xs
xsm
sm
md
lg

อินดี้ ตัวแม่ “ไมเคิล เชาวนาศัย ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หน้าร้อน อากาศร้อน อารมณ์ร้อน จิตใจเร่าร้อน สายตาและสมองเลยพร่าเลือน”

เม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าทีมงาน M open หยาดหยดลงพื้นตามอุณหภูมิที่ร้อนจัดน่าปวดหัวของเมืองไทยดินแดนแห่งเสรีเพศและประชาธิปไตยหลายสี เราใช้เวลาเดินทางไม่นานก่อนจะมาหยุดกันอยู่ที่กลางซอยวิภาวดี 60 เพื่อจะคุยกับใครคนหนึ่งที่นัดไว้

“พี่ ไมเคิล ถึงแล้วนะคะ” ทีมงานสาวรีบโทร.หาใครคนหนึ่ง
“ครับ เข้าไปรอในบ้านได้เลยครับ รอพี่แป๊ปนึงกำลังขี่จักรยานอยู่ครับ”

จากข้อมูลของแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือใครคนหนึ่งที่เรากำลังรอคอยอยู่นี้ถูกกล่าวขานว่าเป็น “อาร์ตตัวแม่ ด้วยความติสท์แตกทีมงานจึงนัดสัมภาษณ์ใครคนนี้ เผื่อจะได้สัมผัสเศษเสี้ยวความอาร์ตที่ว่านั้นเป็นเช่นไร “ไมเคิล เชาวนาศัย” คือใครคนนั้นในวันร้อนๆ


ณ บ้านเดี่ยวสองชั้น กำลังปรับปรุงแต่งเติม ชายร่างสูงใหญ่ กำยำ ใบหน้ากลมรับกับผมสกินเฮดแบบไม่ตั้งใจ ดวงตาโตหวานประดุจหญิงสาว เลี้ยวรถจักรยานเข้ามาจอดและทักทายทีมงาน ก่อนจะจัดแจงหาน้ำมาให้แขกผู้มาเยือน


“วันหนึ่งๆ เราควรพูดดีทำดีคิดดี ทำไมเวลาอยู่คนเดียว พูดดีทำดีคิดดีมันถึงง่าย?” ไมเคิลถามขึ้น

“…?”

“เพราะอยู่คนเดียว(เน้นเสียงดัง) ไม่ต้องไปดิวส์กับคนอื่น เราจึงพูดดีทำดีและคิดดีได้ง่าย ไม่ใช่อุ้ย! คนนี้มาสัมภาษณ์ใส่เสื้อไม่สวยเลย อีกคนก็แก่ยังใส่เสื้อลายน้องหมี ช่างภาพมาถ่ายภาพก็ไม่ยอมถ่ายสักที อย่างนี้เป็นการคิดไม่ดีแล้ว เพราะต้องดิวส์กับคนอื่นไงครับ เข้าใจใช่ไหม(เน้นเสียง)”

 แสงแดดเริ่มทวีแสงแผดเผาใบหญ้าข้างบ้าน กลิ่นแดดและไอร้อนทำให้จิตใจร้อนเร่าแต่สมองและร่างกายกลับเชื่องช้าลง

“ขอพัดลมตัว(ตะโกน) เนี่ยฤดูร้อนเป็นฤดูที่พี่ไม่ค่อยจะแจ่มกับมันเท่าไหร่นัก ทำไมมันต้องร้องขนาดนี้(เน้นเสียง) น้องกล้องหันพัดลมมาทางนี้หน่อยค่ะ เย้... มันจะได้เป่าเราสามคน” ไมเคิลจิบน้ำแล้วนอนลงบนโซฟาอย่างสบายๆ ก่อนจะหันไปคุยกับช่างภาพของเราเป็นการส่วนตัว

“นั่นแหละ มันต้องอย่างนั้น เห็นไหมมันมีมูฟเม้นของมัน ไม่อย่างงั้น เซตที่น้องอั้มเขาโดนถ่ายตอนหอมรักแร้ จะให้มาเซตกล้องว่าน้องอั้มหอมรักแร้อีกทีอย่างเนี้ยได้ไหม ก็ถ่ายไปดิจะให้ไปจัดท่าทำไม(เสียงดัง)”

ด้วยอุณหภูมิที่ร้อนจัดน้ำแข็งในแก้วจึงละลายอย่างรวดเร็ว รสชาติ น้ำหวาน จืดจาง ฝืดคอ แต่สามารถลดความแห้งผากของริมฝีปากได้อย่างมหัศจรรย์ เราเริ่มคำถามแรกกับไมเคิล

ตอนนี้มีงานอะไร ?

“ก็นี่ไงงาน ถามมา ถามมาให้ได้คำตอบที่อยากจะรู้ ไม่ฟอร์แมตเหมือนคนอื่น น่าเบื่อ”

บ้าน ?


“บ้านเป็นอะไรที่ต้องมีการดูแล การที่คนเราเข้ามาอยู่ในบ้าน ทำให้ชีวิตของบ้านได้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง บ้านคือบ้าน บ้านมันจะเป็นบ้านไปไม่ได้เลยถ้าไม่มีคนอยู่”

เสียงคนงานกำลังเทปูนผสมสีเพื่อทาผนังบ้าน สีขาวสะอาด ตัดกับสีฟ้าบนขอบเพดานมองแล้วสบายตา พัดลมโบกไปมาขับไล่ความร้อนได้เพียงน้อยนิดแต่ก็ยังคงทำหน้าที่ต่อไป บ้านเองก็คงกำลังมอบความสุขให้กับเจ้าของและผู้มาเยือน เราเองก็ทำหน้าที่ของเราเช่นกัน

ตอนนี้มีอะไรที่อยากทำมาก?
“นอน จริงนะ ถ้านอน เป็นอะไรที่เลิศมาก เพราะถ้านอนเนี่ย ไม่ทำไม่ดี ไม่พูดไม่ดี ยิ่งถ้าหลับลึก ไม่คิดไม่ดีอีกต่างหาก ตอนนอนมีใครไม่ทำไม่ดีพูดไม่ดีมั่งไหม
”ความง่วงงุนครอบงำยามบ่ายแก่ๆ เราเปลี่ยนจากการสัมภาษณ์เป็นการสนทนาอย่างไม่รู้จักเธอไม่รู้จักฉัน แต่อยากรู้จักกัน เพื่อกันและกัน ฉันและเธอ
ชอบความสงบไหมคะ?
“ชอบสิว่ะ คนนี่หว่า ใครจะไปอยู่พารากอน เดย์อินเดย์เอาต์อะไรว่ะ คนเยอะจะตายชัก รำคาญ”

มีกระแสอินดี้เข้ามาตอนนี้ คิดว่าตัวเองอินดี้ไหม?

“อินดี้ มาจาก อินดิเพนเดนต์ คือการไม่พึ่งคนอื่น ถ้าถามพี่ ก็ยังพึ่งอยู่ พ่อแม่อย่างนี้ แต่พยายามที่จะเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ถามสิว่าทำไม(เสียงดัง)”

ทำไม?...!

“ยังต้องพึ่งเพราะมันดีกับตัวพี่ อย่างมีคนโทรมาขอสัมภาษณ์ เราก็มีชื่อในสื่อ สื่อก็ได้งาน เราก็ได้สื่อโอเค พึ่งกัน”

คนที่พยายามที่จะอินดี้ในสังคมตอนนี้ ?
“พยายาม มันเวิร์กม่ะ” ไมเคิลหันไปถามทีมงานที่ 2

“ถ้าพยายามมันก็คงไม่เวิร์กหรอก” ทีมงานที่ 2 ตอบ

“เออ ก็คุยกันมั่งสิว่ะ พยายามมากนักมันเหนื่อยก็อย่าไปพยายามมันเลย เมื่อเมิงอยู่ของเมิงอย่างนั้นแล้วเมิงก็เป็นตัวของตัวเองแล้วไง (หัวเราะ)”

“คนที่อินดี้ไม่พึ่งกระแสหลัก แต่ความจริงแล้วไอ้คนที่อินดี้มันต้องพึ่งหลายอย่าง แต่ไม่ใช่ว่าทำอะไรต่าง แล้วมันจะไม่อินดี้ เพราะอินดี้มันวัดกันที่ความคิด แต่ถ้ามึงคิดเองไม่ได้มึงก็นั่งอยู่ตรงนั้นแหละนะ ไม่ต้องไปไหนให้มันไกลไปกว่านั้น(เน้นเสียง)”

เราเปลี่ยนสถานที่คุยเป็นบริเวณชั้นสองตามคำเชิญของเจ้าบ้าน ได้บรรยากาศสบายๆ ขึ้น เสียงนกกระจิบกระจาบร้องแผ่วผ่านอย่างอิสระ จากที่ไกลแสนไกล อยากโบยบินออกไปร้องกระจาบกระจิบตอบเสียงนกน้อยเหล่านั้นเช่นกัน

ชอบฟังเพลงแนวไหน?
“อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ค่ายอโศก(เสียงดัง) หมดภูมิแล้ว ที่เห็นร้องๆ กันเนี่ย ส่วนหนึ่งเป็นเพลงเก่าที่ร้องกันมายี่สิบกว่าปีแล้วมาร้องกันใหม่ เหมือนบ้านไหนทำกะเพราก็ทำกะเพรากันแบบตะพึดตะพือ ใส่ไอ้นู่นนิดไอ้นี่หน่อย เอามามิกตร์ใหม่ เป็นอะไรที่ดูถูกคนฟังมาก เทียบกับฝรั่งเค้ามีแบบโคฟเวอร์แต่ก็ยังมีของใหม่เข้ามา ไม่ใช่อะไรหากินกับของเก่าตะพึดตะพือ ซึ่งต่างจากค่ายลาดพร้าวจะสร้างของใหม่หมดเลย กูไม่สนว่ามันจะดีหรือเปล่า มันเป็นอะไรที่เราต้องเดินไปข้างหน้า หน้าอายนะ คือข้างหน้าไม่ว่ามันจะเป็นยังไงตกเหวตกห่ายังไงเราก็ต้องเดิน” ไมเคิลตอบก่อนจะเอนตัวนอนบนโซฟา

จุดหมายในชีวิต?
“อนาคตเราไม่รู้หรอก เหมือนเรารู้ไหมว่าจะมาเจอกันวันนี้ ไม่รู้หรอก ไปบอกเค้าได้ไงคนนั้นเป็นมะเร็ง ไปบอกได้ไงคนนั้นท้อง มันเป็นอะไรที่พูดกันไม่ได้ ถ้ามันเกิดไม่ท้องไม่ตายขึ้นมาล่ะ”

แรงบันดาลใจในการทำงานศิลปะ?
ชายหน้ากลมในตายิ้มชี้มือไปถามทีมงานที่ 2

“สิ่งที่พบเจอรอบๆ ตัว” ทีมงานที่ 2 ตอบอย่างว่าง่าย

“มีเพื่อนก็คุยกันมั่งนะ ไม่ใช่นั่งแท็กซี่กันมาอีกคนมองซ้าย อีกคนมองขวา(หัวเราะ)”

ลำแสงสีเงินส่องผ่านกระจกใสไร้เงา ไม่มีอะไรบดบัง ความร้อนและแสงแดดอ่อนสัมผัสผิวกายอย่างแผ่วเบา อบอุ่น และเป็นมิตร

“ดูง่ายๆ เลย อย่างกระจกเงา แสงกระทบไปที่กระจกมันก็จะกระทบมาที่เราใช่ไหมครับ ตาเราก็จะเห็น แต่ข้างหลังกระจกมันจะทามืดไว้ เพื่อให้มันสะท้อนแสงตัวเราแต่ว่าเงาที่ออกมามันจะเป็นยังไงจ๊ะ ตอบพี่ซิ?”

“...?”

“ทุกคนเดินมาครับ มานี่ ตามพี่มา มาส่องกระจกกัน ทำไมต้องให้กูลุกด้วยว่ะ”
ทีมงานเดินตามเจ้าของบ้านไปยังห้องน้ำแคบๆ ห้องหนึ่ง กระจกบานหนึ่งสะท้อนภาพของเราทุกคนอย่างละเอียด

“เงาที่สะท้อนกระจกมีอะไรมั่งครับ?”

“มีตัวตนเรา”

“มันเป็นตัวตนจริงๆ หรือว่า มันสลับ? ถ้าตอบไม่ได้ก็ไม่ต้องออกกัน ยืนอยู่ตรงนี้แหละ”

“มันกลับข้างกัน” ช่างภาพช่วยชีวิตทีมงานทุกคนไว้ได้

“แม้เราจะมองกระจกยังไงก็ตาม เงามันก็ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเรา มันกลับข้างกัน สังเกตไหมครับเวลาเรามองกระจกหน้าเรามันจะแปลกไป เพราะมันกลับข้างกัน”

กระจกใสยังคงยินยอมให้แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านอย่างว่าง่าย กระจกเงาคงสะท้อนได้เพียงสิ่งภายนอกที่มันเลือกสะท้อน และแม้จะเห็นภาพก็ยังเอนบิดไม่เหมือนจริง กระจกดวงตาก็เช่นกันคงเลือกที่จะสะท้อนให้เห็นได้เพียงบริบทที่มันสามารถจะสะท้อนให้เห็นได้เท่านั้น

Born To be ศิลปิน?
“บางสิ่งบางอย่างมันเกิดขึ้นมาเพื่อที่จะให้เราได้บางสิ่งอย่างขึ้นมา อย่าไปมองคนแค่ว่าเขาเป็นศิลปินแล้วชอบทำอย่างอื่นหรือเปล่า เขาอาจจะชอบไปเดินเก็บขยะแล้วหาแรงบันดาลใจก็ได้”


ชีวิต ณ ตอนนี้ ?
“สิ่งที่มีแล้วก็มีแล้ว สิ่งที่มีแล้วแต่ไม่อยากได้ก็มี คืออาชีพที่ต้องเกี่ยวยุ่งกับชาวบ้าน และสิ่งที่อยากได้คืออาชีพที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับชาวบ้าน เพราะคนเราต้องมีชีวิตอยู่ ถ้าตายไปแล้วเลิศเลย ไม่ต้องเกี่ยวกับใคร”

“โทรศัพท์เครื่องนี้ พี่จะทิ้งเขาไปเพราะเขาเก่าหรือครับ” ชายวัยกลางคนหยิบโมโตโรล่าสีน้ำเงินเครื่องเล็ก สภาพดี ออกมา

“แค่มีความสัมพันธ์กับสิ่งภายนอก แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยข้อที่ 5 เมื่อเราต้องกินต้องอยู่ก็คือเราต้องติดต่อกับโลกภายนอกครับ”

อุณหภูมิเริ่มลดลง ยามเย็นแห่งความสงบเงียบแทนที่ความร้อนรุ่ม ไอแดดจางเผยให้เห็นภาพชัดๆ ของทิวทัศน์บ้านและเจ้าของบ้านเชาวนาศัย หลังจากบทสนทนาไร้กระบวนท่าอันเต็มไปด้วยการตีความจบลงอย่างเรียบง่าย แต่ชัดเจน และติสท์แตกเกินทน ทีมงานกล่าวลาและบ่ายหน้าตามหาพระอาทิตย์และตัวตนของกันและกันต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น