หากเอ่ยถึงอาหารญี่ปุ่น หลายคนคงนึกถึงร้านอาหารญี่ปุ่นที่เห็นกันได้ง่ายๆ ในห้างสรรพสินค้าซึ่งราคาก็แพงตามที่ตั้งของร้านไปด้วย แต่วันนี้เราจะมาเปลี่ยนความคิดคุณว่า อันที่จริงแล้ว อาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมนั้น ต้อง “ถูก อร่อย และอิ่ม” ตามนโยบายของเจ้าของ “ร้านอาหารญี่ปุ่นในตำนาน ซาโตอิจิ” ในซอยลาดพร้าว 71
ทำไมต้อง ร้านอาหารญี่ปุ่นในตำนาน" มาลองหาคำตอบกับ คุณทากาฮาชิ เคอิอิชิ เจ้าของร้านซาโตอิจิ
บอกว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นนี้มาแล้วในซอยเอกมัย แต่รถติด คนเข้าไปกินไม่เยอะจึงปิดกิจการไป ต่อมาทำกิจการ อิมพอร์ต เอ็กซ์พอร์ตเสื้อผ้า แต่ก็ปิดกิจการไปอีก และเริ่มที่จะทำอาหารญี่ปุ่นขึ้นมาอีกครั้งในซอยลาดพร้าว 71 เมื่อ 3 ปีก่อนนั้นเป็นเพียงเพิงริมทาง ข้างๆบ่อตกปลามีโต๊ะเพียง 8 โต๊ะซึ่งคนต้องยืนต่อแถว แต่ตอนนี้ย้ายมา มีโต๊ะเพิ่มเป็น 15โต๊ะ แถมบรรยากาศในร้านยังดี ต้องสบายถูกใจทั้งลูกค้าประจำและที่เพิ่งมาครั้งแรกเป็นอย่างแน่นอน
คุณทากาฮาชิบอกความหมายของชื่อร้านว่า ซาคือที่นั่ง โตคือหัว (ต่อคน) อิจิคือตลาด รวมกันหมายถึง ทุกคนนั่งรวมกัน กินด้วยกันอย่างสนุกสนาน นี่คือความหมายที่ลุงทากาฮาชิบอกพลางยิ้มด้วยหน้าตาที่ใจดีของเขา
“อาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยส่วนใหญ่รสชาติเอาใจปากคนไทยแล้วก็แพง แต่ถ้าต้องการจะรับประทานอาหารรสชาติญี่ปุ่นแท้ๆ ต้องมารับประทานที่นี่หรือถ้าเป็นคนญี่ปุ่นที่ต้องการรสชาติเดิมๆ รับประทานแล้วจะนึกถึงเกียวโตเลย ตอนนี้ทางร้านมีเมนูเพิ่มขึ้นเป็น 27 เมนูแล้ว ราคาที่ถูกที่สุดคือ 15 บาท แพงสุดเพียง 150 บาทเท่านั้น จริงๆ ก็ทุกเมนูนี่ล่ะถูกหมด”
อาหารที่ได้รับความนิยมของร้านเมนูแรกก็คือ “คัตซึกะหรี่” หรือแกงกะหรี่ราดข้าวหมูชุบแป้งทอด ซึ่งลูกค้าที่เข้ามาส่วนใหญ่จะสั่งเมนูนี้ ด้วยหมูที่กรอบนอกนุ่มในไม่มีน้ำมันเยิ้มออกมา วางอยู่บนข้าวที่อวบๆเนื้อแน่นๆกับกลิ่นหอมของแกงกะหรี่ที่ไม่ฉุนจนเกินไป ซึ่งส่วนผสมของแกงกะหรี่มี แครอท มันและหมู เคล้าเข้ากันได้เป็นอย่างดีเมื่อเคี้ยวในปาก
ต่อมาใครที่ชอบรับประทานหมี่เย็นๆก็สามารถสั่งเมนู “โสเมน” ได้ เป็นเมนูแปลกดีมีน้ำแข็งใส่อยู่ในชาม ตัวเส้นเล็กๆ สีขาวทำมาจากแป้งสาลีรสชาตินุ่มลิ้น รับประทานคู่กับโชยุและยังมีเครื่องเคียงคือ ไข่ แตง และเห็ดที่มีรสชาติเค็มๆหวานๆ กลมกล่อมซึ่งกินแล้วเข้ากับเส้นที่เย็นๆได้ดีที่สุด ถ้าชอบกินเผ็ดทางร้านมีวาซาบิเตรียมไว้ให้ด้วย
เมนูใหม่ที่ทางร้านแนะนำ มีชื่อว่า “เทนดง” เป็นกุ้ง ผักชุบแป้งทอดหรือเทมปุระนำมาราดบนข้าวมีไข่และหอมใหญ่ หรือหลายคนอาจสั่งเป็นเทมปุระอย่างเดียวเพื่อมากินเป็นกับก็ได้ หรือใครที่อยากกินนอาหารเบาๆ ก็มีเกี๊ยวซ่า ซึ่งสำหรับตัวแป้งห่อเกี๊ยวซ่านั้น ทางร้านนำแผ่นเกี๊ยวกรอบมาห่อจึงทำให้กรุบกรอบแตกต่างจากร้านอื่น ไข่ตุ๋นร้อน-เย็น นิคุดังโกอัมะซุ (ลูกชิ้นหมูสับราดซอส) ตัวซอสจะเหนียวเข้ากับตัวลูกชิ้นหมูสับไปอีกแบบ คึชิคะซึ (หอมใหญ่, หมูหรือไก่) และโคโรเกะ (มันฝรั่ง, หมูสับ) เป็นอาหารเมนูแรกๆที่คุณทากาฮาชิทำขายอีกด้วย
คนที่รักปลาดิบก็อย่าเพิ่งน้อยใจไป ทางร้านซาโตอิจิยังมีเมนู “ปลาดิบรวม” ที่เอาใจคนรักปลาดิบด้วยราคาที่ไม่แพง แถมสดและอร่อยด้วยนะ เมนูนี้มีปลาทูน่า ปลาแซลมอน และปลาหมึกโมโกอิกะ ราคาเพียง 150 บาท ซึ่งอาหารจานนี้เป็นราคาที่แพงที่สุดแล้วของร้าน (ถูกมากๆ) ลุงบอกมาว่า ถ้าของไม่สด แกไม่ขาย
คุณทากาฮาชิบอกว่า กว่าจะทราบว่าร้านดังแล้ว ก็ตอนที่มีคนมาแซวว่า ดังใหญ่แล้วนะเข้าไปเสิร์ชในอินเทอร์เน็ตดูได้ ตอนนี้พอจะทราบกันแล้วหรือยังว่าทำไมร้านอาหารญี่ปุ่นในตำนานจึงต้องเป็นซาโตอิจิ นั่นเป็นเพราะคนทั่วเว็บไซต์ต่างๆ เขาลือกันสนั่นว่า ร้านซาโตอิจินี่ต้องยืนรอคิวนาน แถมถูก อร่อย และอิ่ม ตามตำนานกล่าวจริงๆ
ทางร้านซาโตอิจิเปิดให้บริการเวลา 10.30 – 18.00 น. ยกเว้นวันอังคาร ใครสนใจอยากไปรับประทานอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม ถูก อร่อย และอิ่ม ตามนโยบายของคุณทากาฮาชิ สามารถเข้าไปได้ที่ซอยลาดพร้าว 71 เลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวาเพื่อเข้าไปสู่ซอยนาคนิวาส 41 หรือถ้ายังไม่ชัวร์เส้นทางสามารถโทรศัพท์เข้าไปถามทางร้านที่เบอร์ 084 – 713 - 9356, 081 – 869 – 3714 ควรจะโทร.เข้าไปก่อนถ้าวันไหนขายดีของอาจหมดตั้งแต่ยังไม่ 6 โมงเย็น
- ร้านอยู่ในซอยลาดพร้าว 71 ปากซอยนาคนิวาส 41
- ถ้าหาไม่เจอติดต่อเข้าไปที่ร้านได้ เปิดตั้งแต่ 10 โมงครึ่ง ถึง 6 โมงเย็น
- ขอแซวหน่อย...ถ้าโทรเข้าไปเจอคุณทากาฮาชิรับสาย อาจจะฟังเขาลำบากนิดหน่อยเพราะเขาพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด
ภาพโดย ธัชกร กิจไชยภณ
