“พอลล์ กาญจนพาสน์”ต้องล้ำหน้ากว่าคู่แข่งหนึ่งก้าว

จากสินค้าชิ้นเล็กๆ คือ การจำหน่ายอะไหล่นาฬิกา ของ ตระกูล “กาญจนพาสน์” ถือเป็นการเริ่มต้นทำธุรกิจในเมืองไทยในยุคของ “มงคล กาญจนพาสน์” ซึ่งเป็นบิดาของ “อนันต์ กาญจนพาสน์” และ เป็นคุณปู่ของ “พอลล์ กาญจนพาสน์” วันนี้ คงไม่มีใครกล้าเถียงว่า หากเอ่ยถึง ตระกูล “กาญจนพาสน์” แล้ว นั่นหมายถึง โครงการขนาดใหญ่ หรือ บิ๊กโปรเจค เพราะทุกเซ็กเม้น ที่ตระกูลนี้เข้าไปจับต้อง หรือ ลงทุน ล้วนอยู่ในอันดับแถวหน้าของเมืองไทย ทั้งธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ที่เรารู้จักกัน ในนามของ บางกอกแลนด์ หรือ เมืองทองธานี ซึ่งมี อนันต์ กาญจนพาสน์ เป็นผู้บุกเบิก

ส่วนอีกหนึ่งโครงการที่ใหญ่ไม่แพ้กัน คือ โครงการธนาซิตี้ ย่านบางนา ซึ่งบริหารโดย บริษัท ธนายง รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่วิ่งให้บริการคนกรุงเทพฯในทุกวันนี้ ซึ่ง เจ้าของคือ คีรี กาญจนพาสน์ น้องชายแท้ๆ ของ อนันต์ กาญจนพาสน์ และ เป็นอา ของ พอลล์ กาญจนพาสน์

แต่ในวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เกิดช่องว่างของการทำธุรกิจใหม่ๆ ได้อีกมากมาย ไม่รอช้าที่ตระกูลกาญจนพาสน์ จะโดดเข้าร่วมอย่างเต็มอกเต็มใจ และที่สำคัญ ต้องเป็นโปรเจกขนาดใหญ่ ระดับแถวหน้าของเมืองไทยเช่นเดิม และสิ่งที่ กาญจนพาสน์ รุ่น 3 คือ พอลล์ กาญจนพาสน์ ทำอยู่ในขณะนี้คือ ธุรกิจศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ “อิมแพค เมืองทองธานี “ ที่มีพื้นที่กว่า 1.4 แสนตารางเมตร

ไฟแรงเรียนจบทำงานทันที

เมื่อเรียนจบด้านบริหารธุรกิจจาก ยูโรเปี้ยน บิสซิเนส สคูล จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พอลล์ ไม่รอช้า ที่จะเข้ามารับไม้ต่อจากผู้เป็นบิดา คือ อนันต์ กาญจนพาสน์ ซึ่งขณะนั้น ได้เริ่มเปิดตัวและบริหารงาน ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ อิมแพ็ค เมืองทองธานีแล้ว โดยพอลล์ เข้ามานั่งในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด พร้อมประกาศว่า “จะส่งเสริมให้จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ให้เป็นสถานที่สำหรับการแสดงสินค้าและการจัดการประชุม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจโดยรวมให้แก่ประเทศ จังหวัดนนทบุรี และชุมชน เพื่อเป็นประโยชน์กับคนในท้องถิ่น

แต่ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง พร้อมประสบการณ์ที่ได้ไปร่ำเรียนมาจากฟากตะวันตก ทำให้ พอลล์ มีสายตาที่ยาวไกล แล้วมุ่งมั่นที่จะทำให้ ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เป็นได้มากกว่า ศูนย์ประชุม กล่าวคือ เป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ มีร้านอาหาร ร้านหนังสือ ศูนย์การศึกษา (Education and Lifestyle Centre) ร้านกิ๊ฟท์ชอป ภัตตาคารชื่อดัง และล่าสุดคือการปรับพื้นที่เป็นโรงละคร และ โรงภาพยนตร์ เพื่อรองรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองทองธานีและพื้นที่ใกล้เคียง

“อิมแพ็คมีพื้นที่จัดงานมากถึง 1.4 แสน ตารางเมตร เราจึงต้องการให้เกิดการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีอยู่ได้สูงสุด ดังนั้น การแบ่งพื้นที่ให้มีส่วนของเอ็นเตอร์เทมนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ จะทำให้ศูนย์ไม่เงียบเหงา ศูนย์ฯเองก็มีรายได้ประจำจากร้านค้าที่มาเช่าพื้นที่ โดยร้านอาหารเหล่านั้น ยังได้บริการแก่ผู้เข้าร่วมชมงาน และในอนาคตก็จะได้รับรองแขกที่เข้ามาพักโรงแรมที่เรากำลังจะสร้างขึ้นด้วย”

ปรับตัวยากแต่แล้วก็ชอบคนไทย

พอลล์ กล่าวว่า ตอนแรกที่เริ่มเข้ามาทำงาน ยอมรับว่ารู้สึกแปลกและยากต่อการปรับตัวอยู่บ้าง เพราะไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมไทย ภาษาไทย และคนไทย แต่ตอนนี้ยอมรับว่า รู้สึกชื่นชมวัฒนธรรมและคนไทยเป็นอย่างมาก จึงรู้สึกสนุกกับการใช้ชีวิตและทำงานที่เมืองไทย คติที่ใช้กับการทำงาน คือ ความเชื่อใจ ความรับผิดชอบ และ มีคุณธรรม เพราะถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้คงยากต่อการทำงาน

แต่หากมีเวลาว่าง จะชอบอ่านหนังสือ และเล่นกีฬา กับครอบครัว ภรรยา และ เพื่อนๆ หรือบางครั้งก็จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง แต่กระนั้นก็ยังเจียดเวลาให้กับการเรียน ซึ่งขณะนี้เป็นนักศึกษาปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยวอร์วิค ประเทศอังกฤษ

พอลล์ กล่าวอย่างคนรุ่นใหม่ไฟแรงว่า อิมแพ็ค มีทีมงานระดับมืออาชีพ มีความรอบรู้เรื่องการจัดการบริหารอาคารสถานที่ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆของอิมแพ็ค ดังนั้นงานของ พอลล์ วันนี้ คือ การบริหารองค์กรให้แน่ใจว่า อิมแพ็คฯ ได้ดำเนินธุรกิจร่วมกับผู้ถือหุ้นได้เป็นอย่างดี ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ และมีความเชื่อมั่นว่า คณะผู้บริหารของอิมแพ็คฯและ ทรัพยากรต่างๆ ที่เรามี รวมถึงทีมงาน จะช่วยนำเราไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จที่ตั้งไว้

ในอนาคตอันใกล้นี้ อิมแพ็คฯ จะต้องเป็นสถานที่ ที่น่าเข้าร่วมงานด้วยมากที่สุด เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการจัดกิจกรรมต่างๆ และยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดีที่สุดของไทย ที่บริหารโดยทีมงานมืออาชีพ และ มีจรรยาบรรณ

ความที่มีเลือดเนื้อเชือ้ไขของ กาญจนพาสน์อยู่เต็มตัว ทำให้ พอลล์ มีแนวคิดที่ไม่ต่างไปจาก ปู่ และ พ่อ ที่ว่า งานที่ทำต้องยิ่งใหญ่ และ ล้ำหน้าไปกว่าคู่แข่งขันในตลาดเดียวกันอย่างน้อย หนึ่งก้าว ให้บริการแบบครบวงจร ดังนั้น ภาพของอิมแพ็คฯ วันนี้ จึงเป็นมากกว่าศูนย์การประชุม หรือศูนย์แสดงสินค้า แต่ เป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถเข้าไปสัมผัสและใช้บริการได้ในทุกโอกาส การคิดใหญ่ คิดไกล และ ไปให้ถึง ตามแบบฉบับของนักธุรกิจชาวฮ่องกง ที่หล่อหลอม พอลล์ มาตั้งแต่กำเนิด ผสมผสานกับแนวคิดแบบตะวันตก ที่ได้ไปร่ำเรียนมา ย่อม ทำให้ อิมแพ็คฯ วันนี้ฉายแวว ความเป็นศูนย์การประชุม และ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ แบบครบวงจรจริงๆ

แตกไลน์ธุรกิจลดความเสี่ยง

สำหรับการขยายธุรกิจของ พอลล์ นอกจากเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ แล้ว ยังเปิดให้บริการ Total Reservation หรือ เป็นตัวแทนการจองตั๋วต่างๆ รวมถึงสายการบินและโรงแรมทั่วโลก โดยเฉพาะเพื่อรองรับหน่วยงานที่มาจัดงานประชุมและแสดงสินค้า ที่อิมแพ็คฯ และประเทศไทยมองแล้ว ถือเป็นการวางธุรกิจเพื่ออนาคต เพราะอิมแพ็คฯ เตรียมที่จะก่อสร้างโรงแรม ซัพพอร์ต ผู้เข้าร่วมประชุม

นอกจากนั้น อีกหนึ่งบริการ ที่ อิมแพ็คฯเปิดให้บริการแล้ว คือ The Wedding Inc. บริการให้คำปรึกษา แนะนำด้านการจัดวิวาห์ ครบวงจร รวมถึงเปิดให้เช่าสถานที่สำหรับจัดงานแต่งงาน ประเดิมการแรก คือ งานแต่งงาน ของ พอลล์ เอง กับเจ้าสาวหมาดๆ ที่มีดีกรีเป็น ทันตแพทย์

ถึงตรงนี้แล้ว น่าจะสรุปได้ว่า พอลล์ กาญจนพาสน์ เป็นลูกไม้ ที่หล่นไม่ไกลต้น ทั้งการทำงานและวิสัยทัศน์ แต่กลับเป็นลูกไม้พันธุ์ดีที่ช่วยส่งให้ธุรกิจของ ปู่ และ พ่อ เติบโตแบบยั่งยืน ฉีกหนีคู่แข่งขันได้อย่างขาดลอย เป็นมืออาชีพ ด้านบริหารจัดการพื้นที่ตัวจริง ที่ไม่ยอมให้พื้นที่ที่มีอยู่ ได้ว่างเว้น นำพารายได้เข่าสู่องค์กรได้เป็นกอบเป็นกำ แถมยังกระจายความเสี่ยงของการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี