xs
xsm
sm
md
lg

รู้ไว้ใช่ว่า...35 เรื่องจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ที่ได้ฉลองกันอย่างสนุกสนานมาไม่กี่อาทิตย์ ชาวไทยเชื้อสายจีนอย่าง อาตี๋ อาหมวย ก็ถึงเวลา เฮรับอั่งเปา แต๊ะเอีย ในวันตรุษจีนที่จะมาถึง
ปีใหม่จีนปีนี้มาดูกันว่า 35 เรื่องที่น่ารู้ของจีนมีอะไรกัน แล้วจะหาอะไรมาเสริมดวงเพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง หาคำตอบไปพร้อมกับ M-Lite ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮั่วไช้ รวยๆ เฮงๆ กันถ้วนหน้า ส่วนใครที่สงสัยว่าทำไมต้องเป็น 35 เรื่อง ก็เพราะ 3+5 = 8 ที่คนจีนถือเป็นเลขมงคล...

เรื่องราวน่ารู้รับตรุษจีน

1.เคล็ดลับวันตรุษจีน ห้ามพูดคำหยาบ หรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล โดยเฉพาะคำออกเสียงว่า “สี่” เพราะมันดันไปคล้ายกับคำว่าตาย
2.เรื่องผีสางหรือเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปีเก่าเขาจะเว้นวรรคไม่เอามาพูดกัน โดยจะพูดแต่เรื่องอนาคต และทุกอย่างที่ดีกับปีใหม่และการเริ่มต้นใหม่
3.วันตรุษจีนห้ามร้องไห้ เพราะถ้าร้องไห้ในวันนั้น คุณจะมีเรื่องเสียใจไปตลอดปี ดังนั้นแม้แต่เด็กดื้อที่ทำตัวไม่ดีผู้ใหญ่ก็จะทน และไม่ตีสั่งสอน
4.การแต่งกายและความสะอาด ในวันตรุษจีนเราไม่ควรสระผมเพราะนั่นจะหมายถึงเราชะล้างความโชคดีของเราออกไป เอาน่า...แม้จะเหม็นตุๆ นิดหน่อยถ้า “เฮง” ก็ถือว่าหยวนๆ กันไป
5.เสื้อผ้าสีแดงเป็นสีที่นิยมสวมใส่ในช่วงเทศกาลนี้ สีแดงถือเป็นสีสว่าง ซึ่งจะนำความสว่างและเจิดจ้ามาให้แก่ผู้สวมใส่ตลอดทั้งปี
6.เด็ก ๆ และคนโสด เพื่อรวมไปถึงญาติใกล้ชิดจะได้ อั่งเปา ซึ่งเป็นซองสีแดงใส่ด้วยธนบัตรใหม่เพื่อโชคดี โดย “อั่งเปา” หรือ “ซองแดง” สัญลักษณ์อีกอย่างของเทศกาลนี้ โดยผู้ใหญ่จะมอบให้ผู้น้อย และมีการแลกเปลี่ยนกันเอง
7.ส่วนคำว่า “แต๊ะเอีย” หรือ “ผูกเอว” มีความหมายคล้ายๆ “อั่งเปา” โดยที่มาคือในสมัยก่อน เหรียญจะมีรูตรงกลาง ผู้ใหญ่จะร้อยด้วยเชือกสีแดงเป็นพวงๆ และนำมามอบให้เด็กๆ เด็กๆ ก็จะนำมาผูกเก็บไว้ที่เอว
8.ในเทศกาลนี้ ชาวจีนจะกล่าวคำ “ห่ออ่วย” หรอคำอวยพรภาษาจีนให้กัน หรือมีการติดห่ออ่วยไว้ตามสถานที่ต่างๆ คำที่นิยมใช้กันได้แก่ จีนกลาง “ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาฉาย” ส่วนภาษาแต้จิ๋ว “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” ประโยคนี้คุ้นๆ หูหน่อย โดยทั้ง 2 ประโยคแปลว่า ขอให้ประสบโชคดี ขอให้มั่งมีปีใหม่
9. สำหรับคนที่เชื่อโชคลางมากๆ ในวันตรุษจีนก่อนออกจากบ้านต้องใช้บริการซินแส เพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง
10.บุคคลแรกที่พบและคำพูดที่ได้ยินคำแรกของปีมีความหมายสำคัญมาก ถือว่าจะส่งให้มีผลได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้การได้ยินนกร้องเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอ่น ถือเป็นโชคดี
11.การเข้าไปหาใครในห้องนอนในวันตรุษ ถือเป็นโชคร้ายดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนป่วยก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก
12.ไม่ควรใช้มีดหรือกรรไกรในวันตรุษเพราะเชื่อว่าจะเป็นการตัดโชคดี แต่ถ้าจะให้ยิ่งมุกฝืดๆ  แสดงว่าปีนี้ไม่มีกรรไกรเราจะได้ห่างกันไกลไง... แปลไทยเป็นไทยแบบหาเรื่องได้ว่า เป็นปีแห่งการเลิกกัน

ตรวจดวง ‘ชง’, ‘ฮะ’ รับปีใหม่
13.ปีที่ “ชง” หรือปีที่ไม่ถูกโฉลก ไม่เกื้อหนุนกับปีฉลูปีนี้ ได้แก่ ปีมะโรง ปีมะเมีย และปีจอ แต่ปีที่อันตรายและน่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ ปีมะแม ดังนั้นต้องระวังเรื่องสุขภาพ คดีความ อุบัติเหตุ ไม่อยากพูดให้กลัวเลย แต่ว่ากันว่า ถ้าประมาทอาจจะถึงตายได้เลยทีเดียว ทางแก้ทำบุญไหว้เทพ 8 เซียน และก็มีสติพกติดตัวเสมอๆ
14.ปีที่ “ฮะ” หรือปีที่ถูกโฉลกมากที่สุดกับปีวัวคือปีมะเส็ง ปีระกา ชวด เรียกว่าทำอะไรก็เฮง มีสิทธิ์ได้เงินก้อนใหญ่ ได้เลื่อนงาน เลื่อนตำแหน่ง ประสบความสำเร็จในชีวิต
15.สีมงคลสำหรับปีฉลูได้แก่ สีเหลือง สีเขียว สีครีม สีขาว เชื่อกันว่าแม้แต่ อันเดอร์แวร์ กระทั่งกางเกงลิง หรือถุงยางอนามัย ถ้าจะมีแนะนำว่าควรนำมาใส่ได้เพราะจะได้เฮงๆ
16.ส่วนสีที่ไม่เป็นมงคลสำหรับปีฉลูนี้ได้แก่ สีแดง สีฟ้า สีน้ำเงิน สีดำ แน่นอนว่าถ้าหลีกเลี่ยงสีเหล่านี้ได้จะ Ok
17.ทรงผมผู้ชายที่เหมาะกับปีฉลูมากที่สุด ได้แก่ ผมสั้น หรือสกินเฮดธรรมดาๆ ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึงทรงผมของ อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ, โอบามา, คริสเตียนโน โรนัลโด้, วิล สมิท หรือ “มาริโอ้ เมาเร่อ” เออ...ถูกโฉลกที่สุด
18.ส่วนทรงผมที่ถูกโฉลกของผู้หญิงก็คือทรงบ็อบเก๋ๆ หรือถ้าผมยาวก็ควรจะรวบตึงเท่ๆ (ห้ามปล่อยผมยาวปกหน้ารุงรัง และห้ามทำผมหน้าม้า) เพื่อเปิดรับทรัพย์ นึกไม่ออกให้นึกถึงผมของ มิเชล โอบามา, แองเจลีนา โจลี, ศุภลักษณ์ อัมพุช เจ้าแม่พาราก้อน หรือน้องได๋-ไดอาน่า จงจินตนาการ” สั้นเก๋ๆ นี่แหละผมทรงรับทรัพย์ของแท้

เจ้าสัว เลือดมังกร
19.นิตยสารฟอร์บสปี 2548 เจริญ สิริวัฒนภักดี รวยติดอันดับ 194 และรวยเป็นอันดับ 2
ของไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 120,000 ล้านบาท นอกจากนี้ คนแซ่ซูที่มีบทบาทสำคัญในสังคมไทย
คนอื่น ๆ อย่างเช่น วิชัย ซอโสตถิกุล ผู้ก่อตั้งซีคอนสแควร์ เกษม จาติกวณิช ผู้ก่อตั้งและเป็นผู้ว่าฯ กฟผ. คนแรก และปัจจุบันตระกูล จาติกวณิช โดยกรณ์ ก็ดำรงตำแหน่งรมว.การคลัง
20.ใครจะรู้ว่า...เฉลียว อยู่วิทยา หรือ “โกเหลียว” เจ้าพ่อกระทิงแดง เศรษฐีอันดับ 1 เมืองไทย ยังใช้นาฬิกา “ราโด้” เรือนเดิมที่ใช้มาหลายสิบปี แถมอยู่บ้านก็ยังนุ่งกางเกงแพร สวมเสื้อตราห่านคู่ธรรมดาๆ มีความสุขที่จะทำอะไรอยู่กับบ้าน ผิดกับเศรษฐี ไฮโซทั่วๆไป ที่ชอบออกงานสังคม
21.เจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าพ่อน้ำเมา เป็นคนแซ่ซู มีชื่อจีนว่า “โซวเคียกเม้ง”
22.หัวเรือใหญ่แห่งค่าย ซี.พี.อย่างนายธนินท์ เจียรวนนท์" เป็นคนแซ่เซี่ย โดยมีชื่อจีนว่า “เจียก๊กมิ้น”
23.ค่ายซี.พี. บริษัทที่คนจีนรู้จักดีในชื่อ “เจิ้นต้า” หรือ “เจียไต๋” ซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติแห่งแรกที่เข้าไปลงทุนในจีน (หมายเลขจดทะเบียนการค้า คือ 001) ล่าสุดนิตยสาร China Economic Weekly คัดเลือกให้เขาได้รับรางวัลมากที่สุดถึง 3 รางวัล จากทั้งหมด 5 รางวัล คือ 30 บุคคลที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจจีนมากที่สุด 10 ผู้นำ กับ 10 สายธุรกิจ และ 10 นักธุรกิจต่างชาติเลยทีเดียว
24.บัญฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทย เป็นคนแซ่หวู่ ต้นตระกูลเดิมของล่ำซำ คือ อึ้งเหมี่ยวเหงี่ยน ชาวจีนแคะที่อพยพจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มาปักหลักในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 โดยมีธุรกิจแรกเริ่มคือค้าไม้และทำโรงเลื่อย
25.คนแซ่เจิ้ง ก็เป็นอีกตระกูลหนึ่งที่มีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศไทยมากอีกตระกูลหนึ่ง โดยคนที่ใช้แซ่นี้ได้แก่ เตียง จิราธิวัฒน์ (เจ็งนี่เตียง) โดยธุรกิจเริ่มต้นของตระกูลนี้ มาจากร้านกาแฟเล็กๆ จนปัจจุบัน กลายเป็นเศรษฐีผู้ครอบครองอาณาจักรเซ็นทรัล สุดอลังการในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีตระกูลเตชะไพบูลย์ที่ปัจจุบันมีบทบาท เป็นเจ้าของธุรกิจ และกระโดดมาเล่นการเมืองอยู่เนื่องๆ ก็สืบเชื้อสายมาจากคนแซ่เจิ้งเหมือนกัน
26.อันดับ 5 แซ่ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในไทยได้แก่ แซ่ตั้ง (เฉิน), แซ่ลิ้ม (หลิน) แซ่ลี้ (หลี่), อึ้ง (หวง)
โง้ว (หวู) โดยบุคคลแซ่ตั้ง (เฉิน) ได้แก่ ชิน โสภณพนิช (ตั้งเพี้ยกชิ้ง), พิชัย รัตตกุล
27.ส่วนคนดังที่แซ่ (หลิน) ซึ่งมีมากเป็นอันดับ 2 ได้แก่ อำนวย วีรวรรณ (หลินเยอะกวาง) บัญญัติ บรรทัดฐาน (หลินซูชิง) และแน่นอนว่า สนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนชื่อดังก็อยู่ในตระกูลนี้ด้วย

ผู้นำไทยเชื้อสายจีน
28.ปรีดี พนมยงค์ คนแซ่เฉิน เป็นหนึ่งในคณะราษฎร ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 จนกระทั่งดำรงตำแหน่งสูงสุดในชีวิตคือ นายกรัฐมนตรี
29.พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หรือ หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 8 เป็นคนแซ่เจิ้ง เป็นนายกในท่ามกลางความแตกแยกของหมู่นักการเมือง แต่ท่านก็เป็นผู้ประสานรอยร้าวกับทุกฝ่ายเป็นอย่างดี จนได้รับฉายาว่า นายกฯลิ้นทอง
30.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นคนแซ่หลิน ท่านเป็นผู้นำคนแรกของไทย ที่เดินทางไปเปิด “ม่านไม้ไผ่” ฟื้นสัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับจีน และได้เข้าพบสนทนากับประธานเหมาเจ๋อตุง เมื่อ พ.ศ.2518
31.ชวน หลีกภัย มีชื่อจีนว่า “ลิจีเหวิน” เมื่อยังเด็ก ด.ช.ชวน มีชื่อเรียกในครอบครัวว่า "เอียด" หมายถึง เล็ก เนื่องจากเป็นคนรูปร่างเล็ก บนถนนการเมือง ชวน ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ตรัง สมัยแรก ในปี 2512 ขณะมีอายุ31 ปี ซึ่งขณะนั้น หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จนกระทั่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดทางการเมือง เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 20 ของไทย ตั้งแต่ปี 2535-2538 และสมัยที่สอง ตั้งแต่ปี 2540-2543
32.บรรหาร ศิลปอาชา มีชื่อจีนว่า “เบ๊เต๊กเซียง” เป็นคนแซ่หม่า
33.ทักษิณ ชินวัตร ต้นสกุล “ชินวัตร” คือ คูชุ่นเส็ง และสืบสายต่อมายัง เชียง ผู้บุกเบิกกิจการค้าผ้าไหมไทยในเชียงใหม่, พ่อเลี้ยงบุญเลิศ บรรพบุรุษดั้งเดิมของตระกูลเป็นชาวจีนแคะ
34.นายสมัคร สุนทรเวช ก็เพิ่งได้รับการเปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า เป็นลูกหลานคนจีน แซ่หลี่ ต้นตระกูลพูดภาษาแต้จิ๋ว มีฮวงซุ้ยอยู่ที่ จ.จันทบุรี
35.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตระกูล "เวชชาชีวะ" มีบรรพบุรุษเป็นชาวจีน เดินทางโดยเรือมาขึ้นฝั่งที่ จ.จันทบุรี และสกุล "เวชชาชีวะ" เป็นนามสกุลพระราชทานสมัย ร. 6 ลำดับที่ 4,881 จากนามสกุลพระราชทานซึ่งรวมทั้งสิ้น 6,423 นามสกุล โดยพระราชทานให้แก่รองอำมาตย์ตรีหลง (หลง เวชชาชีวะ) แพทย์ประจำจังหวัดลพบุรี กับ นายจิ๊นแสง (บิดา) นายเป๋ง (ปู่) และนายก่อ (ปู่ทวด) เนื่องจากต้นตระกูลเป็นแพทย์จึงมีคำว่า "เวช" อยู่ในนามสกุลด้วย



ผู้นำไทยเชื้อสายจีนคนล่าสุด
เจ้าสัวธนินท์ หรือชื่อจีน “เจียก๊กมิ้น” นักธุรกิจดีเด่น จากการจัดอันดับล่าสุดของ นิตยสาร China Economic Weekly
กำลังโหลดความคิดเห็น