ไม่ชอบที่จะมีใครมายื่นซองผ้าป่าแล้วใช้ความสนิทสนมเชิงบังคับให้เรายัดเงินใส่ซอง...
ไม่ชอบอย่างยิ่งที่จะเห็นใครมาเรี่ยไรเงินตามท้องถนน อ้างว่าจะนำเงินไปสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร...
ผมมักจะไม่ชอบทำบุญแบบนี้ และอ้างแบบติดตลกกับมิตรสหายที่ให้ซองผ้าป่าว่า ผมเปลี่ยนศาสนามานับถือคริสต์แล้ว ไม่เจตนาจะโกหก แต่รู้สึกรำคาญใจมากที่จะถูกบังคับให้ทำบุญ ด้วยใช้ความสนิทสนมส่วนตัวมาบอกว่า คุณต้องเป็นกรรมการผ้าป่า
....ให้เป็นกรรมการมวยยังพอได้ เป็นกรรมการประกวดนางสาวไทยยิ่งชอบ แต่เป็นกรรมการผ้าป่ารับไม่ไหว เหตุผลไม่ใช่เพราะไม่มีเงิน แต่วิธีทำบุญแบบนี้เป็นบุญเชิงพาณิชย์ที่ผู้ให้ก็ไม่สบายใจ ผู้ส่งบุญก็ลำบากใจ ครั้นจะหันหลังให้ไม่สนใจ ผู้ส่งบุญก็มักจะบอกว่าขอสัก 100 บาทเถอะเพื่อเป็นกรรมการ
บางคนบอกว่า เงิน 100 บาททำๆไปเถอะ อย่าไปสนใจ ผมไม่ได้เสียดายทรัพย์ แต่เกิดผลทางจิตใจมากมากกว่า พุทธศาสนาสอนให้เรามีเหตุ มีผล การส่งเสริมวิธีทำบุญลักษณะนี้ ไม่ควรส่งเสริม ผู้ทำบุญอยากทำบุญต้องรู้สึกสบายใจพร้อมที่จะให้ และมีความศรัทธาในสิ่งที่ให้
รู้สึกไม่ดี และไม่สบายใจทุกครั้งเมื่อซองผ้าป่ายื่นมา และขอให้เราเป็นกรรมการ ทั้งที่ผมไม่รู้เลยว่า วัดที่จะทำบุญด้วยนี้ขาดแคลน หรือมีมากล้นเกินความจำเป็นเพียงใด
การทำบุญทางพระพุทธศาสนาคงไม่ได้สอนให้เราเอาเงินใส่ซอง พนมมือไหว้ไปพร้อมๆกับซอง แล้วขอให้ผลบุญทำให้เราได้ขึ้นสวรรค์ ผมมองว่าวิธีนี้นอกจากจะมีความเชื่อกันผิดๆแล้วเชื่อว่า เป็นวิธีหลอกบุญที่ไม่น่าส่งเสริมเป็นอย่างยิ่ง
ฟังจากผู้สันทัดกรณีวงการผ้าป่า บางวัดทำกันแบบพุทธพาณิชย์มีการตั้งคณะกรรมการแบ่งเป็นสาย เช่น สายตามจังหวัด สายญาติโยม มีการจัดทำทุกปีแต่ละปีผ้าป่าสายคุณต้องทำเงินจำนวนเป้าหมายเท่าไหร่ และสายคุณต้องทำให้ได้ตามเป้านี้ …อะไรจะขนาดนั้นนี่วัดหรือเดินสายวงดนตรี
วัดบางแห่งจัดผ้าป่าทุกปี สร้างความทันสมัยด้านวัตถุมากกว่าพัฒนาด้านพระธรรมคำสั่งสอน มีการสร้างกุฏิอย่างหรูหรา มีเครื่องปรับอากาศชั้นดี เตียง ทีวี เครื่องเสียงและสุขภัณฑ์ชั้นหนึ่ง ราวกับห้องสูทโรงแรม กุฏิแบบนี้ในกรุงเทพฯผมเห็นด้วยสองตามีหลายแห่งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดก็มาก อย่าให้เอ่ยชื่อ ถามว่าวัดลักษณะนี้เราควรหยิบเงินใส่ซองให้อีกหรือเปล่า ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ขอทำบุญกับวัดประเภทนี้
วัดในเชิงพุทธพาณิชย์ในปัจจุบันมีจำนวนมาก แผ่นป้ายที่ติดเชิญชวนมาทำบุญตามถนนหนทาง บ่งบอกได้ชัด มองให้ดีราวกับป้ายโฆษณาตามบริษัทห้างร้าน ยิ่งวัดบางวัดแถวพระราม 7 ที่คนนิยมเข้าไปทำสังฆทาน สะเดาะเคราะห์ นับวันยิ่งดูหรูหรา และผมมองว่า ถ้าทำสังฆทานควรไปวัดที่ยากไร้ ขาดปัจจัยไม่ดีกว่าหรือครับ
วัดครึ่งนึง กรรมการครึ่งนึง มันมีจริงครับ โดยเฉพาะตามแถบชานเมือง ต่างจังหวัด เขาจะทำกันอย่างไร อย่าไปสนใจเลยครับ แต่ในฐานะพุทธศาสนิกชนที่ดี เราไม่ควรไปส่งเสริมและสนับสนุน
สุดสัปดาห์ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา มีโอกาสไปทำบุญที่วัดญาณเวศกวัน แถวพุทธมณฑล รู้สึกสบายใจกับคำเทศน์ของพระสงฆ์ที่มารับของถวายท่านบอกว่า ของที่ท่านมาถวายวัดที่นี่มีมากพอแล้ว ขอแบ่งปันให้คนยากคนจน ปัจจัยที่ท่านนำมาถวายจากญาติโยมขอให้เป็นสิ่งที่ช่วยเหลือคนที่ขาดแคลน
นี่แหละคือ วัดที่ผมอยากทำ วัดที่ไม่ใช่พุทธพาณิชย์ วัดแห่งนี้ไม่มีตู้บริจาค ไม่มีการฝังลูกนิมิต ไม่ชักจูงให้เราหยิบยื่นปัจจัยใดๆ เป็นวัดวิปัสสนา ที่เน้นถึงพระธรรมคำสอนให้คนคิดดี ทำดี เพื่อประกอบกรรมดี และผมไม่เคยเห็นซองผ้าป่าที่วัดแห่งนี้
พุทธศาสนาเป็นเรื่องพระธรรมสั่งสอน เป็นเรื่องการพัฒนาจิตใจประกอบกรรมดีไม่ใช่วัตถุนิยม แสดงออกถึงความทันสมัยในเรื่องสิ่งปลูกสร้างของวัด ความทันสมัยของกุฏิ วัดที่ดีต้องประกอบด้วยพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ด้วยหลักพระธรรมวินัย
ถ้าวัดทันสมัย แต่คนในวัดไม่พัฒนาด้วยพระธรรม เราควรจะศรัทธาอีกหรือไม่...
วัฒนะชัย ยะนินทร
บรรณาธิการ M-Lite