xs
xsm
sm
md
lg

นี่ฉัน “พอลล่า เทเลอร์” นะ ใครว่าขาลง!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เจ้าแม่พรีเซ็นเตอร์” ในอดีตคำคำนี้อาจจะใช้กับเธอได้ไม่ผิดนัก บุคลิกร่าเริง แจ่มใส รอยยิ้มที่ใครเห็นต่างก็หลงเสน่ห์ สำเนียงภาษาไทยชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง แต่นั่นก็คือเอกลักษณ์ที่มีอยู่ในตัวของ “พอลล่า เทเลอร์” ตลอดระยะเวลา กว่า 15 ปี เชื่อว่าหลายคนต่างก็รู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตาเธอ ผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์แทบทุกช่อง ทั้งงานโฆษณา บิลบอร์ด สื่อต่างๆ อีกทั้งยังมีละคร ภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมถึงบนหน้านิตยสารแฟชั่น

หลายคนอาจจะสงสัยว่า “พอลล่า เทเลอร์” หายไปไหน เหตุใดในช่วงที่ผ่านมาจึงไม่ค่อยเห็นผลงานเธอมากนัก จริงหรือว่าเธอกำลังอยู่ในช่วง ขาลง ! M-Lite พามานั่งพูดคุยกับ พอลล่า ท่ามกลางของบรรยากาศในกองถ่ายละคร ซิทคอม เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร? ...

พอลล่า งานหด!?

ที่ผ่านมาผลงานการแสดงของพอลล่า อาจจะไม่ค่อยปรากฏให้เห็นมากนัก เห็นแต่จะมีเพียง ซิทคอม เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร? และภาพยนตร์ บ้านฉันตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้) ที่กำลังจะเข้าฉาย รวมถึง ผลงานทางการเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา มันฝรั่งทอดกรอบ เลย์ และกล้องแคนอน ซึ่งเธอเหมาเป็นพรีเซ็นเตอร์มาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้ว

ภาพลักษณ์ของความน่ารัก สดใส เข้ากับคนได้ง่าย อาจเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอยังคงอยู่ได้ แต่ก็คงจะไม่ฮือฮาเหมือนครั้งที่ผ่านมาเท่าไหร่นัก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะมีดารานักแสดงหน้าใหม่ก้าวสู่วงการบันเทิงอย่างมากมาย การแสดงออกทางบุคลิกอย่างเด่นชัดหรือภาพลักษณ์ของเธอยังคงเป็นที่จดจำต่อผู้พบเห็น

“เราว่าภาพลักษณ์ก็มีส่วน แต่เราว่าขึ้นอยู่ที่ดวงมากกว่านะ เพราะเราเป็นคนเชื่อว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นมาก็เพื่ออีกสิ่งหนึ่ง”

เธอเป็นคนบอกเองว่า ภาพลักษณ์ก็มีส่วนในการทำให้งานของเธอมีเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย แต่สิ่งที่แสดงออกมาผ่านภาพถ่ายในงานปาร์ตี้ระหว่างเพื่อน หรือจะเป็นภาพหลุดที่ออกมาจากเฟซบุ๊ก ภาพสวีตหวานกับ “เอ็ดเวิร์ด” แฟนคนล่าสุดของพอลล่าก็แสดงให้เห็นว่าภาพลักษณ์อันแท้จริงของเธอนั่นจะเป็นจริงอย่างที่ทุกคนเข้าใจหรือไม่ หรือสิ่งนี้เองที่ทำให้งานไม่ค่อยมากเหมือนเมื่อก่อน

ในส่วนของภาพที่ออกมาพอลล่าเองไม่ค่อยห่วงมากเท่าไหร่ ความรู้สึกที่เข้ามาในวงการของเธอครั้งแรกกับปัจจุบันนั้นแตกต่างกัน ความรู้สึกที่ครั้งแรกที่รู้สึกว่าอะไรที่เมื่อก่อนนิยมกันมากๆ เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยนิยมกันแล้ว ข่าวคราวที่ทำให้คนขึ้นหน้าหนึ่งได้ไม่เหมือนดังเช่น 5 ปีที่แล้ว

“ความแตกต่างของข่าวแรงขึ้น สำหรับเราไม่ค่อยมีข่าวแต่จะมีภาพนะ ที่ได้ขึ้นก็คือคนให้ความสนใจมาก เราเองก็ไม่ชอบเท่าไหร่ ไม่อยากขึ้น รู้สึกว่ามันไม่ดี”
แต่ช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยเห็นงานของพอลล่าที่เมืองไทย ใช่ว่าจะเป็นเพราะข่าว แต่เพราะเธอเองต้องบินไปทำงานต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง

“ที่ไม่ค่อยเห็นงานในช่วงนี้ พอลล่าไปทำงานที่ต่างประเทศค่ะ ไปทำอยู่ฮ่องกง ถ่ายโฆษณาให้แก่แคนอนกับดาราฮ่องกงชื่อดัง”

เธอเล่าว่าการไปทำงานที่ต่างประเทศนั้น เริ่มตั้งแต่ก่อนที่เธอจะรับงานภาพยนตร์เรื่อง Sex Phone คลื่นเหงาสาวข้างบ้านเสียอีก

ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทำมากกว่าที่เมืองไทยนะ พอได้เล่นหนังก็ไปได้ดี ระยะนั้นจึงทำให้มีผลงานทั้งในและต่างประเทศ ช่วงนี้ก็เริ่มกลับไปทำที่นู้น จึงทำให้ไม่ค่อยเห็นผลงานการแสดงที่นี่เท่าที่ควร

คงเพราะเธอไม่มีสังกัดการเลือกรับงานทั้งหมดพอลล่าเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะเลือกจะรับงานไหนบ้างด้วยตนเอง นั่นหมายถึงสิ่งที่เธอต้องสกรีนแล้วว่างานแบบไหนที่เธอทำได้หรือไม่ได้

แต่ในปัจจุบันมักเห็นดาราหลายคนเลือกรับถ่ายแบบ หวือหวา ฮือฮา จึงจะมีงานตามเข้ามามากมาย สำหรับพอลล่าเธอเลือกที่จะไม่ถ่ายชุดว่ายน้ำจึงเหมือนกับการปิดกั้นตัวเอง

“เราก็ต้องรู้ล่ะว่าตัวเองรับงานไหน เป็นคนหาโอกาสใหม่ให้แก่ตัวเอง คิดว่าตัวเองจะเปิดรับอะไรได้บ้างให้ทำงานเหมือนเดิมก็น่าเบื่อ ส่วนงานที่รับบางทีไม่รู้หรอกว่าเราจะทำอะไร ไม่ได้อยากคิดว่าแล้วจะยังไง ไม่มีอะไร เพราะต้องหาอะไรใหม่ๆ ทำอยู่ตลอด บางทีก็มีงานที่เราไม่อยากทำ อย่างเราจะปิดกั้นไว้เลยว่า เราจะไม่ถ่ายชุดว่ายน้ำ แค่นี้ก็เหมือนว่าเราปิดกั้อะไรหลายอย่างแล้ว”

การทำงานของพอลล่าจึงเหมือนเริ่มต้นใหม่ ในวงการเราสามารถเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ได้ง่ายมาก แต่พอเราบอกไม่ถ่ายชุดว่ายน้ำมันเหมือนปิดประตูเยอะมาก หลายขั้นตอน แต่เราก็ต้องสามารถไปได้เรื่อยๆ

บินลัดฟ้า...โกอินเตอร์

ในเมืองไทยพอลล่าจะมีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักแต่การทำงานในต่างประเทศยิ่งทำให้เธอต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้งาน

พอลล่าเล่าว่าเธอเคยสมัครเข้าไปเล่นเรียลิตี ซึ่งตอนนั้นเธอเองเป็นแฟนคลับของรายการดังกล่าว ไม่ได้คิดอะไรมาก มีหลายคนถามว่าคิดดีแล้วหรือ แต่สิ่งที่ทำลงไปพอลล่าเชื่อว่า หากตั้งใจทำ ทำในสิ่งที่ดี แล้วไม่ได้ทำร้ายใครทุกอย่างก็จะออกมาดีเอง

การเข้าไปเล่นเกมเรียลิตีดังกล่าวก็เข้าไปในฐานะผู้สมัครจากทางบ้านคนหนึ่ง ซึ่งไม่มีใครทราบว่าตัวตนของเธอคือดาราจากเมืองไทย พอรายการจบลง มีคนมาเที่ยวเมืองไทย จึงทำให้เขารู้ว่าเธอเป็นดารา นี่อาจจะเป็นก้าวหนึ่งที่ทำให้เธอได้ก้าวขึ้นไปในระดับอินเตอร์

“เราต้องออกไปแคสงานใหม่ “สวัสดีค่ะ ชื่อพอลล่านะค่ะ” (ยิ้ม) ก็ทำเหมือนเดิม เหมือนทุกคนเลย ไม่ได้เข้าไปบอกว่า “นี่ฉันพอลล่านะ มาจากเมืองไทย” ถ้าพูดแบบนี้เค้าก็คงคิดว่าอะไร ”

การทำงานของพอลล่า ต้องไปลองดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แล้วจะได้รับโอกาสอะไรบ้าง จะได้เปิดรับโอกาส อันที่จริงก็แล้วก็เหมือนว่าเราต้องสะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ

“มันก็ยากนะ บางทีมันก็เหมือนทำให้เราท้อบ้างเหมือนกัน เฮ้ย ! อยู่เมืองไทยสบายๆ อยู่แล้ว ทำไมต้องไปลำบาก หลายคนก็บอกว่างานที่นี่ก็เยอะอยู่แล้วต้องไปหาทำไม อย่าไปเลย เราก็แบบพอเราได้โอกาสดีๆ เหมือนได้พัฒนา เป็นอะไรที่ภูมิใจนะ สิ่งที่เราอยากทำตั้งแต่แรก คือเหมือนไปหาประสบการณ์ให้ตัวเอง”

“เราทำมาเยอะแล้ว จะให้เรามาทำอะไรเหมือนเดิมทุกวันมันก็เบื่อ เลยต้องออกไปค้นหาว่าเราจะมีอะไรใหม่เข้ามาบ้าง ก็เหมือนว่าเราได้เริ่มที่ใหม่แล้วจะไปได้ถึงไหน ทำให้มันรู้สึกว่าไม่น่าเบื่อนะ”

ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ นี่คงเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่พอลล่ายกตัวอย่าง ประเทศที่เธอได้ไปร่วมงานมา

สังคม วัฒนธรรม แฟชั่น รสนิยมที่มีความแตกต่างกันของแต่ละประเทศ จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถอย่างมากให้แก่พอลล่า

“การทำงานที่ไปทำมามีความแตกต่างกันมากนะ ทุกประเทศจะไม่เหมือนกัน เราทำงานฟิลิปินส์ ฮ่องกง ไทย ญี่ปุ่นต่างกันเลย รสนิยมของเขา วิธีการแต่งหน้าจะแตกต่างกันออกไป อย่างทำงานกับไทยจะแต่งหน้าแบบนี้ ไปอีกประเทศก็จะแต่งหน้าอีกแบบ จีน ญี่ปุ่นก็เปลี่ยนไป เราคิดว่าทำที่นี่แล้วสวยแต่พอไปอีกที่มันก็ไม่สวย แต่ก็ต้องคิดว่าช่างมันเหอะ แค่คิดว่าต้องทำงานออกมาดี ในสิ่งที่คนจ้างเขาชอบ มันก็สนุกดี ทุกประเทศที่ไปทำงานจะมีสิ่งที่ดีไม่เหมือนกัน”

ดูเหมือนว่าการทำงานกับต่างประเทศเกือบทุกอาทิตย์ ยิ่งทำให้พอลล่าติดนิสัยการทำงานแบบต่างชาติมาอย่างเต็มๆ

“ถามว่าต้องเป๊ะทุกอย่างมั้ย เป๊ะขนาดไหน เราก็ไม่เป๊ะมากนะ หยืดหยุ่นได้ แต่ทำงานกับเราไม่ชอบให้โกหก มีอะไรบอกกันตรงๆ พูดตรงๆ มีอะไรคุยกันได้เลย จะเลตจะอะไร จะเปลี่ยนแปลงก็คุยกันได้ ไม่ใช่มาปิดบัง”

“ใจร้อน ไฮเปอร์ ขี้เบื่อ อยู่ไม่นิ่ง” อาจจะเป็นสไตล์การทำงานของพอลล่า การจะมาทำให้เธอต้องทำอะไรซ้ำๆ เดิมๆ ทุกวัน เป็นสิ่งที่น่าเบื่อ

“เป็นคนขี้เบื่อมาก ให้เรามานั่งรอครึ่งวันจะตายเอาเลยนะ การรอคือการเบื่ออย่างหนึ่งฆ่าคนตายได้เลยอ่ะ พอลล่าคิดว่าให้เรามารอเราเบื่อตายเลย ให้เราทำงานเช้าจนดึก มาเลยฉันทำได้ แต่ถ้าให้รอเช้ายันตีหนึ่ง โอ้ย! การรอมันเหนื่อยกว่าการทำงานอีกนะ ให้ทำติดๆ กันแล้วค่อยเลิกงาน กลับบ้านเป็นลม พักผ่อนทีเดียวดีกว่า คืองานมันสนุกไง”

บางคนเห็นพอลล่าเป็นแบบนี้อาจจะชอบหรือไม่ชอบก็มี เมื่อก่อนงานจะเยอะเป็นช่วง เพราะเธอเป็นคนเลือกรับงานเอง อาทิตย์หนึ่งอาจจะเคยมีรับงานทุกวัน แต่ตอนนี้เลือกที่จะไม่รับทุกวันเพราะเธอเองต้องบินไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อยครั้ง ต้องมีเวลาให้แก่ตัวเอง พยายามหาเวลาพักผ่อนให้ตัวเอง ทำสิบวันว่างหนึ่งวัน การเดินทางเป็นอะไรที่เหนื่อยมากสำหรับเธอ

ความรัก...ไม่ใช่นิยาย

ส่วนเรื่องของความรัก แม้ว่าเธอจะเป็นหญิงสาวที่หนุ่มๆ หลายคนหมายปอง แต่เธอกลับมีข่าวกับหนุ่มอย่างเป็นจริงเป็นจังเพียงแค่สองคน คนแรก คือ เก้า ณัฐดนัย ที่ได้เลิกรากันไปนานแล้วนั้น ตอนนี้พอลล่าก็มีหนุ่มลูกครึ่งจีน อังกฤษที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่

“ความรักตอนนี้ก็ดีนะ ชื่อ เอ็ดเวิร์ด เป็นลูกครึ่งจีน อังกฤษ เป็นน้องชายของเพื่อนพอลล่าเอง ก็เลยเจอกัน เค้าเป็นคนอารมณ์ดี น่ารัก นิสัย ผู้ชายคนนี้สเปกมั้ยเหรอ ก็ถ้าไม่ใช่สเป๊กแล้วเราจะคบใกล้เรียกแฟนแล้วล่ะ”

พอลล่าเล่าว่าความรักครั้งแรกเกิดขึ้นตอนที่เรียนอยู่ไฮสกูล ซึ่งถ้าจะถามว่ารักครั้งแรกกับปั๊ปปี้เลิฟในความรู้สึกของพอลล่ามันมีความต่างกัน และความรักสำหรับเธอไม่ใช่ความรักแบบนิยาย

“มุมมองความรักของเราไม่ได้ต่างไปจากตอนเด็กเลย เราอยากคบใครก็คบกันนานๆ สุดท้ายเราก็ไม่เคยมาคิดว่าจะคบกับใครเล่นๆ เป็นแบบนี้มาตลอด เราเชื่อว่าความรักเป็นสิ่งที่ดีมาก การที่เรามีความรัก มันสามารถทำให้เราทำอะไรได้ทุกอย่าง มักจะทำทุกอย่างเพื่อความรัก ไม่ว่าจะเป็นความรักกับแฟน หรือพ่อ แม่ ซึ่งเป็นความรักที่แข็งแรงที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรก็ขอแค่มีความรักคนก็อยู่ได้แล้ว”

เก็บเงิน สะสมอสังหาริมทรัพย์

งานเข้า เงินก็ยิ่งเข้าเยอะ แต่สำหรับพอลล่าแล้วยิ่งมีมาก ยิ่งเอาไปชอปปิ้ง หมดไปกับการแต่งตัว เรื่องที่เป็นผู้หญิงมากมาย จึงทำให้เก็บเงินไม่ค่อยอยู่

การนำเอาเงินไปลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์จึงเป็นความคิดที่พอลล่าจะนำเงินทั้งหมดไปลงทุน “ถ้าเราไม่ซื้อนะป่านนี้เราก็ไม่มีเงินเก็บแน่นอน ไม่ใช่ว่าจะมีเยอะนะ เงินเข้ามาก็จะออกหมดเลย ซื้อนู้นนี่ ชอปปิ้ง หมดได้เรื่อยๆ เลยล่ะ ก็เลยไปหาซื้ออะไรชิ้นโตๆ ”

ลงทุนไว้มากทั้งในและต่างประเทศจนวันหนึ่งพอลล่าเองต้องขึ้นศาลเรื่องคอนโดฯ เนื่องจากเธอลงทุนไป จ่ายเงินไปแล้วแต่เขาไม่สร้างตึกให้

“เค้าเอาเงินดาวน์ไปหมดเลย เอาของคนที่ลงทุนให้ไปแล้วก็หายไปเลย เลยไปขึ้นศาลร้องเรียน แต่เรื่องก็ยังไม่จบนะตอนนี้ แต่เราก็ไม่อยากยุ่งมากให้ทนายเราจัดการเองดีกว่า”

นอกจากจะมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว ยังทำโมเดลลิ่ง ซึ่งยังไม่ได้เปิดตัวเต็มที่มากเท่าไหร่ เป็นบริษัทที่เปิดไว้ดูแลดารา นักแสดง นางแบบ เพราะเราตอนเด็กก็ได้ทำมาทุกอย่าง เราเองไม่เคยมีค่ายมีสังกัด เลยฝันเอาไว้ว่าจะเปิดบริษัทโมเดลลิ่ง ก็คิดเอาไว้ว่าถ้าเราได้อยู่ค่ายหรือกับบริษัทอะไรเราก็อยากอยู่แบบนี้ เราเปิดจากสิ่งที่เรารับรู้ อยากมีบริษัทแบบนี้ในบริษัทเราเอง ตอนนี้ก็เพิ่งจะเริ่มเปิด อีกประมาณสองเดือนก็คงพร้อมแล้ว

ยิ่งนับวันจะมีดารานักแสดงหน้าใหม่เข้ามาในวงการเรื่อยๆ ทุกวัน พอลล่าบอกว่า ทุกวันนี้ก็ต้องพยายามหาโอกาสให้แก่ตัวเองอยู่ตลอดเวลา

“เรายังไม่คิดว่าตัวเองจะถึงจุดสูงสุดหรอกนะ เพราะถ้าหากว่าคิดว่าถึงแล้วเราก็จะต้องกลับมาคิดว่าจะไปทางไหนต่อ จะลงแล้วเหรอ หรือควรจะขึ้นไปเรื่อยๆ มันก็ควรหาอะไรทำไปได้เรื่อยๆสิ ไม่ใช่ว่าไม่มีจุดให้เดินขึ้นไปสักหน่อยแล้วจะมาหมดความพยายาม ก็จะทำให้ไม่มีอะไรทำพอดี”

ถ้าถึงขาลง เราก็ต้องไปเรื่อย ๆ ถ้าถึงขาลงจริงๆ เราก็คงเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแล้วล่ะ ถ้าเราตั้งใจจะไปทำอย่างอื่น มีครอบครัว แต่งงาน มันก็คงเปลี่ยนประเภทงานไปทำอย่างอื่นแล้ว


**********************************************

เสน่ห์ความสุขแบบพอลล่า

ทุกครั้งที่เห็นพอลล่ามักจะเห็นรอยยิ้มและความสดใสของพอลล่าอยู่เสมอ สิ่งที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้เธอบอกว่าได้ทำในสิ่งที่รัก ได้อยู่กับคนที่รัก หากไม่ชอบอะไรก็อย่าไปฝืนทำ ปล่อยไป ทำในสิ่งที่ชอบแล้วทำมันอย่างเต็มที่ก็จะทำให้มีความสุข
และยิ่งเสน่ห์ของพอลล่าสามารถสร้างได้การเริ่มมองทุกอย่างในแง่ดี แม้ทุกคนจะบอกว่าอะไรมันจะไปดีขนาดนั้น แต่แบบมันก็ดีจริงๆ นะ การมองในแง่ดีก็ยังไม่เคยทำให้เธอต้องพบเจอเหตุการณ์ที่กลับมาทำร้ายตัวเอง เพราะคิดในแง่ดีทุกอย่างเลย พอมันผิดก็คิดว่าไม่เป็นไร วันหน้าค่อยว่ากันใหม่ มันอาจจะมีอะไรดีขึ้น บางทีอารมณ์เศร้าก็เป็นไม่นานหรอก

นิยามเพื่อนของพอลล่า

หลังจากที่เธอถูกปล่อยภาพออกมาจากเฟซบุ๊กนั้น มีหลายเสียงบอกออกมาว่าเป็นเพื่อนของเธอเองที่เป็นคนปล่อย เธอบอกว่าสำหรับภาพไม่คิดมากนะ แต่เรื่องที่มันมาจากไหนตรงนั้นคือสิ่งที่เราห่วงมากกว่า มันมาจากเฟซบุ๊กเราก็เท่านั้น แล้วคนที่อยู่ในเฟซบุ๊กก็เป็นเพื่อนเรา เป็นสิ่งที่โกรธมากกว่าว่า เอ๊ะ ! ยังไงเนี่ย มีเพื่อนเราคนนึงที่เอารูปออกไปให้สื่อ อันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ชอบมากกว่า

“ทุกคนในนั้นเป็นเพื่อนเราก็ควรจะให้เกียรติเราในความเป็นเพื่อนของเรา เราอุตส่าห์ให้เกียรติคุณดูรูปเราแล้ว เพราะเรารับเป็นเพื่อนแล้วแต่มาทำกับเราแบบนี้ก็สุดๆ แล้ว”

เพื่อนก็ควรจะดูแลเพื่อนเรา เพราะว่าเพื่อนก็คือคนที่จะอยู่กับเราไม่ว่าจะยากจะดียังไง ก็ควรจะทำกับเพื่อนในแบบที่เราอยากให้เค้าทำกับเรา

**************************************

ประวัติ

ชื่อ พอลล่า เทเลอร์ (พัลลภา เทเลอร์)

เกิด 20 มกราคม 2526

การศึกษา ปริญญาตรี International Business and Management เน้นภาษาจีน
Highschool ประเทศออสเตรเลีย

ผลงานปัจจุบัน ซิทคอมเรื่อง เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร

ภาพยนตร์เรื่อง บ้านฉันตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้)

สัตว์เลี้ยง บลูด็อก ชิวาว่า และแมว

******************************************

รายงานโดย  ทีมข่าว M-Lite

ภาพโดย วรวิทย์ พานิชนันท์



ภาพจากสุดสัปดาห์




กำลังโหลดความคิดเห็น