“สะฝีอี” คนร้ายร่วมก่อเหตุสังหารโหดเหี้ยม! ทันตแพทย์หญิงเมืองสะเดาขณะตั้งครรภ์อ่อนๆ เข้ามอบตัวแล้ว หลังกองปราบฯจับแก๊งเพื่อนร่วมฆ่าได้ก่อนหน้านี้ ด้านตำรวจพบปมฆ่าโยงเรื่องชู้สาว มือยิงที่ถูกจับก่อนหน้านี้ขอให้การในชั้นศาล ส่วนเจ้าตัวหลังหลบหนีถูกกดดันจาก จนท.ตำรวจ และคนสั่งการที่ต้องการฆ่าปิดปาก จึงชิงเข้ามอบตัวก่อน
วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.30 น.นายสะฝีอี หมัดหมัน อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 309 หมู่ 1 ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ที่ 375/2551 ลงวันที่ 22 เม.ย.2551 เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.จุมพล หมั่นหมาย รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2551 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหารายนี้ได้ร่วมกับ นายสุริยา แก้วคงที นายจับ ชนะสิทธิ์ และนายโยธิน นุ่นทอง ปลอมตัวเป็นคนไข้ก่อเหตุสังหาร ทพ.(ญ.) พิชญา อัศวสุนทรเนตร อายุ 26 ปี เสียชีวิตคา โอ.เค.สหคลินิก ถ.กาญจนวนิช หมู่ 7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ขณะที่ผู้ตายท้องอ่อนๆได้ 2-3 เดือน
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2551 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากจั่น จ.ระนอง ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสุริยา นายจับ และนายโยธิน ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ต่อมาได้สอบสวนขยายผล ซึ่งมีพยานได้ชี้และยืนยันว่าทั้งสามเป็นคนร้ายในคดีสังหาร ทพ.(ญ) พิชญา อีกด้วย โดยนายสุริยา เป็นผู้ลงมือยิง นายโยธิน นั่งรอในคลินิก นายจับ ยืนรอหน้าที่หน้าคลินิก และ นายสะฝีอี ซึ่งเป็นเจ้าของกระบะอีซูซุ สีดำ นั่งรออยู่ในรถ หลังก่อเหตุแล้วได้พากันหลบหนี กระทั่งจับกุมผู้ต้องหาไปได้บางส่วนหลังเกิดเหตุได้เพียงไม่กี่วัน ส่วน นายสะฝีอี ได้หลบหนีไปได้ ก่อนที่จะเข้ามามอบตัวดังกล่าว หลังรับมอบตัวจึงส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนของ สภ.สะเดา ดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าว ว่า คดีดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจพบประเด็นมาจากเรื่องชู้สาว โดยผู้บงการได้ติดต่อจ้างวาน นายสะฝีอี ให้รับงานสังหาร ทพ.(ญ) พิชญา จากนั้นได้ติดต่อ นายสุริยา นายจับ และ นายชนะสิทธิ์ โดยจัดหาปืนและรถกระบะอีซูซุ สีดำ คันดังกล่าวให้ใช้ก่อเหตุ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2551 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากจั่น จ.ระนอง ได้จับกุมตัว นายสุริยา และนายชนะสิทธิ์ ในข้อหาพยายามฆ่า เมื่อตรวจเกลียวหัวกระสุนพบว่าเป็นกระบอกเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุยิง ทพ.(ญ) พิชญา แต่ผู้ต้องหาไม่ให้การที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ โดยขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ส่วน นายสะฝีอี หลังรับงานสังหาร ทพ.(ญ) พิชญา ก็ถูกกดดันทั้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและคนสั่งการที่ต้องการฆ่าปิดปาก จึงชิงเข้ามอบตัวดังกล่าว
วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.30 น.นายสะฝีอี หมัดหมัน อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 309 หมู่ 1 ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ที่ 375/2551 ลงวันที่ 22 เม.ย.2551 เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.จุมพล หมั่นหมาย รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2551 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหารายนี้ได้ร่วมกับ นายสุริยา แก้วคงที นายจับ ชนะสิทธิ์ และนายโยธิน นุ่นทอง ปลอมตัวเป็นคนไข้ก่อเหตุสังหาร ทพ.(ญ.) พิชญา อัศวสุนทรเนตร อายุ 26 ปี เสียชีวิตคา โอ.เค.สหคลินิก ถ.กาญจนวนิช หมู่ 7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ขณะที่ผู้ตายท้องอ่อนๆได้ 2-3 เดือน
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2551 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากจั่น จ.ระนอง ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสุริยา นายจับ และนายโยธิน ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ต่อมาได้สอบสวนขยายผล ซึ่งมีพยานได้ชี้และยืนยันว่าทั้งสามเป็นคนร้ายในคดีสังหาร ทพ.(ญ) พิชญา อีกด้วย โดยนายสุริยา เป็นผู้ลงมือยิง นายโยธิน นั่งรอในคลินิก นายจับ ยืนรอหน้าที่หน้าคลินิก และ นายสะฝีอี ซึ่งเป็นเจ้าของกระบะอีซูซุ สีดำ นั่งรออยู่ในรถ หลังก่อเหตุแล้วได้พากันหลบหนี กระทั่งจับกุมผู้ต้องหาไปได้บางส่วนหลังเกิดเหตุได้เพียงไม่กี่วัน ส่วน นายสะฝีอี ได้หลบหนีไปได้ ก่อนที่จะเข้ามามอบตัวดังกล่าว หลังรับมอบตัวจึงส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนของ สภ.สะเดา ดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าว ว่า คดีดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจพบประเด็นมาจากเรื่องชู้สาว โดยผู้บงการได้ติดต่อจ้างวาน นายสะฝีอี ให้รับงานสังหาร ทพ.(ญ) พิชญา จากนั้นได้ติดต่อ นายสุริยา นายจับ และ นายชนะสิทธิ์ โดยจัดหาปืนและรถกระบะอีซูซุ สีดำ คันดังกล่าวให้ใช้ก่อเหตุ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2551 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากจั่น จ.ระนอง ได้จับกุมตัว นายสุริยา และนายชนะสิทธิ์ ในข้อหาพยายามฆ่า เมื่อตรวจเกลียวหัวกระสุนพบว่าเป็นกระบอกเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุยิง ทพ.(ญ) พิชญา แต่ผู้ต้องหาไม่ให้การที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ โดยขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ส่วน นายสะฝีอี หลังรับงานสังหาร ทพ.(ญ) พิชญา ก็ถูกกดดันทั้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและคนสั่งการที่ต้องการฆ่าปิดปาก จึงชิงเข้ามอบตัวดังกล่าว
