ในทัศนะ“อ.เสถียร”เทนนิสไทยใฝ่สูงเกินไป?

หลังจบการแข่งขันเทนนิสไทยแลนด์โอเพ่น พร้อมกับชัยชนะของ โจ วิลเฟรด ซองก้า จอมหวดจากฝรั่งเศสที่พลิกเอาชนะ โนวัค ยอโควิช ไปแบบสะใจคนดูรอบสนาม ภาพตัดกลับมาอีกด้านหนึ่งของวงการเทนนิสไทยในฐานะเจ้าบ้านที่ต้องยอมรับว่าปีนี้ นักเทนนิสไทยล้มอย่างไม่เป็นท่าผลงานดีที่สุดของ ดนัย อุดมโชคในรายการนี้คือรอบแรกของการแข่งขันเช่นเดียวกันกับ แฝดมหัศจรรย์ “สนฉัตร - สรรชัย รติวัฒน์” เจ้าของแชมป์ปี 2007 ที่ครั้งนี้แทบจะไม่เหลือลาย

จากที่วงการลูกสักหลาดไทยเคยรุ่งเรืองเมื่อครั้ง ภราดร ศรีชาพันธุ์ มีอันดับขึ้นไปติดท็อปเทนในเอทีพีทัวร์ และ เป็นนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของเอเชีย ส่วน “แทมมี่” แทมมารีน ธนสุกาญจน์ ก็ใช่ย่อยเพราะเคยขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 19 ของโลกเมื่อปี 2002 ส่วนรุ่นต่อมาอย่าง ดนัย อุดมโชค และ สุชานันท์ วิรัชประเสริฐ ก็ดูจะมีแววมิใช่น้อย หากเมื่อกาลเวลาผ่านไปฟอร์มของดาวรุ่งทั้งสองก็ชักจะเริ่มแผ่วปลาย

ถึงเวลานี้จึงมีคำถามว่า นักเทนนิสเยาวชนไทย ในฐานะคลื่นลูกใหม่ยังพอมีใครจะเป็นความหวังมิให้วงการลูกสักหลาดไทยสูญพันธุ์ไปจากเวทีเทนนิสโลกได้บ้าง ซึ่งผู้ที่น่าจะให้คำตอบได้ชัดเจนในฐานะที่คลุกคลีอยู่กับวงการมาตลอดชีวิตเห็นจะหนีไม่พ้น อ.เสถียร มนต์คงธรรม เกจิวงการเทนนิสไทย อดีตเลขาธิการและกรรมการบริหารลอนเทนนิสฯ รวมทั้งยังทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารนิตยสารเทนนิส

ทั้งนี้ อ.เสถียร ที่คนในสังคมลูกสักหลาดไทยคุ้นเคยกันดีเริ่มต้นด้วยการพูดถึงสภาพและทัศนคติของวงการเทนนิสไทยว่า “วงการเทนนิสไทยนั้นว่าไปก็เหมือนจะใฝ่สูง ใครขึ้นมาก็ต้องประสบความสำเร็จแบบภราดรหรือแทมมารีน ทั้งที่ในความเป็นจริงแม้นักเทนนิสไทยจะพัฒนาได้ไกลกว่าเดิมแต่เวลานี้สิ่งที่พวกเขาขาดอยู่คือวิธีคิดและทัศนคติ ซึ่งเรื่องดังกล่าว เกจิ วงการเทนนิสไทยแสดงความคิดเห็นว่า

“ ก่อนอื่นเราต้องยอมรับว่า เด็กไทยไล่รุ่นพี่ไม่ทันสิ่งที่เกิดในตอนนี้ คือเด็กของเราเล่นดี เรียกได้ว่าดีมากกว่าเก่าเยอะ จากการที่เรามี ภราดร กับ แทมมารีน ขึ้นไปอยู่ในท็อป 20 คนไทยเลยเห็นอันดับ 100 กว่า 200 กว่าเป็นผลงานย่ำแย่”

“แต่ถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อนคนไทยขึ้นไปถึงอันดับ 800 ยังยากเลย ตอนนี้เราอยู่ในอันดับโลกเต็มไปหมด ถ้าเปิดดูตารางคะแนนในตอนนี้เราจะเห็นนักเทนนิสเยาวชนไทยติดอันดับโลกเป็นสิบๆคน แต่ก่อนไม่มี”

โดยในเวลานี้นักเทนนิสไทยทั้งชาย-หญิงติดอันดับโลกในประเภทเดี่ยวถึง 20 คน โดยมี “แทมมี่” แทมมารีน ธนสุกาญจน์ มีอันดับสูงสุดที่ 37 ของโลก ส่วน ปราชญ์ มหถาวร หนุ่มแพร่วัย 18 ปีปิดท้ายรายชื่อของรุ่นพี่ที่อันดับ 1,565 ของโลก

เมื่อมีคนที่พอทำผลงานได้ แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้นักเทนนิสรุ่นน้องไล่หลังรุ่นพี่ไม่ทัน ซึ่ง อดีตผู้บริหารลอนเทนนิสสมาคม มีคำตอบให้กับทีมข่าว MGR Sport ว่า “มันเป็นช่องว่างที่เกิดขึ้น ทุกประเทศก็มีทั้งนั้นอย่างเช่นอเมริกา เมื่อก่อนมี คริส เอฟเวิร์ต ,ลินเซย์ ดาเวนพอร์ต ตอนนี้ลองดูสิ ถ้าไม่มีพี่น้องวิลเลียมส์ ผู้หญิงก็ไม่เหลือใครแล้ว อย่างรัสเซียตอนนี้ 10 อันดับแรกกลับมีนักเทนนิสของเขาอยู่ตั้ง 5 คน”

การพัฒนานักเทนนิสขึ้นไปยืนท็อป 10 ท็อป 20 ของโลกสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย ในกรณีของ “เจ้าบอล” ภราดร และ “แทมมี่” นั้นไม่ได้เกิดจากระบบที่ดีหากแต่เกิดจากใจพาไปเด็กๆใหม่ๆขึ้นมาด้วยจินตนาการ เหมือนเด็กที่เรียน นิเทศศาสตร์ ทุกคนอยากเข้าวงการบันเทิงอยากเป็นพิธีกรดังๆ เช่นเดียวกับวงการเทนนิสทุกคนส่งลูกด้วยความหวังที่จะเห็นพวกเขาเป็น แทมมารีน หรือ ภราดร แต่จริงๆแล้วมันไม่ง่าย พอเริ่มเจออุปสรรค ความทุ่มเทของพ่อแม่ก็น้อยลง”

แม้หนทางดูจะตีบตัน หากแต่ผู้ อ.เสถียร ยังขอให้คนไทยอดใจรออีกนิด แม้จะพัฒนาแบบผิดรูปร่างไปหน่อยแต่ผลงานของเด็กไทยวันนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าคนไทยทำได้โดยยกเอาผลงานของ “นพวรรณ เลิศชีวกานต์ เยาวชนมือ 3 ของโลก ที่เข้าชิงฯเยาวชนวิมเบิลดัน ได้แชมป์เยาวชนคู่ ยูเอส โอเพ่นถือเป็นโปรไฟล์ที่มิใช่ว่าจะมีใครทำขึ้นมาได้ง่ายๆพร้อมกันนี้ยังกล่าวทิ้งท้ายให้ได้คิดว่า “คนไทยอย่ามองข้างบนมากเกินไป เด็กไทยเราทำได้ดีขนาดไหนวัดที่ตัวเขาอย่าเปรียบเทียบเมื่อเจอทางแยกจะไปต่อหรือไม่ไปต่อก็ขอให้เคารพการตัดสินใจ เพราะสุดท้ายแล้วจะถึงเป้าที่วางไว้หรือไม่นั้น “ใจ” ของเด็กจะพาพวกเขาไปเอง”