ไข้ขึ้นสูง....มีอาการคล้ายคนเป็นไข้เลือดออก...
ผมตัดสินใจไปโรงพยาบาลย่านประชาชื่น ตามบัตรประกันสังคม เพื่อให้แพทย์ตรวจ...
บอกตามตรงว่า ปีๆหนึ่ง แทบไม่เคยใช้บริการโรงพยาบาลประกันสังคม เพราะไม่ค่อยป่วยหนัก อย่างมากก็เป็นหวัดคัดจมูก ซื้อยากินก็หาย
…รถยนต์จอดหน้าโรงพยาบาล มองจากตึกอันโอ่อ่าของโรงพยาบาล สภาพแวดล้อมะสะอาดตา ผมมั่นใจว่าโรงพยาบาลที่ผมเลือกตามหลักประกันสังคม น่าจะเป็นสถานพยาบาลที่ดีมีมาตรฐานในการรักษา
เดินเข้าไปในตัวตึก พนักงานต้อนรับให้ลงประวัติ และป้ายบอกเส้นทางเดินคนไข้ประกันสังคมให้เลี้ยวซ้าย ส่วนผู้ป่วยนอก หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ผู้ป่วยที่เสียเงินเอง เดินเลี้ยวขวาไปตามทางเดิน แบ่งแยกชัด คล้ายกับแบ่งเกรดว่า พลเมืองชั้นหนึ่งเดินเลี้ยวขวานะ พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยเดินนำ ขณะที่พลเมืองชั้นสอง ผู้ถือบัตรประกันสังคมให้เดินเลี้ยวซ้าย เดินเอง หาเอง
ไม่รู้ซิ, ถ้าคุณเห็นการจัดการของโรงพยาบาล จะเห็นชัดว่า ผู้ป่วยที่เสียเงินเอง กับ ผู้ถือบัตรประกันสังคมตั้งแต่จุดบริการหน้าเคาน์เตอร์ การพูดจาของพนักงานต้อนรับ ไปถึงสถานที่การนั่งรอให้แพทย์ตรวจต่างกันราวกับพลมืองคนละชั้น
ความอิดโรย และพิษไข้ยังทำให้ผมนั่งกระสับกระส่าย รอให้แพทย์ตรวจ ...รอแล้ว รอต่อไป 30 นาทีผ่านไปยังไร้วี่แวว
...รอไม่ไหวแล้ว ผมตัดสินจะกลับ แจ้งเจ้าหน้าที่แต่ผู้ช่วยพยาบาลบอกว่าถึงคิวแล้ว ให้แพทย์ตรวจได้
ผมเข้าไปห้องตรวจ มองจากแพทย์ผู้ตรวจคิดอยู่ในใจว่า น่าจะเป็นแพทย์จบใหม่ หรือไม่ก็เป็นแพทย์ฝึกหัด เพราะดูยังอ่อนเยาว์ และมีท่าทีไม่เชี่ยวชาญมากนัก
ผมบอกรายละเอียดของอาการ และข้อมูลว่ามีคนในบ้านเพิ่งป่วยเป็นไข้เลือดออกเมื่อไม่กี่วันมานี้ และแจ้งความประสงค์ว่าขอให้แพทย์ลองเจาะเลือดไปตรวจดู เพราะมั่นใจว่าตัวเองน่าจะเป็น
แพทย์ผู้อ่อนเยาว์บอกว่า ไม่เป็นหรอก เดี๋ยวสั่งยาแก้ไข้ ไปกินวันสองวันเดี๋ยวก็หาย เพราะหมอตรวจแล้วคุณเป็นแค่ไข้หวัดใหญ่...
ด้วยความเคารพในการวินิจฉัยของแพทย์ แม้จะไม่ค่อยมั่นใจในวิถีการตรวจของแพทย์ผู้นี้ก็ตาม แต่ก็กลับบ้านไปด้วยอาการทรุดหนักเป็นลำดับ
…ไปหาหมอที่คลินิกดีกว่า ผมตัดสินใจในวันรุ่งขึ้น เพราะอาการยิ่งทรุดหนาวสั่น และมีความรู้ว่าคนเป็นไข้เลือดออกกินยาลดไข้จะยิ่งช็อกถึงตายได้
ผมไปหาหมอที่คลินิกย่านดินแดง เจาะเลือด และผลการตรวจพบว่า ผมเป็นไข้เลือดออก เข้าไปนอนโรงพยาบาลสองคืน...
วันนี้ผมเชื่อสนิทใจแล้วว่า...โรงพยาบาลประกันสังคมที่ใครๆด่าว่า เป็นโรงฆ่าสัตว์บ้าง เป็นหลักประกันความตายบ้าง ไม่ผิดหรอกครับ
ผมทำงานมา 15-16 ปีใช้บัตรประกันสังคมมาหลายสถานพยาบาล บอกหน่อยเถอะว่า มีที่ไหนดี มีมาตรฐานบ้าง...
เปลี่ยนมาทุกปี ยิ่งโรงพยาบาลเอกชนตึกหรูๆ ชื่อเสียงดีๆ ผมกล้าพูดได้เลยว่า ห่วยและยิ่งกว่าห่วย ทั้งยารักษา และแพทย์ผู้ตรวจ ไม่รู้ซื้อใบวิชาชีพมาจากที่ใด
บ่อยครั้งที่ได้ยินข่าว ประกันสังคมทำคนตาย และเกือบตาย มีโพสต์ทางอินเทอร์เน็ตมากมายเป็นหมื่นกระทู้ๆ แต่สุดท้ายหน่วยงานภาครัฐ อย่างสำนักประกันสังคมก็ทำอะไรไม่ได้ เพียงแต่บอกว่า จะดำเนินตรวจสอบและดีที่สุดคือขึ้นบัญชีดำสถานพยาบาลแห่งนั้น
ผมเคยไปทำข่าวเรื่องประกันสังคม ผู้บริหารพูดได้แต่เพียง ว่าระบบดี แต่สถานพยาบาลเขาทำกันไม่ดี ปัญหาใหญ่สุด คือ สถานพยาบาลส่วนใหญ่ต้องการกำไรสูงสุด เมื่อระบบเหมาจ่ายต่อหัวทำให้สถานพยาบาลต้องการคนมาลงชื่อเพื่อใช้บริการประกันสังคมจำนวนมาก แต่โรงพยาบาลจะเซฟเรื่องต้นทุนเรื่องยา และค่าจ้างหมอ
ข้อมูลลึกไปกว่านั้น พบว่า มีการร้องเรียนจากผู้ประกันสังคมที่ใช้บริการนับหมื่นๆคน แต่สำนักงานประกันสังคมกลับปกปิดข้อมูล และไม่ยอมเปิดเผย
...น่าสลดใจ และเสียดายเงินที่ถูกหักไปแต่ละเดือน กับการบริการที่แสนห่วย ไร้มาตรฐาน...
วันนี้ผมไม่กล้าไปใช้บริการประกันสังคมอีก ยอมเสียเงินไปรักษา ดีกว่าเสียใจไปตลอดชีวิต...
วัฒนะชัย ยะนินทร
บรรณาธิการ M-Lite
ผมตัดสินใจไปโรงพยาบาลย่านประชาชื่น ตามบัตรประกันสังคม เพื่อให้แพทย์ตรวจ...
บอกตามตรงว่า ปีๆหนึ่ง แทบไม่เคยใช้บริการโรงพยาบาลประกันสังคม เพราะไม่ค่อยป่วยหนัก อย่างมากก็เป็นหวัดคัดจมูก ซื้อยากินก็หาย
…รถยนต์จอดหน้าโรงพยาบาล มองจากตึกอันโอ่อ่าของโรงพยาบาล สภาพแวดล้อมะสะอาดตา ผมมั่นใจว่าโรงพยาบาลที่ผมเลือกตามหลักประกันสังคม น่าจะเป็นสถานพยาบาลที่ดีมีมาตรฐานในการรักษา
เดินเข้าไปในตัวตึก พนักงานต้อนรับให้ลงประวัติ และป้ายบอกเส้นทางเดินคนไข้ประกันสังคมให้เลี้ยวซ้าย ส่วนผู้ป่วยนอก หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ผู้ป่วยที่เสียเงินเอง เดินเลี้ยวขวาไปตามทางเดิน แบ่งแยกชัด คล้ายกับแบ่งเกรดว่า พลเมืองชั้นหนึ่งเดินเลี้ยวขวานะ พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยเดินนำ ขณะที่พลเมืองชั้นสอง ผู้ถือบัตรประกันสังคมให้เดินเลี้ยวซ้าย เดินเอง หาเอง
ไม่รู้ซิ, ถ้าคุณเห็นการจัดการของโรงพยาบาล จะเห็นชัดว่า ผู้ป่วยที่เสียเงินเอง กับ ผู้ถือบัตรประกันสังคมตั้งแต่จุดบริการหน้าเคาน์เตอร์ การพูดจาของพนักงานต้อนรับ ไปถึงสถานที่การนั่งรอให้แพทย์ตรวจต่างกันราวกับพลมืองคนละชั้น
ความอิดโรย และพิษไข้ยังทำให้ผมนั่งกระสับกระส่าย รอให้แพทย์ตรวจ ...รอแล้ว รอต่อไป 30 นาทีผ่านไปยังไร้วี่แวว
...รอไม่ไหวแล้ว ผมตัดสินจะกลับ แจ้งเจ้าหน้าที่แต่ผู้ช่วยพยาบาลบอกว่าถึงคิวแล้ว ให้แพทย์ตรวจได้
ผมเข้าไปห้องตรวจ มองจากแพทย์ผู้ตรวจคิดอยู่ในใจว่า น่าจะเป็นแพทย์จบใหม่ หรือไม่ก็เป็นแพทย์ฝึกหัด เพราะดูยังอ่อนเยาว์ และมีท่าทีไม่เชี่ยวชาญมากนัก
ผมบอกรายละเอียดของอาการ และข้อมูลว่ามีคนในบ้านเพิ่งป่วยเป็นไข้เลือดออกเมื่อไม่กี่วันมานี้ และแจ้งความประสงค์ว่าขอให้แพทย์ลองเจาะเลือดไปตรวจดู เพราะมั่นใจว่าตัวเองน่าจะเป็น
แพทย์ผู้อ่อนเยาว์บอกว่า ไม่เป็นหรอก เดี๋ยวสั่งยาแก้ไข้ ไปกินวันสองวันเดี๋ยวก็หาย เพราะหมอตรวจแล้วคุณเป็นแค่ไข้หวัดใหญ่...
ด้วยความเคารพในการวินิจฉัยของแพทย์ แม้จะไม่ค่อยมั่นใจในวิถีการตรวจของแพทย์ผู้นี้ก็ตาม แต่ก็กลับบ้านไปด้วยอาการทรุดหนักเป็นลำดับ
…ไปหาหมอที่คลินิกดีกว่า ผมตัดสินใจในวันรุ่งขึ้น เพราะอาการยิ่งทรุดหนาวสั่น และมีความรู้ว่าคนเป็นไข้เลือดออกกินยาลดไข้จะยิ่งช็อกถึงตายได้
ผมไปหาหมอที่คลินิกย่านดินแดง เจาะเลือด และผลการตรวจพบว่า ผมเป็นไข้เลือดออก เข้าไปนอนโรงพยาบาลสองคืน...
วันนี้ผมเชื่อสนิทใจแล้วว่า...โรงพยาบาลประกันสังคมที่ใครๆด่าว่า เป็นโรงฆ่าสัตว์บ้าง เป็นหลักประกันความตายบ้าง ไม่ผิดหรอกครับ
ผมทำงานมา 15-16 ปีใช้บัตรประกันสังคมมาหลายสถานพยาบาล บอกหน่อยเถอะว่า มีที่ไหนดี มีมาตรฐานบ้าง...
เปลี่ยนมาทุกปี ยิ่งโรงพยาบาลเอกชนตึกหรูๆ ชื่อเสียงดีๆ ผมกล้าพูดได้เลยว่า ห่วยและยิ่งกว่าห่วย ทั้งยารักษา และแพทย์ผู้ตรวจ ไม่รู้ซื้อใบวิชาชีพมาจากที่ใด
บ่อยครั้งที่ได้ยินข่าว ประกันสังคมทำคนตาย และเกือบตาย มีโพสต์ทางอินเทอร์เน็ตมากมายเป็นหมื่นกระทู้ๆ แต่สุดท้ายหน่วยงานภาครัฐ อย่างสำนักประกันสังคมก็ทำอะไรไม่ได้ เพียงแต่บอกว่า จะดำเนินตรวจสอบและดีที่สุดคือขึ้นบัญชีดำสถานพยาบาลแห่งนั้น
ผมเคยไปทำข่าวเรื่องประกันสังคม ผู้บริหารพูดได้แต่เพียง ว่าระบบดี แต่สถานพยาบาลเขาทำกันไม่ดี ปัญหาใหญ่สุด คือ สถานพยาบาลส่วนใหญ่ต้องการกำไรสูงสุด เมื่อระบบเหมาจ่ายต่อหัวทำให้สถานพยาบาลต้องการคนมาลงชื่อเพื่อใช้บริการประกันสังคมจำนวนมาก แต่โรงพยาบาลจะเซฟเรื่องต้นทุนเรื่องยา และค่าจ้างหมอ
ข้อมูลลึกไปกว่านั้น พบว่า มีการร้องเรียนจากผู้ประกันสังคมที่ใช้บริการนับหมื่นๆคน แต่สำนักงานประกันสังคมกลับปกปิดข้อมูล และไม่ยอมเปิดเผย
...น่าสลดใจ และเสียดายเงินที่ถูกหักไปแต่ละเดือน กับการบริการที่แสนห่วย ไร้มาตรฐาน...
วันนี้ผมไม่กล้าไปใช้บริการประกันสังคมอีก ยอมเสียเงินไปรักษา ดีกว่าเสียใจไปตลอดชีวิต...
วัฒนะชัย ยะนินทร
บรรณาธิการ M-Lite