คนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับชื่อเสียงเรียงนามของ “ดร.มานิต เอื้อทวีกุล” มากนัก
ทว่าในวงการค้าปลีกค้าส่งแล้ว ชื่อนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก
เพราะเขาคือ ผู้ที่สร้างตำนาน ศูนย์การค้านานาชาติ ซิตี้คอมเพล็กซ์ ถนนเพชรบุรี ย่านประตูน้ำ กว่า 20 ปีที่ผ่านมา
ย้อนหลังไปเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมา เขาบุกเบิกธุรกิจค้าส่งผลไม้ย่านท่าเตียน และปากคลองตลาด ก่อนที่จะเข้าสู่วงการห้างสรรพสินค้า การค้าส่งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และสร้างความประหลาดใจด้วยการใช้เวลาเพียง 7 วันในการเปิด ห้างสรรพสินค้าซิตี้เซ็นเตอร์ ประตูน้ำ ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนโครงการมาเป็น ศูนย์การค้านานาชาติ ซิตี้ คอมเพล็กซ์
ชีวิตในวัยเด็กและวัยรุ่นของ มานิต เอื้อทวีกุล ไม่ได้สบายโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะต้องช่วยพ่อแม่ทำมาค้าขายด้านการค้าส่งผลไม้ ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ทั้งๆที่ มานิต มีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็น นายร้อยหรือทหาร หรือข้าราชการก็ได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง
อย่างไรก็ตาม เขาเองก็สัมผัสกับธุรกิจค้าปลีกมาบ้าง ก่อนที่ในอนาคตเส้นทางชีวิตกำหนดให้เขาต้องลงทุนเปิดห้างสรรพสินค้าขึ้นมา และผ่านมาหลากหลาย จนในที่สุด เขาก็ได้เข้ามาสู่การลงทุน ศูนย์การค้านานาชาติด้วยการเปิด ซิตี้คอมเพล็กซ์ ย่านประตูน้ำ ซึ่งผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว
ที่สำคัญ มานิต คือ ผู้ที่คิดประโยคที่ว่า “เปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามการค้า” แล้วก็นำประโยคนี้มามอบให้แก่ พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี
ปัจจุบัน เขาเป็นประธานกรรมการซิตี้กรุ๊ป ผู้ที่พัฒนาอีกหลายโครงการในย่านประตูน้ำ และที่สำคัญคือ โครงการ ศูนย์การค้านานาชาติ ซิตี้คอมเพล็กซ์ รวมไปถึงโรงแรมและศูนย์ค้าส่งอีกหลายแห่ง
สำหรับโครงการศูนย์การค้านานาชาติ ซิตี้คอมเพล็กซ์นั้น ล่าสุดได้ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในการปรับปรุงพื้นที่ชั้นที่ 5 ให้เป็นศูนย์อาหารซิตี้ฟู้ดเซ็นเตอร์ และมินิเอนเตอร์เทนเมนต์ มีร้านอาหารประมาณ 50 กว่าร้าน เริ่มต้นที่ราคา 25 บาท ซึ่งบริษัทฯไม่เก็บค่าเช่าที่ร้านค้าแต่ใช้วิธีแบ่งเปอร์เซ็นต์ คือ บริษัทฯเก็บ 25% ส่วนอีก 75% เป็นของร้านค้า ส่วนชั้นที่ 6-7-8 เป็นพื้นที่อาคารสำนักงาน
ทั้งนี้การเปิดศูนย์อาหารขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทำให้อาคารศูนย์การค้านานาชาติซิตี้คอมเพล็กซ์ เปิดบริการอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว หลังจากที่ทุ่มงบประมาณมากกว่า 500 ล้านบาทในหลายปีที่ผ่านมาเพื่อทยอยรีโนเวตใหม่ ประกอบด้วย ชั้นที่ 1 โซนเสื้อผ้า เน้นยีนส์เป็นหลัก ชั้นที่ 2 และ ชั้นที่ 3 สินค้าที่จับกลุ่มคนบันเทิง คนทำงานกลางคืน ชั้น 4 เป็นศูนย์แฟชั่น เครื่องประดับ เน้นจับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ในราคาขายส่ง
โดยภายในอาคารมีจำนวนมากกว่า 801 ยูนิต แบ่งเป็นการขายพื้นที่กว่า 30% และอีก 70% มีทั้งเช่ากับเซ้งระยะยาว โดยมีค่าเช่าระหว่าง 5,000-10,000 บาทต่อยูนิตต่อเดือน
“ผมไม่ได้เรียนมาทางด้านธุรกิจบริหารทั้งหมด แต่ด้วยความชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว ชอบชอปปิ้ง ผมเลยหันมาสนใจธุรกิจโรงแรม แต่ด้วยประสบการณ์จึงผสมผสานทำแบบครบวงจร มีห้างสรรพสินค้าและที่พักอาศัย รองรับตลาดระยะยาวควบคู่กันไป” ดร.มานิตกล่าวให้ฟัง
**ชีวิตมีมงคลด้วยเลข “9”
แต่ในอีกมุมหนึ่งของชีวิต น้อยคนนักที่จะรู้ว่า มานิต เป็นผู้ชายที่ถูกโฉลกกับตัวเลข “9” อย่างมากเอาเสียด้วย และต้องถือว่าเป็นเลขมงคลแห่งชีวิตที่ทำให้เขาพานพบแต่สิ่งที่ดีๆเจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด
ทั้งในแง่ธุรกิจ ชีวิตส่วนตัว ก็ต้องข้องแวะเกี่ยวกับเลข 9 ทั้งทางตรงและทางอ้อม จะว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือเป็นเรื่องโชคชะตาก็ไม่มีใครรู้ได้
“คิดดูแล้วกันมันเป็นเรื่องแปลกแต่จริง เพราะว่า ชีวิตของผม ตั้งแต่เด็กมาจนถึงตอนนี้ ดวงของผมจะถูกโฉลกกับเลข 9 อย่างมาก” มานิตย้ำให้ฟัง
นับตั้งแต่เด็ก เมื่อครั้งยังเรียนหนังสือประถมที่โรงเรียนจิรพัฒน์ แถวปากคลองตลาด ซึ่งเป็นโรงเรียนจีนในสมัยนั้น มานิต มีเลขประจำตัว “999” จากนั้นเขาก็ย้ายมาเรียนต่อที่โรงเรียนวัดราชบพิธ ในระดับมัธยม และปัจจุบันเขาก็ยังดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมโรงเรียนวัดราชบพิธอีกด้วย ซึ่งเป็นมาได้ 2 สมัยแล้ว (สมัยละ 2 ปี) มานิตเป็นนายกสมาคมฯต่อจาก พล.อ.สุจินดา คราประยูร (อดีตนายกสมาคมฯที่นั่งมายาวนานถึง 20 ปี)
ที่สำคัญมานิต เป็นคนเดียวก็ว่าได้ที่มีโอกาสรับตำแหน่ง ประธานจัดงาน 5 ธันวามหาราช ที่ท้องสนามหลวง ที่รับหน้าที่มาทั้งหมด 9 ครั้ง จากการจัดงานทั้งหมด 32 ปี หรือ 32 ครั้ง ซึ่งคนอื่นที่เป็นประธานจัดงานก็ไม่มากเท่าเขา และครั้งที่เขาเป็นและล่าสุดก็คือปี 2549 ซึ่งลงท้ายด้วยเลข “9” อีก เพราะเป็นปีที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 พรรษา
ครั้นหันมามองดูในธุรกิจ โดยเฉพาะ เรียลเอสเตตและค้าปลีก เขาก็ยังคงวนเวียนอยู่กับเลข 9 อีก อย่างไม่ขาดสาย
โครงการซิตี้คอมเพล็กซ์ที่ประตูน้ำ พื้นที่ทั้งหมด 4 ไร่ 14 ตารางวา เมื่อนำเอาตัวเลขเกี่ยวกับจำนวนพื้นที่มาบวกรวมกันแล้วก็ได้ 9 ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการแรกที่ มานิต ซื้อมาซึ่งปีที่เขาซื้อก็ยังตรงกับปี 2529 และตึกหลังนี้ก็มีความสูง 9 ชั้น (ซึ่งมีเลข 9 อยู่ท้าย)
ส่วนโครงการดราก้อนซิตี้แลนด์ หรือที่เรียกกันภายในซิตี้กรุ๊ปว่า ตึกเพชร บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ตรงข้ามพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คุณรู้ไหม บ้านเลขที่ของโครงการนี้ก็คือ เลขที่ 9 ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่เหลือเชื่อเหลือเกิน
ขณะที่โครงการซิตี้คอมเพล็กซ์ หรือมณีนาราคา ที่เชียงใหม่ ซึ่งเปิดบริการมาได้ประมาณปีเศษแล้ว โดยมีลูกสาวของมานิตบริหารอยู่นั้น มีบ้านเลขที่ตรงกับเลข 99
สำหรับอีกโครงการใหญ่คือ ไทย-ไชน่า ซิตี้ ตั้งอยู่บนหัวมุมถนนปิ่นเกล้าตรงข้ามกับสายใต้ใหม่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งมานิตเรียกกันภายในว่า สิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ 9 เพราะว่า เหมือนโลโก้โอลิมปิกที่มี 5 ห่วง แต่เขาเติมไปอีก 4 มหาสมุทรรวมกันก็เป็น 9 ขณะที่ความสูงของตึกนั้นมี 33 ชั้น และชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น เมื่อนำเอา 3 + 3 + 3 มาเรียงบวกกันก็เท่ากับ 9 อีก โดยที่บ้านเลขที่ของโครงการนี้เป็น เลขตอง 999 อีกต่างหาก
ไม่ใช่เพียงแค่โครงการพัฒนาต่างๆที่ยกตัวอย่างไป แต่รถยนต์ที่ มานิต ใช้ก็บังเอิญมีเลข 9 ให้นำโชคอีก คือ รถตู้ ทะเบียน “ น ล 9” และอีกคันคือ “ อ ฉ 9”
มานิตยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดฯ “เสาเสมาธรรมจักร” ประเภทที่ 9 ผู้ประกอบการอาชีพที่มีคุณธรรมและส่งเริมพระพุทธศาสนา พ.ศ. 2539
ในแง่ของการดำรงตำแหน่งต่างๆเช่น ประธานคณะกรรมการอุปสมบทพระภิกษุถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 99 องค์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ 79 องค์ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นประธานคณะกรรมการจัดงาน (ภาคประชาชน) ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2549 และยังเคยเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการ 12 สิงหามหาราชินี (ภาคประชาชน) 2549
แม้ว่าจะไม่มีใครยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องของการจัดแต่ง หรือ โชคลาภ ก็ตามที แต่เรื่องที่เหลือชื่ออีกคือ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ ดร.มานิต ไปเคารพศพคุณแม่ที่ฮวงซุ้ยที่บ้านบึง ชลบุรี พอเคารพศพเสร็จก็มีเด็กหลายคนขายล็อตเตอรี่เดินเข้ามาร้องซื้อล็อตเตอรี่ไหม ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไร ก็เหมาซื้อเลขท้าย 2 ตัว “99” ไปเกือบ 20 ชุด
สุดท้ายเมื่อสลากออก มานิต ถูกเลขท้าย 2 ตัว 99 ตรงเป๊ะเลย จึงเอาเงินรางวัลทั้งหมดที่ได้มาไปทำบุญหมดเลย
“เราต้องถือว่า เลข 9 เป็นสิริมงคล ถ้าคนไทยก็มักจะแปลว่าเป็นเรื่องของความก้าวหน้า ส่วนคนจีนก็บอกว่าเป็นความยั่งยืน แต่ว่าที่เหนือสิ่งอื่นใดผมคิดว่า เป็นบารมีของพระเจ้าอยู่หัว” ดร.มานิตกล่าว
โครงการล่าสุดที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ คือ การทำแหวนนะโม มงคล เพื่อฉลองโรงเรียนวัดราชบพิธ ครบรอบ 123 ปี แต่เรียกกันว่า มงคล 9 ซึ่งดร.มานิตบอกว่า ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลย
มานิต กล่าวตบท้ายอย่างอารมณ์ดีแถมหยอดมุกด้วยว่า “ ผมเกิดปี 2491 ตอนนี้ก็อายุ 59 ปีแล้ว ลงท้ายเลข 9 พอดี แต่ยืนยันว่าชีวิตผมมีภรรยาแค่คนเดียวเท่านั้น”
*****
