โต ยาว อวบอึ๋ม สั่งได้ไม่เจ็บตัว

โต ยาว อวบอึ๋ม
สั่งได้ ไม่เจ็บตัว

‘แก่นแท้ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าเปลือก’ นั่นเป็นข้อเท็จจริงที่ยากจะปฏิเสธ แต่ในโลกที่วัฒนธรรมทางสายตา มีอิทธิพลสูงสุดในปัจจุบัน แก่นแท้ดูจะเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจในอันดับรองลงมา เพราะว่า มันเป็นสิ่งที่ตาเปล่ามองไม่เห็น

‘เปลือก’ ต่างหากเล่า ที่เรามองเห็นได้ทันที และก็มักจะใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการตัดสินกันเสียด้วย ดังนั้น ถ้าใครเปลือกไม่สวยหรือไม่ดีก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนกันยกใหญ่ บางคนไปทำศัลยกรรม และมีไม่น้อยเลยที่หันมาปรับลุคของตัวเองด้วยอุปกรณ์เสริมความมั่นใจ ซึ่งสามารถซื้อหามาใช้โดยไม่ต้องไปผ่าตัดให้เจ็บตัว โดยที่อุปกรณ์เหล่านี้มีตั้งแต่แบบธรรมดาๆ อย่าง เล็บปลอม ขนตาปลอม ไปจนถึงอุปกรณ์สุดขั้วอย่าง กางเกงในเสริมเป้าท่านชาย และ เอ่อ...ของปลอมที่โดดเด้งของสุภาพสตรี

เราจะร่วมเดินทางไปสำรวจโลกของอุปกรณ์เหล่านี้ด้วยกัน โดยเริ่มจากอุปกรณ์ที่ใช้บนดวงหน้าของเราก่อน

เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ

ถึงแม้จะไม่มีใครบัญญัติไว้เป็นกฎว่า ดวงตาที่กลมโตเป็นดวงตาที่สวยที่สุด แต่บรรดาสาวๆ ส่วนมากก็รู้สึกว่า ดวงตาที่กลมโตนั้นดูน่ารักกว่าดวงตาเรียวเล็กแบบเม็ดอัลมอนด์เป็นไหนๆ และเมื่อมีความต้องการเกิดขึ้น มีหรือที่พ่อค้าจะพลาดโอกาสทางการตลาด

คอนแทกต์เลนส์ ‘บิ๊กอาย’ จึงกลายเป็นที่รู้จักและแพร่หลายไปในหมู่คนที่อยากมีดวงตากลมโตเกินกว่าที่มีอยู่ ซึ่งเดิมทีนั้น คอนแทกต์เลนส์ เป็นอุปกรณ์ช่วยสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสายตา แต่สำหรับบิ๊กอาย มันคือคอนแทกต์เลนส์ ที่ช่วยแก้ปัญหาด้านความมั่นใจ

นอกจากการทำดวงตาให้กลมโตแล้ว คนรักสวยรักงามส่วนมากยังคิดว่า ขนตาที่สั้น เป็นสิ่งที่ทำให้เสน่ห์รอบดวงตาหมองลงไป ดังนั้น จึงมีคนคิดผลิต ‘ขนตาปลอม’ ออกมาจำหน่าย เพื่อเสริมความฉ่ำหวานให้แก่ดวงตาที่กลมโต (ซึ่งเกิดจากการใส่เลนส์บิ๊กอายนั่นแหละ) โดยที่ขนตาปลอมนั้น จะมีทั้งแบบที่มาเป็นแผง และแบบที่มาเป็นช่อเพื่อติดแทรกลงไปบนขนตาที่แท้จริง ถึงแม้ว่าการเอาสิ่งแปลกปลอมไปติดที่ขนตาจะเป็นสิ่งที่น่ารำคาญอยู่ไม่น้อย แต่เพื่อความสวยความงามแล้ว สาวๆ ส่วนมากมักจะทนได้เสมอ

ทว่าปัญหาเรื่องดวงตายังไม่หมดแต่นั้น คนเอเชียอย่างในบ้านเราจำนวนมากมักจะประสบกับปัญหาดวงตาไม่มีเล่าเต๊ง หรือการมีตาชั้นเดียวนั่นเอง

ซึ่งจริงๆ แล้ว การตัดสินว่าสิ่งใดเป็นปัญหาหรือไม่ นั้นเป็นเรื่องทัศนคติเฉพาะตัวของแต่ละคน แต่ทำยังไงได้ สาวๆ ส่วนใหญ่กลับมีทัศนคติพ้องต้องกันว่า ตาสองชั้นดูดีกว่าตาชั้นเดียวนี่นา เราจึงเห็นโฆษณาขาย ‘สติกเกอร์’ และ ‘กาวทำตาสองชั้น’ อยู่ตามเว็บไซต์ต่างๆ อยู่เสมอ และผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็ขายดิบขายดีเสียจนมีคนผลิตออกมามากมายหลายยี่ห้อ

เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ แม้ภายในจะไม่ค่อยน่าดู หากแต่ถ้ามีหน้าต่างที่สวยงาม ก็คงพอจะกลบเกลื่อนความไม่เรียบร้อยข้างในได้ไม่มากก็น้อย

อยากเพิ่ม อยากลด

บุคลิกหน้าตาของคนเรา มักจะถูกกำหนดด้วยทรงผมที่เราไว้ โดยเฉพาะผู้หญิง ถ้ามีผมยาวก็จะมีลุคเป็นสาวหวาน หากตัดสั้นก็จะดูเป็นสาวเปรี้ยวซ่า จากหวานมาเปรี้ยวนั้นไม่ยาก เพราะผมยาวสามรถตัดออกได้ แต่ถ้าอยากจะเปลี่ยนลุคจากสาวไปเป็นสาวหวานในชั่วข้ามคืนล่ะ?

ใน พ.ศ.นี้ เพียงสาวผมสั้นกำเงินเดินไปแถวสยาม ไม่กี่ชั่วโมงถัดมาก็จะกลายเป็นสาวผมยาวได้สมใจ ด้วยบริการของร้าน ‘ต่อผม’ ที่มีอยู่หลายเจ้า ซึ่งร้านประเภทนี้นำเอาผมจริงเข้ามาจากประเทศเวียดนาม จีน และอินเดีย มาต่อเข้ากับผมของเราด้วยกาวและคิดราคาเป็นช่อ และในบริเวณย่านร้านต่อผม ก็มักจะมีร้านที่ให้บริการ ‘ต่อเล็บ’ พ่วงอยู่ด้วย

เล็บกับผม เป็นของที่สามารถงอกเงยมาเองได้ตามธรรมชาติ หากไม่รีบร้อน รอสักพักมันก็จะยาวขึ้นมาเอง แต่กับของที่ไม่สามารถโตขึ้นมาเองตามธรรมชาติอย่างหน้าอกหน้าใจล่ะ?

สำนวน ‘อกหักเรื่องเล็ก อกเล็กเรื่องใหญ่’ เป็นสำนวนที่ได้ยินกันมานาน ซึ่งสะท้อนทัศนคติของคนในสังคมบ้านเราได้อย่างดี ทั้งที่ความจริงแล้ว อกใหญ่หรืออกเล็กก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาในการทำมาหาเลี้ยงชีพเท่าไร

แน่นอนในโลกปัจจุบัน ถ้าอยากใหญ่ก็ไม่ยาก ในท้องตลาดมีทั้ง ‘ฟองน้ำ’ และ ‘ซิลิโคนเสริมหน้าอก’ เพื่อเพิ่มขนาดให้อึ๋มขึ้นมาทันตาเห็น หรือถ้าไม่มีงบ ก็ใช้ทิชชูยัดไปก่อนก็ไม่ผิดกติกา อ้อ...เดี๋ยวนี้ ที่ประเทศญี่ปุ่น ถึงกับมี ‘หัวนมปลอม’ ออกมาขายให้กับคนที่ต้องการโชว์จุกนมใต้ร่มผ้าแล้วด้วยนะ

ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นอุปกรณ์ที่เสริมในส่วนขาดทั้งสิ้น หากแต่การเสริมส่วนขาดเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่อาจจะนำพาไปสู่ ‘ร่างกายในจินตนาการ’ ได้ ทว่าต้องมีการ กำจัดส่วนเกินควบคู่กันไป

‘สเตย์รัดหน้าท้อง’ เป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่เข้าข่ายนี้ และนอกจากจะใช้เก็บซ่อนหน้าท้องที่ไม่พึงประสงค์ให้เรียบเนียนได้ส่วนสัดแล้ว หญิงรักหญิงบางคนยังเอาอุปกรณ์ที่คล้ายๆ กันไปรัดหน้าอกให้แบนเรียบอีกด้วย
นอกจากนั้น พวก ‘กางเกงดันสะโพก’ ‘ยกทรงดันทรง’ ก็น่าจะเข้าข่าย เพราะเป็นการย้ายส่วนเกินไปอยู่ในที่ที่ถูกที่ควรในความคิดของเจ้าของร่างกาย

ฤาขนาดเป็นเรื่องสำคัญ

จะเห็นได้ว่า ผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้นจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้กับร่างกายของผู้หญิงทั้งสิ้น นั่นอาจเป็นเพราะผู้หญิงเป็นเพศที่รักสวยรักงาม และกังวลกับสายตาของเพศตรงข้ามที่จ้องมองเข้ามา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามนุษย์เพศชายจะไม่สนใจเรื่องพรรค์นี้

ในโลกของอุปกรณ์เสริมความมั่นใจ ‘กางเกงในเสริมเป้า’ สำหรับท่านชาย ออกจะเป็นอุปกรณ์ที่ดูสุดขั้วไปหน่อย นั่นก็สืบเนื่องมาจากความเชื่อที่ว่า ขนาดเป็นเรื่องสำคัญที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีกางเกงในที่มีฟองน้ำเสริมเป้าออกมาขายเพื่อเรียกความมั่นใจของชายไซส์ต่ำกว่า 5 นิ้วให้กลับคืนมา

แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่เพศชายที่กังวลกับเรื่องขนาด สำหรับเพศหญิง ก็มีผลิตภัณฑ์ ชื่อว่า ‘Camel toe cup’ ออกมาจำหน่าย ซึ่งลักษณะของมันจะเหมือนกระจับ แตกต่างกันตรงรายละเอียดของรูปทรง และเมื่อสาวแก่แม่ม่ายคนไหนใส่อุปกรณ์ชิ้นนี้ลงไป ที่ลุ่มสามเหลี่ยมปากแม่น้ำของเธอก็จะกลายเป็นที่ดอนโดยบัดดล อีกทั้งยังมีร่องรอยที่ชวนให้คนคิดมากจินตนาการ

ขออภัย ถ้าหากใครอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วเกิดอาการปวดเศียรเวียนเกล้า

กินเนื้ออร่อยกว่ากินเปลือก

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การสวมใส่อุปกรณ์ที่กล่าวมาข้างต้น เหตุผลส่วนหนึ่งก็คือต้องการที่จะเรียกร้องความสนใจจากเพศตรงข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้ว อุปกรณ์เสริมเปลือกเหล่านี้ จะช่วยทำให้ตนเองดูดีจริงหรือไม่?

จุฑารัตน์ เหลืองอ่อน สาวออฟฟิศผู้ไม่พิสมัยชายหนุ่มที่ใส่เป้าปลอมเพื่อให้ของสงวนดูใหญ่ขึ้นอย่างแรง เธอมองว่า ในการเลือกคบใครสักคน ผู้หญิงส่วนใหญ่จะพิจารณาหน้าตาและนิสัยใจคอของผู้ชาย ไม่ใช่ดูที่ขนาดของอวัยวะบางอย่าง เพราะถ้า ‘หน้าเน่า เป้าเริด’ ก็คงจะไม่ไหว

“เห็นแล้วบอกตรงๆ ว่า น่ารังเกียจ อุบาทว์มาก ของอย่างนี้ไม่น่าใส่มาโชว์เพื่อให้ดูมีขนาดใหญ่หรอกค่ะ มันเป็นของลับของสงวนที่ควรปกปิดไว้มากกว่า”

นอกจากนั้น เธออาจพานคิดไปไกลถึงขนาดว่า คนที่ใส่อาจไม่ใช่ชายจริง เพราะมองว่าสุภาพบุรุษที่แท้จริงมักไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่
ก่อนจะทิ้งท้ายฝากไปถึงหนุ่มๆ ว่า ควรพอใจในสิ่งที่มีที่เป็นอยู่ ไม่จำเป็นต้องเสริมเติมแต่งรูปกายภายนอกให้ผิดไปจากความเป็นจริง

ส่วนทางฝั่งของชายหนุ่ม พิเชฐ ยิ่งเกียรติคุณ นักพัฒนาสังคมเอกชน บอกเล่าถึงความรู้สึกแรกเมื่อได้เห็นการที่สุภาพสตรีนิยมของปลอม ว่าแปลกใจ พร้อมทั้งวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงต้องทำเช่นนี้ว่า เกิดขึ้นเพราะความคาดหวังของผู้ชาย จริงๆ แล้วเธอไม่ได้ต้องการทำเพื่อตัวเอง

“เหมือนผู้ชายกดดันทางอ้อมให้ทำ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ยุติธรรมกับผู้หญิง เพราะพวกเธอก็ไม่ได้เรียกร้องให้เราไปเสริมอวัยวะเพศปลอม หรือซิกแพ็กปลอมสักหน่อย”
โดยส่วนตัวเขาไม่ชอบผู้หญิงทรงโต และชอบผู้หญิงที่ไม่ค่อยแต่งหน้าแต่งตัว เพราะความต่างทำให้ผู้หญิงสวย

“ความแตกต่างทำให้ผู้หญิงสวยนะ ถ้าผู้หญิงใส่บิ๊กอายตาโตเหมือนกันหมด มันเหมือนของที่ออกมาจากโรงงานเดียวกัน จะรู้ได้อย่างไรว่าใครสวยใครไม่สวย เขาอาจลืมไปหรือเปล่าว่าผู้ชายหลายคนชอบสาวอกเล็กๆ และไม่ได้เสริมอะไรเลย”

แต่นั่นเป็นกรณีที่เจ้าตัวรู้แน่ชัดว่า สิ่งที่เขาและเธอเห็นเป็นของปลอม แต่ถ้าในกรณีที่ดูไม่ออกหรือคิดว่าสิ่งที่เห็นเป็นสิ่งที่มีมาตามธรรมชาติ ก็มิอาจทราบได้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร

***************

ร่างกายที่สร้างไม่เสร็จ

ทำไมถึงต้องมีของปลอม คำตอบตามหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐานก็เพราะมีความต้องการ แต่ความต้องการนี้มาจากไหนต่างหากที่เป็นคำตอบของคำตอบอีกที ทวีลักษณ์ พลราชม อาจารย์ผู้สอนวิชาสตรีศึกษา สำนักวิชาศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เท้าความถึงแนวคิดสตรีนิยมก่อนว่า เดิมทีความสวยงามถูกมองในแง่ลบ เพราะทำให้ผู้หญิงกลายเป็นวัตถุทางเพศ แต่แนวคิดโพสต์เฟมินิสต์กลับมองว่าความสวยคืออำนาจอย่างหนึ่งของผู้หญิง

“ความสวยคืออำนาจ คือต้นทุน เขายินดีที่จะให้คนมองว่าเป็นวัตถุทางเพศ เพราะหวังสิ่งอื่นที่อยู่เบื้องหลัง และเดี๋ยวนี้มันไม่มีเส้นแบ่งของการไปทำศัลยกรรมให้ดูอึ๋มมากขึ้นเหมือนกับแต่ก่อน เมื่อก่อนอาจถูกประณาม แต่ตอนนี้มันคือต้นทุนทางร่างกายอย่างหนึ่งที่เราใช้ประโยชน์จากมันได้ ฉะนั้น ในพื้นที่หนึ่งความสวยมันคืออำนาจจริงๆ แต่ในบางพื้นที่ความสวยมันก็เป็นวัตถุทางเพศ ซึ่งผู้หญิงบางคนอาจจะไม่ชอบ แต่ก็มีกระแสวิจารณ์โพสต์เฟมินิสต์ว่า มันทำให้ผู้หญิงตกเป็นทาสความสวยงามมากกว่าคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ คือกำลังสร้างความสวยงามที่เบ็ดเสร็จ”

ถามว่าสิ่งเหล่านี้เกิดจากอะไร ในแง่หนึ่งมันคือกระแสบริโภคนิยมแน่นอน ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องของสื่อที่มักนำเสนอภาพของผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ คือทั้งเก่งและสวย เชื่อมโยงกับการเมืองที่เน้นอัตลักษณ์ของคน ทำให้ผู้หญิงต้องแสดงความเป็นหญิงมากขึ้น

“ร่างกายสมัยใหม่หรือสังคมสมัยใหม่ มันเหมือนกับเป็นร่างกายที่สร้างไม่เสร็จ เรารู้สึกว่าอยากทำให้มันสมบูรณ์แบบที่สุด ก็ไปต่อเล็บ ต่อขนตา ต่อผม ส่วนหนึ่งคือไม่พอใจในร่างกายของตัวเอง แต่ในแง่หนึ่งมันต้องทำให้ร่างกายเป็นร่างกายที่สร้างไม่เสร็จ อาจจะเป็นในแง่ของบริโภคนิยมด้วยที่มีผลต่อการบริโภคของคน เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่าในสังคมปัจจุบันสินค้ามันจะซอยย่อยๆ ลงมา ครีมถนอมผิวแต่ก่อนขวดเดียวทาได้ทั้งตัว เดี๋ยวนี้มีครีมทาเล็บ ต้องซื้อทุกส่วนของร่างกาย”

ส่วนเรื่องความสวยที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติก็ไม่ค่อยเป็นที่ถือสาอีกแล้ว จะสวยแบบไหนก็สวยเหมือนกัน ดังนั้น ถ้าจะใส่ของปลอม แล้วทำไมต้องแคร์ด้วย ซึ่งทวีลักษณ์อธิบายว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

“ปัจจุบันการรับรู้ของคนมันต่างไปจากแต่ก่อน ตุ๊กตายางมันสื่อให้เห็นว่าเราสามารถมีเซ็กซ์โดยที่ไม่ต้องเป็นคนธรรมดาก็ได้ มีเซ็กซ์โดยเสียงก็ได้ มีเซ็กซ์โดยการโชว์ผ่านคอมพิวเตอร์ก็ได้ เพราะการรับรู้ของเด็กในรุ่นปัจจุบันมันต่างจากรุ่นพ่อรุ่นแม่ เด็กเดี๋ยวนี้เกิดมาพร้อมกับโลกเสมือนจริง เพราะฉะนั้นเซ็กซ์ของเขาไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องธรรมชาติ ของปลอมก็มีเซ็กซ์ได้ ไม่รู้สึกว่าวิปริต ไม่ผิดศีลธรรม คนสมัยนี้ไม่ได้อยู่ในกรอบเพศวิถีในแบบเดิมแล้ว”

แต่ยุคนี้ผู้ชายก็ใช้ของปลอมไม่ต่างกับผู้หญิง ทวีลักษณ์มองว่า

“ผู้ชายเองก็มีความคาดหวังกับร่างกายของตัวเองด้วย ซึ่งก็คงมีผู้ชายจำนวนหนึ่งที่อยากให้ตัวเองถูกมองว่ามีร่างกายที่สมบูรณ์แบบ เดี๋ยวนี้จะเห็นว่าผู้ชายรักสวยรักงามมากขึ้น มันมากับกระแสเมโทรเซ็กชวลด้วย ที่ต้องการนำเสนอร่างกายหรือวิถีชีวิตของตัวเองที่มากกว่าผู้ชายที่อยู่นอกสังคมเมือง”
……….
เรื่อง : CLICK
ภาพ : พลภัทร วรรณดี