หลุดจากชุดแต่งงานแบบเดิมๆ ได้แล้ว งานแต่งงานของคุณทั้งที หากชุดแต่งงานยังคงเป็นทรงเดิม รูปลักษณ์ และสี แบบเดิมๆ อยู่ บรรดาแขกเหรื่อที่มางานก็คงคิดกันว่าไม่ต่างไปจากงานแต่งงานทั่วไป
มาดูคำแนะนำจาก คุณ สุธา อภิราษฎร์ศักดิ์ ดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงาน จากห้องเสื้อ Cosily ที่จะมาแนะนำถึงการแต่งชุดแต่งงานทั้งของเจ้าบ่าว เจ้าสาว ให้คุณเป็นอีกหนึ่งคู่รักที่ดูดีที่สุดในงานวันพิเศษของคุณทั้งคู่
สวมใส่อย่างไรให้ดูดี
ถ้าพูดถึงชุดเจ้าสาวแล้ว มีความเป็นมาอย่างยาวนาน ซึ่งการแต่งงานในยุคนั้นชุดเจ้าสาวมักเป็นชุดที่ดูอลังการ อีกทั้งยังเป็นสีขาว ในรูปแบบเดิมๆ แต่พอมาถึงปัจจุบันเริ่มมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ตามแต่วัสดุอุปกรณ์ของผู้ออกแบบที่ใช้นำมาตัดเย็บ และตามความพึงพอใจของคู่บ่าวสาวที่จะนำมาประยุกต์ให้เข้ายุคสมัยที่เปลี่ยนไปด้วย
“การออกแบบชุดแต่งงานนั้นไม่ใช่เพียงการแค่ตามเทรนด์แฟชั่นของชุดเท่านั้น แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นสิ่งสำคัญนั่นก็คือ เรื่องของบุคลิกภาพของคู่บ่าวสาวว่า เหมาะกับชุดแบบใด โดยการสวมใส่ชุดเจ้าสาวนั้นจะต้องคำนึงถึงความสวยสง่า และดึงความเป็นตัวตนของเจ้าสาวออกมา” ดีไซเนอร์ให้ความเห็น
ส่วนใหญ่การปรับชุดให้เข้ากับบุคลิกของเจ้าสาวนั้นจะต้องดูถึงความบกพร่องของร่างกายว่ามีตรงไหนบ้างเพื่อให้เจ้าสาวเองได้รู้สึกถึงความมั่นใจในงานวันแต่งได้อย่างเต็มร้อย ที่สำคัญในชุดของเจ้าสาวเองก็ควรมีกลิ่นอายของความเป็นตัวของตัวเอง กลิ่นอาย ที่จะทำให้เจ้าสาวเองดูมีสง่าขึ้นมารวมถึงมีความอ่อนหวานผสมผสานเข้าไปในชุดนั้นด้วยเช่นกัน
มิกซ์แอนด์แมตช์ ชุดบ่าวสาวยุค 80’s
แม้ว่าชุดเจ้าสาวจะไม่มีแฟชั่นเหมือนที่เสื้อผ้าทั่วๆไป แต่การจับนำเอามาประยุกต์ใช้ให้มีรูปแบบที่ไม่ให้ดูเชยไป ย่อมทำให้เจ้าสาวเองดูมีรสนิยมมากขึ้นกว่าเดิม
แฟชั่นของเสื้อผ้าในยุค 80’s กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมาก หากคุณเป็นเจ้าสาวที่ตามแฟชั่นหน่อยอาจมีการนำเสื้อผ้าในรูปแบบของเทรนด์ในยุคนี้เข้ามาประยุกต์ให้เป็นตัวคุณได้ อาจจะมีการเสริมช่วงบ่าที่จะทำให้เจ้าสาวอย่างคุณดูสง่า และเน้นให้แขนนั้นดูเป็นแขนตุ๊กตา
ในส่วนของรายละเอียดของชุดแต่งงานหลุดออกมาจากแบบเดิมๆ ที่เคยเป็นการฉลุด้วยลายของลูกไม้ กลับดัดแปลงประยุกต์ชุดด้วยการทำเป็นชุดเดรสโดยการจัดให้เป็นดอกกุหลาบ ทำให้ดูมีลูกเล่นและยังสามารถบ่งบอกได้ว่าคุณเป็นเจ้าสาวที่นำเทรนด์มากแค่ไหน
สีสันของชุดนั้นจะมีการออกแบบให้ดูมีสีสันมากขึ้น แทนการใช้สีขาวที่เป็นสีโทนเดิม มีการนำสีทอง สีชมพู ซึ่งโทนของสีชุดเจ้าสาว นั้นมักเป็นสีในโทนพาสเทลมากกว่า เช่น สีแชมเปญ สีนู้ด สีนวล บ้างขึ้นอยู่กับสไตล์ความชอบของเจ้าสาว
ใช่ว่าเจ้าบ่าวจะน้อยหน้าเสียที่ไหนกัน เทรนด์เด็กแนว ขาเดฟยังฮิตติดลมบนมามิกซ์อยู่บนตัวของชุดเจ้าบ่าวอีกด้วย กับสูทฟิตเข้ารูป พร้อมกับกางเกงขาเดฟหรือเรียกกันอีกอย่างว่า สกินนี ในแบบสุภาพ ส่วนสูทก็ฉีกแนวจากแบบเดิมๆ ด้วยการนำเอาเสื้อสูทที่มีลวดลายสกอตเข้ามาแทนที่สูทเดิมๆ อย่างสีขาว ดำ ครีม เพียงอย่างเดียว ชุดเจ้าบ่าวบ่งบอกสไตล์การแต่งตัวของตัวเองได้เป็นอย่างดี
เด่นด้วยเครื่องประดับเล็กๆ
ส่วนเอสเซสเซอรี เครื่องประดับต่างๆ นั้น ด้วยชุดก็มีการออกแบบที่ต่างจากเมื่อก่อน การนำเครื่องประดับตกแต่งเข้ามาก็ทำให้สาวๆ มีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น มีการนำมงกุฎ ขนนก ดอกไม้ ผ้าคลุมหน้า มากขึ้น หรืออาจประดับด้วยเพชรเม็ดเล็ก ที่จะช่วยให้คุณเจ้าสาวดูเด่นขึ้น และอีกมากมายที่ตามแต่เจ้าสาวเองจะออกแบบ แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงเน้นที่ความหวานของการเป็นเจ้าสาวอยู่ดี
เครื่องประดับของเจ้าบ่าวนั้น ก็ไม่ได้มีเพียงแค่ผูกหูกระต่ายเท่านั้น อาจจะมีการนำเอารายละเอียดบนเสื้อผ้าชุดเจ้าสาวเข้ามาทำเป็นเครื่องประดับให้แก่เจ้าบ่าว นำมาทำเป็นไทด์ ผ้าเช็ดหน้า หรือมีการนำเอาเข็มกลัดลวดลายแปลกๆ มาประดับตกแต่งบนตัวสูท
ชุดของงานแต่งงานนอกจากจะมีการนำเอามาประยุกต์ให้มีความเป็นสมัยนิยมมากขึ้นแล้ว ยังมีการแต่งด้วยการเปลี่ยนแปลงไปตามคอนเซ็ปต์รูปแบบงานด้วย ซึ่งรูปแบบงานแต่งงานในปัจจุบันก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน เริ่มออกจากกรอบของการแต่งงานแบบเดิมๆ อาจมีการแต่งงานที่มีการจัดแบบเอาต์ดอร์ ริมชายทะเล หรือตกแต่งรูปแบบงานให้เป็นไปตามสถานที่ ดังนั้น การแต่งชุดนั้นก็ขึ้อยู่กับคอนเซ็ปต์ของงานด้วยเช่นกัน