xs
xsm
sm
md
lg

เจนวิทย์ วงศ์บุญสิน แชมป์เปี้ยนวิชาการไม่ใช่แค่ในตำรา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 เจนวิทย์ วงศ์บุญสิน
เยาวชนคนเก่งคนนี้ เจนวิทย์ วงศ์บุญสิน มีมุมมองและเรื่องราวบางอย่างที่น่าสนใจ เขาเป็นไม่ใช่เด็กเรียนดี ดีกรีรางวัลระดับโลก เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ในความคิดของเด็กหนุ่มผู้นี้มีความมุ่งหวัง เป้าหมาย และความท้าทายในตัวตนอย่างน่าติดตาม ยิ่งใครได้ทราบถึงคำสอนของคุณพ่อ คุณแม่ของเด็กคนนี้ ย่อมต้องยอมรับว่า ตัวอย่างที่ดีจริงๆ

ไม่บ่อยนักที่เราจะได้ยินได้ฟังผู้ที่ประสบความสำเร็จ และได้รับรางวัลต่าง ๆ ยอมรับว่าตัวเอง "โชคดี" แต่เขาคนนี้ เป็นคนหนึ่งที่ยอมรับกับเราว่า เขานั้นมี "โชคดี" อยู่บ่อย ๆ โชคดีที่รับทุนการศึกษาระยะยาวตั้งแต่ระดับมัธยมจนถึงปริญญาเอกจากสถาบันพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับเด็กและเยาวชน (JSTP) โชคดีที่ได้รับรางวัลเหรียญทองโอลิมปิกวิชาการของ ประเทศไทยในปี 2550 โชคดีที่ได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิกนานาชาติที่ประเทศแคนาดา และโชคดีที่ได้คะแนนสูงสุดอันดับหนึ่งจากการแข่งขันครั้งนั้น จนได้รับรางวัลเหรียญทองระดับโลก จนมาถึงโชคดีครั้งล่าสุดกับตำแหน่ง "เยาวชนดีเด่นประจำปี 2550" เขาคนนั้นคือ "เจนวิทย์ วงศ์บุญสิน" หรือปิงปอง นักศึกษาปีที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

“ผมอยากเป็นหมอ”

เจนวิทย์เล่าว่า เขาเองนั้นเคยตอบคุณครูประจำชั้นตั้งแต่ตอน ป.2 ว่าเขาอยากเป็นหมอ ซึ่งในวันนี้ การเป็นหมอของเขาไม่เพียงแต่ทำเพราะต้องการเจริญรอยตามคุณแม่ "แพทย์หญิงจิตรา วงศ์บุญสิน" แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด แต่ยังทำไปเพราะต้องการช่วยเหลือคนไข้ให้พ้นทุกข์ด้วย

"การได้เป็นหมอเป็นความตั้งใจแต่แรกของผมแล้วครับ อยากเป็นหมอเพราะได้ช่วยคน การทำให้คนอื่นมีความสุขขึ้นได้ก็เป็นความสุขของผมด้วยครับ ส่วนจะเป็นหมอในด้านใดยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่การเป็นหมอก็ต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งผมเองตั้งใจว่าจะทำงานวิจัยควบคู่ไปด้วย เพื่อให้งานวิจัยเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น ไม่ใช่แค่ในโรงพยาบาลที่เรารักษาอยู่ครับ"

"คุณแม่เป็นต้นแบบที่ดีที่สุดคนหนึ่งของผมในการเป็นหมอ และทำให้ผมอยากเป็นหมอเหมือนอย่างคุณแม่ สิ่งหนึ่งที่ผมมองเห็นตลอดมาคือ คุณแม่จะเป็นหมอที่ใส่ใจในคนไข้มาก ยิ่งถ้าเป็นคนไข้ที่ฐานะไม่ดี ก็จะไม่คิดค่ารักษา คิดแต่ค่ายาอย่างเดียว และคุณแม่จะเชี่ยวชาญด้านโรคปอด ถ้าเป็นโรคที่แม่ถนัด ต่อให้ยากอย่างไรคุณแม่ก็รักษาได้ แต่ถ้าคุณแม่ไม่แน่ใจ ก็สามารถส่งต่อให้กับคุณหมอท่านอื่น ๆ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ จริง ๆ ซึ่งทำให้คนไข้เกิดความรู้สึกเชื่อมั่นในการรักษาพยาบาลครับ"

รางวัลที่ดีที่สุด คือสังคมและเพื่อน

ขณะที่คุณพ่อ "เจน วงศ์บุญสิน" ผู้บริหารระดับสูงในเครือเอชทีซีนั้น ปิงปองบอกว่า เขาได้แนวคิดเกี่ยวกับสังคม และเพื่อน ๆ จากคุณพ่อมาค่อนข้างมาก

"คุณพ่อจะมีมุมมองต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ เพราะคุณพ่อเป็นนักบริหาร จะแนะนำไม่ให้ผมเคร่งเครียดด้านวิชาการมาก จะสอนว่าให้หาเพื่อนให้ได้นะ เพราะเพื่อนจะอยู่กับเราไปตลอด ตอนไปแข่งโอลิมปิกคุณพ่อจะโฟกัสเรื่องเพื่อน เรื่องสังคม เพราะคงจะขาดทุนแย่เลยถ้าเราไปแล้วได้แต่เหรียญ แต่ไม่ได้เพื่อนไม่ได้สังคมครับ"

จากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนเตรียมอุดม วันนี้ เขาได้เข้าเป็นนักศึกษาน้องใหม่ในคณะแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งด้านการแพทย์ของเมืองไทย และจากการเลือกคณะดังกล่าว เป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งชี้ได้ว่า เขานั้นยังคงยึดมั่นกับความต้องการเมื่อครั้งเป็นเด็กไว้อย่างเหนียวแน่น แต่เส้นทางที่ผ่านมา จะบอกว่าเป็นโชคดีเสียทั้งหมดคงไม่ได้ เพราะเขาเองได้ยอมรับว่า กว่าจะมาได้ถึงจุดนี้ เขาต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคนานัปการ และหนึ่งในนั้นคือการต่อสู่กับจิตใจของตัวเอง

"ผมโชคดีที่ไปได้ถึงจุดนั้น โชคดีที่ได้เหรียญทอง แต่มันก็ทำให้ผมได้โอกาสอีกอย่างหนึ่งเพิ่มขึ้นมา นั่นก็คือการพัฒนาตนเองในด้านอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ผมได้รู้ว่าเรามีข้อด้อยอะไร ที่สำคัญที่สุด ผมได้พบว่า การประสบความสำเร็จที่หลายคนมองว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่งนั้น ในวันหนึ่งสิ่งเหล่านี้ก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นความทุกข์ตัวร้ายที่สุดได้เช่นกัน ซึ่งถ้าเราไม่ควบคุมหรือเหลิงไปกับมัน เราเองจะเป็นคนที่ต้องทุกข์มากที่สุด ซึ่งวันนี้ผมก็ดีใจที่ผ่านจุดนั้นมาได้"

และสิ่งที่ช่วยให้เด็กที่ผ่านมา 18 ฝนคนนี้รอดพ้นมาได้ก็คือ การฝึกสมาธิ ที่เขาพยายามฝึกอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้สิ่งที่ได้มาในอดีตมาครอบปัจจุบันของเขาเอาไว้

"ทุก ๆ ครั้งที่เราได้รับคำชม เราจะเกิดความรู้สึกดี รู้สึกหัวใจพองโต แต่เราต้องอย่าเอาสิ่งดี ๆ ที่ได้มา มาทำร้ายตัวเองในภายหลัง การนั่งสมาธิเหมือนกับการควบคุมจิตใจของเราให้อยู่กับปัจจุบัน ฝึกการควบคุมตัวเองว่าทำได้หรือเปล่า ในทุก ๆ ครั้งที่เราประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อย ๆ มันอาจจะมีอารมณ์เกิดขึ้นในใจว่า ความคิดคนอื่นไม่เข้าท่า เพราะเรารู้มากกว่า แต่ว่าผมก็ต้องหยุดความคิดนั้นให้ทัน เพื่อที่จะได้เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นคนอื่น ไม่ใช่เราเก่งคนเดียว ซึ่งผมเองก็แค่คนที่ได้รางวัลมาสนามเดียว แต่บังเอิญเป็นสนามใหญ่หน่อยเท่านั้นเองครับ"

ความท้าทายครั้งใหม่

"ก็คงเป็นการหาสิ่งอื่นทำนอกจากการเรียน โดยต้องรักษาผลการเรียนเอาไว้ด้วย ผมเชื่อว่าการจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เราต้องทำอะไรหลาย ๆ อย่าง แล้วก็หาสิ่งที่เราชอบเพิ่มเติม อาจจะหากิจกรรมในมหาวิทยาลัยทำ ที่สำคัญต้องฝึกแบ่งเวลาให้เป็น ทักษะนี้ (การแบ่งเวลา) เป็นเร็วเมื่อไหร่ชีวิตเราจะง่ายขึ้น สามารถทำงานได้ในแม้ในเวลาที่จำกัดครับ"

"อีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากทำก็คือการตอบแทนสังคม ที่ผ่านมาผมมองว่าตัวเองตอบแทนสังคมน้อยกว่าที่ได้รับมากมาย ผมทำได้แค่ติวเพื่อน ๆ ติวน้อง ๆ หรือช่วยงานการกุศลบ้าง แต่สิ่งที่ผมได้รับจากโรงเรียน มูลนิธิสอวน. และ สสวท. เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก กว่าที่ผมจะได้ความรู้มากขนาดนี้แล้วก็ได้โอกาสไปแข่ง มีทั้งอาจารย์ คุณพ่อคุณแม่ พี่ ๆ ในสำนักงาน คอยช่วยประสานงานให้ มีเพื่อน ๆ เป็นกำลังใจ ดังนั้นถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ผมก็จะพยายามตอบแทนสังคมให้มากที่สุดครับ"

เมื่อถามว่า ตอนนี้เขาเองนั้นภูมิใจกับตัวเองในแง่มุมไหนบ้าง ปิงปองตอบว่า "ภูมิใจที่มีครอบครัวดี และได้อยู่ในโรงเรียนแพทย์ที่ดี ภูมิใจที่ตัวเองโชคดีมาจนถึงอายุ 18 ต่อจากนี้ต้องพยายามขึ้นเรื่อย ๆ ผมเชื่อว่าโชคดีมันต้องเกิดจากการเตรียมตัวแล้วก็โอกาสครับ ผมจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอเพื่อให้เกิดโชคดีในครั้งต่อ ๆ ไป"

เกียรติบัตรและรางวัลที่ได้รับ
-รางวัลเยาวชนดีเด่นประจำปี 2550
- รางวัลเหรียญทองโอลิมปิกวิชาการระดับประเทศไทย สสวท. ประจำปี 2550
- รางวัลเหรียญทอง คะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก ในการแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิกนานาชาติที่ประเทศแคนาดาเยาวชนดีเด่นประจำปี 2550
กำลังโหลดความคิดเห็น