บริษัทแว่นตาแจ้งตำรวจไปรวบตัวคนร้ายมาดเสี่ย ทำทีเข้ามาใช้บริการในร้านแว่น หลอกล่อพนักงานให้หัวหมุนเล่นแล้วฉกแว่นยี่ห้อแบรนด์เนมราคาสูง ล่าสุดคนร้ายก่อเหตุในห้างเอ็มโพเรียม บริษัทแจ้งตำรวจไปตะครุบตัว แต่คนร้ายไหวตัวทันหลบหนีไปได้หวุดหวิด
วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 12..00 น. นายจิรวัฒน์ บรรเทิงจิตต์ หัวหน้าฝ่ายตรวจสอบและกฏหมายบริษัท กรุงไทย ออฟติคกรุ๊ป จำกัด เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก เพื่อประสานให้นำหมายจับเข้าจับกุมคนร้ายเป็นชาย แต่งกายภูมิฐาน อายุประมาณ 47 ปี ไม่ทราบชื่อ ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ เลขที่ 2649/2550 ลงวันที่ 16 พ.ย.2550 ในข้อหาลักทรัพย์ หลังจากคนร้ายรายดังกล่าวได้เข้าไปเพื่อกำลังจะก่อเหตุขโมยแว่นตาแบรนด์เนมในร้านอายส์แล็บ ภายในห้างเอ็มโพเรียม ชั้น 3 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม.
นายจิรวัฒน์ เปิดเผยว่า คนร้ายรายนี้ได้เข้าไปขโมยแว่นตายี่ห้อดังของร้านแว่นบริษัทต่างๆ ที่ตั้งสาขาอยู่ภายในตามห้างต่างๆ 2 ครั้งแล้ว โดยครั้งแรก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ต.ค.2550 คนร้ายเข้าไปที่ร้านอายส์แกลอรี่ ตั้งอยู่ห้างเดอะมอลล์ สาขารามคำแหง ทำการขโมยแว่นตายี่ห้อ โอคเล่ย์ ไป 3 อัน รวมมูลค่า 68,200 บาท ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2550 ได้เข้าไปที่ร้านแว่นกรุงไทย ในห้างโลตัส สาขาสุขาภิบาล 1 ขโมยแว่นตาไป 3 อัน ประกอบด้วย ยี่ห้อกุชชี่ 1 อัน เรย์แบน 2 อัน รวมมูลค่า 23,050 บาท โดยทั้ง 2 ครั้ง คนร้ายใช้พฤติกรรมแบบเดียวกัน คือ จะแต่งกายอย่างภูมิฐานคล้ายเสี่ย ทำทีเข้าไปที่ร้านและแจ้งพนักงานว่าขอเปลี่ยนเลนส์แว่น โดยใช้ชื่อลูกค้าว่า นายอำนวย กะขำ และทำทีเป็นขอดูแว่นอันอื่นๆ เพื่อให้พนักงานในร้านทุกๆ คนมีงานทำ และเมื่อดูแว่นยี่ห้อต่างๆ แล้วได้บอกกับพนักงานในลักษณะว่าแว่นคับไปบ้าง หลวมไปบ้าง เพื่อให้นำกลับไปแก้ที่หลังร้าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้พนักงานในร้านคนใดคนหนึ่งมาสนใจ หรือเข้าใกล้ตัวคนร้าย จากนั้นใช้จังหวะที่พนักงานเผลอหรือเข้าไปทำงานหลังร้าน เปิดตู้โชว์หยิบแว่นต้ายี่ห้อดังต่างๆ สอดใส่ซุกซ่อนไว้ในหนังสือที่เตรียมมาก่อนที่จะหลบหนีไป
นายจิรวัฒน์ กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว พบว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนร้ายจึงเข้าแจ้งความต่อตำรวจ จนกระทั่งมีการออกหมายจับไว้เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นได้ติดต่อประสานไปยังร้านแว่นตาของบริษัทอื่นๆ ว่าให้ระวังคนร้ายรายนี้ไว้ และยังทราบอีกว่ายังมีร้านแว่นตาที่ห้างเอสพลานาด และห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เคยถูกคนร้ายรายนี้เข้าไปขโมยแว่นไปแล้ว แต่ละครั้งจะได้แว่นตารวมกันมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท จนกระทั่งวันนี้คนร้ายคนดังกล่าวเข้าไปที่ร้ายอายส์แล็บ ซึ่งทางร้านได้ประสานมาทางตน จึงรีบมาแจ้งให้ฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ทราบเพื่อนำหมายจับเข้าทำการจับกุมตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตำรวจไปถึงปรากฏว่าคนร้ายไหวตัวทันและได้พยายามเดินหนีไปจากร้าน ในขณะที่พนักงานของร้านได้เดินตามไป แต่ในที่สุดก็คลาดจากสายตาไปไม่สามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้
วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 12..00 น. นายจิรวัฒน์ บรรเทิงจิตต์ หัวหน้าฝ่ายตรวจสอบและกฏหมายบริษัท กรุงไทย ออฟติคกรุ๊ป จำกัด เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก เพื่อประสานให้นำหมายจับเข้าจับกุมคนร้ายเป็นชาย แต่งกายภูมิฐาน อายุประมาณ 47 ปี ไม่ทราบชื่อ ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ เลขที่ 2649/2550 ลงวันที่ 16 พ.ย.2550 ในข้อหาลักทรัพย์ หลังจากคนร้ายรายดังกล่าวได้เข้าไปเพื่อกำลังจะก่อเหตุขโมยแว่นตาแบรนด์เนมในร้านอายส์แล็บ ภายในห้างเอ็มโพเรียม ชั้น 3 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม.
นายจิรวัฒน์ เปิดเผยว่า คนร้ายรายนี้ได้เข้าไปขโมยแว่นตายี่ห้อดังของร้านแว่นบริษัทต่างๆ ที่ตั้งสาขาอยู่ภายในตามห้างต่างๆ 2 ครั้งแล้ว โดยครั้งแรก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ต.ค.2550 คนร้ายเข้าไปที่ร้านอายส์แกลอรี่ ตั้งอยู่ห้างเดอะมอลล์ สาขารามคำแหง ทำการขโมยแว่นตายี่ห้อ โอคเล่ย์ ไป 3 อัน รวมมูลค่า 68,200 บาท ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2550 ได้เข้าไปที่ร้านแว่นกรุงไทย ในห้างโลตัส สาขาสุขาภิบาล 1 ขโมยแว่นตาไป 3 อัน ประกอบด้วย ยี่ห้อกุชชี่ 1 อัน เรย์แบน 2 อัน รวมมูลค่า 23,050 บาท โดยทั้ง 2 ครั้ง คนร้ายใช้พฤติกรรมแบบเดียวกัน คือ จะแต่งกายอย่างภูมิฐานคล้ายเสี่ย ทำทีเข้าไปที่ร้านและแจ้งพนักงานว่าขอเปลี่ยนเลนส์แว่น โดยใช้ชื่อลูกค้าว่า นายอำนวย กะขำ และทำทีเป็นขอดูแว่นอันอื่นๆ เพื่อให้พนักงานในร้านทุกๆ คนมีงานทำ และเมื่อดูแว่นยี่ห้อต่างๆ แล้วได้บอกกับพนักงานในลักษณะว่าแว่นคับไปบ้าง หลวมไปบ้าง เพื่อให้นำกลับไปแก้ที่หลังร้าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้พนักงานในร้านคนใดคนหนึ่งมาสนใจ หรือเข้าใกล้ตัวคนร้าย จากนั้นใช้จังหวะที่พนักงานเผลอหรือเข้าไปทำงานหลังร้าน เปิดตู้โชว์หยิบแว่นต้ายี่ห้อดังต่างๆ สอดใส่ซุกซ่อนไว้ในหนังสือที่เตรียมมาก่อนที่จะหลบหนีไป
นายจิรวัฒน์ กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว พบว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนร้ายจึงเข้าแจ้งความต่อตำรวจ จนกระทั่งมีการออกหมายจับไว้เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นได้ติดต่อประสานไปยังร้านแว่นตาของบริษัทอื่นๆ ว่าให้ระวังคนร้ายรายนี้ไว้ และยังทราบอีกว่ายังมีร้านแว่นตาที่ห้างเอสพลานาด และห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เคยถูกคนร้ายรายนี้เข้าไปขโมยแว่นไปแล้ว แต่ละครั้งจะได้แว่นตารวมกันมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท จนกระทั่งวันนี้คนร้ายคนดังกล่าวเข้าไปที่ร้ายอายส์แล็บ ซึ่งทางร้านได้ประสานมาทางตน จึงรีบมาแจ้งให้ฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ทราบเพื่อนำหมายจับเข้าทำการจับกุมตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตำรวจไปถึงปรากฏว่าคนร้ายไหวตัวทันและได้พยายามเดินหนีไปจากร้าน ในขณะที่พนักงานของร้านได้เดินตามไป แต่ในที่สุดก็คลาดจากสายตาไปไม่สามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้
