“ตุ๊ก ญาณี” สุดเซ็ง บอกขึ้นศาลเสียเวลาทำมาหากิน จูงมือทนายเข้ารายงานตัวต่อศาลคดีเปลี่ยนระบบธุรกิจ จนทำให้ร้านอาหารสกูซี่ เสียหายจำนวน 35 ล้านบาทแล้ว ก่อนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยันตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ลั่นอยู่วงการมา 30 ปี ไม่คิดโกงใคร วอนนักข่าวช่วยแก้ข่าวด้วย เหน็บคู่กรณีจะได้ออกสื่อบ้าง พร้อมลั่นส่งท้ายเข็ดทำธุรกิจกับเพื่อน
หลังพิธีกรชื่อดัง “ตุ๊ก ญาณี จงวิสุทธิ์” ไม่มาเข้ารับฟังการสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ย่านเจริญกรุง เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า ไม่สบาย พร้อมกับส่งสามีชาวอิตาเลียน “เซอร์จิโอ อาร์มานิโอ” มาฟังการสืบพยานเพียงคนเดียว ซึ่งศาลก็ได้อนุญาตให้พิธีการสาวเข้ารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 4 ก.ค.2551 ได้
โดยเช้าวันนี้ (4 ก.ค.) ตุ๊ก ญาณี ได้เดินทางมาพร้อมทนายตามคำนัดของศาล เพื่อเข้าฟังการสืบพยานโจทก์ครั้งที่ 2 ตามคดีอาญาเลขดำที่ 4069/2550 ด้วยอาการสงบนิ่ง ก่อนเข้ารายงานตัวต่อศาล พร้อมฟังการสืบพยานในกรณีสำนักงานอัยการสูงสุด แผนกคดีเศรษฐกิจ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องในคดีฉ้อโกงร้านอาหารสกูซี่ และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องจำนวน 35 ล้านบาท
เกี่ยวกับรูปคดีนี้ ทางด้านนาย “อนันต์ ผลัดวชิระกุล” ทนายฝ่ายจำเลย ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ความจริงแล้วเป็นแค่การขายหุ้นให้กับหุ้นส่วน ซึ่งทาง “ตุ๊ก ญาณี” ไปลงหุ้นช้า และหุ้นดังกล่าวก็เพิ่งจะลงไปเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2547 โดยยืนยันว่า ฝ่ายตนได้ปฏิบัติตามทุกอย่างหมดสิ้นแล้ว แต่ฝ่ายโจทก์เพิ่งจะมาฟ้อง เพราะเกิดความเข้าใจผิดเล็กน้อย แต่ตอนนี้ได้ดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว และขอให้นักข่าวแก้ข่าวให้ถูกต้องตามนี้ด้วย
“เรื่องตรงนี้ผมก็ไม่อยากก้าวล่วง เพราะมันอยู่ในระหว่างคดีแต่ตอนนี้มีข่าวออกมาว่าคุณตุ๊กไปโกงทางเขา 35 ล้าน แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ จริงๆ แล้วมันเป็นแค่เรื่องหุ้นและจำนวนก็ไม่ถึง 35 ล้าน อย่างที่เป็นข่าว มันเป็นเงินแค่ 34 ล้านบาทเอง แล้วที่ทางคุณตุ๊กไปลงทะเบียนหุ้นล่าช้านั้น จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้นาน เกินกำหนดมาแค่ไม่กี่วัน และตั้งแต่ปี 2547 ทางโน้นเขาก็ครอบครองหุ้นทั้งหมดแล้วก็อยากให้นักข่าวช่วยกันแก้ข่าวให้คุณตุ๊กด้วย
ด้าน พิธีกรชื่อดัง “ตุ๊ก ญาณี” เมื่อถูกนักข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรต่อการตกเป็นจำเลยในคดีธุรกิจอีกครั้ง เจ้าตัวบอก ไม่ได้ทำความผิด จึงไม่รู้สึกอะไร ก่อนตอบด้วยอารมณ์หงุดหงิดว่า มาขึ้นศาลทำให้ตนเสียเวลาทำมาหากิน แถมประชดเก๋ดีได้มายืนถ่ายรูปในศาล
“ไม่รู้สึกอะไร เฉยๆ อยู่ดีๆ ก็มีคนมาให้ความสนใจ เพราะถ้าวันนี้เราไม่ออกมาขึ้นศาล ก็คงจะไม่มีใครมายืนถ่ายรูปเราแบบนี้หรอก เพราะรู้ตัวดีว่าช่วงนี้เราตกแล้ว รู้สึกเก๋ดีแต่พี่ไม่ได้ทำอะไรก็เลยไม่รู้สึกอะไร”
“คือ ยังไม่ได้คุยอะไรเลย ที่มาวันนี้แค่มาเสนอตัว เพราะวันนั้น (2 ก.ค.) พี่ไม่สบายมาไม่ได้ ยังไม่ได้ถึงขั้นที่มาซักถามอะไรกัน แต่ตอนนี้ที่ซีเรียสเป็นเพราะต้องมานั่งเสียเวลาทำมาหากิน สมมติถ้าพี่จะไปรับงานได้เงินก็ไม่ได้เงิน”
ส่วนโอกาสไกล่เกลี่ยเจ้าตัวโบ้ย ให้ถามคู่กรณีแทน บ่นเข็ดขอทำธุรกิจคนเดียวดีกว่า
“จะมีโอกาสไกล่เกลี่ยกันได้มั้ย ลองไปถามฝั่งโน่นดูดีกว่ามั้ยคะ ให้เขาได้ออกกล้องบ้าง(หัวเราะ) คือ ตอนนี้มันขั้นอยู่ที่ศาล แต่พี่ว่ามันคงจะยากในเรื่องของการไกล่เกลี่ย”
“ต่อไปถ้าจะลงทุนหรือร่วมหุ้นกับใคร ก็จะต้องคิดไตร่ตรองมากขึ้น แล้วก็คงไม่ได้ร่วมหุ้นกับใครอีก เพราะพี่มีประสบการณ์มาแล้ว เวลาเราขาดทุนก็แย่ กำไรก็อยากจะได้ เพราะฉะนั้นทำธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ ทำคนเดียวดีกว่า ทำได้เท่าไหนก็เท่านั้น”
ก่อนยืนยันความบริสุทธิ์ต่อหน้าสื่อมวลชนที่มาทำข่าวในวันนี้ ว่า เรื่องต้องจบลงด้วยดี เพราะตนอยู่วงการมา 30 ปี ทุกคนคงรู้ว่าเป็นคนเช่นไร ลั่นขอบคุณทุกคนที่ยังเป็นห่วง ส่วนเรื่องดคีจะจบสิ้นเมื่อไหร่ เจ้าตัวบอกไม่รู้เหมือนกัน
“ไม่รู้เหมือนกันจะจบเมื่อไหร่ ตรงนี้เป็นเรื่องของทนาย ถ้าเกิดศาลจะนัดเมื่อไหร่เดี๋ยวทนายก็คงจะบอกกับพี่เอง แต่พี่ว่ามันคงจะมีแนวโน้มไปในทางที่ดี เพราะเรื่องมันไม่ได้มีอะไร พี่อยู่วงการนี้มาเกือบ 30 ปี ทุกคนจะรู้ว่าคาแรกเตอร์พี่เป็นคนอย่างไร ถ้ามาบอกว่าญาณีขายตัวก็คงไม่มีใครเชื่อเหมือนกัน ตรงนี้ก็อยากจะขอบคุณในความห่วงใยของแฟนคลับทุกคนค่ะ”
***
“ญาณี” หนาว! ทนายโจทก์มั่นใจชนะคดี แฉพิธีกรดังมีคดีติดตัวเพียบ
"ตุ๊ก ญาณี" ฉาวอีก ถูกเพื่อนเก่าฟ้องคดีธุรกิจพร้อมผัว
“ตุ๊ก” ควงสามีเคลียร์ข่าวตุ๋นทอง บอกศาลยกฟ้องแล้ว
“ตุ๊ก ญาณี” ลั่น ถ้าผัวโกงจริงคงไม่โง่อยู่ให้จับ!
