เป็นเรื่องจริง ที่ทุกคนต่างยอมรับว่า คนเก่ง คนดี มีความสามารถ ต่างก็เป็นบุคลากรชั้นเลิศ ที่จะนำพาองค์กรให้ก้าวต่อไป ไม่ว่าจะเป็นองค์กรไหนก็ตาม การแย่งตัว ซื้อใจ จึงมีให้เห็นในสังคมปัจจุบันค่อนข้างสูง
ในทางกลับกัน คนที่มีความสามารถเหล่านี้ เมื่อมีทางให้เลือกในการทำงานมากกว่า 1 ทาง ก็ย่อมต้องมีเหตุผลที่ดีที่สุดในการตัดสินใจเข้าร่วมงานกับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ซึ่งบางครั้งอาจจะรู้ว่าการแข่งขันภายในองค์กรที่ตัดสินใจเลือกมีการแข่งขันสูง ไม่เป็นอิสระในการทำงาน แต่ถ้าจะเป็นบันไดให้ก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น มันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง...มิใช่หรือ
แต่สำหรับผู้ชายที่ชื่อ "กิตติ สิงหาปัด" เกียรติยศ ชื่อเสียง ไม่ได้สำคัญไปกว่า การที่เขาจะได้มานั่งวิเคราะห์ข่าว เปิดหูเปิดตาประชาชนให้ได้รับข่าวมูลข่าวสารที่ถูกต้องเป็นสำคัญ ในสไตล์ที่เขาถนัด
เหตุผลที่ "กิตติ" เลือกปักธงล่าสุดที่ช่อง 3 ไม่ใช่เพราะเงิน แต่เป็นเพราะจะได้ทำงานในสิ่งที่รักมากว่าครึ่งชีวิตตามที่กิตติบอก
โดยการทำงานครั้งนี้เขามีอิสระและทำงานได้เต็มที่ 100% กับรายการข่าวที่ชื่อ "ข่าว 3มิติ" ซึ่งได้เริ่มออกอากาศมาได้เพียงไม่กี่วัน ตั้งแต่คืนวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยเป็นการออกอากาศสด ทุกคืนวันจันทร์ และวันพุธ ถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 22.30-23.00 น. จะเห็นได้ว่ารูปแบบรายการดังกล่าวจะใกล้เคียงกับรายการ "ฮอตนิวส์" เมื่อครั้งที่ไอทีวียังรุ่งโรจน์ ซึ่งมีคนที่ชื่อ "กิตติ" ได้ฝากลายไว้อย่างสวยงามและน่าจดจำ โดยเฉพาะกับวิธีการนำเสนอข่าว ที่น่าเชื่อถือ จนทำให้กลายเป็น "คนอ่านข่าว" ที่น่าจับตามองทั้งในแง่ของรายได้ ค่าตัว และการแข่งขันของสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี ที่ต่างต้องการตัวมากที่สุด หลังทีไอทีวีเริ่มสั่นคลอน
ย้อนกลับไปช่วง ทีไอทีวี เริ่มระส่ำระส่าย กลุ่มทีมข่าวทีไอทีวี ต่างแตกกระเซ็นไปหลายทิศหลายทาง ช่วงนั้น ถือได้ว่า "กิตติ สิงหาปัด" เป็น คนข่าว ที่หลายฝ่ายต่างเฝ้าติดตามว่า บ้านหลังใหม่ของชายคนนี้ จะเป็นที่ใด ภายใต้กระแสการแข่งขันของรายการประเภทข่าวที่รุนแรง การที่สถานีโทรทัศน์ช่องใดจะได้ตัวผู้ชายที่ชื่อ "กิตติ สิงหาปัด" คนนี้ไป ย่อมวางใจได้ว่า เรตติ้งรายการข่าวจะดีขึ้นทันตาเป็นประกัน
แน่นอนตัวเลือกที่เดินเข้ามาหา "คนข่าวฝีปากกล้า" คนนี้ ย่อมมีหลายตัวเลือก แต่ครั้งนั้น เขาเลือกที่จะลงหลักปักฐานใหม่ ที่ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์
ทว่าเขาเองก็ได้ทำงานร่วมกับทางโมเดิร์นไนน์มาได้ไม่ถึงปี ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญก็เกิดขึ้น กับการลาออกกับทางโมเดิร์นไนน์ เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมๆกับการหิ้วกระเป๋า ย้ายตัวเองสู่บ้านหลังใหม่ย่านพระราม4 กับทางช่อง 3
ที่ต่างก็เป็นที่รู้กันว่า “ครอบครัวข่าว” ของวิก 3 ที่นี่ ถือว่าเป็นแหล่งรวมดาวคนข่าวก็ว่าได้
เหตุผลของผู้ชายคนนี้ ที่มาอยู่ช่อง 3 มาจากเรื่องอะไร หลายคนอาจจะสงสัยว่า ถูกซื้อตัวมาหรือเปล่า? ลองฟังจากปากเขาดู แล้วคุณจะเข้าใจผู้ชายคนนี้มากยิ่งขึ้น
"ช่วงที่ทีไอทีวีจะปิดตัวลง ผมได้รับการทาบทามให้มาร่วมงาน ทั้งจากทางช่อง3 และทางช่อง 9 โดยการเลือกทำงานกับทางช่อง 9 ในครั้งนั้น เพราะเห็นความชัดเจนแน่นอนในการทำงาน แต่กับทางช่อง3 มันเป็นเหมือนการทาบทามที่ยังไม่มีความชัดเจน อีกทั้งมองว่าหากผมย้ายมาทำงานที่ช่อง3 จะต้องทำให้ใครต้องเดือนร้อน หรือทับเส้นของใครหรือเปล่า ซึ่งไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น อยากทำงานด้วยความสบายใจมากกว่า”
แต่การตัดสินใจใหม่ครั้งนี้ ที่โผเข้าช่อง 3 ครั้งนี้ เหตุผลคือ
“ในครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ประจวบเหมาะ ทางช่อง3 เข้ามาทาบทามให้เข้ามาช่วยทำรายการข่าว ที่อยู่ในช่วงเวลาใหม่ ยังไม่เคยทำมาก่อน อีกทั้งยังให้ผมมีอำนาจในการทำงานเต็มที่ ร่วมเป็นบรรณาธิการข่าว จึงตัดสินใจมาร่วมงานกับทางช่อง3 เพราะจะได้ทำงานในรูปแบบรายการที่ผมรักอย่างเต็มที่ และสามารถตัดสินใจได้อย่าง 100%”
พร้อมกับสำทับอย่างหนักแน่นด้วยว่า “อีกทั้งการทำงานครั้งนี้ ผมยังได้ทีมข่าวจากทีไอทีวี มาร่วมทำงานด้วย รวมถึงยังไม่ต้องมาทับเส้นใคร ซึ่งจากการต้อนรับที่อบอุ่น เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาในการทำงาน" นายกิตติกล่าว
กิตติ ยังเล่าให้ฟังด้วยว่า สาเหตุที่ออกจากโมเดิร์นไนน์ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการเปลี่ยนแปลงสัญญาการทำงาน เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา บวกกับข้อจำกัดของการทำงาน ที่ตัวเขาเองไม่สามารถเข้าไปทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องรายได้เท่าไรนัก
"กิตติ" ถ่ายทอดความคิดออกมาให้ฟังต่อว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของเขาก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะได้กลับมาทำรายการข่าวอย่างที่ตั้งใจไว้ ยังเป็นการดึงเอาทีมงานรู้ใจกลับมาทำงานร่วมกันได้อีกครั้ง
สำคัญที่สุดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง คือ ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา เพื่อรองรับการทำงานดังกล่าวด้วย ภายใต้ชื่อ บริษัท ฮอตนิวส์ จำกัด จึงเสมือนว่าเขาต้องสวมหมวกของความเป็นนักธุรกิจเข้าไปด้วย ถึงแม้ที่ผ่านมาไม่เคยมีความคิดจะมีบริษัทเป็นของตัวเองมาก่อนเลย ได้ทำงานด้านข่าวก็สุขใจแล้ว แต่การก่อตั้ง ฮอตนิวส์ ขึ้นมาครั้งนี้ ก็เพื่อกลับมาทวงความฝันคืนอีกครั้ง ในการทำรายการข่าว ที่ชื่อ "ข่าว 3มิติ"
แน่นอนว่า พอหลังจาก กิตติ ก้าวมาอยู่ที่ครอบครัวข่าว ของช่อง3 แล้วนั้น สิ่งหนึ่งที่หลายคนมองว่า จะต้องมีการแข่งขันที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่ เพราะผู้ชายที่ชื่อ "กิตติ สิงหาปัด" และ "สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา" อดีตก็เคยอยู่ที่ช่องโมเดิร์นไนน์ มาอยู่บ้านเดียวกัน
ผู้ชาย 2 คนที่ฮอตเหลือหลายในวงการข่าว และต่างก็มีคามเป็นตัวของตัวเองสูง มีรูปแบบการนำเสนอข่าว และคนดูชื่นชอบสูสีกันแบบนี้ คาดว่าจะทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปอีกนาน โดยเฉพาะประเด็นการไม่ลงรอยกัน หรือเรื่องเด่นดังเกินหน้าเกินตา
แต่เชื่อหรือไม่ว่า ชาย 2 คนนี้ ต่างก็ได้ไอทีวี เป็นสถานที่ฝึกวิชา จนมีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้ทั้งคู่ อีกทั้งวันที่ สรยุทธ์ ก้าวมาอยู่หน้าจอทีวีครั้งแรก กิตติ ถือเป็นผู้ดำเนินรายการร่วมเป็นคนแรกเช่นกัน ดังนั้นในทางสายข่าวแล้ว ทั้ง 2 คน เชื่อว่า วันหนึ่งจะได้กลับมาร่วมงานกันอีก อย่างน้อยวันนี้ก็ได้อยู่ภายใต้ชายคาช่อง 3 ร่วมกันแล้ว
อนาคตเราอาจจะได้เสือ 2 ตัวนี้ มาสร้างปรากฎการณ์ด้านข่าว ให้คนไทยไม่อาจจะละสายตาไปจากหน้าจอช่อง 3 ก็เป็นได้
...เมื่อถึงเวลานั้น คนที่ยิ้มแก้มแทบปริ คงหนีไม่พ้น “ตระกูลมาลีนนท์” ผู้บริหารช่อง3 ที่สามารถต้อนเสือมาอยู่รวมกันได้ โดยเฉพาะเสือที่ชื่อ "กิตติ" ที่ต้องมาเจอะกับเสือ "สรยุทธ์" ที่ต่างก็เป็นเสือผู้ทรงอิทธิพลด้านข่าวเสียด้วยสิ
ความหวังของการเป็นผู้นำด้านรายการข่าว คงจะใช้คำว่า "แค่เอื้อม" อีกต่อไปไม่ได้แล้ว แค่เพียงปลายนิ้วที่จะเด็ดลงมา มันน่าจะถูกต้องที่สุดมากกว่า...ไม่เชื่อก็ลองเกาะหน้าจอช่อง 3 ดูกันต่อไป