xs
xsm
sm
md
lg

ระทึก! พบระเบิดน้อยหน่าแขวนข่มขู่กลางกรุง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ฯเข้าตรวจสอบและทำการเก็บกู้วัตถุระเบิด
คนร้ายซุกระเบิดน้อยหน่าใส่ถุงหิ้วแขวนหน้าบริษัท ส.บริการบัญชีธุรกิจ จำกัด โดยระเบิดยังไม่ถอดสลัก คนร้ายหวังแค่ข่มขู่ ตร.คาดชนวนเหตุน่าจะมาจากความขัดแย้งเรื่องการรุกล้ำสถานที่ เตรียมสอบสวนหามือระเบิดมาดำเนินคดีแล้ว


วานนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 23.30 น. พ.ต.ต.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ พนักงานสอบสวน(สบ2) สน.พลับพลาไชย 1 ได้รับแจ้งเหตุพบวัตถุระเบิดที่หน้าบริษัท ส.บริการบัญชีธุรกิจ จำกัด เลขที่ 54-56 ถนน.เฉลิมเขต 3 แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผกก.สน.พลับพลาไชย 1 พร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดกองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.)

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 6 คูหา สูง 4 ชั้น บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าของบริษัทเอส ซี แอล มอเตอร์ พาร์ท จำกัด พบถุงพลาสติกหูหิ้วสีขาว 1 ใบ วางอยู่ที่พื้น ภายในบรรจุวัตถุระเบิดน้อยหน่าชนิด MK 2 จำนวน 1 ลูก ซึ่งระเบิดดังกล่าวถูกห่อหุ้มไว้ด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ เจ้าหน้าที่จึงกันประชาชนในละแวกใกล้เคียงออกจากบริเวณดังกล่าว พร้อมกั้นเชือกไว้เป็นพื้นที่หวงห้าม

จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดได้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้าทำการตรวจสอบ พบว่าวัตถุระเบิดดังกล่าวยังไม่มีการถอดสลักออก ไม่สามารถที่จะทำงานได้ เจ้าหน้าที่จึงใช้สก๊อตเทปกาวพันรอบวัตถุระเบิดอย่างแน่นหนา ก่อนจะนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบถามนายนภาดล นฤมิตร อายุ 55 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย กล่าวว่า ตนเป็น รปภ.ดูแลความปลอดภัยและดูแลเรื่องความสะอาดของอาคารที่เกิดเหตุ จำนวน 6 คูหา ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ขณะที่เดินตรวจตราถึงหน้าบริษัท ส.บริการบัญชีธุรกิจ จำกัด ก็พบถุงพลาสติกแขวนอยู่ที่ประตู ตนคิดว่าเป็นถุงขยะจึงหยิบออกจากประตูเพื่อที่จะนำไปทิ้ง ขณะที่เดินไปถึงหน้าบริษัท เอส ซี แอล มอเตอร์ พาร์ท จำกัด ก็รู้สึกว่าถุงดังกล่าวหนักพอสมควรจึงหยิบออกมาดู เมื่อพบว่าเป็นวัตถุระเบิดตนรู้สึกตกใจมากจึงรีบวางเอาไว้ที่พื้นทันทีก่อนจะรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า สำหรับวัตถุระเบิดที่พบเป็นระเบิดน้อยหน่าชนิด MK 2 ยังไม่มีการถอดสลัก แต่หากระเบิดทำงานจะมีรัศมีทำลายล้างสูงถึง 10 เมตร จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่าบริษัท ส.บริการบัญชีธุรกิจ จำกัด มีนายดำเกิง โอภาเฉลิมพันธ์ เป็นเจ้าของ ซึ่งการลอบวางระเบิดครั้งนี้คาดว่าน่าจะเป็นการข่มขู่ เนื่องจากระเบิดยังไม่มีการถอดสลัก โดยชนวนเหตุในครั้งนี้น่าจะมาจากความขัดแย้งเรื่องการลุกล้ำสถานที่ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นความขัดแย้งกับกลุ่มใด

พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบบริเวณใกล้กับจุดเกิดเหตุพบว่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ ซึ่งตนได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนำไปตรวจสอบแล้ว ส่วนผ่านป้ายข้อความที่พบในที่เกิดเหตุซึ่งเขียนพาดพิงถึงนายดำเกิงได้ให้เจ้าหน้าที่เก็บไปตรวจสอบเพื่อหาลายนิ้วมือแฝงแล้วเช่นกัน เบื้องต้นจะต้องทำการสอบปากคำนายดำเกิง รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งหากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะเชิญตัวมาสอบปากคำด้วย เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านข้างอาคารที่เกิดเหตุมีป้ายของเจ้าหน้าพนักงานท้องถิ่น กรุงเทพฯ ติดตั้งอยู่โดยข้อความระบุเรื่องการรื้อถอนบ้านเลขที่ 32-34-36 ซึ่งเป็นบ้านของนายสมชาย อุตมะวณิชย์ แต่ป้ายดังกล่าวก็ยังมีแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดสีขาว ความสูงประมาณ 1 เมตร ติดทับลงไปอีก โดยระบุข้อความถึงสาเหตุปัญหาความขัดแย้งเรื่องการรุกล้ำสถานที่และการฟ้องร้องระหว่างนายดำเกิงกับนายสมชาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนนำแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดดังกล่าวมาติด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
วัตถุระเบิดน้อยหน่าที่คนร้ายนำมาแขวนข่มขู่
ป้ายข้อความที่คาดว่าน่าจะเป็นฉนวนเหตุความขัดแย้งจนนำมาสู่การลอบวางระเบิด
กำลังโหลดความคิดเห็น