xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมะแบรนด์เนม เขมศรณ์ พนมวัน ณ อยุธยา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


     “หลายคนบอกว่าธรรมะกับโลกทันสมัยเป็นสิ่งไกลกัน…จริงๆ แล้วธรรมะสำคัญกับคนทุกคนในสังคม สำคัญต่อโลกปัจจุบันมากๆ ธรรมะทำให้เรามีสติ ทำให้เราตื่นรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ธรรมะทำให้คนไม่เห็นแก่ตัว และก็มีความรักให้กัน”

    
คำพูดข้างต้นบอกถึงตัวตนของหญิงสาวคนนี้ และสิ่งที่เธอกำลังสนใจได้เป็นอย่างดี

   
  ปัจจุบัน นอกจากเขมศรณ์ พนมวัน ณ อยุธยา จะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแม่แบรนด์เนมแห่ง “โจ มาโลน” แบรนด์สุดไฮจากประเทศอังกฤษ เป็นเซเลบฯ มาดเนี้ยบ เป็นสาวสังคมหรูหรา    

     ทว่าสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้ก็คือ เติ้ล ถือเป็นตัวอย่าง “สาวยุคใหม่” ที่สนใจธรรมะแบบจริงๆ จังๆ
    
     สนใจ…ในความหมายที่ลงลึกขนาดถือศีล 5, สนใจ...ศึกษาหนังสือธรรมะ สวดมนต์ และนั่งสมาธิมานาน ไม่ใช่ฉาบฉวยแค่คำว่า “อินเทรนด์”

     “เติ้ลเข้าวัดมาตั้งแต่จำความได้ค่ะ โดยทุกๆ วันหยุด คุณพ่อ (ปฏิภาณ พนมวัน ณ อยุธยา) คุณแม่ (ดวงจิตต์ พนมวัน ณ อยุธยา) ก็จะพากันออกไปทำบุญตามวัดต่างๆ มาตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นการทำบุญกับคนในครอบครัวนี้เราปฏิบัติเป็นประจำจนกลายเป็นเรื่องปกติค่ะ” เติ้ลเล่าถึงจุดเริ่มต้นครั้งแรกระหว่างธรรมะกับสาว
แบรนด์เนม
    
 กระทั่งอายุ 14 ปี ถือเป็นจุดหักเหของชีวิตครั้งใหญ่ เนื่องจากคุณพ่อเธอเสียชีวิตลง ทำให้เติ้ลเริ่มหันมาศึกษาธรรมะลงลึกกว่า การไปวัดทำบุญ ใส่บาตร สร้างพระ และทำสังฆทานดังแต่ก่อน โดยเริ่มหันมาสวดมนต์ นั่งสมาธิแบบจริงๆ จังๆ ขณะเรียนอยู่ม.5 เลย และก็ปฏิบัติติดต่อกันมาจนกระทั่งทุกวันนี้

      “ถ้าไม่รู้จักกันเห็นเราแบบนี้แล้วบอกว่าเราถือศีล นั่งสมาธิ สวดมนต์หลายคนก็ไม่ค่อยเชื่อนะ (หัวเราะ) เพราะเขาเห็นเราทำงานเกี่ยวกับแฟชั่น ทำงานเกี่ยวกับเรื่องทางโลก เกี่ยวข้องกับเรื่องสวยๆ งามๆ มากมาย เห็นเราออกงานสังคม ไปงานปาร์ตี้ต่างๆ แต่จริงๆ ถ้าคนไม่สนิทกัน ก็จะไม่ค่อยมีคนรู้ว่า ชีวิตหลังจากการทำงาน เราถือศีล 5 สวดมนต์ และก็นั่งสมาธิมาหลายปีแล้วค่ะ”

   
โดย สิ่งที่ค้นพบจากการนั่งสมาธิ เติ้ลบอกว่า มันทำให้เธอสงบ ทำให้เกิดสติมีสมาธิที่จะโฟกัสในเรื่องต่างๆ ในชีวิต คิดและหาทางแก้ปัญหาได้ดี

     “เห็นคุยเก่งแบบนี้ เมื่อก่อนเราเป็นคนใจร้อนมาก ใจร้อน โวยวาย ไม่ยอมใคร แต่ไม่ได้ถึงกับวีนแตกอะไรมากมายนะค่ะ (หัวเราะ) แต่พอได้ศึกษาธรรมะดีๆ ไม่ว่าจะเป็นงานที่ลึกซึ้งของ “พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก” ของ “พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส” กระทั่งได้มีโอกาสอ่านงานแฝงธรรมะดีๆ อย่าง “เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน” ของ ดังตฤณ-ศรันย์ ไมตรีเวช ศึกษาผลงานของ“ท่านพุทธทาส” ซึ่งสิ่งที่แฝงอยู่ในธรรมะดีๆ ทั้งหมดมันทำให้เราเกิดสติ ทำให้สงบ ซึ่งเมื่อใดที่เราโกรธ โมโหกับสิ่งรอบข้าง โมโหเพราะไม่ได้อย่างใจ เติ้ลก็จะพยายามกำหนดจิต 
  

     "และระลึกดังที่คำพระท่านสอนอยู่เสมอว่า ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีก็จงอย่าไปยึดมั่น ถือมั่นกับสิ่งใด” 

         
     หลังจากผ่านบททดสอบจากการสูญเสียคุณพ่อในครั้งนั้นมาได้หลายปี และแล้วเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมาก็มาถึงจุดหักเหชีวิตชนิด “สูญเสียเพื่อได้มา” อีกครั้ง ที่นำพาให้เติ้ลแฟชั่นนิสต้าสาว


     ได้ก้าวเข้าใกล้ “แก่นแท้” ในสาระของธรรมะขึ้นกว่าแต่ก่อนอีกระดับ

     พร้อมกับเป็นเครื่องการันตีว่า “ธรรมะเอาชนะได้ทุกๆ สิ่ง อย่างแท้จริง” ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นขณะเดินทางไปทำบุญที่ จ.กาญจนบุรี โดยคนขับรถที่เธอนั่งมาหันไปหยิบของแล้วรถเกิดเสียหลัก ทำให้รถตีลังกาลอยคว้างและลงมาพลิกคว่ำ

     รถกระบะพังยับ แต่เธอรอดตาย... รอดราวปาฏิหาริย์…!

     เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้เธอขาซ้ายหัก กระดูกเชิงกรานหัก และต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่อย่างเร่งด่วนทันที ส่งผลให้ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานหลายเดือน

     “ตอนนอนรักษาตัวอยู่ก็ว่าเครียดเพราะอาการเจ็บปวดมากพอแล้ว เรายังเกิดเป็นโรคงูสวัดในเวลาย่ำแย่แบบนั้นแทรกซ้ำขึ้นมาอีก ซึ่งโรคนี้คนทั่วๆ ไปจะขึ้นเป็นผื่น แต่งูสวัดของเติ้ล คุณหมอบอกว่าโรคมันสามารถวิ่งย้ายข้างไป-มาได้ ทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงมาก แรกๆ หมอยังคิดว่าอาการปวดหัวเป็นอาการของไมเกรนหรือเปล่า ก็สั่งยาแก้ไมเกรนมาให้ แต่กินยังไงก็ไม่หาย จนต้องฉีดยาเข้าเส้น พอฉีดยามากๆ ก็เกิดแพ้ยาทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ อาเจียน นอนก็นอนไม่ได้ กินอะไรก็ไม่ได้ เป็นหนักขนาดทำอะไรไม่ได้เลย คือมันเป็นอาการของเส้นประสาทอักเสบสุดๆ”

    
“ดูกระจกเห็นหน้าตัวเองแล้วตกใจมากๆ ค่ะ เพราะหน้าตามันบวมอักเสบมากๆ”

     เติ้ลอยู่กับอาการเจ็บปวดแบบนั้นนานมากๆ ทำให้ช่วงเวลานั้น เธอได้มีเวลาคุยและทบทวนสิ่งที่ผ่านมาของตัวเองเยอะ โดยสิ่งที่ทำให้ประคองสติและ ผ่านจุดทรมานนั้นมาได้ก็คือ "ธรรมะ" นั่นเอง
 
     “ช่วงนั้นเราทำอะไรไม่ได้เลย ดูทีวี ฟังเพลงอะไรไม่ได้เลย เพราะมันทรมานมากๆ ทรมานแบบคุมสติไม่อยู่ อารมณ์เสียตลอด คุณแม่ท่านก็เอาเทปธรรมะของ “พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช” และเทปคำเทศนาของ “พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส” และเทปของพระอาจารย์ท่านอื่นๆอีกมากมาย มาเปิดให้ฟังตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้เติ้ลก็ศึกษาธรรมะจากการอ่านหนังสือธรรมะมามากพอควร (ที่บ้านเติ้ลมีหนังสือธรรมะมากมาย) แต่พอได้ฟังสาระจากธรรมะดีๆ จากพระอาจารย์เก่งๆ เหล่านี้ จริงๆ มันทำให้เราได้เห็นสัจธรรมว่า “ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน”
    
     โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เรานอนป่วยอยู่เหมือนกับว่าสติไม่อยู่กับตัวแล้ว แต่ว่าพอฟัง สาระที่อยู่ในนั้นแล้วก็ปฏิบัติตาม พอเราเจ็บ เราก็รู้ว่าเดี๋ยวมันก็หาย”

     อย่างที่พระท่านบอกว่ามันไม่มีวันที่จะเป็นแบบนั้นอยู่ตลอดเวลา ทุกๆ อย่างมันต้องเปลี่ยนไป เหมือนความทุกข์ เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องไม่ฟูมฟาย เพราะในที่สุดชีวิตมันเป็นสัจธรรมมันจะต้องเดินต่อไปข้างหน้าไปหาทางแก้ไขดีกว่ามานั่งฟูมฟาย

     “ในวันที่เหมือนทุกอย่างมันจะตัน เหมือนมันจะหมดหนทาง แต่ธรรมะจะมีทางออกให้เราได้เสมอ” 

      หลังจากเฉียดตาย ดูชีวิตคุณเปลี่ยนไป..? 

     “เปลี่ยนไปมากๆ ค่ะ ซึ่งไปทำบุญมาก ก็ทำมากเหมือนเดิมค่ะ ( หัวเราะ) แต่ดูแลตัวเองเยอะขึ้น กินของที่มีประโยชน์มากขึ้น เพราะตอนที่เป็นโรคงูสวัดจริงๆ เราอาจจะเป็นเพราะร่างกายของเราอ่อนแอด้วย มันทำให้เราต้องออกกำลังกายมากขึ้น ซึ่งปกติเมื่อก่อนเติ้ลจะเล่นโยคะอยู่แล้ว แต่ก็มีเว้นบางขณะที่เรายุ่งๆ แต่ ณ วันนี้เราก็ต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอร่างกายมันจะได้แข็งแรง ซึ่งจริงๆ คุณหมอก็บอกว่าปกติคนเราก็มีเชื้อไวรัสแฝงในตัวอยู่แล้ว

     ดังนั้นใครๆ ก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ ถ้าร่างกายอ่อนแอ เพราะฉะนั้นทุกวันนี้ต่อให้งานยุ่งมากแค่ไหน เราก็ต้องออกกำลังกาย กลับมาก็ต้องมาสวดมนต์ นั่งสมาธิทุกวัน ที่สำคัญต้องห้ามผัดวันประกันพรุ่ง” 
  
   
“จริงๆ แล้วธรรมะมันปฏิบัติได้ตลอดเวลา ที่บ้านก็ทำได้ ไม่ต้องไปวัดก็ทำได้ก็สวดมนต์นั่งสมาธิกำหนดจิตให้รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งทุกๆ คนก็ปฏิบัติได้ง่ายๆ อยู่ที่ไหนๆ ก็ทำได้ ถ้าจะทำ พยายามอย่ามีข้ออ้างกับธรรมะ” 

   คนปัจจุบันมักจะมีข้อแม้กับธรรมะตลอด ชอบถามว่าปฏิบัติธรรมะแล้ว ธรรมะให้อะไรแก่เรา แต่สำหรับเธอแล้ว ธรรมะเป็นทุกๆ อย่าง และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีวันนี้ และผ่านวันที่เจ็บปวดจนจิตแทบจะแตกครั้งนั้นมาได้ เพราะเรามีธรรมะอยู่กับตัวจริงๆ  
    

     ที่สุดแล้ว วันนี้นอกจาก เจ้าแม่แบรนด์เนมจะเชื่อโดยสนิทใจว่า ธรรมะไม่มีล้าสมัยแล้ว เธอบอกกับเราว่าธรรมะยังทำให้ คน...ทำให้สังคม และโลกเย็นลงได้ จากที่ร้อนรนจริงๆ 

                             ********************
                               
                                      My idol

                     คุณแม่ ดวงจิตต์ พนมวัน ณ อยุธยา
                     ฐิตินาถ ณ พัทลุง
                     ดารารัตน์ มหาดำรงค์กุล

                     
             *******************
                                   หนังสือเล่มโปรด
      หนังสือ “เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน” โดย ดังตฤณ-ศรันย์ ไมตรีเวช
      หนังสือ “เข็มทิศชีวิต” โดย ฐิตินาถ ณ พัทลุง
      หนังสือชื่อ “มีสุข” โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
      หนังสือ “ฉลาดทำใจ” โดย พระไพศาล วิสาโล
      หนังสือ “คำตอบของชีวิต ปฏิจจสมุปบาท” โดย อ.อำนาจ กลั่นประชา

                        ********************
      การศึกษา ปริญญาตรี สาขา International Business Management ที่ ม.อัสสัมชัญ และ ปริญาโทจาก Integrated Marketing Communication ที่ Emerson College Boston ประเทศสหรัฐฯ

     ปัจจุบันทำงาน ในตำแหน่ง Retail Operation Manager ให้กับ “โจ มาโลน” แบรนด์ไลฟ์สไตล์สุดหรูจากประเทศอังกฤษ

     อนาคต อยากจะมีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง

     ปรัชญาในการทำงาน ดำเนินชิวิตอย่างมีสติ ทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด เพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ทุกๆ อย่างไม่แน่นอน





กำลังโหลดความคิดเห็น