xs
xsm
sm
md
lg

ดร.กุลเดช สินธวณรงค์ สถาปนิกกับปรัชญาก้นครัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เหมือนเล่นดนตรี…!
คือ มีจังหวะจะโคน สม่ำเสมอ ชนิดที่ หนักได้เป็นหนัก เบาก็เบาเป็น แต่ใช่ว่าที่เห็น
หนักแน่นแข็งแรง ทว่าปลายทางกาลก็กลับทำให้รสชาตินุ่มนิ่มนวลชวนฝันได้เหมือนกัน
ได้น้ำหนัก…!!
ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งรู้สึกแบบนั้น เพราะระหว่างความโล้งเล้งของเนื้อไม้ โลหะ ปะทะกันในครัวดีไซน์น่ารักก็คล้ายกับเสียงโน้ตดนตรี โด เร มี… คือมีมิติ
แต่ใช่ว่า…เห็นไกลๆ จะไม่ได้อารมณ์ เพราะหากจะ “อิน” ต่ออีกสักนิด ชนิดลองหลับตาฟังสุ้มเสียง ที่ว่ามันจะคล้ายกับเม็ดใสของฝนตกกระทบ พื้นดิน หลังคา ซีเมนท์ ยอดหญ้า ให้โทนเสียง สูง-กลาง-ต่ำ ราวกับธรรมชาติกำลังเล่นดนตรี
ไพเราะ…!!!

-1-
ทันทีที่เห็น อากัปกิริยา 2 มือของสถาปนิกหนุ่มวัย 35 กำลังหยิบจับโน่น-นี่ เป็นระวิง ในครัวเก๋ๆ ในบ้านหลังใหญ่ กลาง ซ.ศูนย์วิจัยของเขาตรงหน้า
จินตนาการก็เตลิด…จนอดเปรียบเปรยกิจกรรมวันว่างๆ ของหนุ่ม M-Open ฉบับนี้ เป็นไลฟ์สไตล์ที่เขาบอกว่า “แฝงไปด้วยการปรัชญาในการทำงาน” ช่างคล้าย “วาทยากรให้น้ำหนักดนตรีได้ไพเราะ”เหลือเกิน
“ผมชอบทำ (และกิน) อาหารอิตาเลียนเป็นชีวิตจิตใจ เพราะผมรู้สึกว่ามันง่ายๆ คือหยิบจับเอาสิ่งต่างๆ รอบตัวเรามาใส่ได้ดูว่าชอบอะไรก็โยนลงไป ไม่ต้องมีพิธีรีตองมาก ไม่เหมือนอาหารฝรั่งเศสที่เน้นเทคนิค อาหารอิตาเลียนไม่จำเป็นขอ แค่เข้าใจก็จะสามารถดึงจุดเด่นนั้นๆ ออกมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว” วิธีคิด การจับประเด็นแบบนี้ก็เหมือนกับสไตล์ในการทำงานของคน “จาร์เค็น”
“คาแร็กเตอร์ของออฟฟิศผมคือทำงานเร็ว แต่ไม่ได้หมายถึงชุ่ยๆ นะ เร็ว แต่ผลงานต้องดี เราจะสนใจรายละเอียดแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็เหมือนเวลาทำอาหาร เช่น เวลาผมอยากจะทำอะไรกิน ผมจะนั่งนึกก่อนว่าจะรสชาติจะออกมาเป็นอย่างไร จะใส่อะไรลงไปในนั้นบ้างถึงจะอร่อย งานสถาปนิกก็เป็นอะไรที่ต้องคิดวาง-แผน-สร้างอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอๆ”
นอกจากนี้ การเข้าครัวทำอาหารมันยังสร้างสมาธิ ทั้งยังจัดระบบให้การทำงาน จัดระเบียบให้วิถีชีวิตของเราได้อย่างดีอีกด้วย หนุ่มมาดนักบริหารเล่าพลาง หยิบ หั่น จับอุปกรณ์เครื่องครัวที่ติดตั้งอยู่เหนือศีรษะอย่างชำนิ ชำนาญ
“ผมค่อนข้างให้ความสำคัญกับครัวแต่ไม่อยากให้เนี้ยบ ผมชอบครัวโบราณของยุโรปที่ออกร็อกๆ อย่างที่บ้านหลังนี้ผมทำมันตอนกลับมาจากเรียนที่อังกฤษใหม่ๆ เป็นครัวสไตล์ลอฟฟ์ อุปกรณ์เยอะแต่หยิบจับอะไรได้ง่าย ผมไม่ชอบครัวแบบปิด ผมอยากทำกับข้าวไปคุยไปมันจะสนุกเหมือนตอนนี้ เพราะไอเดียดีๆ อาจจะเกิดโดยเฉพาะตอนอารมณ์ดีๆ”
อยากทานอะไรเพิ่มบอกได้นะครับ…?
“ปกติทุกๆ วันก่อน ผมก็จะทำอาหารให้ลูกและภรรยาก่อนออกไปทำงาน” เป็นกิจกรรมประจำวันที่ แฟมิลีแมนคนนี้ขาดตกบกพร่องไม่ได้
“ผมว่าไม่นะ...กับผู้ชายเข้าครัว จะสังเกตได้ว่าเชฟส่วนใหญ่ที่เก่งมักจะเป็นผู้ชาย หลายคนอาจจะรู้สึกแค่ว่าก็เพราะว่าอุปกรณ์แต่ละอย่างในครัวมันหนักมากจึงต้องเป็นผู้ชาย แต่จริงๆ ผมว่ามันไม่ใช่ ส่วนใหญ่คนทำอาหารเป็นผู้ชายเพราะเรามีความแข็ง และมีความเซ็นซิทีฟเล็กๆ อยู่ในตัว มันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความหนักเบา” เหมือนกับชีวิตบางทีก็ต้องรู้จักเบา รู้ว่าสิ่งไหนควรหนัก
“อย่างถ้าเจออะไรหนัก ก็กลับมาทำอาหารให้ลูกและภรรยาก็เบาแล้ว” สถาปนิกหนุ่มกล่าว
2
ปัจจุบัน ดร.กุลเดช สินธวณรงค์ เป็นสถาปนิกหนุ่มไฟแรง เจ้าของ บ.จาเค็น กรุ๊ป จำกัด ซึ่งออกแบบบ้านระดับ Hi-End ซึ่งเน้นสไตล์แนวเส้นบวกทันสมัยไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังเป็นอาจารย์เป็นปรึกษาพิเศษให้แก่หลายสถาบัน และชอบเขียนหนังสือแล้ว
เขาจัดได้ว่าเป็นคนที่มี Taste ไม่ว่าจะในเชิง lifestyle การใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเรื่องทำอาหาร เขามักจะชอบเดินทางไปทั่วโลกเพื่อสรรหาอาหารที่อร่อยและแปลกใหม่อยู่เสมอ ทั้งยังเป็นกูรูเรื่องไวน์ เป็นอีก 2 สิ่งซึ่งไม่ค่อยมีคนรู้
“จุดเริ่มต้นระหว่างผมกับอาหารเริ่มต้นตอนอายุ 18-19 ปี ขณะไปเรียนอังกฤษใหม่ๆ
อยู่เมื่อไทยผมทำไม่เก่ง เพราะอาจจะใช้ชีวิตน้อยแต่พอไปอยู่ที่นั่นก็ได้ใช้ชีวิตหลายๆ แบบ ทำให้ได้ลอง เราก็ เออ... อาหาร-ไวน์แต่ละชาติแต่ละรสชาติมันมีจุดเด่นที่น่าสนใจ จนกระทั่งระหว่างรอจบปริญญาเอกผมก็เริ่มไปเรียนทำอาหารเป็นเรื่องเป็นราวที่สถาบัน le cordon bleu”
นอกจากชอบทำ ชอบทานอาหารอิตาเลียนแล้ว ศาสตร์การ Match ไวน์กับอาหารก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เขาชื่นชอบ
“พูดว่าอาหารอิตาเลียนพาผมมาให้รู้กับไวน์ก็คงจะได้ ผมรู้สึกว่าไวน์ถูกสร้างมาเพื่อบรรยากาศเย็นๆ ของที่นั่นหน่อย ที่สำคัญมันเป็นส่วนประกอบของอาหารอิตาเลียนได้อย่างลงตัวที่สุด อย่างไวน์แต่ละขวดยี่ห้อเดียวกันปีเดียวกันมันไม่เหมือนกัน” หนุ่มมาด “ซอมเมอลิเยร์” เริ่มให้ความรู้
“ผมว่าเสน่ห์มันอยู่ตรงนี้การพิชชิ่ง อาหารกับไวน์ ซึ่งไวน์อย่างหนึ่งก็ทำให้รสชาติอาหารอย่างหนึ่งได้ อย่างไวน์ขวดนี้ถ้าจะดื่มก็ต้องเตรียมเปิดเอาไว้ก่อน บางขวดเปิดแล้วก็ต้องใช้ผ้าเช็ดอยู่เรื่อยๆ ก็เพราะอุณหภูมิมันเปลี่ยนเยอะในห้องนี้ ชีสที่กินกับไวน์บ้างอย่างเอาออกมาแล้วเมื่อเจออากาศร้อนๆ มันก็จะ Melt จะต้องหาโอลีออยล์มาใส่ หรืออย่างที่มีคนบอกว่าไวน์ขาวเข้ากับปลาแซลมอลที่สุด ซึ่งไม่จริง ปลาแซลมอลดื่มกับไวน์แดงก็ได้ขึ้นอยู่กับใช้ซอสอะไรเป็นต้น”
ฟังดูน่าสนุก…? “ใช่ๆ ไวน์เทสติ้งมันสามารถจัดเป็น Event หรือเป็นParty ได้เลย ผมเคยเรียกเพื่อนมานั่งดื่มบ่อยมาดูว่าองุ่นแต่ละตัวมันให้รสชาติเป็นอย่างไรแล้วผมก็พยายามลอง Match กับอาหารบางอย่างกับไวน์บางตัว ซึ่งมันสามารถทำให้อาหาร-ไวน์อร่อยขึ้นได้ แต่ก็ไม่มีอะไรตายตัว”
ทั้งนี้ ถ้าจะให้ครบสูตรแบบฟลูออฟชัน ดร.กุลเดชแนะนำว่า เมื่อมีอาหารอิตาเลียน ไวน์ ก็ต้องเปิดเพลงของ George Winston เพื่อสร้างบรรยากาศ… เช่นเคย อาหาร-ไวน์ ก็จูงมือเขามาเจอเข้ากับเสียงเพลง
“ผมรู้สึกว่าเพลงของเขามันมีคาแร็กเตอร์ มีอารมณ์ เล่าเรื่องได้ เหมือนอาหาร-ไวน์ ซึ่งก็มีคาเร็กเตอร์คล้ายๆ กันได้ดี อย่างเพลงสไตล์ “ซัมเมอร์” ของเขาเสียงดนตรีก็จะร้อนขึ้น หรือ เพลงสไตล์ “ดีเซมเบอร์” เสียงเปียโนก็จะเศร้ามาก” ยิ่งเปิดคลอๆ ระหว่างทำอาหารหลายครั้ง สมาธิ และไอเดียดีๆ ในการออกแบบก็เกิดขึ้นจากความสุนทรียะตรงนี้
“ไวน์มันตรงกับคาแร็กเตอร์ผมอย่างหนึ่งก็คือ ผมเป็นคนขี้เบื่อ ชอบผจญภัยไปเรื่อยๆ ซึ่งไวน์แต่ละขวดไม่เหมือนกันเลย ในแต่ละประเทศเนี่ยเขาดีเวลลอปใหม่ๆ ตลอด ทำให้ยิ่งรู้สึกว่า มันคือการค้นพบไปเรื่อยๆ ในแต่ละวันไม่เหมือนกัน”
และก็ตรงกับปรัชญาในการทำงานส่วนตัวที่ว่า “เรื่องยากในโลกไม่มี เพียงแต่พยายามไม่พอ”
“จริงๆ ผมสร้างมาจากศูนย์ Ok หละ…ที่บ้านอาจจะมีเงิน แต่ทุกอย่างมาจากมันสมอง
ซึ่งก็คงจะมาจากผลของการเทรนนิ่งตอนเรียนปริญญาเอกโดยโปรเซสเซอร์กดดันเยอะ คือก่อนที่คุณจะคิดเรื่องใหม่ๆ ได้ คุณก็ต้องงไป Search จากทั่วโลกว่าต้องไม่ซ้ำ ไม่ซ้ำในระดับดีด้วย ตอนนั้นผมก็มีชีวิตอยู่ในความกลัว เครียด มาก แต่พอผ่านจุดนั้นมาได้ ก็คิดว่าไม่ได้มีอะไรยาก อาหารก็เหมือนกันแรกๆ ก็ยาก แต่เราก็ทำได้ดี”
การทำอาหาร ดื่มไวน์ และฟังดนตรีที่ชอบ กับอาชีพสถาปนิกมีอะไรที่เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร…?
“ผมว่าอาหารฟู้ดและไวน์ก็คล้ายๆ กันนะครับ คือ มันเป็นส่วนผสมที่จะต้องเอาส่วนผสมหลายๆ อย่างมาผสม รวมกันทำให้มันออกมาเป็นผลงานที่ อาหารก็หลายๆ แบบที่มา
จากหลายๆ ที่คือนำส่วนดีของสิ่งต่างๆ ซึ่งคนโดยทั่วไป อาจจะมองว่ามันไม่ได้เรื่องก็ได้แล้วเราก็
ดึงจุดเด่นเรื่องนั้นๆ ขึ้นมา สามารถรวมขึ้นมาเป็นสิ่งใหม่ๆ ที่มันดีขึ้นกว่าเดิม” มันมีปรัชญาซุกซ่อนอยู่ข้างในนั้น
และทั้งหมดมันก็ยังตรงกับปรัชญาในการใช้ชีวิตของ ดร.กุลเดช ที่ว่า “ผมเป็นคนที่เชื่อมั่นว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าคุณพยายามเพียงพอ”
และนี่คือวิธี Mix and Match อาหาร ไวน์ และ ไลฟ์สไตล์ชีวิตผ่านความของคิดสถาปนิกไฟแรงคนสำคัญของวงการ...ที่ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งไพเราะ



กำลังโหลดความคิดเห็น