Property Lite เมื่อหลายฉบับก่อนได้เขียนถึงมือการตลาดของค่ายเอพีมาแล้ว ฉบับนี้ขอเขียนถึงนักการตลาดหนุ่มไฟแรงแห่งค่ายแสนสิริบ้าง เพราะไม่ว่าจะเป็นการออกแคมเปญ จัดอีเว้นท์แต่ละงานล้วนเป็นที่ฮือฮาในแวดวงอสังหาฯ ลูกค้าและลูกบ้านของแสนสิริเอง
สมัชชา พรหมสิริ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จบการศึกษา ปริญญาตรี รัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์ ส่วนปริญญาโท รัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ University of Nottingham , UK และเศรษฐศาสตร์ การเมืองระหว่างประเทศ University of Warwick
ก่อนร่วมงานกับแสนสิริ สมัชชา ผ่านงานด้านประชาสัมพันธ์กับ Hill & Knowlton PR agency และไนกี้ ประเทศไทยมาก่อน และเดือนกันยายน 2547 จึงร่วมงานกับแสนสิริ เกือบ 5 ปีที่คลุกคลีอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้สมัชชาได้เรียนรู้อะไรมากมาย
“บ้านเป็นสินค้าที่คนซื้อใช้เงินเก็บทั้งชีวิตมาซื้อ ไม่ว่าจะถูกหรือแพง ดังนั้นการทำการตลาดต้องให้ความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าให้มากที่สุด แต่ก็ไม่ควรโอเวอร์จนเกินไป เพราะคนเราต้องอาศัยอยู่หลังหนึ่งๆ เป็นเวลานานหรือบางคนเกือบชั่วชีวิต ดังนั้นเค้าต้องได้พบเจอกับปัญหาภายในบ้านอยู่แล้วไม่ว่าจะสร้างดีแค่ไหนก็ต้องมีปัญหาอยู่บ้าง แต่สิ่งที่สำคัญคือการให้บริการหลังการขาย รีบช่วยแก้ปัญหาให้ลูกบ้าน”
การทำการตลาดหรือจัดกิจกรรมในปัจจุบัน ไม่ใช่แค่เชิญลูกค้าหรือลูกบ้านมา เสิร์ฟน้ำ เครื่องดื่ม กิน ฟังเพลง แล้วก็เสนอขายสินค้า แต่โจทย์สำคัญทำอย่างไรให้เค้าได้ซึมซับกับบรรยากาศภายในโครงการมากที่สุด เพื่อให้เค้าชอบ ประทับใจและซื้อบ้านในที่สุด
จากการทำวิจัยของแสนสิริล่าสุด ยังพบว่า ลูกบ้านเกือบทั้งหมดชอบอยู่ในบ้านไม่อยากออกมาภายนอกบ้าน แต่กิจกรรมที่จะทำให้เค้าเหล่านั้นออกมานอกบ้านคือ กิจกรรมที่ทำให้ลูกของเค้าได้เล่นสนุกกับเพื่อนๆ หรือสนุกกับกิจกรรมต่างๆ ดังนั้นการจัดกิจกรรมจึงให้ความสำคัญกับเด็กมาก เพื่อให้ลูกบ้านพาลูกๆ ออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน
การที่ต้องคิดจัดกิจกรรมการตลาดใหม่ๆ รวมถึงการพบปะสื่อต่างๆ ดูเหมือนว่ามีงานยุ่งมาก แต่ สมัชชา ก็มีกิจกรรมที่ตัวเองชอบมาก และให้ความสำคัญตลอด คือการได้อยู่กับสุนัขตัวโปรด 2 ตัว นิล กับ นวล พันธุ์ลาบราดอร์ ที่เลี้ยงเพราะชอบและด้วยความที่แต่งงานมาแล้วถึง 7 ปี แต่ยังไม่มีลูก ทำให้ทุ่มเทเวลาที่อยู่กับบ้านให้แก่สุนัข 2 ตัวซึ่งเป็นเหมือนลูกตัวเอง ทั้งเช้า-เย็น พาไปวิ่งเล่น และว่ายน้ำ เพราะสุนัขพันธุ์นี้จะมีข้อเสียในส่วนของสะโพกหลังทรุดง่าย ดังนั้นการว่ายน้ำจึงเป็นการออกกำลังกายช่วงสะโพกหลังได้ดีที่สุด
ส่วนกีฬาโปรดที่สุด คือ ฟุตบอล ที่เขาได้อยู่ในทีม ราชกรีฑาสโมสร ทีม B ฟุตบอลกิจกรรมยามว่างที่ชอบเป็นชีวิตจิตใจ ซ้อมอาทิตย์ละ 3 ครั้ง หลังเลิกงาน และเสาร์ หรืออาทิตย์อีกเกือบครึ่งวัน
“เรามีลีคที่แข่งกันเป็นประจำทุกปี เดิมเรียกว่า ฝรั่งลีค เพราะทีมส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ มีกว่า 20 ทีม ช่วงหลังเราเลยหาสปอนเซอร์มาเลยเปลี่ยนมาเป็น ช้างลีค ราชกรีฑาสโมสรมี 3 ทีม ทีม A คือทีมเก่ง ทีม B รองลงมาและทีมอาวุโส ไม่ใช่แข่งเฉพาะในไทย เราไปแข่งกันถึงสิงคโปร์ ฮ่องกง และอีกหลายประเทศ แต่ตอนนี้ไม่ได้เล่นฟุตบอลเพราะไม่สบายหมอให้พักผ่อนชักเดือน 2 เดือน หายแล้วค่อยเล่นใหม่”
โชคดีที่ผู้บริหารของแสนสิริ ทั้งคุณอภิชาต จูตระกูล และ คุณเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งทั้งสอนคนอยู่ในทีมราชกรีฑาสโมสรด้วย และด้วยความชอบในกีฬาฟุตบอล แสนสิริ ได้จัดตั้งโครงการแสนสิริเพื่อเยาวชนขึ้น เพื่อเป็นการสร้างประโยชน์กลับคืนสู่สังคม ด้วยการเปิดสอนฟุตบอลให้แก่เยาวชนอายุตั้งแต่ 6-16 ปี ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ สนาม Wit Soccer พุทธมณฑลสาย2 และที่สำคัญได้รับการสนับสนุนเป็นจากคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง เพื่อนสนิทกับคุณเศรษฐา ซึ่งเป็นอดีตผู้จัดการทีมชาติไทย ที่รับผิดชอบในการจัดหาสตาฟโค้ชระดับ A/ B License มาพัฒนาทักษะทางด้านการกีฬาให้กับเด็กๆ