xs
xsm
sm
md
lg

“ประหยัด มากแสง” LIFE IS BEAUTIFUL

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ท่ามกลางฤดูกาลอันแห้งแล้งความสำเร็จของโปรไทย โดยมีเพียงแค่ ถาวร วิรัตน์จันทร์ รายเดียวเท่านั้นที่ชนะ เอเชียน ทัวร์ รายการ บางกอก แอร์เวย์ส โอเพน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ทว่าอีกด้านหนึ่ง ประหยัด มากแสง นักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของเมืองไทย กำลังมีขวบปีที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เทิร์นโปรมา 17 ปี หลังคว้าแชมป์ เจแปน ทัวร์ รายการที่ 3 ในปีนี้ให้กับตัวเองได้สำเร็จ

โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประหยัด ตีอีเวนพาร์ในรอบสุดท้าย ประคองตัวคว้าแชมป์ ดันลอป ฟีนิกซ์ หนึ่งในทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน เจแปน ทัวร์ ที่มีเงินรางวัลระดับ 200 ล้านเยนไปครอง ท่ามกลางโปรชื่อดังทั้ง เอียน โพลเตอร์, เฮนริค สเตนสัน และ เออร์นี เอลส์ ที่ลงแข่งรายการนี้ด้วย ซึ่งนอกจากจะได้รับเงินก้อนใหญ่ที่สุดในชีวิตกว่า 14 ล้านบาทแล้ว ยังส่งให้ชื่อของเขาขึ้นไปอยู่ในทำเนียบแชมป์รายการนี้เคียงคู่กับสุดยอดผู้เล่นอย่าง เซวี บาเยสเตรอส, ไทเกอร์ วู้ดส์, พาเดรก แฮร์ริงตัน, ลี เวสต์วูด หรือแม้แต่ โธมัส บียอร์น

หลังจบการแข่งขัน โปรหนุ่มใหญ่จากหัวหินเผยความรู้สึกในการคว้าแชมป์ครั้งนี้ว่า “ช่วงที่จบศึก เอชเอสบีซี แชมเปียนส์ และ สิงคโปร์ โอเพ่น ผมรู้สึกว่าร่างกายล้ามากลงสนามในวันแรกจึงตั้งเป้าไว้แค่ผ่านการตัดตัวตอนนั้นไม่ได้คิดถึงตำแหน่งแชมป์เลย แต่การเริ่มต้นได้ดีในวันแรกจนผ่านมาถึงรอบสามความมั่นใจก็สะสมขึ้นมาเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเพราะการเล่นในช่วงหลังที่พัฒนาขึ้นมา โดยเฉพาะในศึก เอบีซี ทัวร์นาเมนต์ (ได้ที่ 4) ที่เริ่มเปลี่ยนมาจับกริปแบบครอสแฮนด์ ซึ่งทำให้การพัตต์และสกอร์ดีขึ้นพอมาแข่งในเจแปน ทัวร์ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของผม ความคุ้นเคยกับสนามมีส่วนช่วยให้ผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นนี้

นอกจากเงินรางวัลกว่า 14 ล้านบาทผลพวงจากชัยชนะในครั้งนี้ ยังทำให้ ประหยัด ที่ก่อนหน้านี้คว้าแชมป์ เจแปน ทัวร์ ไปแล้ว 2 รายการ คือ มิตซูบิชิ ไดมอนด์ คัพ และ มิซูโน โอเพน ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 3 บนตารางทำเงินรางวัลสูงสุดของทัวร์นาเม้นท์อาชีพในญี่ปุ่นด้วยเงินสะสมร่วม 123 ล้านเยน (ประมาณ 43 ล้านบาท) ตามหลัง ชินโกะ คาทายามา ผู้นำอยู่ราว 52 ล้านเยน อีกทั้งยังขยับอันดับโลกของตัวเองขึ้น 13 อันดับไปเป็นมือ 54 ของโลก ส่วนใน เอเชียน ทัวร์ ประหยัด เล่นไป 14 รายการ สะสมเงินไปได้ 11 ล้านบาท อยู่อันดับ 13 บนตารางทำเงินสูงสุด

ส่วนผลงานนับตั้งแต่เปิดศักราช 2008 นอกจากแชมป์ 3 รายการแล้วหนุ่มเทอร์โบจากหัวหิน ยังเก็บสถิติจบท็อป 10ได้ 6 จาก 31 รายการที่ลงแข่ง อีกทั้งยังได้ถูกเชิญให้ร่วมทำศึก เดอะ มาสเตอร์ส ที่สนามออกัสตา เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นโปรไทยคนที่ 3 ต่อจาก สุกรี อ่อนฉ่ำ และ ธงชัย ใจดี แต่ทว่าในรอบแรก “โปรหมาย”กลับตีเกินไปถึง 10 โอเวอร์พาร์ และขอถอนตัวกลางคันในรอบสองเนื่องจากมีปัญหาเจ็บหลัง ก่อนมาแก้ตัวได้ด้วยการคว้าอันดับ 15 ร่วมในศึก พีจีเอ แชมเปียนชิป เมเจอร์รายการสุดท้ายของปี ที่สนามโอ็คแลนด์ ฮิลส์

ต้องยอมรับว่า นี่คือช่วงเวลาปีทองของ “โปรหมาย” ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องแต่กว่าจะมี “ชีวิตอันสวยงาม” เช่นนี้ได้ ประหยัด ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมามากมายตั้งแต่เมื่อครั้งเริ่มเล่นกอล์ฟเมื่ออายุ 14 ปีติดทีมชาติชุดแชมป์ซีเกมส์ในปี 1987 จากนั้นจึงเข้าสู่วงการกอล์ฟอาชีพในปี 1991 และได้เป็นคนไทยคนแรกที่ผ่านรอบคัดเลือกไปแข่ง ดิ โอเพน หลังจากนั้นชีวิตโปรใน เอเชียน ทัวร์ ก็เริ่มต้นขึ้นในปี 1995 แต่ก็ยังไม่เคยได้ครองตำแหน่งมือ 1 แม้จะมีสถิติเป็นแชมป์ 6 รายการสูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับ 7 ร่วมกับ จีฟ มิลกา ซิงห์ ก็ตาม ขณะที่ฤดูกาลที่ดีที่สุดเกิดขึ้นเมื่อปี 1997 เมื่อสามารถคว้าแชมป์ได้ 2 รายการ แถมจบท็อป 10 ได้อีก 8 จาก 16 รายการที่ลงเล่น แต่ก็ยังไม่ดีพอได้เพียงแค่อันดับ 2 บนตารางทำเงินรางวัลสูงสุดเท่านั้น

นอกจากโลดแล่นอยู่ในเอเชียนทัวร์แล้ว ประหยัด ยังข้ามฟากไปยัง เจแปน ทัวร์ เริ่มดวลสวิงครั้งแรกในปี 1997 รายการ ซันโตรี โอเพน แต่มาเริ่มสร้างชื่อที่แดนปลาดิบอย่างจริงๆ จังๆ ในปี 2002 ด้วยผลงานการคว้ารองแชมป์ เดอะ คราวน์ส ขณะที่เมื่อปีที่แล้วจบด้วยอันดับ 10 บนตารางทำเงินรางวัลสูงสุด โดยเก็บเงินไปได้ทั้งหมดเกือบ 20 ล้านบาท

ถึงเวลานี้การเดินทางของประหยัด บนเส้นทางสวิงที่ผ่านมากว่าสามทศวรรษแม้จะยังไม่ขึ้นถึงมือหนึ่งของเอเชีย หากแต่เงินรางวัลและโทรฟี่แชมป์ที่เจ้าตัวสะสมทั้งในเอเชียนและเจแปน ทัวร์นั้นแทบจะเรียกได้ว่าช่วงชีวิตของ “โปรหมาย” ที่ผ่านมานั้นคือวันเวลาแห่ง “Life is beautiful” เพราะจากบทเริ่มต้นที่เรียกได้ว่าติดลบ จนถึงความสำเร็จในปัจจุบันถือว่า “ประหยัด มากแสง” สร้างกำไรให้กับชีวิตตนเองตั้งแต่เมื่อเริ่มต้นเล่นกอล์ฟเมื่ออายุ 14 ปีแล้ว



กำลังโหลดความคิดเห็น