“วิชาเคมีต้องครูอุ๊” เกือบ 20 ปีที่เสียงยืนยันนี้เปล่งประกายขึ้น และยังไม่เคยสิ้นมนต์ขลังของเด็กสายวิทยาศาสตร์ วันนี้แรงศรัทธาของ “ครูอุ๊ เคมี”ยังพุ่งแรงไม่หยุดยั้ง และอาจกล่าวได้ว่า เป็นโรงเรียนกวดวิชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทยในขณะนี้ ด้วยการลงทุนนับพันล้านบาทสร้างเป็นศูนย์เอดูเคชั่นเซ็นเตอร์ บนหัวมุมถนนพญาไท
เปิดอาณาจักรอุ๊ เคมี
ตึกสูงใหญ่แห่งใหม่ขนาด 18 ชั้น บนเนื้อที่ 935 ตารางวา บริเวณสี่แยกพญาไท ชื่ออาคารวรรณสรณ์ ติดๆกับรถไฟฟ้าบีทีเอส พญาไท มองด้วยสายตาแล้ว การตกแต่งภายในอาคารมีลักษณะเหมือนศูนย์การค้า ไม่น่าแปลกใจนักเรียนและผู้ปกครองจะเรียกสถานที่นี้ว่า ศูนย์การค้ากวดวิชา เพราะที่นี่คือเอดูเคชั่นเซ็นเตอร์ หรือ แหล่งกวดวิชาแห่งใหม่ที่ทันสมัยที่สุด
อาจารย์อนุสรณ์ ศิวะกุล คู่ชีวิตของครูอุ๊ เล่าให้ผู้จัดการ lite ฟังว่า อาคารวรรณสรณ์แห่งนี้อาจเรียกว่า เอดูเคชั่นเซ็นเตอร์ ครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทย ภายในอาคารจะมีทั้งโรงเรียนกวดวิชากว่า 20 โรงเรียน ศูนย์รวมสื่อการศึกษา ศูนย์อาหาร และพื้นที่อาคาร สำนักงานอีกส่วนหนึ่ง
“อาคารแห่งนี้ลงทุนไปกว่าพันล้านบาท จากเงินเก็บของครอบครัวและกู้ธนาคารมาอีกส่วนหนึ่ง การตัดสินใจสร้างอาคารแห่งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการถอนตัวออกพื้นที่สยามสแควร์ เนื่องจากปัญหาค่าเช่าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องหาแหล่งที่อยู่ใหม่และได้ที่นี่เป็นสถานที่ตั้งใหม่
วิเคราะห์จากสถานที่ตั้ง ถือเป็นทำเลทองชั้นเยี่ยมของการทำธุรกิจกวดวิชา เพราะด้านหนึ่งติดกับรถไฟฟ้าบีทีเอส ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง เป็นแหล่งสัญจรของรถประจำทางหลากหลาย
ความโดดเด่นของแหล่งกวดวิชาแห่งใหม่นี้ สังเกตจากรอบๆภายในอาคารตั้งแต่บริเวณชั้น 1 -2 ถ้าใครเดินไปเข้าไปจะพบว่า บรรยากาศในอาคารไม่แตกต่างอะไรจากศูนย์การค้า มีร้านอาหารชื่อดังมาเปิดให้บริการบริเวณชั้นล่างหลายแห่ง รวมทั้งศูนย์สื่อการเรียนการสอน บันไดเลื่อนที่เชื่อมต่อไปแต่ละชั้น ลิฟท์ 3 ตัว ที่มีเด็กหน้าตาคงแก่เรียนหลายสิบคน ยืนต่อคิวเพื่อขึ้นลิฟท์ไปยังโรงเรียนกวดวิชา
อาคารแห่งนี้มีโรงเรียนกวดวิชามากถึง 20 แห่ง ระดับแนวหน้าเมืองไทย เช่น โรงเรียนกวดวิชาของอาจารย์สมัย , นีโอ ฟิสิกส์ เซ็นเตอร์ของอ.พิสิฏฐ์,คณิตศาสตร์ของอาจารย์อรรณพ,แอพพรายส์ ฟิสิกส์ของอาจารย์ประกิตเผ่า ทมทิชชงค์ เป็นต้น
“ถ้ามองจากแหล่งกวดวิชาในพ.ศ.นี้ ที่ของเราทันสมัยและใหญ่ที่สุด บางคนเรียกว่าศูนย์การค้าของโลกวิชาการก็ว่าได้ ซึ่งปัจจุบันเด็กที่ลงจากรถไฟฟ้ายังต้องเดินข้ามถนน โดยทางอาคารได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้เด็ก อนาคตเรากำลังทำสกายวอร์คเชื่อมต่อไปยังสะพานลอยของกทม. น่าจะสร้างความสะดวกสบายและปลอดภัยในการเข้ามาใช้บริการมากขึ้น”
เสน่ห์ของครูอุ๊
การจดจำเรื่องตารางธาตุ การสร้างเข้าใจเรื่องสูตรเคมี จากเรื่องยากๆ มาสู่ความเข้าใจง่ายๆ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ที่เป็นเหมือนแบรนด์ประจำตัวของครูอุ๊ ใครที่เคยเรียนกับครูอุ๊ จะรู้ดีว่า ครูอุ๊เป็นคนใจดี น้ำเสียงนุ่มนวล สื่อสารเข้าใจง่าย มีเคล็ดลับการสอนที่ทำให้เคมี เป็นวิชาที่ง่ายๆ “เหมือนปอกล้วยเข้าปาก” หากตั้งใจเรียนจริงๆ
ครูอุ๊ เป็น คนจำโจทย์ได้แม่นยำ และจะอัพเดทโจทย์เคมีใหม่ๆมาตลอด และการวัดผลวิธีหนึ่งที่ครูอุ๊ปฏิบัติเสมอมา คือ การให้เด็กนั่งทำโจทย์เคมี หากเด็กเงยหน้าขึ้นมาเร็ว แสดงว่าเด็กเกิดความเข้าใจ แต่ถ้าเงยหน้าขึ้นมาช้า จะทำให้ครูอุ๊ต้องฝึกให้เด็กทำโจทย์หลายๆครั้งจนชำนาญ
เด็กบางคน เรียกว่า “ศรัทธา” ถ้าเกิดความรู้สึกนี้กับอาจารย์ท่านใดแล้ว ความตั้งใจจะตามมา และกลายเป็นความใส่ใจในการเรียน แม้การเรียนกับครูอุ๊ บางช่วงจะใช้การเรียนกับวีโอเทปก็ตาม แต่เด็กหลายคนก็เต็มอกเต็มที่จะเรียน
ครูอุ๊ เป็นคนที่อธิบายได้เก่ง มีพรสวรรค์และชำนาญเรื่องของวิชาเคมีอย่างยิ่ง เด็กบางคนเปรียบเปรยว่า นี่คือ ปรมาจารย์ด้านเคมี ที่หายาก และเรียกว่า เด็กศรัทธาที่สุด ซึ่งเมื่อเรียนแล้วมีความมั่นใจว่าจะสอบวิชานี้ได้ดีและเอนทรานต์ติด
ทายาทและผู้สืบทอด
ครูอุ๊ และอาจารย์อนุสรณ์ มีทายาทด้วยกัน 2 คน ลูกชายชื่อ อกนิษฐพล ศิวะกุล อายุ 2 1ปี กำลังศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ ประเทศอังกฤษ และลูกสาวชื่อ อธิปพร ศิวะกุล อายุ 18 ปี โดยเฉพาะลูกสาว หรือ อีฟ ถูกวางอนาคตไว้ว่า อาจะจะเป็นครูกวดวิชาตัวตายตัวแทนของแม่ในอนาคต
“ลูกทั้งสองคนเลือกเรียนเคมี และสอบได้เกรด A ทั้งคู่ ไม่เสียแรงที่แม่ของเขาสอน ผมว่าอีฟน่าจะเป็นเหมือนแม่เขาเก่งด้านวิชาการ ส่วนลูกชายอาจจะเข้ามาบริหารอาคารแทนผมในอนาคต” อาจารย์อนุสรณ์ กล่าวถึงลูก
ครอบครัวศิวะกุลในวันนี้ แทบจะไม่มีวันหยุดพักผ่อน ครูอุ๊ และอาจารย์อนุสรณ์ ต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่อมาเตรียมตัวสอนและเข้ามาดูแลอาคารแห่งใหม่นี้เกือบทุกวัน จนถึง 5-6โมงเย็น และกลับไปเตรียมการเรียนการสอนอีกในช่วงหัวค่ำ เป็นวัฏจักรเช่นนี้เกือบทุกวัน
อาจารย์อนุสรณ์ บอกว่า ตลอดทั้งปี 365 วัน เพิ่งหยุดในช่วงปีใหม่ 5 วัน สงกรานต์ 5 วัน แต่ก็ถือว่าเป็นภารกิจของเราที่เหนื่อยแต่ก็มีความสุข และภูมิใจที่สุด ที่ก่อร่างสร้างตัวได้ จากเคยเช่าบ้าน เป็นหนี้ธนาคารนับล้าน วันนี้ครอบครัวของครูอุ๊มีบ้านหลังใหญ่ แถวงามวงศ์วาน มีรายได้แต่ต่อปีหลายสิบล้านบาท
วันว่างของครอบครัวศิวะกุล คือ ไม่มีแบบแผนตายตัว ส่วนใหญ่อาจารย์อุ๊และครอบครัว ขับรถออกจากบ้าน แทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จะไปไหน แต่หากไม่ไปพักผ่อนต่างจังหวัดก็จะไปทานอาหาร โดยร้านประจำที่ครอบครัวนี้ชอบไปคือ ร้านเบียร์หิมะ แถวประชาชื่น ที่มีอาหารรสจัด แนวปักษ์ใต้
ย้อนนึกไปถึงวันวานของครูอุ๊และสามี สมัยที่เช่าพื้นที่กวดวิชาบริเวณ เซ็นทรัล ลาดพร้าว และมาซื้อตึกแถวย่านสะพานควาย ซึ่งต้องกู้เงินจากแบงก์เป็นล้านบาทมาทำธุรกิจ วันนี้กลายเป็นความภูมิใจอย่างมาก เพราะปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศมากถึง 20 สาขา และมีเอดูเคชั่นขนาดใหญ่ ถือเป้นโรงกวดวิชาที่ทันสมัยและมั่งคั่งที่สุดของประเทศในขณะนี้
อาจารย์อนุสรณ์ ทิ้งท้ายว่า วันนี้มีแต่ความภูมิใจ แต่ข่าวที่เจ็บปวดที่สุดของครอบครัว คือ การถูกโจมตีว่าหากินกับเด็ก ซึ่งอาจารย์อนุสรณ์บอกว่า ได้ยินได้ฟังแล้วหดหู่มาก แต่มองอีกมุมหนึ่ง คือ อาจารย์กวดวิชาคือ การช่วยเด็กให้แข็งแกร่งขึ้นในโลกวิชาการ ค่าเรียนไม่ได้สูงมาก และถ้าอาจารย์กวดวิชาไม่เก่งหรือ ไม่ทำให้เด็กศรัทธา ก็ย่อมอยู่ไม่ได้
ประวัติ อุ๊ เคมี
อาจารย์อุ๊ หรือ อุไรวรรณ ศิวะกุล เกิดที่จังหวัดระนอง จบระดับระดับปริญญญาตรี วุฒิ กศ.บ. (เกียรตินิยมอันดับ 1) เมื่อ พ.ศ. 2523 จาก ม.ศว. สงขลา และ ระดับปริญญาโท วุฒิ กศ.ม. (เคมี) จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร เมื่อ พ.ศ. 2525 ด้านการทำงานของอาจารย์อุ๊นั้นเดิมรับราชการครูที่โรงเรียนทับหลีสุริยวงศ์ทันทีหลังจากที่เรียนจบเมื่อ พ.ศ. 2519 และได้ลาออกจากราชการเมื่อ พ.ศ. 2521 เพื่อไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทตามลำดับ เมื่อศึกษาจบจึงกลับมารับราชการครูต่อที่โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ พ.ศ. 2526 ถึง พ.ศ. 2532 และย้ายไปรับราชการที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และต่อมาได้ตัดสินใจลาออกจากราชการไปเปิดธุรกิจกวดวิชาร่วมกับสามี อาจารย์อนุสรณ์ ศิวะกุล ซึ่งลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยเช่นกัน