ว่ากันว่า ดารา นักร้อง ศิลปิน ในวงการบันเทิง เมื่อขึ้นสุงสุด ย่อมมีต่ำสุด หาความยั่งยืนยากเต็มที่กับโลกมายาแห่งนี้ แต่สำหรับ “อ้อน ลัคนา หวงมณีรุ่งโรจน์” อดีตนักร้องสาว ที่เคยดังมาพร้อมๆกับ “ปาน ธนพร แวกประยูร” สมัยอยู่ร่มไม้ชายคาเดียวกันที่อาร์เอสฯ เคยถึงจุดสูงสุดกับเพลงดังอย่าง "อ้อนไว้" และเพลง "คนนิสัยเสีย" หลังภาวะความดังไม่ขยับ สาวน้อยไม่หยุดนิ่ง ลาออกมาทำงานในสิ่งที่ตนรัก และพบสัจธรรมข้อใหญ่ว่า "ความเรียบง่าย" บนเส้นทางบันเทิง มันมีอยู่จริง โดยที่ไม่จำเป็นต้องปั้นให้ตัวเอง “ดัง” ก็มีความสุขกับสิ่งที่รักได้
M-Entertain วันนี้อดีตนักร้องสาวชื่อดัง "อ้อน ลัคนา" เปิดใจพูดคุยกับเราด้วยน้ำเสียงร่าเริง หลังจัดรายการ ซึ่งคืองานประจำของเธอที่คลื่นวิทยุ 95.5 เวอร์จิ้นฮิต สาวน้อยวัย 25 จบปริญญาโทแล้วจากมหาวิทยาลัยนานาชาติ แสตมฟอร์ด ด้านบริหารธุรกิจ และปริญญาตรีจาก ม.กรุงเทพ เอกการท่องเที่ยว และการโรงแรม ด้วยวุฒิการศึกษาที่มีและความชอบอาจสวนทางกัน ก่อนหน้านี้เมื่อ 8-9 ปีก่อน "อ้อน" ก้าวมาเป็นนักร้องขวัญใจวัยรุ่น และเดินตามฝันมาไม่ต่างกับนักร้องเอเอฟ หรือเดอะสตาร์เช่นกัน
ดังมาพร้อม “ปาน”
"สมัยนั้นอ้อนดังมาพร้อมพี่ปานเลยค่ะ ทัวร์คอนเสิร์ตกับพี่ปานมาเลยก็ว่าได้" ..เจ้าตัวเผยถึงยุคทองของตนเองสมัยก้าวเข้ามาเป็นนักร้องดังของค่ายฝั่งลาดพร้าว แต่แล้วก็ดังอยู่ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องจบความดังเมื่อหมดยุคสมัย แล้วก้าวออกมาทำงานในฝันของตัวเอง
“อ้อนเข้าวงการมา 8-9 ปี อัลบั้มจริงๆของอาร์เอสฯเนี่ย ออกอัลบั้มเต็ม 2 ชุด มีพวกอัลบั้มที่เป็นแจมๆ อัลบั้มละคร เยอะเหมือนกัน ก็ประกวดร้องเพลงของเขาเข้ามาได้ ตอนนั้นมันมีหลายๆอย่างในชีวิตทำเพลงก็ยังไม่ผ่านแล้วเป็นช่วงที่เรากำลังโต เราก็เลยรู้สึกว่า ถ้าเรารอที่จะทำเพลงอย่างเดียวแล้วไม่ทำอะไรเลยในชีวิต ตอนนั้นเรียนจบแล้วด้วยก็เคว้ง เราก็หาอะไรทำที่เราชอบ เหมือนคุยกับทางอาร์เอสฯว่า ถ้าสมมติว่างานเพลงไม่ผ่านซักที รอนานๆ เราก็โตแล้ว เริ่มมองอะไรต่างไปเยอะ เราก็เลยบอกว่ายุติไว้ดีกว่า เราขอหยุดด้วย เราอยากทำอย่างอื่นแล้วในชีวิต แต่ว่าแฮปปี้ทั้งสองฝ่ายไม่ได้โกรธกัน หรือทะเลาะกัน เราเคลียร์กันไปเลย"
เงิน (ไม่มาก) –ใจรัก
รายได้ที่น้อยลงกับความมั่นคงที่มากขึ้น อ้อนเลือกเป็นดีเจแทนการเป็นนักร้อง.."อ้อนชอบทำอะไรที่ตัวเองชอบ ดีเจมันก็เรื่องของเพลง เครื่องไม้เครื่องมือเราก็มาเรียนรู้ มีพี่ที่เวอร์จิ้นต์สอนเรา เราทำเดโม่ส่งมา เพราะคนที่มีชื่อเสียงและไม่มีชื่อเสียงมาคัดกันก่อน พอเขาสนใจก็หาตามคอนเซ็ปต์เขา ลองจัดแล้วมีแนวโน้มเป็นไปได้ก็ได้ค่ะ มาถึงวันนี้ 3 ปีแล้ว” อ้อนเล่าถึงอาชีพดีเจ งานประจำที่ผันตัวจากคนเคยดังมานั่งหลังไมค์แทน
“ผ้าขาว” บนเส้นทางมายา
พอถามถึงข่าวคราว ความเสียหาย ข่าวหน้าหนึ่ง และเรื่องฉาวที่ก่อให้เป็นข่าวใหญ่โต ข่าวเกาเหลา ตบตี ด่ากราดศิลปินรายอื่น สารพัดวิธี เจ้าตัวบอกไม่เคยมีเรื่องหวือหวาในชีวิต แม้แต่บนพื้นที่ส่วนตัวอย่าง Hi5 เจ้าตัวก็ไม่เคยคิดตำหนิติเตียนใคร…"ไม่เคยคิดจะไปทำตัวฉาว หรือด่าใครค่ะ ..(หัวเราะ)ไม่ได้อยากดัง เราเองเฉยๆ บ้านอ้อนค่อนข้างเป็นคนไทยแล้วก็จีน รับไม่ได้กับบางเรื่อง สมัยนี้ดาราถ่ายชุดว่ายน้ำ แต่บ้านอ้อนรับไม่ได้ เคยแกล้งถามที่บ้าน เดี๋ยวปีนี้จะถ่ายดีกว่านะ อยากถ่ายชุดว่ายน้ำ เขาดังกัน แม่บอกว่าอย่าเพิ่งเลย ยังไม่ช็อตเงินอะไร ..(หัวเราะ) พูดเล่นๆกันไป”
ศัลยกรรมเสริมความดัง?..."เอาตรงๆเลยนะ ไม่เคยอยู่ในหัวเลย โอเคอ้อนก็ไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ คนเราก็ไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์ แต่ถ้าสมมติเราทำไอ้นั่นแล้ว ก็ต้องอยากไปทำไอ้นี่อีก เริ่มเยอะขึ้น ไม่แอนตี้แต่ไม่ทำค่ะ ถ้าทำแล้วสวยก็ดีค่ะ ดีใจกับเขาด้วย แต่ว่าก็ได้ยินหลายคนบอกว่าศัลยกรรมมันก็เหมือนชิงโชค ทำดีก็ดีไป ไม่ดีก็เหนื่อยนะ"
อยากด่าใครผ่าน Hi5 มั้ย มีคนคิดว่าใช้วิธีนี้แล้วดัง?
“ เดี๋ยวอ้อนจะเข้าไปด่าพี่ที่สนิทกันเนี่ย แล้วมีตัวอะไรเพ่นพ่านเต็มไปหมด”..(หัวเราะ) เจ้าตัวทวนคำถามหลังต้องตอบถึงเรื่องราวข่าวดังผ่านHi5 ... “ อ้อนรู้เรื่องราวค่ะ ทุกอย่างทราบหมดแหละ แต่หนูเป็นคนเฉยๆ ถ้าเราต้องพยายาม ทุกอย่าง มันมากไป ไม่ดีค่ะ มันก็เป็นผลลบกับตัวเรานะ หวือหวาแบบนี้มันจะมาเร็วไปเร็วนะ”
ความรักที่เป็นความลับ!?
“อ้อน” คบหาดูใจกับหนึ่งในอดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ชื่อดัง "ยูเอชที" อัลเบิร์ท เดม่อน” ที่สานต่องานดนตรีที่ตนเองรักโดยเปิดค่ายเพลงของตัวเอง ซึ่งกลางปีนี้ สาวอ้อนเองก็จะมีโอกาสกลับไปร้องเพลงกับหวานใจและงานที่ตนเองรักเช่นเดียวกัน…"เรื่องเทปจะมีออกเป็นซิงเกิ้ล ถ้าร้องเพลงมันก็คงทำให้เรามีความสุข เพราะมันคือสิ่งที่เรารัก” พอถามเรื่องเพลงตอบชัดถ้อยชัดคำ แอบแวะมาถามเรื่องหัวใจที่ศึกษากันมาร่วม 8 ปี เจ้าตัวเผยว่าไม่ใช่ความลับที่ต้องการปิดบัง แต่การคบใครแล้วเปิดเผยมากมาย โดยที่ยังไม่ใช่คนที่คิดจะแต่งงาน อาจไม่ใช่สิ่งที่เธอคิด
"ชีวิตรักก็ไม่ค่อยได้เปิดเผย ...(หัวเราะ) ไม่ค่อยได้ไปไหน อ้อนจะช่วยงานอีเวนต์พี่เขาอยู่ จะช่วยงานเขาบ้าง แต่ไม่ได้ไปเที่ยวแบบวัยรุ่น ไปบ้างแต่ไม่ได้บ่อยมากมาย คนเราถ้าไปเปิดมาก แล้วกลายเป็นว่าคบไปแล้วเดี๋ยวเปลี่ยน ก็ทำลายความรู้สึกตัวเองเปล่าๆ ถ้ามันใช่แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ แต่งงานกับคนนี้แน่ แล้วค่อยพูด เคยไปเที่ยวครั้งหนึ่ง แล้วโดนถ่ายแล้วไม่ไปอีกเลย..(ยิ้ม) แต่คนเราไปไหนเนี่ยเรารู้แหละว่า นักข่าวคงไม่ไปที่ที่เราไปแล้วเป็นข่าวมันก็ต่างกันนะคะ” อ้อนเล่าถึงเรื่องราวความรักฉบับย่อกับหนุ่มที่เคยเป็นขวัญใจของสาวๆทั้งประเทศมาแล้วสมัย 6 หนุ่มวงยูเอชทีดังเป็นพลุแตก
สื่อมีผลต่อความ "ดัง"
"อ้อนมองว่า วงการบันเทิงเป็นอะไรที่ดี ได้ประสบการณ์เยอะ ไม่ว่าจะแง่ไหนก็ตาม ถ้าเป็นตอนนี้มันก็ค่อนข้างฉาบฉวย บางทีสื่อก็เน้นไปถ่ายใต้กระโปรงมากเกินไป มันไม่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนเมื่อก่อน จะดังขึ้นมาผลงานเขาต้องโดนใจ แต่เป็นกลายเป็นว่าใครก็เข้ามาได้ โชว์นิดโชว์หน่อยก็อย่าไปเน้นอะไรมากมายตรงนั้น สื่อก็มีส่วนค่ะ คือใครก็ไม่รู้ เดินเข้ามาในงานแต่งตัวโป๊หน่อย ก็ถ่ายเยอะแยะไปหมด ตัวดาราเองก็ทำตัวให้เหมาะสมก็ดีนะคะ แต่ละคนพอใจในสิ่งที่ตัวเองทำต่างกัน แค่นี้อ้อนก็คิดว่าโชคดีแล้ว อ้อนได้ทำอะไรที่เราชอบ เราก็มีความสุขกับชีวิตได้เหมือนกัน เป้าหมายแต่ละคนต่างกันค่ะ” เจ้าตัวทิ้งท้ายอย่างเข้าใจวงการบันเทิงในยุคนี้ว่าการผ่านข่าวฉาวมากมายถูกเรียกว่าดังไปเสียแล้ว
Did you know !
"มีคนเคยถามว่าเมื่อก่อนดังมากแล้วพอไม่ดัง รู้สึกอย่างไร เคยมีช่วงแย่นะ ทำไมทำอะไรก็ไม่ดี มีเหมือนกัน ไม่เหมือนตอนออกอัลบั้มแรกๆ ตอนที่ดังเราอาจไม่รู้จักใครเลยก็ได้ เพลงคนนิสัยเสีย ตอนนั้นดังมาก เล่นละครก็ดังตอนนั้นมีอารมณ์เหลิง ทำไมมันง่ายจัง แต่พอวันนึง พอเราตกลงมา ไม่เหมือนเมื่อก่อน ทำเพลงก็ไม่ผ่าน ก็มามองในแง่ดีว่า ถ้าเราเป็นคนดังตลอดเวลา เราอาจเป็นคนที่ไม่แคร์อะไรเลยก็ได้นะ ก็ไม่ยากในการทำใจ ช่างมันเถอะ มันก็ดีที่ทำให้เราไม่หลงตัวเอง ไม่ใช่อะไรก็ง่าย เพราะจริงๆไม่มีอะไรง่ายเลยในชีวิต"
