“อยากรู้เรื่องยาคูลท์ ถามสาวยาคูลท์ ดูซิคะ” เชื่อว่าคนไทยคุ้นเคยกับประโยคนี้ดี และกำลังมีภาพยนตร์โฆษณาที่นานๆทีจะได้เห็น เรื่องราวของยาคูลท์อยู่คู่คนไทยมาร่วม 40 ปี สาวยาคูลท์ขี่จักรยาน ขับมอเตอร์ไซค์ ส่งลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำ ขึ้นลงออฟฟิศนั้น เปิดตู้เย็นบ้านนี้ จนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วด้วยยูนิฟอร์มที่หลายคนคุ้นเคย “โบว์ กนกพรรณ เหตระกูล” ทายาทยาคูลท์ สาวโสดหัวใจไม่เปรี้ยวคนนี้มีเรื่องราวให้น่าถามไม่น้อยทีเดียวกับหน้าที่บริหารยาคูลท์ร่วม 10 ปีที่เธอทำมา
***
สาวโสดทายาทยาคูลท์ “โบว์” ขับรถเข้ามายังร้านอาหารร้านโปรด อีกทั้งเป็นร้านที่เธอคุ้นเคยกับเจ้าของเป็นอย่างดีในร้าน “โอรส” ตรงบริเวณแยกส่วนรื่นฤดี เรามาก่อนเวลานัดที่เธอกำหนดไว้ ทายาทยาคูลท์เดินมาพร้อมชุดอีกหลายชุดที่เธอเตรียมมาให้เราถ่ายภาพ เนื่องจากเจ้าตัวออกอาการอย่างเห็นได้ชัดว่าไม่ถนัดจนต้องเอ่ยว่า “ขายยาคูลท์ ง่ายกว่า” แต่ชุดที่เธอถือว่าก็ไม่ได้หวือหวาราคาแพง เพชรนิลจินดาระย้าย้อยเหมือนที่เราคาดการณ์ เพราะเจ้าตัวเอ่ยก่อนที่เราจะเอ่ยถามว่า
“โบว์ใส่ยูนิฟอร์มยาคูลท์ทำงานค่ะ ก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องเสื้อผ้าจะต้องใส่ชุดไหนดี” เจ้าตัวตอบอย่างมั่นใจและเอ่ยถึงชุดที่สวมใส่ ขึ้นรถไฟฟ้า หรือไปไหนมาไหนตามอำเภอใจแบบชนิดไม่ต้องอายใคร ก่อนจะเปิดใจกับ M-Liteแบบสไตล์ของเธอ
ชีวิตเยี่ยงแม่ค้า
“ชีวิตแม่ค้าน่าสนใจด้วยหรือคะ...” ทายาทยาคูลท์เอ่ยทักทายทีมงาน M -Lite คำถามแรก และเอ่ยต่อว่าสาเหตุของการไม่เคยเปิดใจอย่างเป็นเรื่องเป็นราวกับสื่อฯ เพราะคิดว่าเรื่องราวของตนเองไม่ได้น่าสนใจ เป็นเพียงแม่ค้าที่ขายของมากว่านักธุรกิจที่ใครๆกำหนดให้เธอ
“ทุกคนจะงงว่าทำไมเราไม่ค่อยได้ให้สัมภาษณ์แต่เรามีความรู้สึกว่าเราไม่ใช่ดาราใครจะมาอ่านเรื่องเรา ข้อสองเราไม่ได้มีเรื่องอะไรมากมายที่เป็นที่น่าสนใจของคนอื่น แล้วคิดว่าเราเองก็หาเช้ากินค่ำ เราเป็นคนขายของ 5 บาท แล้วไม่ได้เป็นคนทำอะไรเพื่อประเทศชาติอะไรมากมาย เราก็แค่แม่ค้าคนหนึ่ง ไม่กล้าแม้กระทั่งว่าใช้คำว่านักธุรกิจ เพราะคำว่านักธุรกิจเรารู้สึกว่าเขาต้องเชี่ยวชาญในเรื่องกำไรขาดทุน”
เกิดมาเพื่อเธอ “ยาคูลท์”
"พ่อตั้งโรงงานยาคูลท์ เราอยู่ในท้อง เราเกิดมาโรงงานยาคูลท์เปิดก็ปีเดียวกัน มีคนบอกเลยว่ายายนี่เกิดมาพร้อมยาคูลท์
ก่อนเข้ามาบริหาร สมัครใจเข้าอบรมเอง ไม่มีใครบังคับ น่าจะคลุกคลีกันได้ง่ายกว่า พ่อก็เลยบอกว่ากลับมาไม่ได้อยู่ห้องแอร์เลยนะ ต้องไปอบรมก่อน30วัน สาวยาคูลท์ไม่ได้สมัครวันนี้ พรุ่งนี้เปนได้เลย ไม่ใช่”
"แต่ความฝันโบว์อยากเป็นอาจารย์มาก ไปสมัครที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เราจบปริญญาโท 3 ใบ เกียรตินิยม หมดเลยทั้ง3 ใบ ออกแบบ กราฟิก นิเทศศาสตร์ แล้วก็บริหารธุรกิจ เราอยากเป็นอาจารย์ต่างจังหวัด ชอบธรรมชาติอยากอยู่ต่างจังหวัด พอไปสมัคร เขาก็บอกว่าคงไม่ได้หรอกหนูเพราะที่นี่ต้องมีคนแนะนำมาเขาไม่ดูความตั้งใจจริงของคน” ทายาทยาคูลท์กล่าวถึงความฝันตัวเองหลังกลับจากเรียนจากเมืองนอกแต่กลับโดนปฏิเสธ
เมื่อสาวยาคูลท์โดนชวนทำอาบอวบนวด
เธอเลือกที่จะโดนขายยาคูลท์ตามพื้นที่จนเจอดีเข้าวันหนึ่ง
“เราต้องเรียนรู้หลายๆสังคม เจอเยอะมาก บางคนก็ตัดสินคนที่ยูนิฟอร์ม ถ้าเราไปกับพ่อเราอาจจะได้ดื่มน้ำรอ แต่วันนั้นเดินใส่ชุดฟอร์มไป ไปยืนตรงเคาน์เตอร์เงิน เขาไล่เราไปไกลๆ เดินขายอยู่บนถนน ก็มีผู้ชายถามว่า ทำไมสาวยาคูลท์คนนี้ขาวจัง เราก็บอกเลยว่าเรามาจากเหนือค่ะ คือไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เขาก็บอกว่าไม่ต้องทำหรอกสาวยาคูลท์ ลำบาก ทำอาบอบนวดเถอะ เราก็ตอบเขาไปว่าทำงานยาคูลท์ก็อิสระดีค่ะ สุดท้ายความมาแตกเพราะว่าไปขายที่โรงพิมพ์หนึ่งซึ่งเขาเป็นโรงพิมพ์ของ "คู่สร้างคู่สม" แล้วรายการบ้านเลขที่ 5 ก็มาขอถ่าย ความเลยแตก”
เสน่ห์ของสาวนมเปรี้ยว
"สาวยาคูลท์น่าสงสารมั้ย งานทุกงานก็เหนื่อยนะ แต่ยาคูลท์เราก็ดูแลกันดีมาก เขาทำงานให้เรา เราก็มีสิ่งตอบแทนให้เขา พรสวรรค์ที่ยิ่งยอดของสาวยาคูลท์คือ จำชื่อลูกค้าได้อย่างดี ชื่ออะไรก็จำได้หมด เขาทำจากใจจริงๆ มันออกมาจากข้างในเขาปัจจุบันเปิดมา 40 ปี ยาคูลท์เปิดรับพนักงานใหม่ทุกต้นเดือน ไม่มีเดือนไหนไม่รับ"
สาเหตุของการไม่มีหนุ่มยาคูลท์ “โบว์” บอกว่าแท้จริงแล้วพ่อของเธอคาดหวังว่าผู้หญิงจะเข้าถึงตลาดได้ดีและปลอดภัยกับทุกกลุ่มลูกค้า
“พ่อบอกว่าที่เราเลือกผู้หญิง เพราะว่าปลอดภัย เพราะว่าคุณป้าอยู่บ้านคนเดียว การเปิดประตูรับอุ่นในใจมากกว่าผู้ชาย สาวยาคูลท์เดินขึ้นออฟฟิศได้ หรือเดินเข้าบ้านก็น่าจะสบายใจมากกว่า”
เชยแต่ชื่นใจ
เธอเล่าว่าสมัยแรกเริ่มพ่อของเธอล้มลุกคลุกคลาน มากับยาคูลท์ ส่วนยูนิฟอร์มที่หลายคนมองว่าเชยนั้น เจ้าตัวเลือกใส่แบบเดียวกันกับสาวยาคูลท์ทั่วประเทศ
“ชุดนี้พ่อกับแม่ช่วยกันออกแบบ...(ชี้ไปที่จุดตัวเองใส่) แม่บอกเอาสียาคูลท์แล้วกัน ปกจะมีคราบไคล ขอเป็นสีเข้ม ถ้าเปลี่ยนยูนิฟอร์มกว่าคนจะจำได้นานนะ พ่อโบว์อุตส่าห์ไปร่ำเรียนมา พ่อเป็นนักเรียนทุนที่ญี่ปุ่น สมัยวัยรุ่นมีปัญหาเรื่องลำไส้ แล้วทางแม่บ้านญี่ปุ่นแนะนำให้ดื่มยาคูลท์เพราะว่ายาคูลท์ที่นั่นเกือบ 80 ปีแล้ว พ่อก็ดื่มแล้วดีขึ้น ก็เลยเอาสินค้าตัวนี้กลับมาเมืองไทย อุปสรรคมากมายเพราะที่บ้านเป็นคนจีน คุณปู่เป็นคนจีน การที่เอาสินค้าญี่ปุ่นมา คุณปู่แอนตี้มาก บ่นว่ามีหนังสือพิมพ์อยู่แล้ว มาทำนมอะไรก็ไม่รู้ แต่ตอนนั้นพ่อมั่นใจ”
“4 ปีแรกล้มลุกคลุกคลานเลย พ่อเจอมาเยอะ พ่อเอาเดินแจก แนะนำสินค้า คุณครับนี่นมเปรี้ยวยาคูลท์ คนยกจิบปุ๊บปาใส่หัวพ่อเลย เปียกไปทั้งตัวเพราะเขาคิดว่านมเสียแล้วเอามาแจก” โบว์ย้อนเล่าถึงการเปิดตัวยาคูลท์เมื่อ 40 ปีก่อน
ทำไมต้องขวดเล็ก
“ยาคูลท์ไม่ได้ต้องการดื่มให้อิ่ม แล้วเราไม่เคยขึ้นราคา 12 ปีมาแล้วที่เราไม่เคยขึ้นราคา เราขาย5 บาท สมาชิกนะ ลูกค้าจร 5.50 บาท คือยาคูลท์เนี่ยจะดื่ม 1 หรือ 2 ขวดก็ได้ แต่เราไม่ได้ให้คุณดื่มเพื่ออิ่ม เราขายจุลินทรีย์ แต่ที่ต้องเอาไว้ในนมเพราะนมคืออาหารของจุลินทรีย์ ยาคูลท์หนึ่งขวดเท่ากับแอปเปิ้ล 1 ผลในจำนวนแคลอรี่นะ ที่ญี่ปุ่นขวดละ65 มิลลิลิตรเอง ของเรา80 เราใหญ่กว่า”
“ที่ชื่อยาคูลท์เนี่ย จริงๆมาจากภาษาตุรกี แปลว่าชีวิตยืนยาวด้วยสุขภาพดี เกิดที่ญี่ปุ่น แต่เป็นภาษาตุรกีเพราะว่าคนตุรกีเมื่อก่อนชอบทานข้าวหมัก ร่างกายแข็งแรง เลยเป็นแรงบันดาลใจ เอามาวิจัยว่ามีจุลินทรีย์ตัวนี้” โบว์เล่าถึงเรื่องราวยาคูลท์ และสาเหตุที่ไม่ทำขวดใหญ่กว่านี้ตามที่หลายคนตั้งข้อสงสัย
สุขแบบไม่แพง
“ความสุขของโบว์หาง่ายราคาไม่แพง โบว์อาจจะไม่มีของราคาสูงอะไรมากมาย เรียบง่าย อยู่กับครอบครัวที่อบอุ่น ขอสุขภาพดี คนเรามีเงินมากมายแต่เจ็บๆป่วยๆ ออดแอดๆก็ไม่เอา แต่ภูมิใจอย่างหนึ่ง เงินออมเรามีบ้าง บางส่วนก็ไปสร้างห้องสมุดให้เด็กตามชายแดนบ้าง มีก็แบ่งปัน ไม่ใช่โบว์รวย”ส่วนงานสังคมต่างๆเจ้าตัวบอกไม่ค่อยไป แต่หากไปไว้อาลัยในงานศพนั้นถือเป็นสิ่งที่ควรทำ
“จะไม่ค่อยเห็นโบว์ออกงานเท่าไหร่ ที่ไปคืองานศพ เพราะถือว่าไปงานวาระสุดท้ายของชีวิตคน งานอื่นเราไม่ไปงานนั้น เขาก็ก้าวต่อไปได้ เราไม่ได้แอนตี้ แต่งานศพเนี่ย เราไปในวาระสุดท้ายของเขา”
ใช้เงิน 27 บาท ขาดตัว
“เช้าดื่มกาแฟ ค่าข้าวเที่ยง25 บาท น้ำ2 บาทก็27 บาท เย็นกลับไปทานข้าวบ้าน ชีวิตแค่นี้จริงๆ” โบว์เผยถึงกิจวัตรประจำวันของการใช้เงิน.. “เราพยายามสอนให้ทุกคนรู้คุณค่าของเงิน น้องที่ทำงานบางคนเดินเข้ามาบอกว่าคุณโบว์นี่ซื้อมาแค่ 3 บาทเอง เราจะบอกเลยว่าอย่าจบหน่วยเงินว่าเอง เพราะว่าเงินทุกบาททุกสตางค์มีค่า เหรียญ 50 สตางค์รวมกันก็เป็นล้านได้ ต้องใช้คำว่าตั้ง 3 บาท”
ไม่เปรี้ยวเรื่อง “รัก”
สาวเก่งหัวใจแกร่งคนนี้ เล่าว่าแม้ชีวิตจะยังโสด แต่ก็ไม่ปิดตัวเองกับชีวิตแต่งงาน แต่ยอมรับจะเจอใครสักคนที่พร้อมใช้ชีวิตคู่ต้องดูนานๆ
"คนถามเยอะมากทำไมไม่แต่งงาน ความรักคือสิ่งที่สวยงามแต่ว่าต้องรักให้เป็น การจบของนิยายหรือละครทั่วไปจบนางเอกพระเอกแต่งงานกัน แต่สำหรับโบว์มันเพิ่งเริ่มต้น โบว์คบกันแบบเพื่อนเห็นคุณค่าทุกคน ค่อยๆก้าว”
นอกจากความใฝ่ฝันด้านธุรกิจกับโรงงานยาคูลท์ที่เธอบอกว่าพร้อมบริหารสุดชีวิต
"ก็อยากสานต่อสิ่งที่พ่อวาดฝันไว้ คุณปู่เอ่ยเลยว่าไม่มีทางเป็นไปได้ พ่อก็ทนมาได้ เราก็อยากทำต่อตรงนี้ แล้วขอทำสุดชีวิต สานต่อที่ง่ายกว่าเยอะแล้ว สมัยพ่อลำบากมากกว่า เป้าหมายคืออยากให้ยาคูลท์อยู่คู่คนไทยตลอดไปตอนนี้ เราผลิตหลายล้านขวด หมดทุกวันปัญหาอุปสรรคตอนนี้คือผลิตไม่ทัน ไม่พอขาย ตอนนี้เราเปิดโรงงานใหม่ 200 ไร่ที่อยุธยากำลังมองว่าเราจะผลิตเพิ่มอีกเท่าไหร่”
ก่อนทิ้งท้ายว่าอยากทำรีสอร์ตธรรมชาติริมน้ำ สักหลังแบบที่ตั้งใจไว้...“อายุมากไปอยากได้เลยจริงๆคือ จะเอาเงินก้อนหนึ่งเนี่ยไปทำรีสอร์ตแบบธรรมชาติจริงๆ กลางคืนก็จุดเทียนที่ทำเอง นั่นคือความใฝ่ฝันจริงๆ คนเราเกิดมาชีวิตหนึ่งควรใช้เวลาให้คุ้มค่า เวลากับโอกาส เป็นสองสิ่งที่เดินไปหน้าไปแล้วไม่หวนกลับ ถ้าโอกาสดีๆเข้ามาเยอะก็ต้องทำ อย่าหายใจทิ้ง" และนี่คือชีวิตของสาวยาคูลท์ที่ดูแล้วไม่เปรี้ยวแต่หากจะบอกว่าหวานแบบพอดีก็คงไม่ผิดนัก