xs
xsm
sm
md
lg

เลอเลิศอักษรา ล้ำค่าพระนิพนธ์ ใน “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ (จากซ้าย) - เวลาเป็นของมีค่า,เจ้านายเล็กๆ -ยุวกษัตริย์,แม่เล่าให้ฟัง และเล่มสีชมพูด้านหน้าคือ จุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์ พระนามพระราชโอรส พระราชธิดา และพระราชนัดดา
ภาพอันเจนตา ที่ประทับอยู่ในหัวใจของราษฎรไทยทุกผู้ทุกนาม อันเป็นภาพหนึ่งในหลายหมื่นหลายแสนภาพพระฉายาลักษณ์ทรงงานในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ คือพระฉายาลักษณ์ขณะทรงพระอักษร...

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระปิยโสทรเชษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับพระราชภารกิจหลายประการ ทั้งพระราชมรดกด้านการสาธารณสุข ที่ทรงสืบทอดพระเจตนารมณ์ของสมเด็จพระบรมราชชนกและพระราชชนนี จนประจักษ์ไปทั้งแผ่นดินถึงพระราชกรณียกิจการแพทย์พอ.สว.

รวมถึงพระราชกรณียกิจนานัปการที่ทรงแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งด้านการศึกษา ด้านการศาสนา ด้านศิลปวัฒนธรรม ที่ทรงปฏิบัติมาตลอดพระชนมชีพของพระองค์ แม้กระทั่งในยามที่พระสุขภาพและพระพลานามัยไม่เอื้ออำนวย ทรงมีพระโรคกล้ำกราย สองพระบาทก็ยังคงเสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงงานในถิ่นทุรกันดาร

และแม้ว่าพระองค์จะทรงงานหนักมากเพียงใด ก็ยังทรงแบ่งเวลาเพื่อทรงพระอักษร บันทึกสิ่งอันงดงามล้ำค่า จนกลายเป็นพระนิพนธ์อันเป็นเพชรเม็ดงามในวงวรรณกรรม ที่พระองค์พระราชทานให้เป็นมิ่งขวัญประดับปัญญาแก่คนไทยทุกคน

วันนี้ เจ้าฟ้าผู้ทรงเปี่ยมไปด้วยพระกรุณาธิคุณได้เสด็จคืนสู่ทิพยพิมานบนฟากฟ้าแล้ว แต่หนึ่งในคุณูปการที่ทรงบำเพ็ญมาตลอดประการหนึ่ง คือพระนิพนธ์อันทรงคุณค่า ยังคงแจ่มจรัสจ้าให้คนไทยทุกคนได้ชื่นชม ซึบซับ ซาบซึ้ง และศึกษา ในทุกๆ ตัวอักษรที่ทรงพระนิพนธ์ โดยเฉพาะพระนิพนธ์ 3 เล่มพิเศษ "แม่เล่าให้ฟัง" , "เจ้านายเล็กๆ - ยุวกษัตริย์" และ "เวลาเป็นของมีค่า" ที่จัดพิมพ์เป็นพิเศษเนื่องในวโรกาสสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา เป็นชุดพิเศษในกล่องสวยหรูอย่างดี ที่ยังพอมีเหลือให้พสกนิกรไทยที่สนใจซื้อหาสะสมเป็นเจ้าของได้แล้ว

สำนักพิมพ์บรรณกิจ 1991 เป็นสำนักพิมพ์ที่ได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ พระราชทานพระอนุญาต ให้จัดพิมพ์พระนิพนธ์ในพระองค์เล่มสำคัญหลายเล่ม โดยจิรัญญา เตชะเกษม ผู้จัดการสำนักพิมพ์ฯ ได้ถ่ายทอดความประทับใจ ในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ ว่าสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้เคยพระราชทานคำนิยมให้แก่หนังสือ “ราชสกุลจักรีวงศ์” เมื่อทางสำนักพิมพ์ได้พิมพ์หนังสือเล่มดังกล่าวเสร็จ ก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ

“เมื่อได้เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือ “ราชสกุลจักรีวงศ์” แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ พระองค์ท่านก็ตรัสว่า มีหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่คล้ายๆ เล่มนี้ สนใจที่จะพิมพ์ไหม ตอนนั้นพวกเราดีใจมาก จึงขอพระราชทานพระอนุญาตจัดพิมพ์ พระนิพนธ์เรื่องนั้นคือ “จุฬาลงกรณราชสันตติวงศ์ พระนามพระราชโอรส พระราชธิดา และ พระราชนัดดา” และต่อจากนั้นทางสำนักพิมพ์ก็ขอพระราชทานพระอนุญาตจัดพิมพ์เรื่องอื่นๆ ตามมา”

จิรัญญากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเต็มตื้นในพระกรุณาธิคุณอีกว่าทุกคนดีใจและถือเป็นเกียรติที่สุดในชีวิตที่ได้มีโอกาสจัดพิมพ์พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทั้งยังซาบซึ้งในน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงสำนักพิมพ์ฯ ด้วยพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสถามถึงสำนักพิมพ์ฯ ด้วย

“พระองค์ตรัสถามว่า...พิมพ์แล้วจะขายได้ไหม เพราะเป็นหนังสือเกี่ยวกับลำดับราชสกุลต่างๆ ไม่น่าจะมีคนสนใจมาก” ...พระองค์เกรงว่าทางบริษัทฯ จะขาดทุน ซึ่งทางเราไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เลย แค่ได้จัดพิมพ์เผยแพร่พระนิพนธ์ฯ ของพระองค์ เราก็ดีใจจนหาที่เปรียบไม่ได้ เวลาเข้าเฝ้าพระองค์ก็จะตรัสถามเสมอว่า "เป็นอย่างไรบ้าง ขายได้หรือเปล่า”

สำหรับพระนิพนธ์ที่พระราชทานพระอนุญาตให้ทางสำนักพิมพ์บรรณกิจ 1991 จัดพิมพ์นั้น จิรัญญาให้ข้อมูลว่า มีทั้งหมดมี 5 เล่ม คือ แม่เล่าให้ฟัง,เวลาเป็นของมีค่า,เจ้านายเล็กๆ – ยุวกษัตริย์ - จุฬาลงกรณราชสันตติวงศ์ พระนามพระราชโอรส พระราชธิดา และ พระราชนัดดา และนิทานสำหรับเด็ก ซึ่งจัดพิมพ์เป็นครั้งที่ 4 แล้ว และครั้งที่ 4 นี่เองที่เป็นการจัดพิมพ์ครั้งล่าสุดเพื่อเฉลิมฉลองวโรกาสพิเศษ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ 84 พรรษา ดังกล่าว

“หนังสือพระนิพนธ์ทุกเล่มในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นหนังสือที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง ผู้อ่านจะได้ซาบซึ้งในความเรียบง่ายของพระจริยวัตรในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี การที่พระองค์ทรงใช้เวลาทุกวินาทีตลอดพระชนมชีพของพระองค์อย่างมีคุณค่า ที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงบันทึก ทรงจดจำ และทรงทูลถามสัมภาษณ์ เพื่อพระราชทานเป็นแบบอย่างให้แก่ประชาชนไทยทุกคน

ผู้อ่านจะได้ทราบถึงพระราชประวัติและเรื่องราวครั้งทรงพระเยาว์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน รวมไปถึงคำสอนของสมเด็จย่าที่มีต่อพระราชโอรสและพระราชธิดาของพระองค์ และพระบรมฉายาลักษณ์-พระฉายาลักษณ์หาชมยากอันทรงคุณค่ายิ่งจำนวนมาก” จิรัญญากล่าว 

“เวลาเป็นของมีค่า” แบบอย่างอันประเสริฐ

สำหรับหนังสือพระนิพนธ์เรื่อง “เวลาเป็นของมีค่า” นี้ หน้าปกเป็นพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีขณะกำลังทอดพระเนตรดอก Cadarmine โดยองค์ผู้ทรงพระนิพนธ์ได้ทรงเขียนถึงภาพดังกล่าวว่า “ถ้าท่านพิศดูรูปหน้าปก ท่านจะเห็นได้ว่า แม่มองดอกไม้ที่ถืออยู่อย่างลึกซึ้งกว่าความงามภายนอกเท่านั้น ในสายตาจะมีคำถามว่า “จะทำอย่างไรดี ที่จะรักษาความสวย ความงาม และธรรมชาติของดอกไม้นี้ไว้ได้” นี่แหละเป็นที่เกิดของงานประดิษฐ์ต่างๆ ของแม่”

สำหรับเนื้อหาพระนิพนธ์ “เวลาเป็นของมีค่า” นี้ เป็นเรื่องราวของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในสายพระเนตรสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ทรงมองเห็นว่า “แม่” ทรงใช้เวลาทุกวินาทีอย่างมีความหมาย
ทรงเขียนถึงพระราชกิจยามว่างของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ไม่ทรงปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ และทรงปฏิบัติพระราชกิจที่ทรงโปรดโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมาก การใดที่เสียทรัพย์มากนัก ก็ไม่ทรงทำทั้งที่ทรงอยู่ในฐานะที่ทรงทำได้ และเป็นพระราชกิจที่ไม่รบกวนผู้ใดเลย ทรงทำด้วยพระองค์เองทั้งสิ้นทั้งงานถ่ายภาพ งานปั้น งานเย็บปักถักร้อย งานระบายสีเครื่องกระเบื้อง งานเครื่องปั้นดินเผา งานปั้นพระพุทธรูป งานเก็บรักษาดอกไม้ภูเขา สิ่งที่ทรงประดิษฐ์บางชิ้น สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงนำขึ้นถวายพระราชโอรส และพระราชทานแก่พระธิดา รวมไปถึงพระประยูรญาติ ข้าราชบริพารผู้ใกล้ชิด นับเป็นพระนิพนธ์ที่ทรงนำแบบอย่างอันประเสริฐยิ่งมาพระราชทานแก่คนไทยทุกคน ให้ดำเนินรอยตามยุคลบาทสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ให้รู้จักคุณค่าของเวลา และใช้มันอย่างคุ้มค่าที่สุด

 “เจ้านายเล็กๆ-ยุวกษัตริย์” สายใยรักจากพี่ถึงน้อง

ส่วน “เจ้านายเล็กๆ-ยุวกษัตริย์” นี้ เรียกได้ว่า เป็นพระนิพนธ์แห่งความรัก ความผูกพัน และสายใยสัมพันธ์ระหว่าง “พี่-น้อง” เลยทีเดียว เนื่องเพราะสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเขียนขึ้นในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา

เนื้อหาในพระนิพนธ์เล่มนี้ เป็นเรื่องราวพระราชประวัติส่วนพระองค์ของยุวกษัตริย์ทั้ง 2 พระองค์ คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร์ รัชกาลที่8 ตั้งแต่แรกประสูติจนเสด็จสวรรคต และพระราชประวัติส่วนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน ตั้งแต่แรกประสูติ จนเสด็จขึ้นครองราชย์

ทุกๆ พระอักษรที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มีพระนิพนธ์ขึ้นในหนังสือพระนิพนธ์เล่มนี้ เต็มไปด้วยกลิ่นไอแห่งความรักซึ่งกันและกันใน “ครอบครัวมหิดล” มีพระบรมฉายาลักษณ์มากมายที่ยังความชุ่มชื่นหัวใจให้แก่ทุกผู้ที่ได้เห็น ถือเป็นพระนิพนธ์อันทรงคุณค่าสูงสุดเล่มหนึ่ง และนับเป็นพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ขององค์ผู้ทรงนิพนธ์ ที่มีสายพระเนตรยาวไกล นิพนธ์พระนิพนธ์เรื่องนี้ขึ้น ด้วยนอกจากจะทรงเป็นผู้ที่ทรงอภิบาลพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์มาตั้งแต่แรกประสูติและ ยังเป็นผู้ที่ทรงใกล้ชิดตลอดทุกช่วงพระชนม์ชีพของทั้งสองพระองค์อีกด้วย ดังนั้นทุกข้อมูลในหนังสือพระนิพนธ์นี้ จึงกลายเป็นการบันทึกข้อมูลอันสำคัญ ถูกต้อง และเที่ยงตรง ที่เกี่ยวเนื่องกับ “เจ้าชีวิต” ทั้ง 2 พระองค์แห่งสยามประเทศ ให้พสกนิกรไทยได้ศึกษาอีกด้วย 

“แม่เล่าให้ฟัง” ชีวิตแห่งพระชนนีของ 2 พระเจ้าแผ่นดิน

หนังสือพระนิพนธ์ “แม่เล่าให้ฟัง" นี้ เป็นหนังสือพระราชประวัติของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ระหว่าง พ.ศ.2443-พ.ศ.2481 คือตั้งแต่พระราชสมภพ จนถึงได้รับพระราชทานพระยศเป็นสมเด็จพระราชชนนีในรัชกาลที่ 8 ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้นิพนธ์ขึ้นจากการขอประทานสัมภาษณ์ “แม่” ซึ่งขณะนั้นยังทรงจดจำเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำชัดเจน โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ทรงช่วยตรวจสอบพระนิพนธ์เล่มนี้ด้วยพระองค์เองอีกด้วย

ในพระนิพนธ์เล่มนี้ องค์ผู้ทรงนิพนธ์ ได้บรรยายถึงพระราชประวัติแห่งพระบรมราชชนนีตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ การทรงศึกษาขณะประทับอยู่ในประเทศ การศึกษาขณะทรงประทับในต่างประเทศ การเสกสมรส การอภิบาลพระราชโอรสและพระธิดา และปิดท้ายเล่มด้วยลายพระหัตถ์และนักเขียนที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงโปรด

ผู้อ่านจะได้ซึมซับในความรักอันเปี่ยมล้นมหาศาลของ “แม่” ที่ทรงอภิบาล “ลูกชาย” นับแต่แรกประสูติ จนเสด็จผ่านพิภพเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ทรงทศพิธราชธรรมด้วยกันทั้งสองพระองค์ และผู้อ่าน ก็จะได้ซาบซึ้งในสายใยระหว่าง “แม่” และ “ลูกสาว” ที่ทรงใกล้ชิดและใช้เวลาตลอดพระชนมชีพร่วมกัน ดังประจักษ์ชัดเป็นตัวอย่างง่ายๆ คือแทบไม่มีพระฉายาลักษณ์องค์ใดของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จะไม่มีสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ปรากฏอยู่ด้วย

และแม้วันนี้...สมเด็จพระปิยโสทรเชษฐภคินี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จะนิราศสู่สรวงสวรรค์แล้ว หากทุกพระอักษรที่ร้อยเรียงเป็นพระนิพนธ์ ทุกบท ทุกตอน ยังคงเปี่ยมล้มไปด้วยความรักอันชุ่มชื่น และพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีและพระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทย...ไม่เสื่อมคลาย

หน้าปก เวลาเป็นของมีค่า
ส่วนหนึ่งในงานฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี  จากหนังสือ เวลาเป็นของมีค่า
พระพุทธรูปที่สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนีทรงปั้นด้วยพระองค์เอง และถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันประดิษฐานเหนือพระแท่นพระบรรทมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ใต้ฐานพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว
หน้าปก แม่เล่าให้ฟัง
สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงอุ้มแมวไทยทรงเลี้ยง
หน้าปก เจ้านายเล็กๆ - ยุวกษัตริย์
พระฉายาลักษณ์อันทรงคุณค่า มีมากมายในหนังสือพระราชนิพนธ์ชุดนี้
พระฉายาลักษณ์อันทรงคุณค่า มีมากมายในหนังสือพระราชนิพนธ์ชุดนี้
พระฉายาลักษณ์อันทรงคุณค่า มีมากมายในหนังสือพระราชนิพนธ์ชุดนี้
พระฉายาลักษณ์อันทรงคุณค่า มีมากมายในหนังสือพระราชนิพนธ์ชุดนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น