หากพูดถึงสุนัขพันธุ์เล็ก ขนฟูนุ่ม นิสัยร่าเริง ก็คงหนีไม่พ้นสายพันธุ์ปอมเอมเรเนียน (Pomeranian) ที่ทำให้คนทั่วโลกหลงใหล ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยได้เป็นที่ 1 ของโลกในสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน และเป็นที่รู้กันว่าราคาของเจ้าตัวเล็กนี้ไม่ได้เล็กเหมือนตัวเลย
วันนี้ M-Lite มีโอกาสได้คุยกับคุณชัยวัฒน์ ตั้งคารวคุณ ผู้ดูแล Tokie Pomeranians of Thailand ซึ่งอยู่ในวงการนี้มากว่า 10 ปี และเป็นเจ้าของน้องปอมเมอเรเนียนที่ราคาสูงถึง 3 ล้านบาท!!
คุณชัยวัฒน์ บอกว่าเริ่มเลี้ยงสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนมาเมื่อ 12 ปีที่แล้วจากความชื่นชอบซึ่งเริ่มจากการเลี้ยงแค่ตัวเดียว แต่เลี้ยงแล้วก็ติด ด้วยความน่ารักของสายพันธุ์นี้ จากนั้นก็มีนำไปประกวดด้วยแต่ในช่วงแรกนั้นยังไม่ได้รับรางวัลใดๆ จึงสงสัยว่าทำไมและได้พยายามศึกษา ค่อยๆ เพาะพัฒนาสายพันธุ์มาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้
การที่จะมีสุนัขปอมเมอเรเนียนคุณภาพดีได้ จะต้องมีสายเลือดที่ดีก่อน การเลี้ยงดูนั้นถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งเท่านั้น ส่วนการคัดเลือกสายเลือดคือดูจากพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ และรุ่นก่อนหน้านั้นทั้งหมดจะต้องสวย เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน กล่าวคือต้องตระกูลดีนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่จำเป็นต้องนำเข้าตัวพ่อหรือแม่พันธุ์จากต่างประเทศแล้ว เพราะขณะนี้เมืองไทยคืออันดับหนึ่ง ในการพัฒนาสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนแล้ว เหมือนกับว่าหากต้องการจะหาปลาคาร์ปก็ต้องไปที่ประเทศญี่ปุ่น แต่
ถ้าปอมเมอเรเนียนตอนนี้ก็ต้องมาหาที่เมืองไทย สุนัขที่นำเข้ามายังสวยสู้สุนัขที่เพาะในเมืองไทยไม่ได้
ส่วนเกณฑ์การวัดคุณภาพของปอมเมอเรเนียนนั้นก็จะเป็นไปตามมาตรฐาน คือ มีลำตัวสั้น เป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขาตรงบิดเบี้ยวหรืองอไม่ได้เด็ดขาด หางสูงพาดอยู่บนหลัง ใบหูตั้งมีขนาดเล็ก ตาเป็นอัลมอนต์ แต่สำหรับการฝึกนั้น แต่ละตัวใช้เวลาต่างกันไป บางตัวอาจใช้เวลานานให้ขณะที่บางตัวไม่ต้องฝึกอะไรมาก
ในการกำหนดราคานั้นไม่มีเกณฑ์ในการกำหนดอะไรแน่นอน อาจใช้เกณฑ์มาตรฐานเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดราคา อย่าง Carmen สุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน อายุประมาณ 11 เดือน เคยมีคนมาติดต่อขอซื้อในราคา 3 ล้านบาท แต่คุณชัยวัฒน์ก็ไม่ได้ขายไป
นอกจากนี้ยังมีอีกตัวหนึ่งที่มีผู้ตีราคาสูงถึง 5 ล้านบาทแต่ปัจจุบันอยู่ที่ประเทศแคนาดา เป็นพ่อพันธุ์อยู่ที่นั่น ส่วน Carmen นั้นอายุยังไม่ถึง
การเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ซึ่งถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่บอบบางพอสมควรจากรูปร่างที่เล็กกะทัดรัด ซึ่งคุณชัยวัฒน์บอกว่ามีโรคที่ต้องระวังอยู่มาก ได้แก่ โรคไรในหู โรคหัวใจโต โรคขาดน้ำตาลในเส้นเลือด และด้วยโครงสร้างกระดูกเล็ก หากตกจากที่สูงซึ่งบางทีอาจมองว่าไม่สูงมาก แต่หากพลัดตกลงมาก็อาจขาหักได้จึงเป็นสิ่งที่ควรระมัดระวังไว้
สำหรับเรื่องสภาพอากาศนั้น สุนัขพันธุ์นี้สามารถปรับตัวได้ค่อนข้างดี แต่หากอยู่ห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศไว้ได้ก็จะดี นอกจากนี้ ผู้เลี้ยงจำเป็นจะต้องมีเวลาให้อย่างมาก เป็นสุนัขที่ต้องเอาใจใส่ จะถูกทิ้งอยู่ลำพังไม่ได้ ต้องหมั่นเล่นด้วย รวมทั้งเรื่องการดูแลเส้นขน ควรจะแปรงขนให้วันละ 5 นาที อย่าให้ขนพันกันเป็นสังกะตัง รวมทั้งดูแลตัดขนให้อยู่ในทรงที่ถูกต้องเหมาะสม
แต่ในเรื่องของการขายพันธุ์สุนัขนั้น คุณชัยวัฒน์ย้ำว่าไม่ได้เพาะพันธุ์มาเพื่อขาย เชิงพานิช แต่เน้นในเรื่องของการพัฒนาสายพันธุ์ โดยคนจากต่างประเทศมาติดต่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้เลี้ยงและเพาะพันธุ์ด้วยความรักในสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนจากใจจริง
************************
ภาพโดย อดิศร ฉาบสูงเนิน