ในแหล่งชอปปิ้งใจกลางเมืองหลวงอันแสนวุ่นวาย และคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มากหน้าหลายตา M-Lite ขอปลีกตัวออกมาเพื่อหาสถานที่สงบๆ ในการมานั่งพูดคุยกับ ทันตแพทย์สาวคนหนึ่ง ที่หลายๆ คนรู้จักกันในนาม อดีตนักร้องสาวแห่งวง เกิร์ลฟอร์ซ ,พรีเซ็นเตอร์โฆษณา , สาว K-Bank และขณะนี้อาจจะรู้จักเธอในฐานะพิธีกรสาวแห่งรายการ “อโรคาปาร์ตี้” รายการเกมโชว์เพื่อสุขภาพ รวมไปถึงในฐานะที่เธอเป็นทันตแพทย์หญิง
บอกได้เลยว่างานนี้ M-Lite รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้มาพูดคุยกับสาวสวยมากความสามารถที่มีงานทั้งในวงการบันเทิงและมีบทบาทเป็นถึงทันตแพทย์หญิงที่เหล่านักท่องเว็บบอร์ดลงความเห็นกันว่า เธอคือคนที่ถูกมองว่าเป็นทันตแพทย์หญิงที่สวยและน่ารักมากคนหนึ่ง
...หญิงสาวในชุดเดรสสีตัดกันอย่างม่วง-เหลือง ขับให้ผิวพรรณของเธอดูขาวผุดผ่องราวปุยนุ่น รอยยิ้มสวยและมีเสน่ห์โดดเด่นมาแต่ไกล (นั่นสิไม่ให้เธอยิ้มสวยได้อย่างไรก็เธอเป็นถึงหมอฟัน) เธอคงกำลังชะเง้อคอมองหา M-Lite เราจึงออกไปต้อนรับเธอ และคุณแม่ที่มาคอยนั่งให้กำลังใจเธออยู่ข้างๆ ...แล้วบทสนทนาระหว่างกันและกันก็ได้เริ่มต้นขึ้น
1.
“พอลลีน (เต็ง) ล่ำซำ” หรือเรียกเธอสั้นๆว่า “พี” เธอคือหญิงสาวที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น ใครหลายๆ คน อยากจะทำความรู้จักกับเธอ แม้ว่าบางส่วนจะรู้จักกันมาบ้างแล้วก็ตาม
“พอดี พี เพิ่งเลิกเรียนมาจากมหาวิทยาลัยค่ะ” คำสนทนาที่ทำให้ M-Lite หายจากความตื่นเต้น และความเป็นกังวล ด้วยความเป็นกันเองของเธอ
“ลิซลี่ จาง , เฉินกวาง ซี , บรู๊ซ ลี , แจ๊กกี้ ชาน...” หรือคนมีชื่อเสียงอีกมากมาย ที่ชื่อตามด้วยนามสกุลแค่เพียงพยางค์เดียว คงคล้ายกับชื่อของเธอ จึงทำให้ชื่อของเธอเป็นที่น่าสงสัย
“ชื่อ พอลลีน ไม่มีคำแปลค่ะ ก็คงเหมือนคนอื่นทั่วๆ ไป เราเป็นลูกครึ่ง สิงคโปร์ -มาเลเซีย-ไทย ถ้าพูดง่ายๆก็คือมีเชื้อสายจีนแหละค่ะ มีชื่อแล้วก็ตามด้วยนามสกุลพยางค์เดียว ” พอลลีนอธิบาย
“จริงๆ แล้วชื่อนี้คุณพ่อเขาเป็นคนตั้งให้ เผอิญแม่เองมีลูก 3 คน คนแรกคุณยายตั้งให้ คนที่สองคุณแม่ตั้ง และก็เพราะเขาเป็นลูกคนเล็ก คุณพ่อไม่ยอมเขาอยากจะตั้งชื่อให้ ก็เลยกลายมาเป็น “พอลลีน” คุณแม่กล่าวเสริมทัพ
เพราะเธอเองเป็นลูกครึ่ง แต่การเลี้ยงดูถูกพ่อและแม่เลี้ยงมาแบบไทย ไม่มีอะไรที่เป็นต่างชาติเลยแม้แต่น้อย
“พี่ๆ ทั้งสองของพีเอง เขาเกิดที่มาเลเซีย อยู่ที่นั่นมาก่อน แต่พอคุณแม่ท้องพี คุณพ่อกับคุณแม่ก็ย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ เรามาคลอดที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ อยู่ที่นี้มาตั้งแต่เด็ก ”
“พีเองเขาเป็นคนขี้อาย แต่แม่เลี้ยงดูเขามาแบบปล่อยๆ ให้เขาได้มีโอกาสทำอะไรได้อย่างเต็มที่ อยากเรียนอะไรก็ให้เรียน ” คุณแม่หันมาบอกถึงวิธีการเลี้ยงดู
2.
เพชฌฆาตในวัยเยาว์และสิ่งที่ไม่ชอบที่สุดในตอนนั้นก็คงหนีไม่พ้น การไปพบหมอฟัน ซึ่งเปรียบเสมือนฝันร้ายของเด็กๆ แต่สำหรับพอลลีนเองนั่นกลับกลายเป็น “ความประทับใจ” ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เธอรักที่จะเป็นทันตแพทย์
“ตั้งแต่เด็กเลยพีไม่เคยมีประสบการณ์แย่ๆ ที่ต้องเข้าไปรักษาฟันค่ะ เผอิญว่าคุณแม่บอกว่าดูแลเราดีมาตั้งแต่อยู่ในท้อง บำรุงเยอะ ฟันก็เลยแข็งแรง ก็เลยไม่มีประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าเราไม่ชอบหมอฟัน” พีเล่าประสบการณ์ในวัยเด็ก
“เราเองเรียนสายวิทย์ ก็ต้องเอนท์สายวิทย์ ตอนนั้นเลือกที่อยากจะเรียนวิศวะกับหมอฟัน แต่เราว่าวิศวะไม่ใช่แนวเดียวกับเรา ก็เลยเลือกที่จะเรียนทันตแพทย์”
ปัจจุบันเธอเองคือ ทพญ. พอลลีน เต็ง ทันตแพทย์สาวที่ยังคงมีความฝันในการทำคลินิกทันตกรรมเป็นของตนเอง และกำลังเดินทางตามความฝันของเธอด้วยการเรียนต่อ ปริญญาโทเฉพาะด้านทางทันตกรรม
“ตอนนี้เรียนโท อยู่ที่จุฬาฯค่ะ ลงเรียนเฉพาะด้าน เกี่ยวกับทันตกรรมเพื่อความสวยงาม อย่างพวกฮอลลีวูดสไมล์ ยิ้มมาแล้วสวยเลย เหมือนดาราฮอลลีวูด ซึ่งการทำทันตกรรมด้านนี้ไม่ใช่แค่การทำฟันขาว แต่จะทำอย่างไรให้ทำออกมาแล้วสวย และเสมือนจริงให้มากที่สุด”
“ตอนนี้ยังไม่มีคลินิกของตัวเอง แต่เราก็ฝันอยากจะมีเหมือนกันนะ ตอนนี้เรียนอยู่เราก็ต้องคอยมองอนาคตข้างหน้าอีกทีว่าจะทำยังไงต่อไป ถ้าเรียนจบแล้วเปิดเลยมันเป็นเรื่องลำบาก เพราะเราไม่มีประสบการณ์อะไรเลย ก็ต้องไปฝึกก่อนให้พอได้รู้ว่าเราควรจะมาจัดการยังไงในคลินิกของเรา”
3
เมื่อหลายปีที่แล้ว หลายคนคงคุ้นกับกลุ่มนักร้องสาวสวย แห่งค่ายโซนี่ ในนามว่า “เกิร์ลฟอร์ซ” หนึ่งในนั้นมีผู้หญิงที่ชื่อว่า พอลลีน เต็ง รวมอยู่ในนั้นด้วย
“จริงๆแล้ว เราก็อยู่วงการนี้มานาน อยู่มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ เคยถ่ายโฆษณาบ้าง เป็นพิธีกรรายการหนังบ้าง แล้วถึงจะมาเป็นนักร้อง แต่หลายๆ คนก็คงจะลืมกันไป พอเรียนหนัก เราก็เลยทุ่มเทให้แก่การเรียนเสียมากกว่า แต่เราก็ไม่ได้ทิ้งไปเลยซะทีเดียว หลังจากนั้น ทางรายการอโรคาปาร์ตี้ ก็ติดต่อมาให้เป็นพิธีกรค่ะ”
“อาจจะด้วยเพราะเราอยู่ในฟิลที่เป็นหมอด้วยหรือไม่นั้น มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาเลือกเรามาเป็นพิธีกร เพราะก่อนที่จะเรียนทางด้านหมอฟัน ก็ต้องเรียนพื้นฐานของหมอมาบ้างเหมือนกันค่ะ”
4
นอกจากงานในวงการ งานทันตแพทย์ ยังมีอีกหนึ่งบทบาทนั่นคือ คนรัก เพิ่มขึ้นมา ซึ่งตอนนี้เธอคือสะใภ้แห่งกสิกรไทย อาจจะทำให้ชีวิตก่อนแต่งงานและหลังแต่งงานเปลี่ยนไป
“ชีวิตเราเปลี่ยนนะ พีเพิ่งจะแต่งงานปีนี้ แล้วก็เรียนต่อปีนี้ด้วย มันก็ต้องหนักขึ้น เรียนเต็มเวลาทุกๆ วัน มีเวลาเราก็จะดูแลเขาบ้างบางครั้ง”
“แบ่งเวลาในการทำงานอย่างไร”? “เป็นคนชอบลองเเละเปิดโอกาสให้แก่ตัวเอง และที่บ้านก็เปิดโอกาสให้ทำอะไรด้วยตนเอง เป็นกำลังใจให้กันมาตลอด แต่ว่าทีนี้ก็ต้องมาชั่งน้ำหนักว่าหน้าที่เราทำอะไรบ้าง หน้าที่ระหว่างครอบครัวกับงาน เราก็ต้องมาชั่งน้ำหนักกับเรื่องการทำงาน
ช่วงนี้เราเรียนหนักหน่อย และทำงานไปด้วย วันธรรมดาเราก็ทำงานและก็เรียนไป เพราะต้องเลิกเย็นทุกวัน เข้าแล็บทุกเย็น ส่วนเสาร์-อาทิตย์เราก็ไปอัดรายการ “อโรคาปาร์ตี้”
“บางทีก็รู้สึกเหนื่อยนะคะ แต่เรามีกำลังใจจากคนทางบ้าน เพราะพีคิดว่า พื้นฐานที่ดีที่สุดก็คือครอบครัว กำลังใจจากคนในครอบครัว เราก็ต้องกลับมาคิดว่ามีคนที่ลำบากกว่าเราอีกมาก ถ้าเพียงเท่านี้แล้วมาคิดว่าเราลำบากแล้ว คนอื่นล่ะที่เขามีชีวิตที่ลำบากมากกว่าเราอีกมาก แล้วก็รู้สึกว่า ชีวิตมันก็ต้องมีรสชาติบ้าง มีหนักมีเบา สลับกันไป จะสบายไปตลอดชีวิตเราก็จะไม่สนุก ไม่มีรสชาติ”
เธอยังเสริมอีกว่า ชีวิตของเธอเองไม่มีอะไรยึดติดตายตัว เพราะสิ่งที่เข้ามามันก็มีเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำกัน มันไม่สามารถจะใช้หลักการเดียวกันได้ในแต่ละปัญหาที่เกิดขึ้น กับตัวเอง ก็เหมือนกับคนทั่วๆ ไปนะ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แต่มันก็ต้องทำให้ดีกว่าเมื่อวาน มันเป็นอะไรที่ยาก ยากที่จะทำได้
5.
แม้เธอจะถูกมองว่าเป็นผู้หญิงสวยและน่าจับตามองคนหนึ่งทั้งในวงการทันตแพทย์และวงการบันเทิง แต่คุณแม่เธอกลับมองว่าเธอเองก็คือผู้หญิงทั่วๆ ไปอีกทั้งยังมีนิสัยขี้อายเสียด้วย
“ก็มีหมอฟันที่น่ารักดูดีเยอะมากนะคะ สมัยนี้ ไม่มีหมอฟันที่ไหนที่จะมานั่งใส่แว่นหนาๆ กันแล้ว คนสวยหน้าตาดีก็เยอะแยะ ก็ขอบคุณที่ชมเขา แต่ถามคนอื่นๆ อาจจะไม่มีใครบอกก็ได้ มันก็เป็นเรื่องนานาจิตตังมากกว่าค่ะ” เธอยิ้มอย่างขอบคุณ
“เขาคิดว่าตัวเขาไม่ได้เป็นดาราดัง หรือเป็นคนมีชื่อเสียงเท่าไหร่ พอเห็นใครมองเขาก็จะอายๆ ครอบครัวเราเคยไปโรดโชว์กันที่ต่างจังหวัด ก็มีคนเข้ามาใช่คนที่เป็นพิธีกรรายการอโรคาปาร์ตี้หรือเปล่า เป็นลูกสาวหรือค่ะ ทำไมดูเด็กกว่าในทีวี เราก็บอกเขาไปว่า ก็แต่งไปตามสไตลิสต์ จัดมาให้ บางทีมันก็ต้องดูแก่บาง เพราะเขาเองก็ต้องดูภูมิฐานขึ้น” คุณแม่เล่าเสริมขึ้นมา
6.
ในฐานะเป็นพิธีกรรายการอโรคาปาร์ตี้ รายการเกมโชว์แนวใหม่เพื่อสุขภาพของคนไทย สิ่งที่พอลลีนเองเป็นห่วงต่อสุขภาพของคนไทยมากที่สุดก็คือ พื้นฐานความคิดของแต่ละคน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะเริ่มดูแลสุขภาพของตัวเอง
“พีว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดของคนไทยเอง ไม่ได้เป็นที่ตัวโรคแต่เป็นห่วงที่พื้นฐานความคิดของคนส่วนใหญ่ หรือนั่นอาจไม่ใช่แค่คนไทย คือเขาไม่ค่อยจะใส่ใจสุขภาพเสียเท่าไหร่ หรืออาจจะใส่ใจบ้างแต่ทำได้แค่ไปซื้อยาที่หน้าปากซอยมากินเอง ไม่เห็นเลือดก็ไม่ไปหาหมอ
เราควรคิดว่าถ้าอะไรก็ตามเรารักษาดูแลตั้งแต่เริ่มแรก มันเป็นเรื่องที่ดี ไม่ต้องมานั่งเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายสูงๆ ถ้าตอนนั้นเป็นเอามากๆ ก็จะมานั่งเสียใจทีหลังอีก มันอยู่ที่พื้นฐานความคิดมากกว่าว่าตัวเราให้ความสำคัญกับสุขภาพของเรามากน้อยแค่ไหน”
…รู้สึกตัวมาอีกที ตอนนี้เราไม่รู้ว่าเวลาแห่งการสนทนาล่วงเลยมาเท่าใดแล้ว เนื่องจากบทสนทนาระหว่างเราทั้งสองเหมือนต้องมนต์สะกดให้ตกเข้าไปอยู่ในเรื่องราวชีวิตและความคิดของเธอ
จากนั้นเราจึงปล่อยให้เธอเองสนุกกับการถ่ายภาพ ในมุมของเธอเองอย่างสนุกสนานทีเดียว ด้วยใบหน้าและรอยยิ้มของเธอ ทำให้อากาศอันแสนอบอ้าวของแหล่งชอปปิ้งใจกลางเมือง รู้สึกสดใสขึ้นมาทันตา