xs
xsm
sm
md
lg

คุ้มค่ากับทุกกรีนที่ “เดอะ วินเทจฯ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนามเดอะ วินเทจ คลับ
ก่อนอื่นต้องขอกล่าวคำว่า “สวัสดี” ท่านผู้อ่านพร้อมต้อนรับสู่คอลัมน์ M-Green โดยนาย Ryo Ishi Kapom ที่ขันอาสารับหน้าที่แนะนำสนามกอล์ฟน่าเล่นซึ่งจะนำมาเสิร์ฟกันเป็นประจำทุกเดือนบนพื้นที่สัมปทานหนึ่งหน้าเต็มของ SPORT LITE ที่บัดนี้ได้กลายร่างเป็น M - Golf เรียบร้อยแล้ว และฉบับปฐมฤกษ์นี้ขอนำท่านผู้อ่านไปลองเลี้ยงไลน์บนกรีนของ “เดอะวินเทจฯ” สนามที่ปัจจุบันมีกำลังอยู่ในย่างก้าวของวัยขบเผาะ 13 ย่าง 14 ปีหากสภาพต้นไม้ ดอกไม้ สมบูรณ์เป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญเป็นสนามเปิดซึ่งเหมาะกับผู้ต้องการความคุ้มค่าและต้องการทดสอบความแม่นยำในลูกพัตต์ของตนเอง

การทดสอบสนามของทีมงาน M-Green นั้นเริ่มต้นในเวลาประมาณ 11.00 น. อันเป็นช่วงเวลาที่แดดกำลังโลมไล้ผิวกาย ด้วยการเดินทางที่แสนจะสะดวกสบายจากทางด่วนกรุงเทพฯ – ชลบุรีเมื่อเห็นป้ายทางลงบางบ่อ ท่านนักกอล์ฟเปิดสัญญาณไฟเบี่ยงซ้ายหาทางลงได้ทันที จากนั้นหาทางกลับรถและอีกไม่ถึง 15 นาทีท่านนักกอล์ฟจะได้พบกับคลับเฮาส์หลังใหญ่สีน้ำตาลสไตล์ “อังกฤษ” ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางแฟร์เวย์สีเขียวสดร่มรื่นด้วยเงาของแมกไม้ ด้วยอายุของสนามที่ถูกสร้างขึ้นมานานกว่า 13 ปี ทำให้ต้นไม้อยู่ในช่วงกำลังเจริญเติบโต แม้จะยังไม่เต็มที่นักแต่ก็เติมเต็มความสวยงามและให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดี ขอกระซิบไว้นิดว่าขณะนี้ทางเข้าถนนสร้างเสร็จเรียบร้อยสะดวกขึ้นเยอะ

หากย้อนกลับไปสำรวจประวัติของสนาม “เดอะ วินเทจ” ท่านนักกอล์ฟบางรายอาจไม่ทราบว่าสนามแห่งนี้แม้จะเก่าแต่ก็เก๋าประสบการณ์ การันตีด้วยมาตรฐานที่เคยจัดศึกใหญ่ระดับ เอเชียน เลดี้ส์ ทัวร์ รายการ ไทยแลนด์ เลดี้ส์ โอเพน และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มาสเตอร์ส รายการสุดท้ายของ อาเซียน กอล์ฟ ทัวร์ มาแล้วและในปีนี้ทางสนามก็ยังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพจัดศึก ไทยแลนด์ เลดีส์ โอเพ่น อีกเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันระหว่างวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์นี้อีกด้วย

หลังจากชื่นชมบรรยากาศโดยรอบทีมงาน M-Green แยกย้ายกันเข้าสู่ล็อกเกอร์ รูม ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบเซ็ต ไม่ว่าจะเป็น ห้องอบไอน้ำ, อ่างน้ำวน (จากุชชี่) รวมไปถึงห้องนวดแผนโบราณ นวดน้ำมัน นวดฝ่าเท้า ขณะที่บริการของห้องอาหารในคลับเฮาส์นั้นสนองลิ้นนักชิมได้หมดทั้งไทย, จีน, ฝรั่ง และญี่ปุ่น ให้เลือกสรรโดยมีเมนูแนะนำอย่างยำปลาสลิดและข้าวผัดปลาสลิดอันเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของอำเภอบางบ่อนั่นเอง

เมื่อได้เวลาทดสอบความคมของหัวไม้ ความท้าทายของท่านนักกอล์ฟ จะเริ่มตั้งแต่หลุม 2 พาร์ 3 มีอุปสรรคน้ำดักด้านซ้าย ตลอดจนบ่อทรายทางขวา เรียกว่าสร้างความกดดันให้แก่ท่านนักกอล์ฟแฮนดิแคป ระดับกลางไปจนถึงมือใหม่หัดสวิงได้เป็นอย่างดี ดังนั้นก่อนจะทีออฟ ขอให้ท่านนักกอล์ฟคลายเครียดด้วยการชมความงามของต้นเฟื่องฟ้าสีแดงสดเบื้องหน้าบางทีระยะ 120 หลา (จากหมุดสมัครเล่น) อาจกลายเป็นของหวานยามบ่ายที่ทำให้ท่านเก็บเบอร์ดี้มาครองได้โดยง่าย

เดินกันไปต่อที่หลุม 5 พาร์ 4 หลุมนี้ต้องบอกว่าใจต้องนิ่งมิฉะนั้นงานจะเข้า เพราะช็อต 2 ต้องตีข้ามน้ำไปออนกรีนเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ได้เบอร์ดี้ แต่หากตัดสินใจไม่สู้เลี่ยงวางตัวไว้ด้านซ้ายของกรีน แม้จะทำพัตต์เดียวก็ยังได้แค่พาร์ ทั้งนี้ทั้งนั้นหากมองในภาพรวมแล้วก็พบว่าวินเทจฯถือเป็นสนามที่มีอุปสรรคน้ำและทรายอยู่ในปริมาณที่พอดี หรือพูดให้ง่ายก็คือเหมาะสำหรับนักกอล์ฟทุกระดับชั้นนั่นเอง

หลังไล่เก็บโบกี้ ดับเบิ้ลโบกี้ และ ดับเบิ้ลพาร์ (ฮา) จาก 9 หลุมแรกทีมงาน M-Green แวะพักเรียกกำลังด้วยไข่ต้มและขนมจีบก่อนจะเริ่มต้นช่วงครึ่งหลังที่หลุม 10 พาร์ 5 ระยะ 496 หลา ที่แม้จะเป็นพาร์ 5 แต่ก็เป็นห้าสั้นอันแสนจะท้าทายด้วยเลย์เอาท์ด็อกเลก มีบ่อทรายไว้คอยดักในช็อตที่ 2 ถึง 3 บ่อ อีกทั้งการเลือกเจาะเข้าด้านซ้ายของกรีนยังต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะลูกอาจไหลตกน้ำด้านข้างได้ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของพาร์ 5 สนามนี้ ที่ถึงแม้จะสั้นแต่ก็แฝงไว้ด้วยความเร้าใจ

สำหรับ 9 หลุมหลังของวินเทจฯ นั้นต้องบอกว่ายังคงความสนุกไม่ต่างจาก 9 หลุมแรกเพราะเสน่ห์ของวินเทจนั้นอยู่ที่กับดักบนกรีน และการเล่นลูกสั้น พวกสวิงหนุ่มที่หวังเก็บคะแนนด้วยลูกตีไกลขอเตือนว่า บางหลุมหยิบแค่หัวไม้สามขึ้นมาก็พอ

หลังแอดเวนเจอร์ บนกรีนของ “เดอะวินเทจฯ” ครบ 18 หลุมทีมงาน M-Green พาร่างอันสะบักสะบอมขึ้นสู่คลับเฮาส์ แม้จะเหนื่อย (เพราะไม่ฟิต) แต่ก็ได้มติเป็นเอกฉันท์ว่า นี่คือสนามที่คุ้มค่าสมราคาที่สำคัญเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักกอล์ฟหญิงและ มือสมัครเล่นที่ยังต้องการเก็บประสบการณ์ ขณะที่มือเก๋าบางรายอาจร้องแย้งมาว่าเกมบนแฟร์เวย์แสนจะเป็นขนมหวาน แต่ขอเตือนว่าเรื่องเลี้ยงไลน์บนกรีนไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

ส่วนน้ำจิ้มในการออกรอบครั้งนี้ขอยกให้เหล่าแคดดี้อารมณ์ดี ที่นอกจากจะเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์แล้ว การสร้างรอยยิ้มของพวกเธอน่าจะทำให้หลายท่านคลายความเครียดจากเกมไปได้มาก ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ถ้าจะขอสรุปจบว่า “เดอะ วินเทจ คลับ” นับเป็นสนามแห่งแรกๆที่ควรนึกถึงสำหรับก๊วนกอล์ฟที่ต้องการเล่นอย่างมีความสุขไม่ซีเรียสกับผลงานบนสกอร์การ์ด ก็คงจะไม่ผิดไปจากความเป็นจริงสักเท่าใดนัก

*******************

การเดินทาง
ขึ้นทางด่วนบางนา-ชลบุรี (บูรพาวิถี) ลงป้ายอำเภอบางบ่อ จากนั้นวิ่งตรงไปเพื่อขึ้นสะพานกลับรถที่กม.28 ลงสะพานแล้วชิดซ้ายทันที ก่อนเลี้ยวซ้ายที่กม.27 จากทางเข้าถึงสนามระยะทาง 6 กม. สนามอยู่ทางซ้ายมือ (เบอร์โทรศัพท์ 0-2707-3820-5, www.vintagethaigolf.com)
ค่ากรีนฟี
วันธรรมดา Member’s Guest: 1,000 บาท Visitor: 1,500 บาท และ Tourist: 2,300
วันหยุดเสาร์-อาทิตย์-นักขัตฤกษ์ Member’s Guest: 1,850 บาท Visitor: 2,600 บาท และ Tourist: 3,400 บาท
ค่าแคดดี้ : 250 บาท
รถกอล์ฟ : 700 บาท
สมาชิกรายปี : 50,000 บาท (ไม่รวม VAT)
สมาชิกนิติบุคคล : 230,000 บาท (ไม่รวม VAT)

*****************

คุณภาพที่ M-Green มอบให้
สภาพสนาม : 4 ดาว
เลย์เอาต์และความท้าทาย : 3 ดาว
แคดดี้ : 4 ดาว
คลับเฮาส์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ : 4 ดาว
อาหารและเครื่องดื่ม : 3 ดาว
ราคากับความคุ้มค่า : 4 ดาว

******************

โดย Ryo Ishi Kapom
คลับเฮาส์หลังใหญ่สไตล์อังกฤษ
ความสวยงามของต้นเฟื่องฟ้าหลังกรีนหลุม 2
เหล่าต้นไม้ใหญ่เพิ่มความชุ่มชื้นให้สนาม
ปลูกดอกไม้ไว้นานาพันธุ์
ล็อกเกอร์รูม
ห้องอาหาร
กำลังโหลดความคิดเห็น