มูลนิธิไฟเซอร์ฯ ร่วมกับมูลนิธิศุภนิมิตฯ จัด”ค่ายพัฒนาผู้นำเยาวชน ที่กระบี่ ครั้งที่4”มุ่งพัฒนาภาวะผู้นำที่มีน้ำใจนักกีฬา ให้กับเด็กที่ประสบภัยสึนามิ โดยมีดาราดัง อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร ศิลปินและนักแสดงชื่อดัง ร่วมนำค่ายกิจกรรม
วันนี้ ( 17 พฤษภาคม 51 )ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี ตำบลอ่านาง อ.เมือง จ.กระบี่ มูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทยร่วมกับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยจัดค่ายพัฒนาศักยภาพผู้นำเยาวชน ครั้งที่4ภายใต้โครงการเชียร์ทีมไทยไปโอลิมปิก ระหว่างวันที่ 14 – 17 พฤษภาคม 51 เพื่อส่งเสริมภาวะผู้นำ ความมีน้ำใจนักกีฬา การทำงานเป็นหมู่คณะ ทักษะในการใช้ชีวิตและการทำประโยชน์ตอบแทนสังคมให้กับเด็กนักเรียน จำนวน 100 คน ที่ได้รับความสูญเสียจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ จาก 3 โรงเรียนในจังหวัดพังงา โดยมีนายอัษฎาวุธ(วุธ)เหลืองสุนทร ศิลปินและนักแสดงชื่อดัง อาจารย์ธัช พรหมปัทมะ อาจารย์จากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เป็นวิทยากร และตัวแทนของบริษัท ร่วมเป็นพี่เลี้ยงให้กับเด็ก
นางอนุตรา สินชัยพานิช ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย กล่าวว่า มูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทยร่วมกับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยจัดกิจกรรมค่ายพัฒนาศักยภาพผู้นำเยาวชน ขึ้นเพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กที่ประสบความสูญเสียจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มฝั่งอันดามัน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2547 ที่ผ่านมา ซึ่งบางคนต้องสูญเสียผู้เป็นที่รัก บางคนต้องสูญเสียพ่อ บางคนต้องสูญเสียแม่ หรือเสียทั้ง 2 ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันได้อย่างปกติสุข และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเข้าค่ายกิจกรรมนำกลับไปถ่ายทอดและเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ประสบภัยกับเหตุร้ายครั้งนั้นได้เช่นเดียวกัน ซึ่งกิจกรรมดั่งกล่าวทางมูลนิธิฯได้จัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 4
“สำหรับกิจกรรมในปีนี้ 51 เน้นการปลูกฝังภาวะผู้นำที่มีน้ำใจนักกีฬาให้แก่เด็ก เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้ผ่านความสูญเสียมาแล้วครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต บางคนสูญเสียครอบครัว หรือที่อยู่อาศัย หากเด็กกลุ่มนี้ไม่สามารถยอมรับความสูญเสียและความพ่ายแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกได้ในอนาคต การดำเนินชีวิตในสังคมอย่างมีความสุขในสังคมก็คงจะยากเช่นกันและว่าความมีน้ำใจนักกีฬาก็เป็นคุณสมบัติสำคัญในการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง ทุกคนล้วนมีโอกาสเป็นทั้งผู้แพ้และชนะได้ จึงควรเรียนรู้ที่จะรู้แพ้รู้ชนะ รู้อภัย โดยผู้ชนะควรให้ความช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้กับผู้แพ้ ในขณะที่ผู้แพ้ควรรู้จักยอมรับผลด้วยความยินดี และตั้งใจปรับปรุงศักยภาพของตัวเองให้สูงขึ้นตลอด
นางอนุตรา กล่าวอีกว่า การจัดกิจกรรรมซึ่งประกอบด้วยเด็กที่มีความหลากหลายด้านอายุ ระดับการศึกษา จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้การปรับตัวเข้ากับผู้อื่น พัฒนาความเป็นผู้นำ ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทักษะ การแก้ปัญหา การทำงานเป็นหมู่คณะ การใช้ชีวิตในสังคมและการทำประโยชน์ให้กับสังคม โดยหลังจากที่เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิปี 47 ทางมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย ได้บริจาคเงินจำนวน 9 แสนบาทต่อปี ให้กับมูลนิธิศุภนิมิต เพื่อใช้ในการสนับสนุนการศึกษาและดูแลสุขภาพอนามัยของเด็กๆในโครงการจนถึงปัจจุบันมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทยบริจาคเงินแล้วกว่า 3.6 ล้านบาท และเมื่อเห็นเด็กๆที่ประสบภัยมีการพัฒนาที่ดีขึ้นก็เป็นสิ่งที่น่ายินดี
วันนี้ ( 17 พฤษภาคม 51 )ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี ตำบลอ่านาง อ.เมือง จ.กระบี่ มูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทยร่วมกับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยจัดค่ายพัฒนาศักยภาพผู้นำเยาวชน ครั้งที่4ภายใต้โครงการเชียร์ทีมไทยไปโอลิมปิก ระหว่างวันที่ 14 – 17 พฤษภาคม 51 เพื่อส่งเสริมภาวะผู้นำ ความมีน้ำใจนักกีฬา การทำงานเป็นหมู่คณะ ทักษะในการใช้ชีวิตและการทำประโยชน์ตอบแทนสังคมให้กับเด็กนักเรียน จำนวน 100 คน ที่ได้รับความสูญเสียจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ จาก 3 โรงเรียนในจังหวัดพังงา โดยมีนายอัษฎาวุธ(วุธ)เหลืองสุนทร ศิลปินและนักแสดงชื่อดัง อาจารย์ธัช พรหมปัทมะ อาจารย์จากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เป็นวิทยากร และตัวแทนของบริษัท ร่วมเป็นพี่เลี้ยงให้กับเด็ก
นางอนุตรา สินชัยพานิช ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย กล่าวว่า มูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทยร่วมกับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยจัดกิจกรรมค่ายพัฒนาศักยภาพผู้นำเยาวชน ขึ้นเพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กที่ประสบความสูญเสียจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มฝั่งอันดามัน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2547 ที่ผ่านมา ซึ่งบางคนต้องสูญเสียผู้เป็นที่รัก บางคนต้องสูญเสียพ่อ บางคนต้องสูญเสียแม่ หรือเสียทั้ง 2 ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันได้อย่างปกติสุข และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเข้าค่ายกิจกรรมนำกลับไปถ่ายทอดและเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ประสบภัยกับเหตุร้ายครั้งนั้นได้เช่นเดียวกัน ซึ่งกิจกรรมดั่งกล่าวทางมูลนิธิฯได้จัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 4
“สำหรับกิจกรรมในปีนี้ 51 เน้นการปลูกฝังภาวะผู้นำที่มีน้ำใจนักกีฬาให้แก่เด็ก เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้ผ่านความสูญเสียมาแล้วครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต บางคนสูญเสียครอบครัว หรือที่อยู่อาศัย หากเด็กกลุ่มนี้ไม่สามารถยอมรับความสูญเสียและความพ่ายแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกได้ในอนาคต การดำเนินชีวิตในสังคมอย่างมีความสุขในสังคมก็คงจะยากเช่นกันและว่าความมีน้ำใจนักกีฬาก็เป็นคุณสมบัติสำคัญในการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง ทุกคนล้วนมีโอกาสเป็นทั้งผู้แพ้และชนะได้ จึงควรเรียนรู้ที่จะรู้แพ้รู้ชนะ รู้อภัย โดยผู้ชนะควรให้ความช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้กับผู้แพ้ ในขณะที่ผู้แพ้ควรรู้จักยอมรับผลด้วยความยินดี และตั้งใจปรับปรุงศักยภาพของตัวเองให้สูงขึ้นตลอด
นางอนุตรา กล่าวอีกว่า การจัดกิจกรรรมซึ่งประกอบด้วยเด็กที่มีความหลากหลายด้านอายุ ระดับการศึกษา จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้การปรับตัวเข้ากับผู้อื่น พัฒนาความเป็นผู้นำ ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทักษะ การแก้ปัญหา การทำงานเป็นหมู่คณะ การใช้ชีวิตในสังคมและการทำประโยชน์ให้กับสังคม โดยหลังจากที่เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิปี 47 ทางมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย ได้บริจาคเงินจำนวน 9 แสนบาทต่อปี ให้กับมูลนิธิศุภนิมิต เพื่อใช้ในการสนับสนุนการศึกษาและดูแลสุขภาพอนามัยของเด็กๆในโครงการจนถึงปัจจุบันมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทยบริจาคเงินแล้วกว่า 3.6 ล้านบาท และเมื่อเห็นเด็กๆที่ประสบภัยมีการพัฒนาที่ดีขึ้นก็เป็นสิ่งที่น่ายินดี
