงตัวตนของบุคคลนั้นว่าเห็นแก่ได้หรือเอาแต่สนุกไหม รู้จักที่จะวางแผนและรับผิดชอบหรือไม่

“ไม่ว่าจะต้นไม้หรือสัตว์มันมีทั้งมุมสวยและมุมรับผิดชอบ ถ้าเลี้ยงไม่ดี ปล่อยทิ้งขว้างให้เขาเจ็บป่วยก็บ่องบอกได้เลยว่าเราเป็นคนแบบไหน มีวินัยรับผิดชอบได้แค่ไหน สัตว์เลี้ยงเขาก็จะสอนเราด้วย อย่างถ้าไม่เก็บกวาดให้ดีกลิ่นเหม็นก็จะบอกได้ว่าเราเอาแต่ภาพสวยงาม”

จากที่เคยอยู่บ้านคุณยายกับฝูงแมว 24 ตัวมาก่อนทำให้คุณผัดไทถูกปลูกฝังความรับผิดชอบมาตั้งแต่เด็กๆ ถ้าอยากได้ก็ต้องดูแล บางครั้งที่ลูกสาวอยากเลี้ยงหนู ก็จะถามก่อนว่าที่เลี้ยงอยู่ปัจจุบันทำอะไรบ้าง บ่อยแค่ไหน ซึ่งถ้าไม่สามารถรับผิดชอบได้แล้วก็เหมือนกับซื้อเขามาตาย

“เคยให้เขาเลี้ยงแล้วก็ตาย เขาก็จะเรียนรู้แล้วก็ไม่เลี้ยงแล้ว ด้วยที่ไม่มีเวลาพอ หรือยังสะเพร่าอยู่ บางทีเลี้ยงแบบไม่ได้ศึกษาถึงนิสัยใจคอว่ามันดุไหม อยู่ด้วยกันได้ไหม ก็เคยเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์แล้วมันกัดกันตาย ไม่ถูกกันมาอยู่ด้วยกัน พอตายแล้วลูกสาวก็เศร้า เรียนรู้ไป คราวหลังจะเลี้ยงอะไรเขาก็จะต้องถามตัวเองก่อน”

กล่าวคือหากใครจะเลี้ยงสัตว์คงต้องถามตัวเองด้วยว่าพาเขามาทำบุญหรือทำบาป คิดให้ดีว่ารับผิดชอบไหวหรือไม่ มีความเมตตามากพอไหมในเวลาที่หากสัตว์เลี้ยงดื้อหรือตัวเองอารมณ์เสียมาแล้วมาลงกับสัตว์เลี้ยงหรือเปล่า แม้บางครั้งอาจไม่ตั้งใจแต่สัตว์เหล่านี้ไม่มีทางสู้ได้ จึงต้องถามและเรียนรู้ตัวเองให้ดีให้แน่ใจเสียก่อนดีที่สุด

รายงานโดย ทีมข่าว M-Lite
ภาพโดย...วรวิทย์ พานิชนันท์


เล่นน้ำกันตัวเปียก
โชว์ยืน 2 ขา
กำลังโหลดความคิดเห็น