หลายคนยังคงหวาดกลัวและระแวดระวังกันอยู่สำหรับสถานการณ์ "ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009" ที่กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้ ซึ่งกลายเป็นภัยคุกคามไปทั่วโลกแล้ว แต่ท่ามกลางกระแสอันตึงเครียด ก็มีกระแสแฟชั่นผ้าปิดปากปิดจมูกหรือหน้ากากอนามัย เครื่องใช้ป้องกันการติดเชื้อหวัดที่ทุกคนควรมีติดตัวไว้
บรรดาดีไซเนอร์ช่างคิดที่ไม่อยากให้หลายๆ คนหวาดกลัวและวิตกกังวลกับเหตุการณ์นี้กันจนเครียด จึงได้มีการออกแบบ ผ้าปิดปากและจมูก เป็นรูปภาพต่างๆ ที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด สร้างสีสันแปลกใหม่ และสร้างรอยยิ้มให้แก่ใครหลายคนได้เป็นอย่างดี
นอกจากจะปลอดภัยแล้ว ก็ยังได้สนุกกับการเลือกหาลวดลายและสีสันแบบที่ชอบมาใส่กันให้สนุกไปเลย แม้ว่าราคาอาจจะสูงกว่าหน้ากากอนามัยธรรมดาอยู่สักหน่อยก็ยังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น หรือบางคนอาจเลือกที่จะวาดและออกแบบลายในรูปที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองก็ยังได้ ซึ่งแฟชั่นนี้ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลกเช่นกัน
Samira Boon หนึ่งในดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น ได้เติมสีสันลวดลายลงบนหน้ากากอนามัยที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรูปใบหน้าของคนและสัตว์ ในอิริยาบทปากจู๋น่ารัก และทะเล้นโดนใจ
Yoriko Yoshida ศิลปินชาวญี่ปุ่นอีกคนหนึ่ง ออกแบบผ้าปิดปากและจมูก ในแนวความคิดผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกของเอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่นและจีน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากผ้าคลุมศีรษะของซามูไร เติมแต่งด้วยลวดลายที่แสดงถึงความเป็นประเทศตะวันออก และสีสันสดใสสะดุดตา
ด้านดีไซเนอร์จาก San Francisco อย่าง Irena Block ก็ได้ออกแบบลวดลายรูปภาพต่างๆ ที่สร้างอารมณ์ขำๆ ลงบนผ้าคอตตอนสีขาว และซิลค์สกรีนด้วยมือ โดยวางจำหน่ายในราคา 10 ดอลลาร์ ซึ่งรายได้นั้นนำไปมอบให้แก่ Children International เพื่อช่วยเหลือชาวเม็กซิกันในการต่อสู้กับโรคระบาดนี้
แม้ว่าจะยังไม่แพร่หลายในประเทศไทยมากนัก แต่ล่าสุดการออกแบบหน้ากากอนามัยนี้ ได้บุกวงการแฟชันชุดแต่งงานของไทยเป็นที่เรียบร้อย ในงาน Wedding Fair 2009 by NEO – Winter ได้จัดนิทรรศการหน้ากากเจ้าสาว Carnival of Love ออกแบบดีไซน์โดย 5 เซเลบคนดังผู้มีชื่อเสียงในสังคม ได้แก่ รัญชา บริบาลบุรีพันธุ์, ลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์, ภารณี จิตรกร, เพ็ญประภา เดชะราช, ฌัลลกัณฐ์ นพวงศ์ ณ อยุธยา ได้ถ่ายทอดจินตนาการออกแบบหน้ากากเจ้าสาวในสไตล์ของตัวเอง งานนี้นอกจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะไม่ต้องกลัวติดไข้หวัดใหญ่ 2009 แล้ว ยังสามารถใช้เป็นเครื่องประดับที่เก๋ไม่เหมือนใคร
เทรนด์แฟชันแบบนี้ ถือเป็นเรื่องดีที่สนับสนุนให้ทุกคนใส่หน้ากาก(อนามัย)เข้าหากัน ทำให้ใครที่ไม่อยากใส่ หรือไม่กล้าใส่ ก็อยากจะใส่หน้ากากปิดปากและจมูกมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะปลอดภัยต่อตัวเองแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งในการแต่งแต้มสีสันเวลาไปไหนมาไหนอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก http://women.mthai.com/