...เกือบ พลบค่ำแล้ว หน้าต่างและบานประตูยังปิดสนิท แม่กุญแจดอกใหญ่ยังคล้องให้เห็นจากภายนอก ใช่,แล้ว บ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่ แต่นึกแปลกใจว่า จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ที่เคยจอดอยู่ใกล้ๆประตูหายไปไหน
ผ่านไปสามวันบ้านหลังนั้นยังเงียบสนิทเหมือนเดิม ไม่มีคนเปิดประตู ไม่แสงนีออนยามค่ำคืน และไม่มีเสียงของเด็กหญิงคนนั้นอีก...
เธอย้ายไปแล้ว... แม่ของผมบอก เด็กหญิงคนนั้น ย้ายไปกับครอบครัว เพื่อไปอยู่บ้านหลังใหม่ ไม่มีใคร
รู้ ไม่มีใครทราบ บอกว่าเธอย้ายไปไหน วันแล้ววันเล่าผมนั่งคอยอยู่ตรงม้านั่งที่เดิม ใต้ต้นมะม่วงต้นใหญ่
เธอชื่อ น้อยหน่า เป็นเด็กหญิงร่าเริง ผมยาวตรง ใบหน้าเรียว ตาใส จำแม่นว่าเธออายุมากกว่าผมสองปี ด้วยความที่มีบ้านอยู่ชิดติดกัน ทำให้ครอบครัวเธอ และของผม คุ้นเคยราวกับเป็นญาติสนิทกัน เข้า-นอกออกในบ้านแบบไม่ต้องเกรงใจ
..น้อยหน่า คือ เพื่อนทุกวันของผม ผมยอมเล่นขายของ เล่นกระโดดยาง และเธอก็ยอมเล่นผจญภัย เล่นเตะฟุตบอล สารพัดการละเล่นที่ผมและน้อยหน่าแบ่งปันความสุขกัน
ผมรักน้อยหน่าหรือเปล่าไม่รู้... แต่ในขณะที่แม่ของผมบอกว่า โตขึ้นจะให้เราทั้งคู่แต่งงานกัน ผมรู้สึกเขินอายทุกครั้งและพานบอกทุกคนว่า ผมเกลียดน้อยหน่า แม้ในใจจะคิดว่าเธอน่ารักที่สุดก็ตาม
วันหนึ่งน้อยหน่าและผมทะเลาะกัน เราไม่พูดกันเลยผ่านไปเกือบสามวัน ผมรู้สึกเหงา เศร้า และตั้งใจว่ากลับจากค่ายลูกเสือสำรองผมจะไปง้อเธอ
กลับถึงบ้านยังไม่ทันถอดผ้าพันคอลูกเสือ ผมเดินไปบ้านน้อยหน่า แต่ไม่มีใครอยู่ คิดอยู่ในใจว่าครอบครัวเธอคงไปเที่ยวต่างจังหวัด อีกวันสองวันก็คงกลับ แต่สุดท้ายครอบครัวเธอย้ายจากไปแล้ว
...ภาพของน้อยหน่า แทบไม่เคยจางหายไปจากใจผม ตั้งแต่วันนั้นผมไม่เคยเจอน้อยหน่าอีกเลย แม้จะได้ยินข่าวว่าเธอเรียนที่นั่น ที่นี่ก็ตาม แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เจอเธออีก
นี่คงเป็นรักครั้งแรกของผม เรื่องราวของผมและน้อยหน่าเหมือนในฉากหนังเรื่องแฟนฉันไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งผมยังนึกเสมอว่า คนเขียนบทเรื่องนี้นำเรื่องราวของผมไปเขียน และนางเอกของเรื่องบังเอิญชื่อเดียวกันอีก คือ น้อยหน่า
ใครหลายๆคนต้องเคยมีรักครั้งแรก มันเหมือนอยู่ในลิ้นชักของความทรงจำ เปิดลิ้นชักครั้งใด ก็รู้สึกอมยิ้มกับเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ได้
รักครั้งแรกสำหรับผม มันเหมือนไดอารีเล่มใหญ่ สอนบางอย่างให้คิดว่า เมื่อรู้สึกดีๆกับใครแล้ว จงอย่าละเลย เหินห่างในมิตรภาพระหว่างกัน ไม่ว่าเพื่อน คนรัก หรือคนรอบข้าง หากวันหนึ่งจะหมางเมินกันไปบ้าง สุดท้ายเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่านั่นคือ ความรักระหว่างกัน
ความรักในนิยามนี้ ไม่ได้ขีดเส้นใต้ไว้เพียงเรื่องรักแบบหนุ่มสาว แต่เป็นรักใดๆก็ตาม รักพ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อน จงถนอมรัก ใส่น้ำพรวนดินให้กันไว้บ้าง อย่าปล่อยให้รักเหี่ยวเฉา สื่อสารให้คนที่เรารักเห็นบ่อยๆว่า เรารักหรือรู้สึกดีๆ กับเขา
...ไม่มีวันวาเลนไทน์สำหรับผม เพราะผมรักทุกวันและคิดถึงทุกวัน
วัฒนะชัย ยะนินทร
บรรณาธิการ M-Lite
Wyanintorn@hotmail.com